ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 133 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2641 - 2660 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2641 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 | นร.01 | 23/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามที่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ เสนอ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณายกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในประเด็นตามรายงานดังกล่าว โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณา และหากมีร่างพระราชบัญญัติที่มีลักษณะในทำนองเดียวกันของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ระหว่างการบรรจุวาระการประชุมหรือได้บรรจุวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็ให้นำร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็น
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ เมื่อร่างพระราชบัญญัติตามข้อ ๒
ได้มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการออกเสียงประชามติแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2642 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการลิขสิทธิ์ (1. นายพิเศษ จียาศักดิ์ ฯลฯ จำนวน 12 คน) | พณ. | 23/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการลิขสิทธิ์
จำนวน ๑๒ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายพิเศษ จียาศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. นางสาวอรพรรณ พนัสพัฒนา ผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นายชาคริต พิชญางกูร ผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายตุล ไวฑูรเกียรติ ผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายชวัตถ์วิช เมืองแก้ว ผู้แทนสมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ๘. นายนนท์ หรยางกูร ผู้แทนสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย ๙. นายวรพจน์ นิ่มวิจิตร ผู้แทนสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ๑๐. นางสาวชญาภัช แสงทับทิม ผู้แทนสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงไทย ๑๑. นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ ผู้แทนสมาคมโรงแรมไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2643 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (1. นายเธียรชัย ณ นคร ฯลฯ รวม 8 คน) | ศธ. | 23/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ รวม ๘ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการ ๒. นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. รองศาสตราจารย์ปานใจ ธารทัศนวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. รองศาสตราจารย์อดิศร เนาวนนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. รองศาสตราจารย์จิรดา วุฑฒยากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นางสาวพรวิลัย เดชอมรชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. ร้อยตำรวจโทหหญิง สุทธิมา พิพัฒน์พิบูลย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2644 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (1. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ฯลฯรวม 6 ราย) | ทส. | 23/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
รวม ๖ คน
แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ เมษายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานกรรมการ ๒. นายพิสิทธิ์ ปทุมบาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจ ๓. นายบัณฑิต ลิ้มมีโชคชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน ๔. นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕. นายนิคม แหลมสัก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านป่าไม้ ๖. นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2645 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายชำนาญ กายประสิทธิ์ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | พน. | 23/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายชำนาญ กายประสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายโสภณ มณีโชติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2646 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางส่งเสริมบทบาทภาคประชาสังคมเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา | พม. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางส่งเสริมบทบาทภาคประชาสังคมเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่า
รายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ
(แผนระดับ ๑) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ (แผนระดับ ๒)
รวมทั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ซึ่งจะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนและพัฒนากลไกการทำงานให้เอื้อต่อการทำงานภาคประชาสังคมอย่างบูรณาการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และได้มีข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติม อาทิ
ควรเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย
รวมถึงการตัดสินใจด้านงบประมาณในการจัดสรรงบประมาณ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของภาคประชาสังคมควรมีการศึกษาและพิจารณาในรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อน
เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่จะก่อให้เกิดผลผูกพันที่ทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ
และควรมีการจัดสรรงบประมาณในรูปแบบกองทุนสนับสนุนภาคประชาสังคมที่ภาคประชาสังคมเป็นผู้จัดทำแผนงานงบประมาณโครงการเสนอทางภาครัฐได้โดยตรง
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2647 | รายงานประจำปี 2565 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๕ ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑)
สรุปผลงานที่สำคัญ/โดดเด่น เช่น (๑)
มีการประเมินผลโครงการนำร่องให้ผู้ป่วยรับยาที่ร้านขายยา (๒) มีการออกแบบ
สร้างต้นแบบชุดอุปกรณ์ระบบระบายอากาศสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ
ระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูงและระบบกำจัดเชื้อโรคด้วยรังสียูวี และนำผลลัพธ์ที่ได้สรุปเป็นแนวทางการผลิตชุดอุปกรณ์
(๓) มีการพัฒนาระบบและเครือข่ายบริบาลผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ ๑ เพื่อให้ความรู้และสร้างทักษะเพื่อการดูแลโรคเบาหวานด้วยตัวเอง
(๔) มีการพัฒนารูปแบบการบริบาลและการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ
โดยมีข้อเสนอแนะว่าควรผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลผู้สูงอายุด้วยการใช้ Digital platform และ (๕)
มีการนำร่องการวิจัยสำหรับจีโนมิกส์ไทยโดยศึกษาข้อมูลรหัสพันธุกรรมของผู้ป่วยมะเร็งชาวไทย
ผู้ป่วยมะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และ ๒) งบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว
เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2648 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง เชื้อเพลิงชีวภาพ และก๊าซปิโตรเลียมเหลว) ของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา | พน. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง เชื้อเพลิงชีวภาพ
และก๊าซปิโตรเลียมเหลว) ของคณะกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปผลได้ดังนี้ ๑) ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาก๊าซ LPG สำหรับการคำนวณราคาจำหน่ายก๊าซ LPG เป็นไปตามกลไกการกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานและคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ควรปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้โรงบรรจุก๊าซสามารถบรรจุก๊าซในถังบรรจุก๊าซ LPG
ที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้ค้าน้ำมันอื่นได้เพื่อความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
ปัจจุบันผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้และต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของถังบรรจุก๊าซ
LPG และ ๒) ข้อเสนอแนะภาพรวมในเชิงบริหารของน้ำมันเชื้อเพลิง
เชื้อเพลิงชีวภาพ และก๊าซ LPG ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติเพื่อเป็นศูนย์กลางสารสนเทศด้านพลังงาน
มาตรการช่วยเหลือในกลุ่มที่มีความเปราะบางแทนการช่วยเหลือในภาพรวม
ได้มีการช่วยเหลือราคาเชื้อเพลิงแบบมุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในส่วนของก๊าซปิโตรเลียมเหลว
และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์รับจ้างในส่วนของน้ำมันเบนซินและการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา
วิจัยพลังงาน และเชื้อเพลิงทางเลือกในอนาคตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น
พลังงานไฮโดรเจนจากน้ำเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายของประชาชน
ได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและเชื้อเพลิงทางเลือกในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้นโยบายสังคมคาร์บอนต่ำ
และส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าหรือเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นและมีมาตรการสนับสนุนการศึกษาวิจัยพลังงานและเชื้อเพลิงทางเลือกในอนาคตรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2649 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนประกันสังคม สำหนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 | รง. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนประกันสังคม
สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ
และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2650 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 | คค. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน
และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
(กปถ.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว
เห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานทางการเงิน
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิ/ส่วนทุน
และกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของ กปถ. ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
และรายงานการประเมินผลการใช้ทรัพย์สินของกองทุนฯ
เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานซึ่งควรแก้ไขโดยเร็ว
เช่น กระบวนการตรวจสอบสถานะลูกหนี้ค่าหมายเลขทะเบียนรถก่อนนำออกประมูลครั้งใหม่
(ลูกหนี้ส่วนต่าง) มีข้อบกพร่อง และทำให้รัฐเสียหาย ความเสี่ยงในการอนุมัติโครงการเพื่อให้เงินช่วยเหลือเงินอุดหนุนหรือค่าใช้จ่ายเพื่อมาดำเนินการพันธกิจต่าง
ๆ ไม่เต็มตามกรอบวงเงินงบประมาณ และการบริหารโครงการและการใช้จ่ายเงินโครงการที่ได้รับการอนุมัติจัดสรรมีประสิทธิภาพค่อนข้างน้อย
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป ทั้งนี้
ให้กระทรวงคมนาคมนำรายงานในเรื่องนี้ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อรัฐสภาได้รับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2651 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การขยายโอกาสการมีงานทำและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ ของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา | รง. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การขยายโอกาสการมีงานทำและส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์
ของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปได้ว่า กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการจัดหางานสร้างโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ ทำให้มีผู้สูงอายุได้รับการบรรจุงาน
จำนวน ๒๐ คน ก่อให้เกิดรายได้ ๒,๑๖๐,๐๐๐ บาท
มีนโยบายวางแผนการพัฒนากำลังคนให้แก่คนทุกช่วงวัยที่สอดคล้องยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี
โดยการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน New-Skill Up-Skill และ Re-Skill
ให้แก่แรงงานในระบบและแรงงานนอกระบบ
และได้ร่วมมือกับภาคธุรกิจเอกชนสนับสนุนโครงการ “สร้างสุขวัยเก๋า”
เพื่อขยายโอกาสให้กลุ่มผู้สูงอายุทั่วประเทศได้ฝึกอาชีพ
สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว จำนวน ๒๐๐ คน
รวมถึงได้มีมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุซึ่งอนุญาตให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างผู้สูงอายุที่มีอายุ
๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเข้าทำงาน สามารถหักรายจ่ายได้ ๒ เท่า ประกอบกับได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ต่าง ๆ เช่น
การลดระยะการส่งเงินสมทบเพื่อให้เกิดสิทธิรับบำนาญชราภาพ เป็นต้น ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2652 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา | สธ. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
การวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ของคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าวแล้ว
โดยสรุปผลได้ว่าปัจจุบันภาครัฐได้มีการกำหนดนโยบายในการพัฒนางานวิจัยด้านสมุนไพรอยู่แล้ว
โดยแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ได้มีการกำหนดและมอบหมายให้หน่วยบริหารและจัดการทุนจัดสรรทุนด้านการวิจัยสมุนไพรและได้มีการกำหนดจัดกลุ่มพืชสมุนไพรเป้าหมายที่ควรมุ่งเน้นสำหรับการจัดสรรทุนวิจัย
รวมทั้งมีแผนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการประกอบการและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคเอกชนด้วยการใช้นวัตกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำฐานข้อมูลเชิงประจักษ์และฐานข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้สมุนไพรด้วย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2653 | ผลการพิจารณาญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตฉ้อโกงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ | กค. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติ เรื่อง
ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตฉ้อโกงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว สรุปได้ว่า ๑) ในส่วนของแนวทางการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตฉ้อโกง
กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. ๒๕๓๕ เกี่ยวกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีเพื่อให้มีกฎหมายที่สอดรับกับแนวทางการตรวจสอบและบทลงโทษผู้ที่ทำการทุจริตผ่านตลาดทุนไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
ภายใต้โครงการบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เข้มแข็ง
โดยเน้นมาตรการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นและมาตรการส่งเสริมการทำหน้าที่ของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ตลาดหลักทรัพย์ได้บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย
โดยการตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
และร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยในการจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ลงทุน
รวมถึงบุคลากรในหน่วยงานยุติธรรม (อาทิ ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา) กระทรวงพาณิชย์
โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ศึกษาและพัฒนากฎหมายที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความทันสมัยและทันเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
และ ๒) ในส่วนของข้อเสนอแนะ สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นว่า
ควรปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยให้สภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจในการกำกับดูแลผู้ทำบัญชี
ผู้สอบบัญชี สำนักงานบัญชี และสำนักงานสอบบัญชี เพื่อตรวจสอบคุณภาพของการปฏิบัติงานในเชิงรุก
และปรับปรุงแก้ไขบทลงโทษให้ครอบคลุมบทลงโทษของสำนักงานสอบบัญชี สมาคม ตลาดตราสารหนี้ไทย
เห็นว่า
ควรเพิ่มมาตรการในการยืดหรืออายัดทรัพย์สินจากการกระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นการทุจริตฉ้อโกงที่เกี่ยวกับการออกหลักทรัพย์
ให้ครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินที่ได้มาหรือสงสัยว่าจะได้มาจากการกระทำความผิดหรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะอยู่ในความครอบครองของบุคคลใดก็ตาม
และกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการเยียวยาความเสียหายให้กับนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิด
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2654 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 | ทส. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2655 | ผลการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | คค. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีของส่งอาเซียน
(ASEAN Transport Ministers Meeting : ATM) ครั้งที่ ๒๙ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๙-๑๐ พฤศจิกายน
๒๕๖๖ ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)
ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้
ดังนี้ ๑. การประชุม
ATM ครั้งที่ ๒๙
มีผลลัพธ์การประชุม เช่น การพิจารณาผลการดำเนินความร่วมมือด้านการขนส่งกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน
การรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุม ATM ครั้งที่ ๒๙ และการรับรองแผนปฏิบัติการอาเซียนด้านการบินที่ยั่งยืน
เป็นต้น (๑) การประชุม ATM-จีน ครั้งที่ ๒๒
มีผลลัพธ์การประชุม เช่น รับทราบผลสำเร็จของการดำเนินความร่วมมือด้านการขนส่งทางน้ำและการดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง
ๆ และการรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุม ATM-จีน ครั้งที่ ๒๒
เป็นต้น (๒) การประชุม ATM-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒๑
มีผลลัพธ์การประชุม เช่น การรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุม ATM-ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๒๑ และการรับรองแผนปฏิบัติการหลวงพระบาง เป็นต้น (๓)
การประชุม ATM-เกาหลี ครั้งที่ ๑๔ มีผลลัพธ์การประชุม เช่น การพิจารณาผลการประชุม
ATM-เกาหลี ครั้งที่ ๑๓ การรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุม ATM-เกาหลี ครั้งที่ ๑๔ และการรับรองยุทธศาสตร์อาเซียนว่าด้วยการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ
เป็นต้น และ (๔) การประชุมร่วมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสาขาการขนส่ง-สาขาการท่องเที่ยว
(ASEAN Interface Meeting on Transport and Tourism Ministers Meeting) มีผลลัพธ์การประชุม เช่น การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการความร่วมมือทั้งสองสาขา
และเพื่อพัฒนาการขนส่งและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน รวมทั้งเห็นชอบการกระชับความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
และการรับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสาขาการขนส่ง-สาขาการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ที่ประชุม ATM ครั้งที่ ๒๙
และที่ประชุมที่เกี่ยวข้องได้มีการปรับปรุงเนื้อหาและถ้อยคำของร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุม
จำนวน ๕ ฉบับ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงมากขึ้นในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่
๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของ
สปป.ลาว ได้หารือทวิภาคีในประเด็นสำคัญ เช่น (๑) การดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง
(หนองคาย-เวียงจันทน์) แห่งที่ ๒ และ (๒)
การขอรับการสนับสนุนจากไทยในการพัฒนาบุคลากรด้านการขนส่งของ สปป.ลาว เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2656 | การรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่่ | นร. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง ขอความร่วมมือในการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะ)
มอบหมายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินมาตรการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะต่าง
ๆ ในความรับผิดชอบให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ นั้น
เพื่อให้การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่
จึงขอกำชับให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้นอย่างเคร่งครัด
โดยในส่วนของพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ขอให้รองนายกรัฐมนตรี
(นายอนุทิน ชาญวีรกูล)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด
รวมทั้งกรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันด้วย
รวมทั้งขอเชิญชวนให้องค์กร หน่วยงานภาคเอกชน
และประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันทำความสะอาดที่ทำการ ห้างร้าน บ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพื่อให้ทุกพื้นที่มีทัศนียภาพที่สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ทั้งนี้ ขอให้ทหารจากเหล่าทัพต่าง ๆ ร่วมมือกับประชาชนในการดำเนินงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2657 | รายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | กค. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานการเงินรวมภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ และรายงานการเงินรวมภาครัฐ (บทวิเคราะห์) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ และให้หน่วยงานของรัฐที่ไม่ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
พร้อมทั้งรายงานเหตุผลหรือปัญหาอุปสรรค
และแนวทางแก้ไขให้กระทรวงเจ้าสังกัดและกระทรวงการคลังภายใน ๖๐ วัน
นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานการเงินประจำปีงบประมาณถัดไปให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อให้การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2658 | ร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรอง และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า หรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตหรือใบรับรอง
และการออกใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า หรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า
หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้นำเข้าหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่า
ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่เป็นสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง
สัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ และสัตว์ป่าควบคุม รวมทั้งการขอรับใบรับรองและการออกใบรับรองเพื่อการดำเนินการดังกล่าว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรดำเนินการให้สอดคล้องตามมาตรา ๙ และมาตรา
๑๒ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๕
และควรเร่งดำเนินการตามมาตรา ๗
แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนด
รวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ (www.info.go.th) ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2659 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร | กค. | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๖ มกราคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร) ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ตรงตามเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
โดยไม่กระทบต่อฐานะทางการเงินของ ธ.ก.ส. และมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน
รวมถึงป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ ธ.ก.ส. โดยให้ถือใช้ข้อความตามที่ปรับปรุงแล้ว
แทนข้อความเดิมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ
เช่น ๑)
ควรสื่อสารทำความเข้าใจกับลูกหนี้เกี่ยวกับวิธีการดำเนินคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ๒)
ควรกำหนดแผนบริหารจัดการหรือมาตรการจัดการหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยหรือเบี้ยปรับหรือผลกระทบในด้านอื่น
ๆ ที่เป็นภาระแก่เกษตรกรเกินสมควร ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้กระทรวงการคลังร่วมกับ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้เกษตรกรที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(Non-Performing
Loans : NPLs) ซึ่งยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของลูกหนี้แต่ละรายเพื่อให้เกษตรกรกลุ่มนี้ยังคงมีศักยภาพในการชำระหนี้ได้ต่อไปโดยไม่ถูกดำเนินคดีด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2660 | รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 18/04/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ของหน่วยรับงบประมาณ และแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ และรับทราบผลการพิจารณาคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่หนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการบริหารการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
รวมทั้งเร่งกำหนดมาตรการเพิ่มรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ
เพื่อนำไปสู่การลดการขาดดุลงบประมาณให้ต่ำกว่ากว่าร้อยละ ๓.๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในช่วงถัดไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|