ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 47 จากทั้งหมด 6210 หน้า แสดงรายการที่ 921 - 940 จากข้อมูลทั้งหมด 124195 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
921 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.01 | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.
๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของคณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ก.บ.จ.ต.) การปรับถ้อยคำในข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
รวมทั้งการเพิ่มข้อกำหนดเกี่ยวกับการนับระยะเวลาทวีคูณ ทั้งนี้
เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับกฎหมาย ระเบียบ และสภาวการณ์ปัจจุบัน ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
922 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงอนุสรณ์สถาน - บางปะอิน พ.ศ. .... | คค. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข
๕ สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงอนุสรณ์สถาน - บางปะอิน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๕ สายทางยกระดับอุตราภิมุข
ช่วงอนุสรณ์สถาน - เป็นทางหลวงที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวง
และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ให้ดำเนินการต่อได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กรมทางหลวงเร่งรัดและกำกับการดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษดังกล่าว
ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ
ประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
923 | การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2566/2567 | อก. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย
ฤดูการผลิตปี ๒๕๖๖/๒๕๖๗ เป็นรายเขต ๙ เขตคำนวณราคาอ้อย ที่ระดับคุณภาพความหวาน ๑๐
ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย ต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย โดยราคาเฉลี่ยทั่วประเทศในอัตรา
๑,๔๐๔.๑๗
บาทต่อตันอ้อย
ที่ระดับคุณภาพความหวาน ๑๐ ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย เท่ากับ
๘๔.๒๕ บาทต่อ ๑ หน่วย ซี.ซี.เอส.
และผลตอบแทนการผลิต และจำหน่ายน้ำตาลทราย เท่ากับ ๖๐๑.๗๙ บาทต่อตันอ้อย ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
(สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายดำเนินการทบทวนระเบียบมาตรการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการจัดเก็บรายได้
เพื่อให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ตลอดจนเพิ่มโอกาสของอุตสาหกรรมอ้อยไปสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่อง
เพื่อรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
924 | มาตรการบริหารจัดการผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก | นร.04 | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
ปี ๒๕๖๘ ผลไม้หลายชนิดจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะทุเรียน
ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้จากการส่งออกให้แก่ประเทศมากว่า ๑๕๐,๐๐๐๐ ล้านบาทต่อปี นั้น เพื่อป้องกันปัญหาราคาทุเรียนตกต่ำและสินค้าตกค้างในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในอีก
๒ - ๓ เดือนข้างหน้า จึงขอมอบหมายการดำเนินการต่าง ๆ
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรไทย ดังนี้ ๑.
ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเตรียมมาตรการรองรับการกระจายผลผลิตทุเรียนออกจากแหล่งผลิตต่าง
ๆ ให้เหมาะสม รวมทั้งให้รณรงค์ส่งเสริมการบริโภคทุเรียนภายในประเทศ และเร่งขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการส่งออกผลไม้ดังกล่าวไปยังประเทศอื่น
ๆ ให้มากขึ้นด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร)
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการขยายระยะเวลาเปิด -
ปิดด่านทางบก ที่เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนให้เหมาะสม
สอดคล้องกับปริมาณและช่วงเวลาของการขนส่งทุเรียนผ่านด่านต่าง ๆ ด้วย ๓.
ให้กระทรวงคมนาคมเร่งหารือภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อมและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและตู้ขนส่งสินค้าให้เหมาะสมเพียงพอ ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลการตรวจสอบคุณภาพของทุเรียนอย่างเคร่งครัด
เข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสอบสารแคดเมียมและสารย้อมสี (Basic Yellow 2) จะต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน (๑๐๐%) และหากพบผู้กระทำความผิด
ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารในเรื่องนี้ให้เกษตรกรทราบอย่างถูกต้อง
ทั่วถึง โดยเร็วด้วย ๕.
ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการในการนำเข้าทุเรียนจากไทยให้รับความสะดวก
คล่องตัว และรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น
การให้การยอมรับผลการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการของไทยตั้งแต่ต้นทางโดยไม่ต้องตรวจสอบซ้ำเมื่อถึงปลายทาง ทั้งนี้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางการดำเนินการทั้ง
๕ ข้อดังกล่าวข้างต้นไปปรับใช้กับสินค้าเกษตรชนิดอื่น ๆ เช่น มังคุด เงาะ ลำไย
ที่จะมีผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดในระยะต่อ ๆ ไป ตามความจำเป็นเหมาะสมด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
925 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นางสิริพรรณ แสงอรุณ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสิริพรรณ แสงอรุณ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์
(มาตรฐานห้องปฏิบัติการ) (นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗ ๒. นายปัญจพล แก้วอุบล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลตรัง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ ๓. นายสมบูรณ์ อภิชัยยิ่งยอด ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลราชบุรี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
926 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา และนางรักชนก โคจรานนท์) | วธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ๒. นางรักชนก โคจรานนท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
927 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (1. รองศาสตราจารย์วีระพงษ์ แพสุวรรณ ฯลฯ รวม 13 คน) | ศธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รวม ๑๓ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. รองศาสตราจารย์วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานกรรมการ ๒. รองศาสตราจารย์ศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. ศาสตราจารย์วิเชียร เลาหโกศล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายภาสกร ประถมบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. รองศาสตราจารย์สรนิต ศิลธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. รองศาสตราจารย์อภิสิฏฐ์ ศงสะเสน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. รองศาสตราจารย์ดวงพร ภู่ผะกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายอิทธิพร แก้วทิพย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๙. นางศุภรัตน์ โชติสกุลรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑๐. นางอัญญารัตน์ ชวดนุช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ครูผู้สอนด้านวิทยาศาสตร์
ภาคเหนือ) ๑๑. นางสาวปุณยาพร ผิวขำ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ครูผู้สอนด้านวิทยาศาสตร์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ๑๒. นางสาวศศิธร เขียวกอ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ครูผู้สอนด้านวิทยาศาสตร์
ภาคกลาง) ๑๓. นายวิสุทธิ์ คงกัลป์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ครูผู้สอนด้านคณิตศาสตร์
ภาคใต้)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
928 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน (นายธนันท์รุตม์ ลิ้มทรงพรต) | คค. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธนันท์รุตม์ ลิ้มทรงพรต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
929 | แต่งตั้งกรรมการอื่น (ผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่) | คค. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ เป็นกรรมการอื่น (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย)
ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
930 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (1.นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ฯลฯ จำนวน 3 คน) | ยธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
จำนวน ๓ คน
เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออกและดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านอาชญาวิทยา ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธานี ชัยวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านเศรษฐศาสตร์ และกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
931 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการอื่นที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (รองศาสตราจารย์อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และนายสมศักดิ์ อนันทวัฒน์) | สธ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ กรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๑๘
แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙ และมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม จำนวน ๒ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ มีนาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
932 | ขอถอนร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ตำบลปากคลอง ตำบลชุมโค ตำบลบางสน และตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... | ทส. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถอนร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่ตำบลปากคลอง
ตำบลชุมโค ตำบลบางสน และตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร พ.ศ. ....
ตามที่เสนอได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
933 | ผลการพิจารณา เรื่อง ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้เเทนราษฎรและวุฒิสภา | ปปง. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณา เรื่อง
ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้สรุปผลการดำเนินงาน เช่น
๑) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้นำอัตราค่าแรงขั้นต่ำและฐานานุรูปของบุคคลที่ถูกกำหนดมาประกอบการพิจารณายกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานแล้ว
เพื่อนำเงินหรือทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกกำหนดมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานได้ โดยได้แยกหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการไว้อย่างชัดเจน
๒) สำนักงาน ปปง. จะรายงานผลอนุญาตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐานไว้ในรายงานประจำปีของสำนักงาน
ปปง. ๓) สำนักงาน ปปง. จะดำเนินการแก้ไขกฎหมายลำดับรองเพื่อกำหนดให้มีการประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดในราชกิจจานุเบกษาเพิ่มเติม
และ ๔) สำนักงาน ปปง.
ได้ดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการจัดรับฟังความคิดเห็นที่มีต่อร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไป
และจะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเสนอให้มีการออกกฎกระทรวงให้มีผลใช้บังคับได้ทันเมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
934 | รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย | พณ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
และความคืบหน้าการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และมอบหมายหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการฯ
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป มีสาระสำคัญสรุปได้
ดังนี้ (๑) นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ ซึ่งคณะกรรมการฯ มีหน้าที่และอำนาจ เช่น ๑)
กำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อบูรณาการหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามสินค้าจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
และ ๒) สั่งการให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานภายในขอบเขตหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย
รวมทั้งขอความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อให้ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการเร่งด่วนที่กำหนด
เป็นต้น และ (๒) คณะกรรมการฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม
๒๕๖๗ และครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ ได้มีมติ ๑) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ
SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
และ ๒) เห็นชอบการกำหนดแผนการแก้ปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และแผนการส่งเสริมและยกระดับ
SMEs ไทย และการกำหนดแผนการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
935 | รายงานผลการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) | พณ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
(นายพิชัย นริพทะพันธุ์) เมื่อวันที่ ๑๙ - ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เพื่อเข้าร่วมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในประเทศญี่ปุ่นพร้อมสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อยอดธุรกิจด้วยพันธมิตร
ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ เช่น การส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในประเทศญี่ปุ่น
จัดแสดงสินค้ามังงะ (การ์ตูน) ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าไทย
ของตกแต่งบ้านที่ใช้ผ้าไทยจากโครงการผ้าไทย ใส่ให้สนุกแฟชั่นไทย กิโมโนที่ทำด้วยผ้าไทย และซอฟต์พาวเวอร์
สาขาดนตรี เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมลงนามบันทึกความเข้าใจและจดหมายแสดงความเข้าใจ รวม ๓ ฉบับ และการสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่อยอดธุรกิจด้วยพันธมิตรเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ
ASEAN - Japan Economic Co - Creation Forum
2024 รวมถึงการพบหารือบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
สังคม และความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง การบรรยาย เรื่องสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศไทย
และประชุมมอบนโยบายทูตพาณิชย์ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยในปี ๒๕๖๘
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
936 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 2/2567 | กษ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ โดยผลการประชุมมีสาระสำคัญ เช่น ๑)
เห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง
และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง จากเดิมวันที่ ๓๑ ธันวาคม
๒๕๖๖ เป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ และเห็นชอบขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ
ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จากเดิม วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ เป็นวันที่
๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๘ และ ๒)
เห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตร
เพื่อรวบรวมยาง วงเงินสินเชื่อ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ออกไปอีก ๔ ปี เริ่มตั้งแต่วันที่
๑ เมษายน ๒๕๖๗ ถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๗๑ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
937 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด พ.ศ. .... | กษ. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า
ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก
นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิด
เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำหายาก หรือป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง
หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดอย่างทั่วถึง และบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ ควรมีรายละเอียดของสัตว์น้ำบางชนิดที่ต้องปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงนี้
(ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก
หรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๔) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
938 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร | กค. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพและยกระดับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนของประเทศที่ชะลอตัว
โดยการปรับปรุงมาตรการภาษีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทยและส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสร้างกลไกหรือมาตรการระยะสั้นและระยะยาว
เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ESG
ปรับตัวและเตรียมรับมือกับมาตรฐาน ESG ให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ
และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
939 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน | ปช. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้จากสัญญาจ้างงานก่อสร้าง
กรณีเงื่อนไขในสัญญากำหนดให้ผู้รับจ้างต้องจัดหารถยนต์พร้อมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ควบคุมงาน
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
940 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... | มท. | 11/03/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย
จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลลานสะแก ตำบลก้ามปู ตำบลปะหลาน และตำบลเมืองเสือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย
จังหวัดมหาสารคาม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท
ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค
บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม
โดยส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพยัคฆภูมิพิสัยให้เป็นศูนย์กลางบริหาร การปกครอง
การเศรษฐกิจ การบริหารสังคม และการคมนาคมขนส่ง ส่งเสริม สนับสนุน
และอนุรักษ์เกษตรกรรมบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ
อนุรักษ์พื้นที่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์วัฒนธรรม และส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พื้นที่โล่งริมแหล่งน้ำและคูเมืองโบราณที่สำคัญของเมือง
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการผังเมือง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เห็นว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ย่านชุมชนพยัคฆภูมิพิสัย
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องและส่งเสริมการอนุรักษ์
รักษาอัตลักษณ์ของย่านชุมชนเก่าให้คงอยู่ กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่ากิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
ซึ่งให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อการพิจารณาอนุญาตและควบคุมสถานประกอบกิจการ
โดยการพิจารณาอนุญาตกิจการจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ปกติสุขของประชาชน |