ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 134 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 2661 - 2680 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2661 | ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... | คค. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง
เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี
อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ในท้องที่เขตวังทองหลาง
เขตบางกะปิ เขตสวนหลวง เขตประเวศ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร และอำเภอบางพลี
อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
โดยให้ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชบัญญัตินี้
และให้เจ้าหน้าที่เวนคืนเข้าใช้อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนภายในระยะเวลา ๔ ปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2662 | รายงานผลการจัดจ้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสีย (เพิ่มเติม) พิ้นที่เขตห้วยขวางเข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง | มท. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการจัดจ้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสีย
(เพิ่มเติม) พื้นที่เขตห้วยขวางเข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดง เป็นรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการใหม่ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่มีวงเงินรวมตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป เห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบผลการจัดจ้างโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสีย
(เพิ่มเติม) พื้นที่เขตห้วยขวางเข้าโรงควบคุมคุณภาพน้ำดินแดงก่อนดำเนินการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2663 | การดำเนินงานโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง | สทบ. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง
กรอบวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ๕,๐๐๐ ล้านบาท รัฐชดเชยต้นทุนการเงินให้กับ
ธ.ก.ส. ระยะเวลา ๒ ปี อัตราร้อยละ ๔.๕ ต่อปี ซึ่ง ธ.ก.ส. เป็นหน่วยงานตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากรัฐ
จำนวน ๔๕๐ ล้านบาท และมอบหมายสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
ประสานหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการต่อไป ตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน
และชุมชนเมืองแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ให้นำความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์)
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชาดา ไทยเศรษฐ์)
และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายไชยา พรหมา) ไปกำหนดเป็นแนวทาง
เงื่อนไข หลักเกณฑ์ และรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการฯ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2664 | การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา | กต. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา
โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายปานปรีย์ พหิทธานุกร) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างความตกลงฯ
ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทนให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าว และให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ
โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นการตรวจลงตราแก่บุคคลที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของแต่ละฝ่ายในการเดินทางเข้า
เดินทางออกจาก เดินทางผ่านและพำนักอยู่ชั่วคราวในดินแดนของรัฐภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง
เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๓๐ วัน นับจากวันที่เดินทางเข้า โดยระยะเวลาพำนักสะสมรวมกันจะต้องไม่เกิน
๙๐ วันภายในแต่ละช่วงเวลา ๑๘๐ วัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาดำเนินมาตรการในการคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถานอย่างเข้มงวด
รวมถึงติดตามและประเมินผลกระทบทางด้านความมั่นคงจากชาวคาซัคสถานเป็นระยะ
เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาพบความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นในคาซัคสถานกับกลุ่มก่อการร้ายสากล
จึงมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มดังกล่าวอาจแสวงประโยชน์จากการยกเว้นการตรวจลงตรา
โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านหรือเป็นพื้นที่หลบซ่อน (safe heaven)
และให้กระทรวงการต่างประเทศสื่อสารผลลัพธ์การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงผลประโยชน์ที่ไทยพึงจะได้รับ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2665 | ร่างปฏิญญาว่าด้วยนโยบายการเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและทั่วถึง | อว. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาว่าด้วยนโยบายการเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและทั่วถึง
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นผู้เข้าร่วมรับรองปฏิญญาดังกล่าว โดยร่างปฏิญญาฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเจตจำนงร่วมกันในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ
กระตุ้นให้เกิดการวิจัยการพัฒนา และนวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบและความเท่าเทียมกัน
เพื่อการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพต่อความท้าทายของวิกฤตระดับโลก
รวมทั้งเพื่อเร่งความก้าวหน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนโดยไม่จำกัดสาขาความร่วมมือ
ซึ่งครอบคลุม ๔ กิจกรรม เช่น การออกแบบและการขับเคลื่อนนโยบาย การเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรม
การเสริมสร้างค่านิยมร่วมในความร่วมมือระหว่างประเทศและการกำกับดูแลเทคโนโลยี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ) รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
(หนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ที่ กต ๐๗๐๓/๒๖๗ ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗) เห็นว่าร่างปฏิญญาฯ
ไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาว่าด้วยนโยบายการเปลี่ยนแปลงด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและทั่วถึง
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2666 | การร่วมมือกับรัฐบาล สปป. ลาว ในการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ช่วงเมืองท่าแขก-จุดผ่านแดนนาเพ้า สปป. ลาว | กค. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
(สปป. ลาว) ในการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข ๑๒ (R12) ช่วงเมืองท่าแขก-จุดผ่านแดนนาเพ้า สปป.
ลาว (โครงการ R12) ดังนี้ ๑) อนุมัติให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน
(องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการตามขอบเขตของโครงการ แหล่งที่มาของเงินทุน รูปแบบ วิธีการ
และเงื่อนไขทางการเงินสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป. ลาว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการ
R12 จำนวน ๑,๘๓๓,๗๔๗,๐๐๐ บาท ๒) อนุมัติให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณเป็นรายปี
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗o รวมระยะเวลา ๓ ปี
สำหรับวงเงินให้เปล่า จำนวน ๙๑,๐๖๓,๐๐๐
บาท และร้อยละ ๕๐ ในส่วนของเงินกู้จำนวน ๘๗๑,๓๔๒,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๙๖๒,๔๐๕,๐๐๐
บาท ๓) เห็นชอบแนวทางการกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ จำนวน ๘๗๑,๓๔๒,๐๐๐ บาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด และ ๔)
กรณี สปป. ลาว ผิดนัดชำระหนี้ สพพ. จะพิจารณาใช้เงินสะสมของ สพพ. เพื่อชำระคืนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากเงินกู้จากสถาบันการเงินภายในประเทศไปก่อน
ทั้งนี้ หาก สพพ.
เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องจะขอรับจัดสรรเงินงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อเสริมสภาพคล่องและเมื่อ
สพพ. สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้กระทรวงการคลัง [สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน
(องค์การมหาชน)] และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๗๐๖/๗๕ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม
๒๕๖๖) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยขอให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
พร้อมจัดทำขั้นตอนการดำเนินงาน แผนการก่อสร้าง และการเปิดให้บริการ และให้ สพพ.
ใช้เงินสะสมของหน่วยงาน
และกำหนดแนวทางและวิธีการบริหารจัดการเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และเห็นว่าเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติได้ตามที่เห็นสมควร และโดยที่เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตาม
ม. ๘ วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สพพ. พ.ศ. ๒๕๔๘
และที่แก้ไขเพิ่มติมและเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทยจึงเข้าข่ายเป็นการดำเนินการตามมาตรา
๔ (๑) และ (๗) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องฯ พ.ศ. ๒๕๔๘ นอกจากนี้ ควรมอบหมายให้กระทรวงการคมนาคมกำกับโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม
และโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ให้แล้วเสร็จตามแผน
เพื่อให้โครงข่าย/คมนาคมของไทยสามารถเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไร้รอยต่อ
อันจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ
ตามกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2667 | ขออนุมัติโครงการจัดสรรทุนการศึกษาตามความต้องการของกระทรวงการต่างประเทศ โครงการที่ 6 | กต. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการดำเนินการโครงการจัดสรรทุนการศึกษาตามความต้องการของกระทรวงการต่างประเทศ
โครงการที่ ๖ ระยะเวลารวม ๑๒ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๙) โดยจะดำเนินการจัดสรรทุนในช่วง ๕
ปีแรก (พ.ศ. ๒๕๖๘-๒๕๗๒) ปีละ ๑๓ ทุน รวมทั้งสิ้น ๖๕ ทุน และงบประมาณในการดำเนินโครงการจัดสรรทุนฯ
โครงการที่ ๖ ประมาณ ๘๐๖.๔๐ ล้านบาท หรือประมาณ ๒๐.๑๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
[อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐสำหรับการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ (๑ ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ ๔๐ บาท)]
โดยขอตั้งงบประมาณและรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความจำเป็นและเหมาะสม
ทั้งนี้ ในกรณีที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งมีผลทำให้วงเงินบาทเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่ได้รับอนุมัติข้างต้นโดยวงเงินสกุลต่างประเทศที่ได้รับความเห็นชอบไม่เปลี่ยนแปลงก็ให้กระทรวงการต่างประเทศขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวได้
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น
ควรให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปองค์ความรู้หรือสาขาวิชาใหม่ ๆ
ที่จะเป็นประโยชน์เพื่อรองรับบทบาทภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศในอนาคต
และติดตามประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ รวมทั้งในส่วนของงบประมาณ
ควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2668 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นางสาวพลอย ธนิกุล) | นร.04 | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวพลอย ธนิกุล
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2669 | เทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 | นร. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๖๗ นี้
ในภาพรวมถือได้ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นอย่างดี เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงคมนาคม บริษัท ขนส่ง จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง
ๆ ให้แก่ประชาชนในทุกจุดอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้จัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะไว้อย่างพอเพียง
ทำให้ประชาชนสามารถดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น
สถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลง สภาพการจราจรติดขัดน้อยลง
ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ในส่วนของการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ทั่วประเทศ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะกรรมการชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี การจัดงานประเพณีและงานเทศกาลสงกรานต์ในหลาย
พื้นที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่องไปตลอดเดือนเมษายน จึงขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑. เร่งประชาสัมพันธ์งานประเพณีและงานเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดต่าง ๆ
ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน เช่น ประเพณีสงกรานต์พระประแดง
จังหวัดสมุทรปราการ งานประเพณีวันไหลพัทยา จังหวัดชลบุรี
พิธีอัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมทั้งสนับสนุนการจัดงาน/กิจกรรมต่าง
ๆ ในเมืองรอง
เพื่อผลักดันให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระจายรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้มากขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2670 | การกำหนดกระบวนการรับรองสินค้าเกษตรที่ปลอดการเผา | นร. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง แนวทางเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ
โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5) มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา
และต่อมาได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละออง
PM2.5 ที่เกิดจากการเผา)
มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้ตามกระบวนการของกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและรวดเร็ว
รวมทั้งไม่ให้ขัดต่อข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) นั้น โดยที่ปัจจุบันยังคงมีปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่นละออง
PM2.5 ที่เกิดจากการเผาอยู่อย่างต่อเนื่อง
จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
โดยให้ดำเนินมาตรการภายในประเทศและมาตรการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผาอย่างเท่าเทียมกัน
และไม่เลือกปฏิบัติ (ตามหลักการ National Treatment ของ WTO) ทั้งนี้
ให้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งเจรจาทำความตกลงประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกระบวนการรับรองสินค้าเกษตรที่ปลอดการเผาให้ชัดเจนและเป็นที่รับรู้ร่วมกันเพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2671 | การแต่งตั้งเอกอัครราชทูต หัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม (นางกาญจนา ภัทรโชค) | กต. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางกาญจนา ภัทรโชค ตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
หัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม
อีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2672 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางอำภา พรหมวาทย์) | ศธ. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอำภา พรหมวาทย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก (ผู้อำนวยการสูง) สำนักประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา
(นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2673 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายชาญวิชญ์ สิริสุนทรานนท์) | มท. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชาญวิชญ์ สิริสุนทรานนท์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม (ผู้อำนวยการสูง) กรมโยธาธิการและผังเมือง
ให้ดำรงตำแหน่งสถาปนิกใหญ่ (สถาปนิกทรงคุณวุฒิ) กรมโยธาธิการและผังเมือง
กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2674 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางพิมลพรรณ ต่างวิวัฒน์) | สธ. | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพิมลพรรณ ต่างวิวัฒน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมการแพทย์
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2675 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางพัชรวีร์ สุวรรณิก) | นร.14 | 18/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพัชรวีร์ สุวรรณิก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง
(ผู้อำนวยการสูง) กองนโยบายและแผนแม่บท สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2676 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet | กค. | 09/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ (เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล
กรณีการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
ผ่าน Digital Wallet) ตามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน
๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet เสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบต่อไป ๒. ให้คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital
Wallet เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์
๒๕๖๗ (เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล
กรณีการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet) โดยให้คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
ผ่าน Digital Wallet สรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวมแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน
๒ สัปดาห์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2677 | การปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 3 | นร.07 | 09/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ ครั้งที่ ๓ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2678 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หรืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น แล้วแต่กรณี สำหรับจ้างเหมาบริการนักการภารโรง | ศธ. | 09/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หรืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๖๑๘,๗๙๕.๐๐๐ บาท แล้วแต่กรณี สำหรับจ้างเหมาบริการนักการภารโรง
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้กระทรวงศึกษาธิการ
(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๐/๔๑๐๙ ลงวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๗)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนอันจะสามารถลดการใช้กำลังคนและสามารถประหยัดงบประมาณในระยะยาว
ทั้งนี้ วงเงินที่เห็นควรอนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท ให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี
โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล
หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับดูแลแผนงานบูรณาการ
กรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ
แล้วแต่กรณีตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙ (๓) รวมทั้งควรพิจารณาแนวทางเลือกอื่น
ๆ ควบคู่กันไป โดยเฉพาะในกลุ่มโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรและงบประมาณที่สามารถนำครุภัณฑ์/เทคโนโลยี
(เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด) มาช่วยดูแลความปลอดภัยของอาคาร สถานที่
และทรัพย์สินของโรงเรียน
ซึ่งจะช่วยลดค่าเสียโอกาสต่อการใช้งบประมาณของภาครัฐในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2679 | ร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ | กต. | 09/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
และให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในการหารือกับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
ในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ โดยถ้อยแถลงร่วมฯ จะเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
โดยแสดงเจตนารมณ์ที่ทั้งสองประเทศจะร่วมกันขับเคลื่อนและการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกันในสาขาที่เป็นความสนใจและผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
มีเนื้อหาครอบคลุมความร่วมมือไทย-นิวซีแลนด์ ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือด้านความมั่นคง
เศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน พลังงานทดแทน การส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน
รวมถึงความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยมีประเด็นสำคัญ เช่น (๑) การประกาศเป้าหมายการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในปี
๒๕๖๙ เพื่อเพิ่มความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงให้แน่นแฟ้นมากขึ้น (๒)
การส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน (๓)
ความร่วมมือด้านการศึกษาและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสื่อสารผลลัพธ์ให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยพึงจะได้รับ
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2680 | การทบทวนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 09/04/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|