ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 50 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 981 - 1000 จากข้อมูลทั้งหมด 1462 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
981 | ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 15/05/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้อง
ที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยปรับปรุง เกี่ยวกับกระบวนการเข้าสู่ตำแหน่ง ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และสอดคล้องกับสภาวการณ์ของ ประเทศ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่เห็นควรกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดูแลรักษาที่สาธารณประโยชน์ประเภทประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หาก อปท. เพิกเฉยหรือละเลย ไม่ยอมเข้าไปดำเนินการ ให้ส่วนภูมิภาคเข้าไปทำหน้าที่ดูแลแทน รวมทั้งเพิ่มเติมข้อความในร่างพระราชบัญญัติ ฯ มาตรา 8 โดยยกเลิกข้อ 15 และข้อ 16 ของมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2486 เนื่องจากอำนาจ หน้าที่ดังกล่าวเป็นของ อปท. ตามมาตรา 16 (17) และ (19) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
982 | ขอความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550 - 2554 | สธ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550-2554 สาระสำคัญ (เล่มที่ 1) และแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไข ปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2550-2554 รายละเอียดยุทธศาสตร์ มาตรการ กลวิธี ตัวชี้วัด และหน่วยงานรับผิด ชอบ (เล่มที่ 2) โดยให้ใช้แผนยุทธศาสตร์ ฯ เป็นแผนที่จะใช้ในการกำหนดกรอบกิจกรรม เพื่อให้แต่ละหน่วยงาน พิจารณาจัดทำในส่วนที่รับผิดชอบ เพื่อของบประมาณประจำปีผ่านสำนักงบประมาณ ตามแผนยุทธศาสตร์ ฯ ทั้ง เล่มที่ 1 และเล่มที่ 2 ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง อาทิ ข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ ความสำคัญกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยสนับสนุนการจัดตั้ง เครือข่ายกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อให้กลไกในการรณรงค์เพื่อ ลด ละ เลิกพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง และให้ความรู้ความ เข้าใจในการป้องกันโรคเอดส์ และเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับชุมชนในการป้องกันและแก้ ไขปัญหาเอดส์ในพื้นที่ที่เชื่อมโยงกันและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ฯ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลไก ที่มีอยู่สามารถประสานการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์ ฯ กับแผนพัฒนาสุข ภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550-2554 เพื่อให้การดำเนินงานหนุนเสริมซึ่งกันและกัน และความเห็นของ สำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติงาน กรอบกิจกรรม และแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ควรให้เหมาะ สมตามภารกิจส่วนที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน ไปประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
983 | ขออนุมัติแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 - 2559 | สธ | 24/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติในระยะ 10 ปี ตั้ง แต่ พ.ศ. 2550-2559 เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายและทิศทางในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกำลังคนด้านสุขภาพ โดยในชั้นต้นให้ใช้งบประมาณจากงบดำเนินงานปกติของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชุมคณะ กรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ สำหรับงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ ให้เสนอขออนุมัติ ตามแผนปฏิบัติการในแต่และยุทธศาสตร์ต่อไป และให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติตามกล ยุทธ์ 1 ในยุทธศาสตร์ 1 สร้างและพัฒนากลไกในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์กำลังคนด้านสุขภาพแห่ง ชาติที่สอดคล้องกับระบบสุขภาพของประเทศ เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะในระดับนโยบายเกี่ยวกับกำลังคนด้าน สุขภาพในภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและผลักดันการดำเนินงานตามแผนยุทธ ศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับอนุมัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับ ความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติที่ เห็นว่า ในหลักการของแผนยุทธศาสตร์ ฯ ควรคำนึงถึงกำลังคนด้านสาธารณสุขในภาพรวมของประเทศ และแผน ยุทธศาสตร์ปรับขนาดกำลังคนภาครัฐด้วย ส่วนการกำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพ แห่งชาติควรกำหนดตามหลักการของพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 โดยมอบให้กระทรวงการ คลังดำเนินการตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ฯ ต่อไป และข้อสังเกตของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้ แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับองค์ประกอบของคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ลำดับที่ 23 ยังไม่ครอบคลุมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกประเภท ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล กรุงเทพ มหานคร และเมืองพัทยา ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
984 | การตรวจสถานการณ์หมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน | นร | 18/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือรายงาน
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2550 ณ ศาลากลาง จังหวัดแม่ฮ่อง สอน โดยที่ประชุมได้พิจารณาผลการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและผลกระทบที่สำคัญ คือ การไม่รู้สาเหตุของ การเกิดไฟป่าที่แท้จริง การใช้มาตรการทางกฎหมายกับพี่น้องชาวบ้าน ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง (เกิดผลในทาง ลบ มากกว่าผลในทางบวก) และการยอมรับในความเป็นจริงตามสภาพระบบนิเวศน์ว่ายังไงต้องมีการเผา ทั้งใน การเผาในที่ทำกิน และการเผานอกพื้นที่ทำกิน สำหรับข้อเสนอต่อแนวทางการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย แผน ในการจัดการปัญหาระยะสั้น (เร่งด่วน) ได้แก่ บรรเทาปัญหาความหนาแน่นของหมอกควันและผลกระทบที่เกิด ขึ้น การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการตรวจจับพี่น้องชาวบ้านที่กำลังจะเริ่มทำไร่ (เผาไร่) โดยเฉพาะที่ทำกินที่ อยู่ในเขตป่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการเฝ้าระวังการเผาที่จะเกิดขึ้นใหม่ และการจัดตั้งอาสาสมัคร ดับไฟที่มีประสิทธิภาพ และแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การศึกษาข้อมูลในเชิงสถิติ ปริมาณ ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกิดไฟป่า และผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมที่ แท้จริง การทบทวนนโยบาย/แนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา อาทิ การจัด Zoning การเผา รวมทั้งนโยบายอื่น ๆ เพื่อกำหนดเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับ และสร้างให้เกิดกลไกมีส่วนร่วมในการจัดการ ร่วมกันระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาควิชาการ และภาคชุมชน และการศึกษาหาวิธีการ ทาง เลือกอื่น ๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดไฟป่าอย่างเหมาะสมตามรูปแบบของการเกิดไฟ บนฐานความ รู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการป้องกันและช่วยดับไฟ การ กำหนดให้ปัญหาหมอกควัน เป็นวาระแห่งชาติ และการบูรณาการการป้องกันแก้ปัญหาอุบัติภัยทุกภาคส่วนทั้ง ด้านวิชาการและเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดมาตรการ "7 วันปลอดควันวันสงกรานต์" ได้แก่ มาตรการด้านการป้องปรามและเฝ้าระวัง มาตรการด้านการควบคุม มาตรการด้านการรณรงค์ประชา สัมพันธ์ มาตรการด้านการปฏับัติการดับไฟป่า และมาตรการด้านการรายงานและประเมินผล
|
||||||||||||||||||||||||
985 | สรุปผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | นร | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงาน
ผลการประชุมเปิดตัวยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง (คพพ.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2550 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยประเด็นสำคัญของการประชุมประกอบ ด้วย หลักการสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ซึ่งได้แก่ การพัฒนาที่นำไปสู่การพึ่งตนเอง ได้มากขึ้น โดยประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐพอเพียงเป็นแนวทางการพัฒนาที่ไปสู่ความยั่งยืนและสร้างภูมิคุ้มกันให้ คน/ชุมชนปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงใช้ความคิดของชาวบ้านเป็นหลัก รัฐเป็นผู้สนับสนุน การเชื่อมโยงความคิด ของชุมชนเข้าสู่กระบวนการทำงาน โดยมีจังหวัดเป็นกลไกในการประสานและสนับสนุนให้เกิดการจัดทำแผนชุมชนที่ เชื่อมโยงกับแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด รวมทั้งสอดคล้องกับแผนงานตามกรอบยุทธ ศาสตร์อยู่ดีมีสุข ใน 5 แผนงาน ส่วน คพพ.จะเสริมต่อการดำเนินงานของชุมชนที่สามารถดำเนินโครงการพัฒนาศักย ภาพของหมู่บ้าน/ชุมชนได้ผลดี โดยจังหวัดต้องมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเงินตามสภาพปัญหาของชุมชน ไม่ใช่ กระจายเม็ดเงินอย่างเท่าเทียมกันในทุกชุมชน และแนวทางการบูรณาการสู่ความอยู่ดีมีสุขของชุมชน คือ ความพอ เพียง ไม่ยากจน ความน่าอยู่ ปลอดภัย ความเข้มแข็ง มีความรู้ มีสุขภาวะ และมีคุณธรรม โดยผู้ว่าราชกาจังหวัด ต้องมีบทบาทเป็นผู้ประสานเชื่อมโยงการบูรณาการทั้งในส่วนขององค์กร คน เงิน และทุนทุกประเภท โดยใช้หลัก 4 ประการ ได้แก่ (1) ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (2) ประชาชนมีบทบาทเป็นทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ได้รับประโยชน์ ส่วนราชการเป็น ฝ่ายเอื้ออำนวย (3) รวมพลังทุกภาคส่วน และ (4) บูรณาการอย่างเป็นระบบ สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป ให้ จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด อำเภอ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายในวันที่ 10 เมษายน 2550 รวมทั้ง พิจารณากลั่นกรอง และอนุมัติโครงการตามเกณฑ์ที่กำหนด และส่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||
986 | การพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | มท | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอดังนี้ ให้ศูนย์พัฒนาการเมืองการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (ศพป.) ทุกระดับเป็นองค์กรขับเคลื่อนและบูรณาการ การพัฒนาประชาธิปไตย รวมทั้งให้อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย (อสพป.) เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจ กรรมในทุกพื้นที่ กับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ ศพป. ทุกระดับ และนำหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียน การสอนทุกระดับ โดยหลักสูตรการพัฒนาการเมืองการปกครองดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างความรู้ความ เข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ และการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของ ประชาชนให้ "ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นไทย" ดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่นไทย การให้มีความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและได้ คนดี และการนำกรณีศึกษาระบอบประชาธิปไตยเป็นแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน และ ให้สำนักงบประมาณ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนงบประมาณการพัฒนาการเมืองการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่ ศพป. ในแต่ละระดับจะขอรับการสนับสนุนเพิ่ม เติม ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นและข้อเสนอแนะของส่วนราช การที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรประสานกับคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนา การเมืองและยกร่างแผนแม่บทพัฒนาการเมือง สภาร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ภาคประชาสังคม กลุ่มเครือข่ายองค์กร NGO และภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและเชื่อมโยงในภารกิจที่คล้ายคลึงกัน ส่วนกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ควรประสานกับสถาบันการศึกษา สถาบัน พระปกเกล้า และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ โดยเนื้อหาหลักสูตร ให้เน้นสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย นอกจากนี้ ควรคิดรูปแบบและกลไกการฝึกอบรมวิทยากร ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเน้นการฝึกปฏิบัติ และกำหนดวิธีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้เกิดผลการ ดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
987 | แนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 | รง | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศ
กาลสงกรานต์ พ.ศ. 2550 ของกระทรวงแรงงาน สรุปได้ดังนี้ กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทางหลวง ขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ จัดฝึกอบรมให้ประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจในการขับขี่อย่างถูกวิธี การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และฝึกอาชีพยกระดับฝีมือแรงงานให้ แก่ผู้มีหน้าที่ให้บริการผู้ขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจทาง หลวง และหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ให้มีความรู้ด้านช่างยนต์ สามารถวิเคราะห์และช่วยแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องใน เบื้องต้นได้ และมอบให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค (สพภ.) และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด (ศพจ.) จัด ทำโครงการให้บริการตรวจสภาพซ่อมบำรุงรักษารถยนต์และรถจักรยานยนต์ในเส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม ทั้งได้ขอความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง อู่ซ่อมรถยนต์ หรือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ หน่วยงานภาค รัฐของจังหวัดจัดตั้งศูนย์บริการตรวจสภาพ ซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ทั้งก่อนและระหว่างเทศ กาลในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความพร้อมและเหมาะสม นอกจากนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตร การขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสริมการรณรงค์ช่วยลดอุบัติเหตุอีกทางหนึ่งด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
988 | ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม | พม | 10/04/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคม ครั้งที่
3 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยที่ประชุมได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์สังคมที่ จักเร่งขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย 5 งานสำคัญ คือ (1) พัฒนาระบบสวัสดิการท้อง ถิ่น โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเทศบาลเมืองพัทยา เพื่อจัดระบบการดูแลผู้ยาก ลำบากในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (2) ขยายระบบสวัสดิการขุมชน โดยร่วมกับเครือ ข่ายองค์กรชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (3) สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานในการสร้างสันติสมาน ฉันท์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยึดหลักความเป็นกลาง และมีเครือข่ายภาคประชาชน ชุมชน อาสาสมัคร เป็น กลไกสำคัญในการทำงาน (4) ร่วมถอดสลักความรุนแรงในสังคมไทย โดยเปิดเวทีประชาธิปไตยชุมชน เพื่อความ มั่นคงของมนุษย์ในระดับอำเภอและเขตกรุงเทพมหานครเพื่อมุ่งความสมานฉันท์ในระดับฐานรากระหว่างประชาชน และ (5) จัดระบบและพัฒนาหอพักนักศึกษาในเขตเทศบาล และพัฒนาสภาวะแวดล้อมโดยรอบมหาวิทยาลัย รวม ทั้งกฎหมายใหม่ 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนท้องถิ่น พ.ศ. .... พระราชบัญญัติส่งเสริมคุณธรรม แห่งชาติ พ.ศ. .... และพระราชบัญญัติส่งเสริมประชาสังคมเพื่อการพัฒนา พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
989 | แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความ
ปลอดภัยทางถนนเสนอดังนี้ เห็นชอบแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ได้แก่ การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 การกำหนดเป้าหมายคาดคะเนจำนวนครั้งอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ (Admit) รวมทั้งมาตรการด้าน การป้องปรามผู้กระทำผิด มาตรการด้านการควบคุม และมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย และเห็นชอบการจัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ความปลอดภัยทางถนนตามกรอบสหประชาชาติและกิจกรรม ACD Road Safety Day (Asia Cooperation Dialogue-ACD) ของประเทศไทย ประกอบด้วย การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2550 ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2550 และการจัดประชุมเชิงวิชาการสรุป บทเรียนการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ. 2550 ในทุกจังหวัด สำหรับส่วน กลางร่วมจัดกิจกรรมกับ UNESCAP UNICEF WHO และองค์กรอื่น ๆ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติประจำประเทศไทย ในวันที่ 25 เมษายน 2550 ทั้งนี้ โดยให้กระทรวง หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยว ข้องทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามมาตรการ รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ คณะ รัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า เป้าหมายการปฏิบัติงานตามแผนดังกล่าว ทั้งในส่วนของจำนวนครั้งของอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ นั้น เป็นการประมาณการที่จัดทำขึ้นเพื่อการบริหารจัดการและการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผน เท่านั้น ดังนั้น ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลในเรื่องนี้ จึงให้ดำเนินการให้เหมาะสม ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจได้ ง่าย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลอุบัติเหตุให้ถูกต้องและรวดเร็วด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
990 | การปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 | นร | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการ
คลังว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อโรคเอดส์อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2540 โดยให้ครอบคลุมถึงเจ้า หน้าที่ที่เป็นข้าราชการซึ่งปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในหน่วยบริการดูแลอื่น ๆ เช่น โรง เรียน สถานสงเคราะห์ เป็นต้น ไม่เฉพาะหน่วยบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น รวมทั้งพนักงานของ รัฐ และลูกจ้างประเภทต่าง ๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอชไอวีเช่นกัน และให้กระทรวงการคลังรับไปดำเนินการยกร่างระเบียบ ฯ โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องที่เห็นควรปรับปรุงระเบียบให้ครอบคลุมถึงข้าราชการและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปฏิบัติ หน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านการบำบัดการส่งเสริมสุขภาพ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การควบคุมโรคและ การป้องกันโรค การกำจัด และการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีลักษณะที่เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ และปรับ ปรุงความหมายของคำว่า "หน่วยบริการ" ตามร่างระเบียบให้ครอบคลุมเป็น "หน่วยบริการ หมายความว่า หน่วย งานของราชการที่ดำเนินงานทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ในการให้บริการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ เช่น สถานสงเคราะห์ ศูนย์บริการทางสังคมประเภทต่าง ๆ ของทาง ราชการ เป็นต้น" ไปพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
991 | แผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง | ทส | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติ เสนอกรอบแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว และแผนการบรรเทาผลกระทบจาก ปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณให้สามารถดำเนินการได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สำหรับการ ดำเนินงานตามแผนการบรรเทาอุทกภัยระยะกลางและระยะยาว ในวงเงิน 10,577.21 ล้านบาท และแผนการ บรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ในวงเงิน 4,286.47 ล้านบาท โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความตกลง กับสำนักงบประมาณในรายละเอียด และมอบหมายให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติแต่งตั้งคณะอนุกรรม การจัดทำแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้งเพื่อดำเนินการจัดทำรายละเอียด แผนงาน และงบ ประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2559 เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ และสถาบันสารสน เทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร) เข้าร่วมจัดทำแผนดังกล่าวด้วย และให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำและ ดำเนินการตามแผนดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ให้รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
992 | ร่างระเบียบและกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 | กก | 27/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียน
พาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 เสนอดังนี้ เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 ว่าด้วยการเงินและงบประมาณ พ.ศ. 2550 และว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2550 รวม 2 ฉบับ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุ บัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นใน การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 พ.ศ. 2550 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2550 จำนวนรวม 1,463 ล้านบาท และอนุมัติหลักการให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขัน โดย สนับสนุนค่าใช้จ่าย หรือดำเนินกิจกรรมอื่นที่เป็นการสนับสนุนการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการจัดการแข่ง ขัน ฯ เร่งรัดดำเนินการจัดหารายได้จากสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมประมาณการรายจ่ายให้มากที่สุด นอก เหนือจากนี้ให้ประสานขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
993 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. .... | นร | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้นำกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอัคคีภัย มาบัญญัติไว้รวมกัน และ ให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ต่อไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ การจัดทำแผน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ควรให้ความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรชุมชน และองค์กรภาคประชาชนด้วย และโดยที่งานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจะเกี่ยวข้องกับงานที่หน่วยงานอื่นรับผิดชอบอยู่ด้วย เช่น ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น จึงให้กระทรวงมหาด ไทยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงและรวบรวมข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ต่อการ ตัดสินใจและติดตามการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีไว้ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
994 | ร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | คค | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษ
แห่งประเทศไทย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎ หมายว่าด้วยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในส่วนของอำนาจหน้าที่ของ กทพ. ให้สามารถดำเนินกิจ การในอันที่จะให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกในการจราจรได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อความ ปลอดภัยเกี่ยวกับการใช้ทางพิเศษ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอันตรายจากการติด หรือตั้งป้ายโฆษณาตามร่างมาตรา 38 และบทเฉพาะกาลตามร่างมาตรา 71 ว่าควรมีการวางแนวทางปฏิบัติให้ ชัดเจน และพิจารณาว่ามาตรการดังกล่าวและระยะเวลาตามบทเฉพาะกาลมีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด โดย ให้ กทพ. ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล) เป็นประธาน หากเห็นว่ามาตรการดังกล่าวมีความเหมาะสมและมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนแล้วให้ ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อ ไป และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตเกี่ยวกับป้ายโฆษณาที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับร่างพระราชบัญญัติ ฯ ซึ่ง มีจำนวนมาก ไม่เป็นระเบียบ หรือมีลักษณะไม่เหมาะสมด้วยประการอื่น เช่น น่าจะเป็นอันตราย กระทบต่อ วัฒนธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้ภาษาไม่เหมาะสม เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการ โดยประสานกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
995 | ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. .... | พม | 20/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอร่างพระราชบัญญัติพัฒนาเด็กและเยาว ชนแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ กำหนดให้รัฐดำเนินการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยส่งเสริมให้ภาคต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัด และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ กรณีการจัดตั้งสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ขึ้นในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาจ เกิดความซ้ำซ้อน และไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2547 ที่กำหนดว่าในการร่างกฎ หมายเพื่อใช้บังคับในเรื่องใดก็ตาม ไม่ควรมีข้อกำหนดในรายละเอียดให้มีการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่ แต่ควร มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ เป็นหน่วย งานรับผิดชอบการดำเนินงาน และปรับข้อความเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักการกระจายอำนาจจาก ที่บัญญัติไว้ตามร่างพระราชบัญญัติ เป็น "องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจัดสรรงบประมาณเพื่อการพัฒนาเด็ก และเยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบตามความเหมาะสม" สำหรับการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำ แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับท้องถิ่นให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ รวมทั้งการออก ข้อบัญญัติหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามแผนดังกล่าวในร่างมาตรา 38 และร่างมาตรา 39 เห็นว่าไม่ขัดกับหลัก ความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะนัยตามร่างมาตราดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความ เชื่อมโยงไปสู่เป้าหมายความสำเร็จของการดำเนินงานพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยกำหนดหลักการดำเนินงานไว้ ส่วนรายละเอียดเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะต้องดำเนินการตามภารกิจของตนต่อไป และรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ ฯ แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
996 | กรอบแนวทางการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 13/03/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอกรอบแนวทาง
การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 1/2550 วันที่ 17 มกราคม 2550 ดังนี้ ให้ใช้กรอบวงเงินอุดหนุนที่จัดสรร ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นฐานในการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เงินอุด หนุนทั่วไป และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ และหากภายหลังจากที่ กกถ. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว มีการปรับลดงบ ประมาณเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่ อปท. เมื่อมีการแปรญัตติเพิ่มเติม ก็ให้แปรญัตติเพิ่มเติมเป็นเงินอุดหนุนทั่ว ไปเท่านั้น โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณให้ อปท. จำนวน 147,840 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับภาษีและรายได้ของท้องถิ่น จะทำให้สัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นคิดเป็นร้อยละ 25.2 ของ รายได้ของรัฐบาลอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 (เรื่อง การกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551) ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว ส่วนการที่ กกถ. จะใช้การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นเกณฑ์ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ควรรอระยะเวลาที่เหมาะสม และนำสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำ การแก้ ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม เป็นต้น มาใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณด้วย และกรณีที่ อปท. ถูกปรับลดงบประมาณ การแปรญัตติเพิ่มในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระ ราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมา ธิการ ฯ รวมทั้งสภาพปัญหาตามข้อเท็จจริงและความจำเป็นในขณะนั้น ซึ่งอาจจะจัดสรรงบประมาณในรูปเงิน อุดหนุนเฉพาะกิจที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะกิจก็ได้
|
||||||||||||||||||||||||
997 | ความก้าวหน้าของการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบูรณะฟื้นฟูความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 06/03/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลความก้าวหน้าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและ
บูรณะฟื้นฟูความเสียหายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งดำเนินการตาม แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณไว้ ดังนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ ดำเนินการก่อสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน และปรับปรุงล้าง บ่อน้ำตื้น ส่วนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการสำรวจและเจาะบ่อน้ำบาดาล เป่าล้างบ่อน้ำบาดาล ซ่อม แซมเครื่องสูบน้ำแบบบ่อลึก และซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน ซึ่งผลการดำเนินงานส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์ตาม แผนที่วางไว้ สำหรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำเสียและขยะมูลฝอย กรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นได้โอนการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่จัดทำสัญญาว่าจ้างปรับปรุงซ่อมแซมระบบรวบรวมน้ำเสีย และระบบบำบัดน้ำเสีย และซ่อมแซมสถาน ที่กำจัดขยะมูลฝอย โดยกรมควบคุมมลพิษจะร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้คำปรึกษาและติดตาม ประเมินผลการปรับปรุงซ่อมแซมระบบดังกล่าวต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
998 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | นร | 27/02/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหลัก
เกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ที่ตรวจ พิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราการจัดสรรเงินกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืชให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
999 | รายงานประจำปี 2548 | นร | 20/02/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้อง
ถิ่นเสนอรายงานการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 5/ 2549 วันที่ 1 กันยายน 2549 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบรายงานประจำปี พ.ศ. 2548 โดยมีสาระสำคัญ 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ปี งบประมาณ พ.ศ. 2546 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ส่วนที่ 2 คณะกรรมการ /คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนที่ 3 ผลการปฏิบัติ งานการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ส่วนที่ 4 ผล การดำเนินงานในด้านอื่น ๆ ส่วนที่ 5 ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดำเนินการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนที่ 6 ภาคผนวก
|
||||||||||||||||||||||||
1000 | การสนันสนุนปฏิญญาคุณธรรมว่าด้วยการสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี" | พม | 30/01/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เกี่ยว
กับข้อเสนอการสนับสนุนปฏิญญาคุณธรรมว่าด้วยการสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี" ซึ่งเป็นแนวทางให้รัฐบาลร่วม สนับสนุนการปฏิรูปและพัฒนาสังคมไทยด้านคุณธรรม โดยมอบหมายหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน การสร้างสังคม "รู้ รัก สามัคคี อยู่ดีมีสุข" โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน พร้อมทั้งเร่งผลักดัน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหลักประกันและกลไกที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกฎหมายสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์คุณธรรม สนับสนุนการขับเคลื่อนเครือข่ายคุณธรรม และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสังคมอย่างกว้างขวาง และจัดตั้งคณะ กรรมการประสานงานเพื่อรับผิดชอบการขับเคลื่อนปฎิญญาฯ ร่วมกับองค์กรพันธมิตรภาคีคุณธรรม และทุกภาค ส่วน รวมทั้งประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำปฏิญญาฯ ไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และให้มีการทำ แผนแม่บทเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และผู้นำด้านคุณธรรมจริยธรรม
|
.....