ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 30 จากทั้งหมด 55 หน้า แสดงรายการที่ 581 - 600 จากข้อมูลทั้งหมด 1084 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 581 | การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ | นร | 11/12/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ปรับปรุงร่างรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ใน
รอบ 1 ปี ที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี ฯ เสนอเป็นรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ใน ภาพรวมทั้งหมด (Government Report) โดยให้มีข้อมูลผลงานที่สำคัญนับตั้งแต่เริ่มต้นเข้าทำหน้าที่จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสะท้อนปรัชญาในการปฏิบัติงานและนโยบายสำคัญของรัฐบาล และให้จัดทำบทสรุปย่อสำหรับผู้บริหาร ให้กระชับ ชัดเจน และพิจารณารูปแบบในการนำเสนอให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น กรณีที่รัฐมนตรีท่านใดประสงค์จะ ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลร่างรายงานดังกล่าว ให้แจ้งฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำงานราย ฯ ภายในวันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2550 และให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำรายงาน ฯ ดำเนินการตามแนวทางที่คณะรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ข้างต้นต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 582 | การดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ : ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา | ศธ | 27/11/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติอนุมัติ
ในหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เกษียณอายุ ราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 คืนให้กระทรวงศึกษาธิการทั้งหมดทุกตำแหน่ง พร้อมกับวงเงินงบประมาณของ อัตราที่เกษียณดังกล่าว ส่วนอัตราที่เกษียณอายุตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 นั้น ให้รอผลการศึกษาตามโครงการ กำหนดยุทธศาสตร์กำหนดกำลังคนภาครัฐ : กรณีศึกษาข้าราชการครู ของ คปร. รวมทั้งผลการศึกษาของกระทรวง ศึกษาธิการซึ่งจะคำนวณอัตราการขาดแคลนข้าราชการครู โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ การกระจาย ตัวของโรงเรียน และกลุ่มสาระที่ขาดแคลนอัตรากำลัง ประกอบด้วย กลุ่มบุคลากรครูผู้สอน กลุ่มผู้บริหารในสถาน ศึกษา กลุ่มบุคลากรสนับสนุน และปัจจัยด้านขนาดของห้องเรียนและจำนวนชั่วโมงสอนของครูต่อสัปดาห์ นอกเหนือ จากการใช้เกณฑ์อัตราส่วนระหว่างครูกับผู้เรียน ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยว ข้อง อาทิ ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่ง จัดทำแผนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในระยะกลางและระยะยาว โดยใช้ผลการศึกษาของ คปร. มาประกอบการ ดำเนินการด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ และเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการ กำลังคนภาครัฐในภาพรวม เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 583 | ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยไม่ถือเป็นวันลา และเรื่อง ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความประสงค์เข้ารับการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยถือเป็นวันปฏิบัติราชการและไม่ถือเป็นวันลา | พศ | 27/11/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รองศาสตราจารย์ธีรภัทร เสรีรัง
สรรค์) เสนอขอปรับปรุงถ้อยคำในหนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ พศ 0001/8650 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2550 ข้อ 1 จากเดิม "1. ให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ รวมถึงสมาชิกและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ..." เป็น "1. ให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างส่วนราช การและหน่วยงานของรัฐ รวมถึงพนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ..." และที่เสนอเพิ่มเติม ดังนี้ การอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ รวมถึงพนักงานและลูกจ้างของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลาอุปสมทบเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามง คลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตั้งแต่วันที่ 1-15 ธันวาคม 2550 โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการได้รับเงินเดือนตามปกติ โดยให้ผู้อุปสมบทที่เคยใช้สิทธิในการลาแล้ว แต่ยังไม่เคย เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ ให้สามารถลาอุปสมบทในโครงการนี้ได้ ส่วนผู้อุปสมทบเฉลิมพระ เกียรติกับหน่วยงานอื่นให้ใช้สิทธิในการลาครั้งนี้ได้ สำหรับการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ฯ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่สมัครเข้าปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวัน ที่ 3-7 ธันวาคม 2550 เข้าร่วมกิจกรรมได้โดยถือเป็นวันปฏิบัติราชการและไม่ถือเป็นวันลา |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 584 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 30/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วย
หลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธี การการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อ กำหนดให้ข้าราชการมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทผู้บริหารและประเภทวิชาการตามตำแหน่งวิชาการที่ ตนครองอยู่ทั้งสองประเภท และให้ดำเนินการต่อไปได้ สำหรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ เห็นควรแก้ไขบัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งผู้บริหารในมหาวิทยาลัยของรัฐ ท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงิน ประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 ให้สอดคล้องกับมาตรา 26 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์การได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทผู้บริหารของข้าราช การพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาที่จะไม่ตัดสิทธิในการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการตามตำแหน่งวิชา การที่ตนครองอยู่ นั้น ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 585 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยบูรพา พ.ศ. .... | สว | 30/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย บูรพา พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญ ฯ เห็นสมควรปรับปรุงการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับการ เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม โดยการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องคำนึงถึงความเป็นอิสระ ความ เป็นเลิศทางวิชาการ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และร่างพระราช บัญญัติมหาวิทยาลัย สำหรับค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงการศึกษาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กำหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย และกระบวนการพิจารณากำหนดอัตราที่เรียกเก็บเงิน โดยเปิดโอกาสให้ ตัวแทนนิสิต และสภาคณาจารย์ได้มีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นต่อสภามหาวิทยาลัยด้วย ส่วนการสรรหา กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิอาจจะพิจารณาคัดเลือกจากผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ด้วยก็ได้ โดยผู้ได้รับการสรรหาจะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่เข้ามาเป็น กรรมการดังกล่าว ซึ่งมิใช่เป็นการแต่งตั้งโดยพิจารณาจากตำแหน่งบริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเป็นหลัก และเห็นชอบให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ แก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อ่ไป ทั้งนี้ มอบให้กระทรวง ศึกษาธิการรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการไปพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 586 | การบริหารจัดการงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ปี 2551 | นร | 22/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอดังนี้ เห็น
ชอบกลไกการบริหารจัดการงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ปี พ.ศ. 2551 (15,000 ล้าน บาท) โดยสรุปดังนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกการบริหารงบประมาณในส่วนร้อย ละ 90 ของงบประมาณทั้งหมด (13,500 ล้านบาท) โดยนำไปสนับสนุนชุมชน ภายใต้กรอบแผนงาน 5 ด้าน ที่ ให้ชุมชนเป็นผู้ดำเนินการหลัก และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติบริหารงบ ประมาณในส่วนร้อยละ 9 ของงบประมาณทั้งหมด (1,350 ล้านบาท) โดยให้จังหวัดพิจารณาทบทวนวิสัยทัศน์ การบริหารจัดการยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของแต่ละจังหวัดในปี พ.ศ. 2551 โดยให้เน้นแนวทางการพิจารณาด้าน คุณภาพของแผนชุมชนและการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ในปี พ.ศ. 2551 และให้สำนัก งบประมาณเป็นผู้บริหารงบประมาณในส่วนร้อยละ 1 ของงบประมาณทั้งหมด (150 ล้านบาท) ที่จัดสรรสำหรับ การติดตามประเมินผล การประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด ตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับภารกิจดังกล่าว รวมทั้งเห็นชอบการขยายเวลาให้จังหวัดปรับปรุงวิสัยทัศน์การบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ฯ และส่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2550
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 587 | สรุปผลการดำเนินภารกิจตามนโยบายทางสังคม | พม | 16/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินภารกิจตามนโยบายทางสังคมของกระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจัดให้มีคณะทำงานติดตามความก้าวหน้าภารกิจของนโยบาย โดยมีนักวิชา การในพื้นที่เข้ามาร่วมติดตามความก้าวหน้า สรุปได้ดังนี้ นโยบายส่งเสริมความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ ของคนในชาติ อาทิ ให้มีการขับเคลื่อนเวทีประชาธิปไตยโดยชุมชนทั่วประเทศ ระหว่างเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหา คม 2550 โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและวิทยากรกระบวนการภาคประชาชน ช่วยทำให้ประชาชนมี ความเข้าใจความหมายของคำว่าประชาธิปไตย เป็นต้น นโยบายสร้างความเข้มแข็งของทุกชุมชน ท้องถิ่นและประชา สังคม อาทิ จัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวนกว่า 4 พันแห่ง มีการจัดเก็บข้อมูลผู้ยากลำบากอย่าง ทั่วถึง ถูกต้อง และเป็นระบบมากขึ้น พร้อมทั้งนำข้อมูลดังกล่าวมาดำเนินการช่วยเหลือผู้ยากลำบาก เป็นต้น และ นโยบายการจัดทำแผนปฏิรูปสังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน อาทิ จัดให้มีการพัฒนาระบบสวัสดิการท้องถิ่น ซึ่งทำให้ ผู้บริหาร อปท. และทีมงานมีความรู้ความเข้าใจการจัดสวัสดิการสังคมแก่ผู้ขาดโอกาส และทำให้ อปท. มีรูปแบบและ วิธีการช่วยเหลือประชาชนที่หลากหลายและมีความเหมาะสมกับพื้นที่มากขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 588 | สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการตรวจติดตามการให้ความช่วยเหลือของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ) | มท | 16/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการตรวจติดตามการให้ความช่วย
เหลือของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ) สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์อุทก ภัย ช่วงระหว่างวันที่ 4-15 ตุลาคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 25 จังหวัด 102 อำเภอ 356 ตำบล 1,953 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 254,907 คน 69,355 ครัวเรือน ในส่วนของความเสียหาย อาทิ บ้านเรือนราษฎรได้รับ ความเสียหาย 498 หลัง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 620,231 ไร่ และถนนได้รับความเสียหาย 1,534 สาย เป็น ต้น มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ โดยสถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด คงเหลือ จังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร ขอนแก่น อุบลราชธานี กาฬ สินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา นครสวรรค์ และอุทัยธานี สำหรับการตรวจติดตามสถานการณ์ อุทกภัยของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ) พร้อมคณะ ได้เดินทางตรวจ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2550 โดยมอบนโยบายและข้อสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนิน การดังนี้ ให้จังหวัดและอำเภอเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิด โดยมีการบูรณาการหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีเอกภาพ รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบ สนองความต้องการของประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างแท้จริง และให้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจความเสีย หายภายหลังน้ำลด
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 589 | ขออนุมัติเพิ่มตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม เงินเดือนอัตราจอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ | กห | 09/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ
ให้ พลเอก ทสรฐ เมืองอ่ำ เป็นประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม และเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550 นายก รัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมปรึกษาร่วมกันแล้ว มีมติตามนัย มาตรา 8 วรรค 2 แห่ง พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ให้คงเพิ่มตำแหน่ง ประธานคณะ ที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม เงินเดือนอัตรา จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ จำนวน 1 ตำแหน่ง เพื่อความ จำเป็นในการบริหารราชการของกระทรวงกลาโหม และให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามพระราชกฤษฎีกาการได้ รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ พ.ศ. 2538 รวมทั้งค่าตอบ แทนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 เมื่อ พลเอก ทสรฐ ฯ พ้นจากตำแหน่ง ประธานคณะที่ปรึกษา กระทรวงกลาโหม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 590 | การปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ | รง | 02/10/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะกรรมการ แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 10/2550 วันที่ 20 สิงหาคม 2550 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยรัฐวิสาหกิจ จำนวน 3 แห่ง ที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติให้สามารถกำหนดอัตราเงินเดือนค่าจ้าง ค่าตอบแทน และสวัสดิการต่าง ๆ เองได้ตามมาตรา 13(2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ให้เป็นอำนาจของคณะกรรม การรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเป็นผู้พิจารณา หากจะปรับค่าจ้างก็ให้ปรับได้ไม่เกินร้อยละ 4 ของอัตราค่าจ้างที่ได้รับตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป โดยใช้เงินงบประมาณของรัฐวิสาหกิจนั้น ส่วนรัฐวิสาหกิจจำนวน 39 แห่ง ที่ใช้บัญชี โครงสร้างอัตราเงินเดือนค่าจ้าง 58 ขั้น ตามประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ให้ปรับค่าจ้างทุกตำแหน่งใน อัตราร้อยละ 4 ของอัตราค่าจ้างที่ได้รับ ยกเว้นตำแหน่งผู้บริหารและลูกจ้างระดับผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป และรัฐวิสาหกิจจำนวน 14 แห่ง ที่ใช้บัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือนค่าจ้างเป็นของตนเอง ให้คณะ กรรมการ ฯ พิจารณาปรับค่าจ้างของลูกจ้างทุกตำแหน่งในอัตราไม่เกินร้อยละ 4 ของอัตราค่าจ้างที่ได้รับ ยกเว้น ตำแหน่งผู้บริหารและลูกจ้างระดับผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป กรณีมีการปรับค่าจ้างแล้ว อัตราใดเกินอัตราขั้นสูงสุด ให้ถือว่าอัตรานั้นเป็นอัตราขั้นสูงสุดด้วย ทั้งนี้ การพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้าง รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งให้คำนึงถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมทั้งผลกระทบต่อต้นทุน และอัตราค่า บริการที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งให้กระทรวงและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นว่า การปรับ เพิ่มค่าจ้างดังกล่าวนั้นจะมีผลกระทบสูงต่อภาวะเศรษฐกิจ ระบบการจ้างงาน และความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ จึงเห็นควรให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณากำหนดนโยบายในการปรับค่าจ้างและค่าตอบแทนของพนัก งานลูกจ้างรัฐวิสาหกิจในโอกาสต่อไป ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้กระทรวงการคลังรับเรื่องนี้ไปพิจารณา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางในการกำหนดเงินเดือนค่าจ้างของข้าราชการ ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจใน ภาพรวมให้สอดคล้องและเกิดความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 591 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พ.ศ. .... | ศธ | 25/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา
ในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชื่อปริญญาในสาขาวิชาการศึกษา นิติศาสตร์ นิเทศศาสตร์ บริหารธุรกิจ รัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ อุตสาหกรรมศาสตร์ อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาและสีประจำสาขาวิชาในสาขาวิชาดังกล่าว รวมทั้งกำหนดครุยวิทย ฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งและเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหารและคณาจารย์มหาวิทยาลัย และเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฎนคร ราชสีมา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 592 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พ.ศ.... | ศธ | 20/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญา
ในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราช ภัฏนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชื่อปริญญาในสาขาวิชาการศึกษา นิติศาสตร์ นิเทศศาสตร์ บริหารธุรกิจ รัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ อุตสาหกรรมศาสตร์ อักษรย่อสำหรับสาขาวิชาและสีประจำสาขาวิชาในสาขาวิชาดังกล่าว รวมทั้งกำหนดครุยวิทย ฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งและเครื่องหมายประกอบครุยประจำตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหารและคณาจารย์มหาวิทยาลัย และเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฎนคร ราชสีมา และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 593 | มาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ครูในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | ศธ | 18/09/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการ
ดำเนินงานตามมาตรการรักษาความปลอดภัยให้แก่ครูในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจังหวัดและ หน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดให้มีการประชุมหารือระหว่างฝ่ายปกครอง กองกำลัง และผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อวางมาตร การรักษาความปลอดภัยระหว่างเดินทางมาโรงเรียนที่รัดกุม แต่ยังมีช่องว่างในการรับช่วงการรักษาความปลอดภัย ระหว่างพื้นที่ต่อแดน และการเดินทางของครูที่ไม่รอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนการรักษาความปลอดภัยที่ โรงเรียนระหว่างปฏิบัติการนั้น ยังไม่มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียนจาก 2 คน เป็น 4 คนตาม ข้อตกลง และการขอกองกำลังไปรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนยังมีข้อจำกัด เนื่องจากกองกำลังบางพื้นที่ไม่เพียง พอ สำหรับกรณีการย้ายออกจากพื้นที่ของครูในเขตพัฒนาพิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น กระทรวงศึกษาธิ การได้มอบอำนาจการอนุมัติย้ายไปช่วยราชการให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่ผู้บริหารในพื้น ที่ได้ให้ความเห็นว่าควรมีมาตรการที่จะดูแลผู้นำครู รวมทั้งครูไทยพุทธให้เกิดความอุ่นใจที่จะปฏิบัติงานต่อไปในพื้น ที่โดยไม่ต้องย้ายออก นอกจากนี้ ผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่มีข้อเสนอให้มีการสร้างรั้วโรงเรียนในปี พ.ศ. 2551 เพิ่มเติมจากก่อสร้างรั้วใน 300 โรงเรียนที่มีความเสี่ยงลำดับสูงที่ดำเนินการแล้วในปี พ.ศ. 2550 และการพิจารณา เลื่อนขั้นเงินเดือนครูในกรณีเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติราชการ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 594 | การสมัครขอรับเป็นเจ้าภาพงาน TELECOM Asia 2008 | ทก | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอให้ประเทศไทยเสนอ
รับเป็นเจ้าภาพจัดงาน TELECOM Asia 2008 ในปี พ.ศ. 2551 โดยมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารดำเนินการในนามของรัฐบาลไทย เพื่อจัดทำหนังสือแจ้งเชิญสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ให้มาจัดงาน ฯ รวมทั้งพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการสำหรับการจัดงาน ฯ และคณะอนุกรรมการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้แทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงาน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการและอนุกรรมการ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแต่งตั้งผู้แทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมเป็นคณะ อนุกรรมการเพื่อประสานงานและสนับสนุนการจัดงาน อาทิ การประสานงานกับโรงแรมที่พัก การบริการด้าน การท่องเที่ยว เป็นต้น และความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้แต่งตั้งผู้บริหาร หรือผู้แทนสื่อ มวลชนทุกภาคส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และควรสนับสนุนงบประมาณสำหรับการประชาสัมพันธ์ ให้กรมประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 595 | การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ | นร | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ ประกอบด้วย รัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง พาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ เป็นต้น รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านข้าว เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายการผลิต และการตลาดข้าวอย่างเหมาะสมเป็นเอกภาพและบูรณาการ โดยมีปลัดกระทรวงเป็นฝ่ายเลขานุกา ร
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 596 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัล (เงินเพิ่มพิเศษ) สำหรับผู้บริหารและเงินรางวัลประจำปีสำหรับหน่วยงาน | ศป | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับผู้บริหาร และเงินรางวัลประจำปีสำหรับข้าราช การและลูกจ้างประจำ ของสำนักงานศาลปกครอง ตั้งแต่ปีงบปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป โดยในส่วนงบ ประมาณให้สำนักงานศาลปกครองเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรร หากไม่เพียงพอให้ขอทำความตกลงกับ สำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยให้สำนักงานศาลปกครองรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรม การกลั่นกรอง ฯ ที่ให้นำหลักเกณฑ์และแนวทางการจ่ายค่าตอบแทน (เงินเพิ่มพิเศษ) สำหรับผู้บริหารและเงินราง วัลสำหรับหน่วยงานและผู้ปฏิบัติงาน โดยการจัดทำข้อตกลงว่าด้วยผลงานหรือคำรับรองการปฏิบัติราชการ ตาม ที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเสนอ มาเป็นเกณฑ์ในการประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อให้เป็นมาตรฐาน เดียวกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาดำเนิน การต่อไป และมอบให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณากรอบแนวทาง การดำเนินการตามมาตรการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ ของหน่วยงานอื่นของรัฐที่มิได้อยู่ในกำกับของราชการ ฝ่ายบริหารในภาพรวมทั้งระบบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการประเภทต่าง ๆ ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร. |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 597 | สรุปผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน สหพันธรัฐรัสเซีย และยูเครน | พณ | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถาน
สหพันธรัฐรัสเซีย และยูเครน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้แทนไทย ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการ ระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ผู้บริหารบริษัท ปตท. (มหาชน) จำกัด และนักธุรกิจขนาดกลางและเล็ก 37 บริษัท ระหว่างวันที่ 10-18 มิถุนายน 2550 มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารือเรื่องการขยายการค้าสินค้าและการค้าบริการ และการลงทุน ความร่วมมือ/ลงทุนด้านพลังงาน การท่อง เที่ยว และการจับคู่ธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่ายการค้า โดยผลการหารือ ไทยกับคาซัคสถาน และไทยกับยูเครน ได้เห็น ชอบให้มีการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน โดยในส่วนของไทยกับคาซัคสถาน เห็นชอบที่จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจัดตั้งสภาธุรกิจ (business council) ระหว่างกัน นอกจาก นี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ปตท.(มหาชน) จำกัด ได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท พลังงานแห่งชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นโอกาสดีในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทางธุรกิจพลังงานระหว่าง กันในอนาคต รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจรัสเซีย และยูเครน ซึ่งประสบ ความสำเร็จทั้งด้านมูลค่าการค้าและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจด้วยกัน นอกจากนี้ ยูเครนได้ขอให้ไทย เร่งพิจารณาจัดทำความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนและพิจารณาให้สถานภาพการเป็น market economy ต่อยูเครน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 598 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดิน
ทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเดินทางไปราชการชั่วคราว และราชการประจำในราชอาณาจักรเสียใหม่ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมีสิทธิเบิกจ่ายได้ เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้เชิญผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศมาร่วมพิจารณา และให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า การเดินทางไปราชการโดยเครื่องบินตามร่างมาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 27 ควรพิจารณาอนุโลมกรณีเป็นเลขานุ การหรือผู้ติดตามของผู้บริหาร ซึ่งมีความจำเป็นต้องเดินทางพร้อมกับผู้บริหารที่มีสิทธิเดินทางไปราชการโดยเครื่อง บิน รวมทั้งปัจจุบันมีสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost) ให้บริการแล้ว จึงสมควรนำมาพิจารณาประกอบด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 599 | การถ่ายโอนบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการการกระจาย
อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ดังนี้ เห็นชอบมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 25 เมษายน 2550 ที่มีมติเห็นชอบแนวทางการถ่ายโอนบุคลากร และงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเห็นชอบตามที่เสนอขอแก้ไขปรับปรุงถ้อย คำของมติ กกถ. ตามหนังสือ กกถ. ที่ นร 0107/1053 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2550 ในประเด็นข้อ 2 เป็นดังนี้ "ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ถ่ายโอนไปสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบังคับบัญชาและดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ช่วย ราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนได้"
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 600 | ร่างพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 05/06/2550 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ
กรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มี สาระสำคัญคือ ปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของรัฐวิสาหกิจ และ แก้ไขวิธีการนับจำนวนการดำรงตำแหน่งกรรมการของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งปรับปรุงวิธีการสรรหาผู้บริหารของรัฐ วิสาหกิจ และกำหนดให้พิจารณาแต่งตั้งกรรมการในรัฐวิสาหกิจที่มิใช่กรรมการโดยตำแหน่งจากบัญชีรายชื่อกรรม การไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการอื่นของรัฐวิสาหกิจ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
