ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1040 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 20781 - 20800 จากข้อมูลทั้งหมด 124293 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
20781 | ข้อคิดเห็นของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี | นร | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลและการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนี้
๑. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) รายงานเกี่ยวกับการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ และการหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ๑.๑ การเข้าร่วมกิจกรรมในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติพร้อมคณะได้เป็นเจ้าภาพถวายพระกระยาหารค่ำแด่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในโอกาสเสด็จทรงร่วมงานเทศกาลฯ และทรงเป็นประธานงาน Thai Night เพื่อประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทย รวมทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่าง ๆ ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในการร่วมลงทุนกับต่างชาติ รวมทั้งความเหมาะสมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ๑.๒ การหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้พบหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมการประชุมประจำปีสมัยที่ ๗๒ ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) ที่ประเทศไทย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมบทบาทในฐานะหุ้นส่วนการพัฒนาที่สำคัญ เช่น การส่งเสริมความสัมพันธ์ในทุกด้านโดยเฉพาะการค้าการลงทุน ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาหมู่เกาะแปซิฟิก การให้ความช่วยเหลือของไทยแก่ฟิจิกรณีเหตุภัยพิบัติ การจัดทำบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร การให้สิทธิขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย (Visa on Arrival) กับผู้ถือหนังสือเดินทางฟิจิ ในการนี้ ฝ่ายไทยได้ขอรับการสนับสนุนการสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๘ ด้วย ๒. รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รายงานว่า ๒.๑ คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ โดยสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานต่าง ๆ เช่น องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติได้ดำเนินโครงการ “ปิดเทอมนี้... สนุกคิด... สนุกเรียนรู้... สู่อนาคต” เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้โดยตรงจากพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ และใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ๒๕๕๙ และในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๙ มีแผนในการดำเนินโครงการติดปีกความรู้ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน และโครงการรวบรวมข้อมูลพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลองค์ความรู้ การให้บริการ และกิจกรรมที่จัดในแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศไทย รวมทั้งได้กำหนดให้มีแผนยุทธศาสตร์ในการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ระยะเวลา ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๙) โดยมีเป้าหมายให้พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาเป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนาให้ประเทศไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและพัฒนาไปสู่ประเทศที่มั่นคงและมีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ๒.๒ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ได้เป็นประธานเปิดการแข่งขันการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับโลก ครั้งที่ ๔๐ (ACM-ICPC World Finals 2016) ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มีผู้เข้าแข่งขันเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยจาก ๔๐ ประเทศ ๖ ทวีปทั่วโลก จำนวน ๑๒๘ ทีม โดยมีทีมจากประเทศไทยเข้าร่วม จำนวน ๒ ทีม คือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับรางวัล First to Solution เนื่องจากสามารถแก้โจทย์ข้อแรกสำเร็จได้รวดเร็วที่สุด ๓. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๕๙ มีความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย ดังนั้น เพื่อให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีแรงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงควรเร่งรัดโครงการลงทุนภาครัฐให้สามารถขับเคลื่อนได้ตามแผนงานและสนับสนุนให้มีการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปี ๒๕๕๙ ๔. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รายงานว่า ๔.๑ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายรัฐบาลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และโครงการบูรณาการการขุดลอกแหล่งน้ำ โดย (๑) จะมีการบูรณาการแผนงานในการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำร่วมกัน ทั้งลำน้ำสายหลัก สายรอง และแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บกักน้ำสามารถกระจายน้ำเข้าสู่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึง (๒) ใช้เครื่องจักรและเครื่องมือของทุกส่วนราชการที่มีอยู่แล้วในการดำเนินการ โดยคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๒ เดือน (๓) กำชับทุกส่วนราชการในการประสานความร่วมมือและดำเนินการร่วมกับประชาชนในทุกพื้นที่ให้เป็นไปตามความต้องการและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง และ (๔) จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด และจะได้รายงานผลการบูรณาการแผนงานฯ ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ๔.๒ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีผลการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ เรื่องเชิงนโยบายและการบริหาร เช่น การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ของพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด เรื่องการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เช่น โครงการระบบรถไฟทางคู่ รถไฟชานเมืองร่วมกับรถไฟทางไกล โครงการโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก และการก่อสร้างโรงพยาบาล รวมทั้งการประกาศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม การแต่งตั้งกรรมการ เช่น คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน EIA ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเร่งรัดการควบคุม ติดตาม กำกับ ดูแลเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ๕. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รายงานความคืบหน้าการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๕๙ ได้แก่ การจัดโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติฯ พิธีตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติของทั้ง ๒ กิจกรรม ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแล้ว
|
|||||||||||||||||||||
20782 | การกำหนดเรื่องที่จะดำเนินการเพื่อการปฏิรูปประเทศในระยะที่ 1 | ว(ร) | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้ในช่วงระยะเวลาที่เหลือในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นช่วงการปฏิรูปประเทศ ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐) มีเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับให้ทุกส่วนราชการร่วมดำเนินการในการขับเคลื่อนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันก่อนที่จะส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน จึงเห็นควรกำหนดเรื่องสำคัญที่จะดำเนินการเพื่อการปฏิรูปในระยะที่ ๑ โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลโดยตรงต่อประชาชนหรือเป็นความคาดหวังของประชาชน เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจในด้านรายได้ของเกษตรกร การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปการแก้ไขปัญหาการทุจริต การปฏิรูปองค์กรตำรวจ โดยให้รองนายกรัฐมนตรีทุกท่านหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการกำหนดเรื่องสำคัญที่จะดำเนินการเพื่อการปฏิรูปในระยะที่ ๑ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าในช่วงวาระข้อคิดเห็นของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
20783 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2559) | สว | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ซึ่งรับทราบร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... และแจ้งข้อสังเกตของวิปให้คณะรัฐมนตรีและวิปสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ และให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน และแจ้งข้อสังเกตของวิปให้คณะรัฐมนตรีและวิปสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ ๒. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20784 | ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 24/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||
20785 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิของแรงงานข้ามชาติ | รง | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิของแรงงานข้ามชาติ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้มีการจัดทำแผนการจ้างแรงงานในรายสาขาการผลิตหรือบริการ การประสานความร่วมมือและอำนวยความสะดวกเพื่อหางานใหม่ให้แรงงานข้ามชาติทำ การบูรณาการร่วมกับส่วนราชการอื่นในระดับจังหวัด และจัดบริการร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานข้ามชาติ เพื่อดูแลแรงงานให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยไม่เลือกปฏิบัติ การประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือในเรื่องส่งแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานข้ามชาติกลับออกไปนอกราชอาณาจักร การประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือในการช่วยเหลือด้านที่พักพิง การเดินทางไปศาลหรือความจำเป็นอื่นสำหรับแรงงานข้ามชาติ การจัดทำสื่อ Digital แผ่นพับ สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในการประชาสัมพันธ์บทบาท ภารกิจ และอำนาจหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับแรงงานข้ามชาติในปัจจุบัน และสิทธิประโยชน์ที่พึงมีพึงได้ การให้บริการสายด่วนสำหรับการจดทะเบียนต่างด้าวหรือแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งศึกษาข้อดีข้อเสียต่าง ๆ ในบริบทของไทย โดยเฉพาะผลกระทบและสถานการณ์การให้ความคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20786 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับโทษปรับการรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษ และแก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับโทษของผู้ใช้และผู้ถูกใช้) | ยธ | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การบังคับโทษปรับ การรอการกำหนดโทษและรอการลงโทษ และแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทษของผู้ใช้และผู้ถูกใช้) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. ประเด็นที่เกี่ยวกับการปรับปรุงอนุบัญญัติเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามบทบัญญัติมาตรา ๓๐/๑ ที่แก้ไขใหม่ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการเตรียมการรองรับไว้แล้ว สำหรับการประชาสัมพันธ์ให้จำเลยและบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบถึงสิทธิที่จะขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับตามบทบัญญัติที่แก้ไขใหม่นั้น กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ประเด็นที่เสนอให้ควรที่จะมีการพิจารณาทบทวนอัตราการกักขังแทนค่าปรับทุก ๆ ห้าปี เพื่อให้อัตราการกักขังแทนค่าปรับสอดคล้อง กับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น เห็นว่าสอดคล้องตามพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๘ แล้ว ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมจะดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสรุปสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวทั้งฉบับต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20787 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเหมืองและโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาลิกไนต์ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) | พน | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิชุมชนกรณีโครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเหมืองและโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาลิกไนต์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งกระทรวงพลังงานได้สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย โดยได้ดำเนินการให้มีการปรับปรุงแผนพลังงาน จัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) มีการเพิ่มเป้าหมายพลังงานทดแทน มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและเห็นควรจัดตั้งกลไกหรือกำหนดภารกิจการกำกับดูแลการลงทุนในต่างประเทศของผู้ลงทุนสัญชาติไทย และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นควรสนับสนุนให้มีกลไกหารือหรือกำหนดภารกิจของรัฐในการกำกับดูแลภาคเอกชนให้เคารพต่อหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้น และควรมีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมพิจารณารูปแบบกลไกที่เหมาะสม นอกจากนี้ การพิจารณาโครงการผลิตพลังงานต้องจัดให้มีการกำจัดมลพิษที่มีประสิทธิภาพและต้องดำเนินการป้องกันปัญหามลพิษทุกด้านอย่างเข้มงวด รวมทั้งการกำจัดมลพิษและการสื่อสารข้อมูลสิ่งแวดล้อมกับชุมชน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20788 | รายงานผลการพิจารณาศึกษาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง แนวทางการปฏิรูป การกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่น) | มท | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่อง แนวทางการปฏิรูปการกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่น ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิรูปการกระจายอำนาจ การปฏิรูปโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของการปกครองท้องถิ่น การปฏิรูปการกำกับ ตรวจสอบ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองท้องถิ่น การปฏิรูปการเงินการคลังท้องถิ่น และการปฏิรูปการบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรมีการศึกษาและพิจารณาโครงสร้าง บทบาทและภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมทั้งระบบอย่างรอบด้าน รวมทั้งพัฒนาและส่งเสริมให้ประชาชน ชุมชน และภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานและตรวจสอบการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกระดับอย่างแท้จริง เพื่อให้การกระจายอำนาจและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสำเร็จผลเป็นรูปธรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีธรรมาภิบาล โดยสามารถบริหารงานและทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานผลการพิจารณาดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทยให้คณะกรรมการประสานงาน รวม ๓ ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) เพื่อพิจารณาความสอดคล้องและความเหมาะสมกับการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
20789 | สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะนโยบาย เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีการดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการพัฒนา โครงการดังกล่าว ที่มีการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวทวาย | กต | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะนโยบาย เรื่อง สิทธิชุมชน กรณีการดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการพัฒนาโครงการดังกล่าว ที่มีการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวทวาย ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้สรุปผลการพิจารณาดำเนินการตามรายงานดังกล่าว โดยมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนในต่างประเทศ และกรณีโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ร่างขอบเขตงาน (Terms of reference) ของสัญญาหรือข้อตกลงที่จะมีขึ้นในอนาคต กลไกกำกับดูแลหรือสนับสนุนภาคเอกชนในการเคารพหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน การผลักดันมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้มีการนำหลักการดังกล่าวไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจ นอกจากเสริมสร้างองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแล้วยังมีการสอดแทรกสร้างความตระหนักให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญของความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนผ่านการอบรมสัมมนาและการจัดกิจกรรม รวมทั้งจัดประกวดและมอบรางวัลธรรมาภิบาลดีเด่นทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20790 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย | พม | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษามาตรการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ตกค้างในประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยได้จัดเตรียมความพร้อมและเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ สร้างความเข้าใจในการดำเนินงานให้มีมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สรุปสาระสำคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และอนุบัญญัติ พร้อมทั้งจัดพิมพ์พระราชบัญญัติฯ และคำแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ สร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแจ้งเวียนซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กโดยร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20791 | รายงานผลการตรวจสอบรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 และ 2556 ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร | กค | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๖ ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรมีมติรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๙ และ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยผลการดำเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๖ ในส่วนของสินทรัพย์ รายได้ และค่าใช้จ่าย ข้อมูลลูกหนี้ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินต่อรายงานดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20792 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเลิกหลักเกณฑ์การสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี) | ยธ | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงยุติธรรมถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ยกเลิกหลักเกณฑ์การสอบสวนผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี) ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20793 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2558 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ | ยธ | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ส่วนที่ ๑ เป็นการรวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ องค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ คณะอนุกรรมการที่ได้แต่งตั้งภายใต้คณะกรรมการฯ จำนวน ๙ คณะ และโครงสร้างของสำนักงานกิจการยุติธรรมในฐานะฝ่ายเลขานุการ ๒. ส่วนที่ ๒ ผลงานสำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ โดยเป็นการรวบรวมผลงานสำคัญซึ่งแบ่งออกเป็น ๕ ด้าน ได้แก่ (๑) การพัฒนาและผลักดันทิศทางงานยุติธรรม (๒) การบูรณาการและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานยุติธรรม (๓) การพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (๔) การประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ด้านงานยุติธรรม และ (๕) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ๓. ส่วนที่ ๓ ข้อมูลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||
20794 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลโดวาประจำประเทศไทย และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลโดวาประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ) | กต | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมาติการเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลโดวาประจำประเทศไทย และแต่งตั้ง นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐมอลโดวาประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
20795 | รายงานการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | รง | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและคณะ ระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ มีนาคม ๒๕๕๙ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีและส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนหนองคาย โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สรุปรายงานการเดินทางผ่านเข้าออกของคนสัญชาติลาวบริเวณด่านชายแดนหนองคายโดยสังเขป ซึ่งพบว่าการเดินทางเข้าออกเป็นไปตามกฎระเบียบและเรียบร้อยดี รวมทั้งได้หารือข้อราชการร่วมกับ ดร.คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว เกี่ยวกับการเร่งรัดการจัดประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาปรับปรุงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาล สปป.ลาว ให้แล้วเสร็จ และสามารถลงนามได้ภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๙ การส่งเสริมให้มีความร่วมมือทางวิชาการ การแลกเปลี่ยน ข้อมูล ข่าวสาร และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น การพัฒนาฝีมือแรงงาน กฎหมายและระเบียบ นโยบายประกันสังคม สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับวิชาการ
|
|||||||||||||||||||||
20796 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานประตูระบายน้ำในลำน้ำปิง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ และตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ไปทางเหนือน้ำถึงกิโลเมตรที่ ๐.๒๐๐ ในท้องที่ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ และตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ไปทางท้ายน้ำถึงกิโลเมตรที่ ๐.๔๐๐ ในท้องที่ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ และตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
20797 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... | สว | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตว่า กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐซึ่งมิใช่ส่วนราชการ ควรกำชับและกำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐซึ่งมิใช่ส่วนราชการให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ รวมทั้งการกำหนดหลักประกันความเป็นธรรมเพื่อคุ้มครองผู้ร้องทุกข์มิให้ถูกกลั่นแกล้งหรือได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากการร้องทุกข์ด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. .... ไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20798 | รายงานการพิจารณาศึกษายุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | พม | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษายุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพสตรีเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นเชิงสนับสนุนรายงานดังกล่าว และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่หน่วยงานเอกชนที่รณรงค์เรื่องความเสมอภาคทางเพศอาจขัดกับหลักการภาษีที่ดี จึงอาจเป็นช่องโหว่นำไปสู่การหลีกเลี่ยงภาษี การผลักดันให้มีการจัดทำงบประมาณโดยคำนึงถึงมิติหญิงชายในหน่วยงานของรัฐควรเพิ่มสำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ การกำหนดกรอบเวลาทำงานควรเป็น ๑๒ เดือนขึ้นไป และควรกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบกรอบการทำงานให้ชัดเจน โดยเน้นการบูรณาการกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
20799 | ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ 3/2559 | อื่นๆ | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ครั้งที่ ๓/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบผลการดำเนินงานของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สิ้นสุดลงแล้ว ประกอบด้วย มาตรการให้ความช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท มาตรการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท มาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และโครงการค้ำประกันสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ๒. รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการส่งเสริมการลงทุนผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และมาตรการเร่งรัดการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย มาตรการการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน มาตรการการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งและมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคการเกษตร โดย ธ.ก.ส. และมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนด้านการเดินทางตามมาตรการใหม่ ๓. มอบหมายให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านระดับ A และ B และหากกองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ให้ปรับลดระดับกองทุนหมู่บ้านจากระดับ A และ B เป็นระดับ C และ D เพื่อให้สะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริง ๔. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง และมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคการเกษตร โดย ธ.ก.ส. ปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งแนวทางแก้ไขต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ทุกเดือน ๕. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ มีหนังสือถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้รับทราบสถานะของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง ระยะเร่งด่วน พ.ศ. ๒๕๕๙ (Action Plan) ที่ยังมีโครงการหลายโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาเตรียมแผนการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ ๖. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำตารางสรุปผลการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ มาตรการที่สนับสนุนภาคเกษตร มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยระบุวงเงินและแหล่งเงินของแต่ละมาตรการ รวมทั้งรายงานสถานะของการเบิกจ่ายของแต่ละกลุ่มมาตรการเพื่อแสดงให้เห็นถึงเม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และให้นำเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ทราบต่อไป ๗. มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว คือ โครงการบ้านประชารัฐ มาบรรจุไว้ภายใต้กรอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีการรายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ
|
|||||||||||||||||||||
20800 | มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2559 (ครั้งที่ 6) | พน | 16/05/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ (ครั้งที่ ๖) เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน รวม ๗ เรื่อง ได้แก่ (๑) แผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงานเพื่อส่งเสริมการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย (๒) หลักเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการหรือกิจการที่ได้รับการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม สำหรับการประกอบกิจการบางประเภท (๓) ขอความเห็นชอบแก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการน้ำงึม ๒ เพื่อปรับปรุงสถานีไฟฟ้านาบง (๔) ขอความเห็นชอบลงนาม Side Letter Agreement (Amendment to Gas Sales Agreement Yetagun) กับผู้ขายก๊าซธรรมชาติแหล่งเยตากุน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (๕) แนวทางการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าชีวมวล (๖) แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ได้ภายในกำหนดเวลา และ (๗) ปรับกรอบอัตราภาษีสรรพสามิตของกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ๒. ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้มากขึ้น และควรศึกษาความเป็นไปได้และโครงการนำร่องของรถเมล์ล้อยางที่ใช้ไฟฟ้าตรงแบบรถรางโดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ราคาแพง และสามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับรถเมล์ไฟฟ้าแบบที่ใช้แบตเตอรี่และต้องมีสถานีประจุไฟฟ้า สำหรับการดำเนินการ ระยะที่ ๑ การเตรียมความพร้อม ควรพิจารณาให้ครอบคลุมไปถึงประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะเปรียบเทียบกับรถยนต์สาธารณะทั่วไปด้วย รวมทั้งควรมีนโยบายและมาตรการในการส่งเสริมให้มีการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าภายในประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกที่จะทำให้ต้นทุนของรถโดยสารลดลงกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ภายในประเทศ โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้ยั่งยืนในระยะยาว ภาครัฐจะต้องมีนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับชิ้นส่วนเทคโนโลยีที่สำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงแรกเพื่อจูงใจให้มีผู้ใช้งานในช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่กระทบกับระบบไฟฟ้าโดยรวมของประเทศมากเกินไป ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นด้วย และควรกำหนดกลไกในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของแผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงานเพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนแผนงานในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....