ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 914 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 18261 - 18280 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
18261 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 สายตราด - หาดเล็ก ตอนทางแยกเข้าตำบลไม้รูด - บ้านคลองจาก จังหวัดตราด | คค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรณีรายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๓ สายตราด-หาดเล็ก ตอนทางแยกเข้าตำบลไม้รูด-บ้านคลองจาก จังหวัดตราด ในวงเงิน ๙๘๕,๔๗๑,๔๙๐ บาท โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18262 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 21 (21st GMS Ministerial Conference) | นร11 | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๒๑ (21st GMS Ministerial Conference) ณ จังหวัดเชียงราย ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งที่ประชุมฯ เห็นชอบแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS มีสาระสำคัญ เช่น (๑) ผลักดันกรอบการลงทุนในภูมิภาคระยะปี ๒๕๖๓ (RIF-IP 2020) (๒) ผลักดันการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานตามแนวระเบียงเศรษฐกิจต่าง ๆ ใน GMS (๓) ผลักดันการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และ (๔) ดำเนินโครงการความร่วมมือภายใต้แผนงาน GMS เป็นต้น รวมทั้งกำหนดให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ ๒๒ ระหว่างวันที่ ๘-๙ กันยายน ๒๕๖๐ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยเป็นการประชุมต่อเนื่องกับเวทีหารือการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๙ (9th Economic Corridor Forum : ECF-9) ๒. เห็นชอบข้อเสนอแผนการดำเนินงานระยะเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแผนงาน GMS และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ เช่น ให้กระทรวงคมนาคมเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินการภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเชื่อมโยงการผลิตกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้กระทรวงการต่างประเทศกำหนดแนวทางความร่วมมือพัฒนาศักยภาพบุคลากร และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดศึกษาการจัดการผลกระทบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น โดยประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18263 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์) | ศธ | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชื่อปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง และกำหนดสีประจำสาขาวิชา รวม ๑๓ สาขาวิชา (๑) สาขาวิชาการบัญชี (๒) สาขาวิชาการศึกษา (๓) สาขาวิชานิติศาสตร์ (๔) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (๕) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (๖) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (๗) สาขาวิชารัฐศาสตร์ (๘) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ (๙) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ (๑๐) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ (๑๑) สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ (๑๒) สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ และ (๑๓) สาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาได้กำหนดให้มีสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสาขาวิชา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18264 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1421 สายเชียงราย - อำเภอขุนตาล ตอน บ้านหัวดอย - บ้านใหม่มงคล จังหวัดเชียงราย | คค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรณีรายการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข ๑๔๒๑ สายเชียงราย-อำเภอขุนตาล ตอน บ้านหัวดอย-บ้านใหม่มงคล จังหวัดเชียงราย ในวงเงิน ๑,๐๘๘,๐๘๘,๐๐๐ บาท โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18265 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 สาย บ้านนาไคร้ - อำเภอคำชะอี ตอน บ้านนาไคร้ - อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ | คค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรณีรายการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข ๑๒ สาย บ้านนาไคร้-อำเภอคำชะอี จำนวน ๒ ตอน โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. ตอน บ้านนาไคร้-อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ ในวงเงิน ๑,๑๙๖,๒๙๔,๐๐๐ บาท ๒. ตอน อำเภอหนองสูง-อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ในวงเงิน ๑,๑๙๖,๓๗๖,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18266 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 12/2560 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง | สลธ.คสช. | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๒/๒๕๖๐ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง สั่ง ณ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18267 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา) | ศธ | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดชื่อปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุยประจำตำแหน่ง และกำหนดสีประจำสาขาวิชา รวม ๑๓ สาขาวิชา (๑) สาขาวิชาการบัญชี (๒) สาขาวิชาการศึกษา (๓) สาขาวิชานิติศาสตร์ (๔) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (๕) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (๖) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (๗) สาขาวิชารัฐศาสตร์ (๘) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ (๙) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ (๑๐) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ (๑๑) สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ (๑๒) สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ และ (๑๓) สาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ ๒. ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาได้กำหนดให้มีสาขาวิชาดุริยางคศาสตร์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสาขาวิชา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18268 | การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป รายการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 12 สาย บ้านนาไคร้ - อำเภอคำชะอี ตอน อำเภอหนองสูง - อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร | คค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ของกรมทางหลวง กรณีรายการก่อสร้างถนนทางหลวงหมายเลข ๑๒ สาย บ้านนาไคร้-อำเภอคำชะอี จำนวน ๒ ตอน โดยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐-พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. ตอน บ้านนาไคร้-อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดกาฬสินธุ์ ในวงเงิน ๑,๑๙๖,๒๙๔,๐๐๐ บาท ๒. ตอน อำเภอหนองสูง-อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ในวงเงิน ๑,๑๙๖,๓๗๖,๐๐๐ บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18269 | ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี 2559 ทั้งปี 2559 และแนวโน้มปี 2560 | นร11 | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๕๙ ทั้งปี ๒๕๕๙ และแนวโน้มปี ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่สี่ของปี ๒๕๕๙ ขยายตัวร้อยละ ๓.๐ และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สี่ขยายตัวจากไตรมาสที่สามของปี ๒๕๕๙ ร้อยละ ๐.๔ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ ๑.๐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยร้อยละ ๐.๗ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๙,๗๘๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (๓๔๖,๗๘๙ ล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ ๙.๔ ของ GDP ๒. เศรษฐกิจไทยโดยรวมทั้งปี ๒๕๕๙ ขยายตัวร้อยละ ๓.๒ ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบปี ๒๕๕๘ โดยมี GDP อยู่ที่ ๑๔,๓๖๐.๖ ล้านล้านบาท รายได้ต่อหัวเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ ๒๑๒,๘๙๒.๓ บาท/คน/ปี เพิ่มขึ้นจาก ๒๐๓,๓๕๖.๑ บาท/คน/ปี ในปี ๒๕๕๘ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยร้อยละ ๐.๒ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๑๑.๔ ของ GDP ๓. เศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๖๐ มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ ๓-๔ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี ๒๕๕๙ และคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้า การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนรวมจะขยายตัวร้อยละ ๒.๙ ร้อยละ ๒.๘ และร้อยละ ๕.๓ ตามลำดับ รวมทั้งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในช่วงร้อยละ ๑.๒-๒.๒ และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ ๙.๔ ของ GDP ๔. การบริหารนโยบายเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๐ ควรให้ความสำคัญกับนโยบายด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การขับเคลื่อนการใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนภาครัฐ (๒) การสนับสนุนการส่งออกให้สามารถขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ (๓) การสนับสนุนการขยายตัวของการผลิตภาคเกษตร (๔) การสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน และ (๕) การสนับสนุนการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18270 | การศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ดท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ โดยผลการประชุมดังกล่าว ประกอบด้วย การชี้แจงถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ได้รับการแก้ไขแล้วในชั้นการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๘๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมาย และการมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับถ้อยคำที่มีความหมายกว้างขวาง หรือไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนในพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปจัดทำเป็นคู่มือการบังคับใช้และประชาสัมพันธ์ให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับรู้รับทราบต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งดำเนินการจัดทำคู่มือในการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับรู้และรับทราบต่อไป โดยเฉพาะในการใช้ดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ (๒) มาตรา ๒๐ และเกี่ยวกับคำว่า “ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” นั้น ให้ยึดถือตามแนวคำพิพากษาของศาลฎีกา ประกอบกับบริบทของสังคมไทยเป็นสำคัญ รวมทั้งในส่วนที่ศาลได้เคยมีคำพิพากษายกฟ้องไว้ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18271 | การจัดทำเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศักยภาพมนุษย์ แห่งประเทศฮังการี สำหรับปี ค.ศ. 2017 - 2018 | ศธ | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำและลงนามเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศักยภาพมนุษย์แห่งประเทศฮังการี สำหรับปี ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๘ เป็นโครงการที่ให้ทุนการศึกษา โดยเน้นการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรระหว่างสถาบันอุดมศึกษา และบุคลากร/นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เน้นการวิจัยร่วมกัน/การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ สิ่งพิมพ์ สื่อการสอน หลักสูตรและเอกสารทางการศึกษาอื่น ๆ โดยฝ่ายฮังการีเสนอให้ทุนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทแก่ไทย จำนวน ๔๐ ทุน ในสาขาต่าง ๆ และฝ่ายไทยเสนอทุนระดับอุดมศึกษาให้แก่ฮังการีในระยะเวลา ๑-๒ ภาคการศึกษา ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามในเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนฯ ดังกล่าว ๒. สำหรับงบประมาณในการดำเนินการตามโครงการแลกเปลี่ยนฯ ให้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ของหน่วยงานไปดำเนินการก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงศึกษาธิการนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18272 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสุวอร ภูมิรัตนประพิณ) | สธ | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายพินิจ ศรีสุวรรณภรณ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์) กลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. นางสุวอร ภูมิรัตนประพิณ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18273 | การเปิดสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคอซอวอประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐคอซอวอเสนอขอเปิดสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคอซอวอประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18274 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายพีระ รัตนวิจิตร) | ศธ | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพีระ รัตนวิจิตร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18275 | ร่างพระราชบัญญัติถอนสภาพและโอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ให้แก่บริษัท ทัศนาชลบุรี จำกัด พ.ศ. .... | มท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติถอนสภาพและโอนที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ให้แก่บริษัท ทัศนาชลบุรี จำกัด พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18276 | ร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลในราชการฝ่ายพลเรือน จำนวน 5 ฉบับ | นร10 | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติรวม ๕ ฉบับ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการที่พ้นจากราชการในฝ่ายพลเรือน เพื่อให้กฎหมายขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลในราชการฝ่ายพลเรือนเป็นมาตรฐานเดียวกันและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ขององค์กรตรวจสอบการทุจริต ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงาน ป.ป.ท. เห็นควรปรับถ้อยคำของร่างพระราชบัญญัติให้เป็นไปในลักษณะเดียวกัน คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภามีข้อสังเกตว่าการกำหนดเงื่อนเวลาสั่งลงโทษไว้ ๓ ปี นับแต่วันพ้นจากราชการอาจทำให้การสอบสวนมีความล่าช้า อาจเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างข้าราชการผู้ที่พ้นจากราชการไปแล้วกับผู้ที่ยังอยู่ในราชการ สำนักงานศาลปกครองเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. .... ไม่ควรกำหนดความในวรรคสองของร่างมาตรา ๑๐๐ และควรปรับปรุงถ้อยคำในวรรคสามและวรรคสี่ให้ครอบคลุมการวินิจฉัยของศาลปกครองทุกกรณี สำนักงาน ป.ป.ช. มีข้อสังเกตว่าตามร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๕ ฉบับ ที่กำหนดให้ในกรณีศาลปกครองมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษเพราะเหตุกระบวนการดำเนินการทางวินัยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการทางวินัยและมีคำสั่งใหม่ภายใน ๓ ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด อาจเกิดปัญหาในทางกฎหมายที่เกี่ยวกับการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินมีข้อสังเกตว่าควรแก้ไขร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๕ ฉบับ โดยเพิ่มความในวรรคสองเป็น “... หรือหน่วยงานที่มีกฎหมายให้อำนาจในการดำเนินการชี้มูลความผิดและลงโทษในลักษณะดังกล่าว...” กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าการดำเนินการทางวินัยตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด ควรเป็นเฉพาะฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่การยุติธรรม และกระทรวงศึกษาธิการขอปรับแก้ไขร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในส่วนของมาตรา ๑๐๒ วรรคสอง จากเดิม “ความในวรรคหนึ่งไม่นำมาใช้บังคับกับกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด” แก้ไขเป็น “กำหนดเวลาในการเริ่มดำเนินการทางวินัย และกำหนดเวลาในการสั่งลงโทษแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้พ้นจากราชการ อันมิใช่เพราะเหตุตายตามวรรคหนึ่ง ไม่นำมาใช้บังคับแก่กรณีซึ่งเป็นการดำเนินการทางวินัยตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๕ ฉบับ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18277 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อจูงใจผู้มีความสามารถสูง ระดับโลกให้มาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก) | กค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อจูงใจผู้มีความสามารถสูงระดับโลกให้มาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก) มีสาระสำคัญเป็นการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิจัยซึ่งทำงานในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการที่อยู่ใน ๑๐ อุตสาหกรรมเป้าหมาย สำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จากอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) เป็นร้อยละของเงินได้สุทธิ (เงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) ตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหลืออัตราร้อยละ ๑๗ ของเงินได้พึงประเมิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า การกำหนดหลักเกณฑ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีความสามารถสูงที่ยังไม่มีในประเทศไทย ควรมีการพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม (Appropriate Technology) ต่อสถานการณ์ เงื่อนไข ตลอดจนสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่มีอยู่ของประเทศไทย และไม่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับชาวไทยและชาวต่างชาติที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในประเทศไทยด้วย และการกำหนดคุณสมบัติที่ชัดเจนของผู้มีความสามารถสูงระดับโลกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจะมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18278 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และกรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | สช | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ กรณีรวมเงินเดือนเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๗๒,๘๖๑,๓๐๑,๘๐๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการให้เป็นไปตามปฏิทินงบประมาณตลอดจนแนวทางต่าง ๆ ตามที่สำนักงบประมาณกำหนดเพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมกันบูรณาการการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล และให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณทางการแพทย์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ ควรพิจารณากำหนดขอบเขตบริการให้มีความชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับงบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค งบบริการฟื้นฟูสุขภาพด้านการแพทย์ และงบบริการผู้ป่วยนอกทั่วไปในงบบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัวที่เสนอขอ รวมทั้งพัฒนาฐานข้อมูลทั้งด้านต้นทุนการให้บริการและผลลัพธ์การให้บริการที่มีความทันสมัยเพื่อใช้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามความจำเป็น เหมาะสม และสอดคล้องกับฐานะการคลังของประเทศในปีงบประมาณต่อไป ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและพิจารณาแนวทางการบูรณาการทำงานด้านการป้องกันโรคร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถประเมินผลสัมฤทธิ์ได้ โดยเฉพาะการป้องกันโรคที่จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมากในระยะยาว เช่น โรคไต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18279 | รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 (ครั้งที่ 1/2560) | มท | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ณ พื้นที่ราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ (ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. สรุปความก้าวหน้างานก่อสร้าง ๑.๑ ผลงานสะสมที่ทำได้ คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๒๔ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๑๔ ๑.๒ การส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งมอบพื้นที่ที่เหลือทั้งหมด (๑๒-๐-๔๒.๗ ไร่) ให้แก่ผู้รับจ้างแล้วเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ โดยรวมส่งมอบพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้วซึ่งมีจำนวนรวมทั้งหมด ๑๒๓-๑-๕ ๗/๑๐ ไร่ ๒. คณะทำงานติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ มีความเห็นว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ครั้งที่ ๒ ออกไปจำนวน ๔๒๑ วัน ยังไม่สามารถทำให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จได้ อีกทั้งยังมีเหตุให้ผู้รับจ้างขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปได้อีก คือ เหตุจากการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา รวมทั้งได้ใช้เวลาในการจัดจ้างผู้ออกแบบระบบ ICT มากกว่า ๗ เดือน แต่ยังไม่ได้ผู้ออกแบบ ทำให้กระทบกับระยะเวลาการทำงานของผู้รับจ้างหลัก [บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)] จึงเห็นควรแจ้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้เร่งรัดการจัดจ้างผู้ออกแบบโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างหลักขอสงวนสิทธิ์ในการขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปอีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18280 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2560 ครั้งที่ 1 | กค | 28/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ (แผนฯ) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ครั้งที่ ๑ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ ๑๘๕,๐๗๖.๓๖ ล้านบาท จากเดิม ๑,๔๑๔,๓๖๖.๑๒ ล้านบาท เป็น ๑,๕๙๙,๔๔๒.๔๘ ล้านบาท ๑.๒ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้น ๓,๗๖๑.๖๒ ล้านบาท จากเดิม ๑๔๖,๓๘๐.๑๒ ล้านบาท เป็น ๑๕๐,๑๔๑.๗๔ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ การปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งขออนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุนและการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ ๑.๔ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๑.๕ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผลการดำเนินการตามแผนฯ ดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๑.๖ มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทยจัดทำแผนการระบายยางคงค้างที่ชัดเจน พร้อมทั้งรายงานผลการระบายยางของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพยาง และโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพยาง ให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะทราบเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ หากการยางแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ในอนาคต ขอให้การยางแห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลาก่อนที่หนี้จะครบกำหนดชำระด้วย ๒. ให้กระทรวงเจ้าสังกัดและหน่วยงานเจ้าของวงเงินกู้ ทั้งในส่วนของการดำเนินการตามแผนงานปกติและการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ใช้จ่ายจากงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ กำกับติดตามการดำเนินแผนงาน/โครงการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรกำกับติดตามและเร่งรัดหน่วยงานเจ้าของโครงการใช้จ่ายและเบิกจ่ายเงินกู้ให้สอดคล้องและบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งติดตามและผลักดันให้การใช้จ่ายของภาครัฐเป็นไปตามแผนงานและมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดภาระรายจ่ายดอกเบี้ยในการบริหารหนี้สาธารณะที่เกิดจากการกู้ยืมเพื่อเตรียมการลงทุน รวมถึงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของภาครัฐและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้การยางแห่งประเทศไทยเร่งบริหารจัดการระบายยางพาราคงค้างของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพยางและโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพยางออกสู่ตลาด และรายงานผลการระบายยางของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพยางและโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพยางให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะทราบเป็นระยะ ๆ และหากการยางแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้ในอนาคต ให้การยางแห่งประเทศไทยเร่งรัดการดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลาก่อนที่หนี้จะครบกำหนดชำระด้วย
|
.....