ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 485 จากทั้งหมด 6209 หน้า แสดงรายการที่ 9681 - 9700 จากข้อมูลทั้งหมด 124180 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9681 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทาน | นร.01 | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทาน
ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.
การจัดฝึกอบรมชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อมูล
ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
ได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติฯ ครบถ้วนแล้ว
และบันทึกรายชื่อผู้สมัครในระบบรายงานแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Report) ของกรมการปกครอง ๔๔๖,๐๐๔ คน โดยมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว ๑๐๒,๖๖๕ คน ๒.
การฝึกทบทวนหลักสูตรจิตอาสา ๙๐๔ (Upgrade) โรงเรียนจิตอาสาพระราชทานกำหนดให้มีการฝึกทบทวนหลักสูตรฯ
จำนวน ๗ รุ่น ระหว่างวันที่ ๑๗ สิงหาคม-๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรฯ
ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตน เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน มีความเสียสละ
มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำ และเป็นแกนหลักให้กับประชาชนในการทำหน้าที่ของจิตอาสา ๓. การจัดกิจกรรมจิตอาสา
๙๐๔ พบปะผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดกิจกรรมดังกล่าว
เพื่อเป็นเครือข่ายพัฒนาพื้นที่ร่วมกับจิตอาสาภาคประชาชน ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งให้พิจารณาจัดกิจกรรมที่มีความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดดำเนินการจัดทำทำเนียบผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา
๙๐๔ ของทุกหน่วยงานในจังหวัด และจัดให้มีกิจกรรมจิตอาสา ๙๐๔
ของจังหวัดพบปะผู้นำชุมชน ประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่ อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง ๔.
ข้อมูลจำนวนจิตอาสาและกิจกรรมจิตอาสา ณ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ มีจิตอาสาลงทะเบียน รวม ๖,๖๘๕,๐๐๗
คน และมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ๕๑,๒๗๖ ครั้ง กิจกรรมจิตอาสาภัยพิบัติฯ ๖๔๓
ครั้ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
9682 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 27 | กค. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ครั้งที่ ๒๗ ซึ่งสหพันธรัฐมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปค ประจำปี ๒๕๖๓
ได้จัดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓
โดยมีที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ที่ประชุมได้หารือถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ที่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของโลกอย่างมาก
โดยเฉพาะต่อวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย
รวมทั้งก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดนับแต่ปี ๒๔๗๓ ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวในช่วงปลายปี
๒๕๖๔ และกลุ่มธนาคารโลกคาดการณ์ตัวเลขคนยากจนมากที่สุดจะเพิ่มขึ้นอีก ๑๑๐-๑๕๐
ล้านคน ในปี ๒๕๖๔ ๒. ผู้แทนประเทศไทยได้ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการด้านการคลังและการเงินของไทยในการรับมือและกระตุ้นเศรษฐกิจ
ซึ่งใช้งบประมาณ ๒.๒ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๒
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ เพื่อดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น
การให้เงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
การให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
และการออกทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสาร
ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ๓. เอเปคให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านสุขภาพ
สาธารณสุข โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนาตัวยาและวัคซีนสำหรับโควิด-๑๙
และการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในระบบการเงิน
ซึ่งระบบดิจิทัลได้มีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจของภาคส่วนต่าง
ๆ รวมไปถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
รวมทั้งอาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไว้ในกรอบการทำงานด้านความเสี่ยงทางการเงินและการประกันภัยด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
9683 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9684 | การขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร | นร.08 | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๔ ๒.
เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่
๘) และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด
ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.
ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
9685 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9686 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9687 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9688 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน รวม 5 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....) | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
รวม ๕ ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดขอนแก่น ๑.๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลหนองสองห้อง อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองสองห้อง ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เทศบาลตำบลแวงใหญ่ สนามกีฬา และอาคารประกอบอื่น ๆ ๑.๔
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลยางสีสุราช อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ๑.๕
ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อใช้เป็นที่ตั้งบ้านพักผู้พิพากษาและอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการศาลยุติธรรม ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เทศบาลตำบลหนองสองห้องและเทศบาลตำบลแวงใหญ่ องค์การบริหารส่วนตำบลยางสีสุราช
และสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดขอนแก่น
พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๖๐
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๙
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ตามลำดับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9689 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางทิวาวรรณ ปิยกุลมาลา) | สธ. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางทิวาวรรณ
ปิยกุลมาลา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน)
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
9690 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง พ.ศ. .... | คค. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางขึ้นเป็นองค์การมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน
เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการด้านการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี
การต่อยอดเทคโนโลยีการวิจัย และการส่งเสริมอุตสาหกรรมในระบบการขนส่งทางราง
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า (๑)
การกำหนดกรอบอัตรากำลังควรพิจารณาบทบาทภารกิจ
หน้าที่ความรับผิดชอบและปริมาณงานเป็นหลัก
รวมทั้งการกำหนดเงินเดือนและค่าตอบแทนควรเทียบเคียงกับอัตราค่าตอบแทนในสาขาวิชาชีพเดียวกันของหน่วยงานอื่น
และการให้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางมาช่วยราชการต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านอัตรากำลังของกรมการขนส่งทางรางด้วย
(๒) สถาบันฯ ควรเป็นหน่วยงานกลางในการรับและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบรางทุกโครงการ
เพื่อเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีระบบราง
และควรมีการประสานงานการดำเนินการร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม
ในการบูรณาการดำเนินงานวิจัยด้านระบบรางกับหน่วยงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน (๓)
สถาบันฯ ควรบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความซ้ำซ้อน
โดยในส่วนของการถ่ายโอนเทคโนโลยีบางอย่างอาจต้องมีหน่วยงานที่จะสามารถดูดซับและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคอุตสาหกรรมอีกต่อหนึ่ง
และ (๔) กระทรวงคมนาคมควรกำหนดบทบาทและอำนาจหน้าที่ของสถาบันฯ
ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการกำหนดให้สถาบันฯ
มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนงานวิชาการให้แก่กรมการขนส่งทางราง
โดยเฉพาะการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในระบบขนส่งทางราง
เพื่อไปกำหนดแนวทางหรือมาตรการที่จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางราง
ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9691 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง | มท. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการประปานครหลวง มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๕ คน (ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง รวม ๑๔ คน และผู้ว่าการการประปานครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง รวาม ๑๔ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ และแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ เป็นประธานกรรมการ ๒ พลเอก
สิงห์ทอง หมีทอง เป็นกรรมการ ๓ นายอนุชิต
ตระกูลมุทุตา เป็นกรรมการ ๔
นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๕ นายชัยทัต
แซ่ตั้ง เป็นกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๖ นายวรายุทธ
เย็นบำรุง เป็นกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๗
นายประสิทธิ์ สืบชนะ เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อ) ๘.
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา เป็นกรรมการ (บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๙.
หม่อมราชวงศ์ศศิพฤนท์ จันทรทัต เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๐.
นายหร่อหยา จันทรัตนา เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อ) ๑๑.
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ เป็นกรรมการ ๑๒.
นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๓.
นายวีรวัฒน์ ยมจินดา เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๔.
นายจำเริญ โพธิยอด เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๑๕.
นายปริญญา ยมะสมิต เป็นกรรมการ/ผู้ว่าการการประปานครหลวง
|
|||||||||||||||||||||||||||
9692 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ | กษ. | 23/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๘ คน เนื่องจากกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔
คน ได้แก่ ๑.๑ นายโอฬาร
พิทักษ์ ๑.๒ นายอภิชาต จงสกุล ๑.๓ นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ๑.๔ นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ๒.
ผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๔ คน ได้แก่ ๒.๑ นายพรชัย ชั้นสกุล ๒.๒ นายอัษฎางค์ สีหาราช ๒.๓ นายทวิวัส เหลี่ยมดี ๒.๔ นายสิทธิพร บุรณนัฏ
|
|||||||||||||||||||||||||||
9693 | การขอความเห็นชอบต่อร่างข้อริเริ่มว่าด้วยการสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียน - จีน ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Initiative on Building ASEAN - China Partnership on Digital Economy) | ดศ. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างข้อริเริ่มว่าด้วยการสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างอาเซียน-จีน
ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Initiative on Building ASEAN-China Partnership on Digital
Economy) ฉบับวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ โดยร่างข้อริเริ่มฯ
เป็นเอกสารที่จีนเสนอเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๓
ในระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
และสำนักเลขาธิการอาเซียนจะออกหนังสือแจ้งการให้ความเห็นชอบร่างเอกสารดังกล่าวเมื่อรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลได้ให้ความเห็นชอบร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
แบบเวียนครบทั้ง ๑๐ ประเทศแล้ว ซึ่งร่างข้อริเริ่มฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นและความพยายามร่วมกันระหว่างอาเซียน-จีน
ในการผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในสาขาต่าง ๆ เช่น
การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
การเสริมสร้างความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ
และการสนับสนุนทักษะความรู้ด้านดิจิทัล เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลของไทย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ให้ความเห็นชอบต่อร่างข้อริเริ่มฯ แบบเวียน (Ad-referendum) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะประสานงานสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อแจ้งยืนยันการให้ความเห็นชอบต่อร่างเอกสารข้อริเริ่มฯ
ของไทยต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อริเริ่มฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในการดำเนินการต่อไป ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงขอบเขตความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่มฯ
ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย
โดยเฉพาะด้านความร่วมมือบนโลกอินเทอร์เน็ตและด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
9694 | การเสนอความเห็นการดำเนินการสำหรับทุนหมุนเวียนที่มีผลการประเมินผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนดเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบผลการพิจารณาการดำเนินการสำหรับทุนหมุนเวียนที่มีผลการประเมินผลการดำเนินงานต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนดเป็นเวลา
๓ ปี ติดต่อกัน จำนวน ๓ ทุน ประกอบด้วย (๑)
กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (๒)
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ (๓)
กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สังกัดสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ได้พิจารณาผลการประเมินผลการดำเนินงานทั้ง ๓
ทุนหมุนเวียนแล้วมีมติยุบกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
และยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา
สำหรับกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยให้ดำเนินการต่อไป แต่หากผลการประเมินของกองทุน
ประจำปีบัญชี ๒๕๖๔ ต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนด ให้ยุบเลิกกองทุนต่อไป
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนไปดำเนินการต่อไป
ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ส่วนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในประเด็นที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบเลิกเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
และมีนโยบายที่จะรวมภารกิจของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาเอกชนกับกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาให้เป็นกองทุนเดียวกัน
ไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง
๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้ยุบเลิกทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนากฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9695 | โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) | สธ. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca)
และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca โดยให้กระทรวงสาธารณสุขหารือร่วมกับคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐและกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในการจัดซื้อวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้าภายใต้โครงการดังกล่าว
และดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างเคร่งครัด ๒.
อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา
แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
เพื่อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ภายใต้โครงการดังกล่าว ในวงเงิน ๒,๓๗๙.๔๓ ล้านบาท
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||
9696 | การสิ้นสุดหน้าที่กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนของ นายมีไคโล ราดุดสกี และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนเป็นการชั่วคราว (นายมีไคโล ราดุดสกี) | กต. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการสิ้นสุดหน้าที่กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนของ
นายมีไคโล ราดุดสกี (Mr. Mykhajlo Radoutskyy) และการปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนเป็นการชั่วคราว
จนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำยูเครนคนใหม่
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
9697 | ขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว | มท. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงเพิ่มเติมว่า ๑.๑ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๓/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๖๕
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จึงมีสภาพบังคับเป็นกฎหมายหากจะมีการยกเลิก แก้ไข
ปรับปรุง จะต้องออกกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ๑.๒
ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กระทรวงมหาดไทยเสนอในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อ
๓ และข้อ ๖ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๒ เรื่อง
การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างสัญญาดังกล่าว
พร้อมทั้งแจ้งข้อสังเกตเพื่อให้กรุงเทพมหานครนำความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดไปดำเนินการ
ทั้งนี้ ตามข้อ ๖ แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าว
กำหนดให้ในกรณีที่มีการดำเนินการตามข้อ ๓ หรือข้อ ๕ แล้วแต่กรณี
จนได้ผลการเจรจาเป็นที่ยุติ และร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขแล้ว
ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.
๒๕๖๒ ในส่วนของการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนแล้ว ดังนั้น
ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนฯ ที่กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) เสนอ
จึงถือว่าเป็นการดำเนินการแก้ไขสัญญาที่ถูกต้องและครบถ้วนตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว
โดยเป็นการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเดิมมิใช่การยกเลิกสัญญาสัมปทานหรือยกเลิกสัญญาร่วมลงทุนเดิม
และ/หรือจัดทำสัญญาใหม่ ๒.
รับทราบความเห็นเพิ่มเติมกรณีขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม
๓.
ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานอัยการสูงสุด และประธานกรรมการนโยบายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
รวมทั้งคำชี้แจงเพิ่มเติมของผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ไปพิจารณาประกอบการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ถูกต้อง
ชัดเจน และครบถ้วน เช่น รูปแบบการดำเนินโครงการ การดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภาระหนี้สินที่เกิดขึ้น
ผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับ ประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นต้น
แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
9698 | การเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2562 และปีบัญชี 2563 | กค. | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบผลการพิจารณาเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ปีบัญชี ๒๕๖๒ และปีบัญชี ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๑๔ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน
๓,๑๑๒.๘๕ ล้านบาท จำแนกเป็นปีบัญชี ๒๕๖๒ จำนวน ๑๐ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินจำนวน ๑,๙๕๐.๑๑
ล้านบาท และปีบัญชี ๒๕๖๓ จำนวน ๖ ทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงินจำนวน ๑,๑๖๒.๗๔ ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายทุนหมุนเวียน
ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
ส่วนกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กองทุนสิ่งแวดล้อม
เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
และกองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ
และกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะขอไม่นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของกองทุนสิ่งแวดล้อมส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินในปีบัญชี
๒๕๖๓ เนื่องจากคาดว่ากองทุนสิ่งแวดล้อมจะมีเงินคงเหลือในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ไม่เพียงพอรองรับประมาณการรายจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕
ประกอบกับกองทุนสิ่งแวดล้อมเป็นกองทุนไม่แสวงหาผลกำไร
โดยผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุนนี้นำไปหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนให้กับโครงการที่ขอรับการสนับสนุนทั้งเงินกู้และเงินอุดหนุน
ซึ่งส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
และกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าในส่วนของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาการกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุด
และการนำทุนหรือกำไรส่วนกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑
แต่การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูขาดสภาพคล่องทางการเงินและมีเงินไม่เพียงพอในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ ไปพิจารณาทบทวนตามหน้าที่และอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนพิจารณากำหนดระยะเวลาการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินที่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินที่ชัดเจน
และรายงานผลการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
9699 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2563) | นร.05 | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันอังคารที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
และครั้งที่ ๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
9700 | 10 ข้อเสนอ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ 10 อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด (Ten for Ten) | นร.04 | 17/11/2563 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบ ๑๐
ข้อเสนอ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ ๑๐ อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด (Ten
for Ten) สถานการณ์ดำเนินการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) รายงาน ๒.
ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดของหน่วยงานรับผิดชอบตามข้อ ๑ กำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินการของหน่วยงานในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้
ให้หน่วยงานรับผิดชอบดังกล่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อเสนอแนะ
โดยให้ครอบคลุมถึงเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ
เรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เรื่องที่จะดำเนินการในอนาคต
และเรื่องที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
พร้อมทั้งปัญหาอุปสรรคและเหตุผลความจำเป็นที่เกี่ยวข้อง ไปยังรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) ภายใน ๑ เดือน
เพื่อรวบรวมและนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป ๓.
ให้สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร.
กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการจัดประชุมเพี่อชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต
หอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย และหอการค้าไทย
เกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวให้ถูกต้อง ชัดเจนโดยทั่วกันโดยด่วน
|