ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 43 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 841 - 860 จากข้อมูลทั้งหมด 1479 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 841 | ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบภาคราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 | กค | 09/08/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจ
สอบภาคราชการ (คตส.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยผลการดำเนินงานด้านการใช้จ่ายค่าสาธารณูป โภค และการปฏิบัติตามแผนการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่า การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการเป็นไปตาม เป้าหมาย ส่วนการลดค่าใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภคตามมติคณะรัฐมนตรียังไม่บรรลุผลเท่าที่ควรและการจัดซื้อจัด จ้างของส่วนราชการบางรายการยังไม่เป็นไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากการยกเลิกการประกวดราคา การปรับเปลี่ยนรายละเอียดคุณลักษณะ การเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อจัดจ้าง และการส่งของล่าช้า ซึ่ง คตส. ได้เสนอแนะให้ส่วนราชการเร่งรัดและติดตามการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบ สำหรับ การดูแลการตรวจสอบภายใน และการควบคุมภายในของส่วนราชการ พบว่า ความไม่เพียงพอของอัตรากำลัง ความสามารถ และประสบการณ์ในการตรวจสอบการดำเนินงาน รวมทั้งทักษะในการเขียนรายงานการตรวจ สอบ ยังคงเป็นปัญหาหรือข้อจำกัดของงานตรวจสอบภายในภาคราชการ ประกอบกับการจัดวางระบบควบคุม ภายใน ส่วนใหญ่ได้มีการจัดวางระบบการควบคุมภายในและปฏิบัติตามระบบการควบคุมภายในแล้ว นอกจาก นี้ คตส. ได้ให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการ งาน/โครงการสำคัญ ๆ ที่มีความ เสี่ยงสูง หรือวงเงินงบประมาณสูงให้สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามแผนกลยุทธ์และเป้าหมายที่กระทรวงและ กรมวางไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 842 | ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย - สหภาพพม่า (ระหว่างวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2548) | พน | 02/08/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย
-สหภาพพม่า จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เดินทางไปเยือนสหภาพพม่า ระหว่างวันที่ 24 -25 กรกฎาคม 2548 ได้มีการหารือข้อราชการความร่วมมือด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลัง งาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไฟฟ้าของสหภาพพม่า ในส่วนของความร่วมมือด้านสำรวจและพัฒนา แหล่งปิโตรเลียมในพม่า รัฐมนตรีพลังงานของทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาแบ่ง ปันผลผลิต (Production Sharing Contract) เพื่อการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในแปลงสำรวจหมายเลข M-11 ในอ่าวเมาะตะมะระหว่าง Myanmar Oil and Gas Enterprise (MOGE) กับบริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด และร่วมพิธีการเริ่มการเจาะสำรวจหลุมแรกในแปลงสำรวจหมายเลข M-9 นอกชายฝั่ง ของบริษัท ปตท.สผ. และได้หารือเกี่ยวกับลู่ทางการพัฒนาและผลิตก๊าซธรรมชาติจากพม่าในระยะยาว โดย เฉพาะจากแปลงที่ ปตท.สผ. ได้รับสัมปทาน และแปลงสัมปทานอื่น ๆ ส่วนความร่วมมือด้านไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro Power Development Project) ได้มีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในความร่วมมือด้านการ พัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในลุ่มน้ำสาละวิน และตะนาวศรีที่กรุงเทพ ฯ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 ในการนี้ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านไฟฟ้าและคณะทำงานด้านเทคนิคตามบันทึกความเข้าใจดัง กล่าวเพื่อเป็นกลไกในการเร่งรัดดำเนินการนำโครงการสู่ปฏิบัติอย่างเป็นทางการ โดยให้คณะทำงานด้าน เทคนิคเริ่มดำเนินการในทันที รวมทั้งทำ Master Plan การพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำลุ่มน้ำสาละวินและตะนาว ศรี มีกำหนดแล้วเสร็จ และจะสามารถนำเสนอต่อคณะกรรมการ (Joint Committee) ได้ภายในเดือนสิงหา คม 2548 ตลอดจนศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการไฟฟ้าพลังน้ำฮัจยี (Hutgyi) บริเวณลุ่มน้ำสาละวิน ซึ่งเป็นโครงการที่มีความพร้อมและเป็นความต้องการของทั้ง 2 ประเทศมากที่สุด โดยกำหนดให้ดำเนินการทันทีควบคู่กับการจัดทำ Master Plan
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 843 | รายงานการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง | กค | 02/08/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ รับทราบผลการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน
ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด การประปานคร หลวง การประปาส่วนภูมิภาค บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย การทางพิเศษ แห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ และโรงงานยาสูบ และการส่งคืนเงินงบ ประมาณอุดหนุนของรัฐวิสาหกิจ โดยให้สำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณ อุดหนุนต่อไป กับเห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดและคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจเร่งรัดและติดตามการ เบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นประจำทุกเดือน และรายงานกระทรวงการคลังเพื่อรวบรวมนำเสนอ คณะรัฐมนตรีต่อไป พร้อมทั้งให้คณะกรรมการ ฯ ใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาประสิทธิภาพของผู้บริหาร สูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ด้วย และให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนการทำงาน (Work plan) ของการลงทุน ต่าง ๆ เป็นรายเดือนให้ชัดเจน และส่งให้กระทรวงการคลังภายในเดือนตุลาคม 2548 และให้สำนักงบ ประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนการทำงานดังกล่าวตามหลัก Cash Flow และให้รัฐ วิสาหกิจทุกแห่งรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวงการคลังทราบเป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้ ให้สำนัก งบประมาณรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางการนำเงินงบประมาณอุดหนุนที่รัฐวิสาหกิจส่งคืน ไปใช้ให้เหมาะสม และเป็นประโยชน์สูงสุด เช่น การนำไปเพิ่มทุนเพื่อให้โครงสร้างทางการเงินของรัฐวิสาหกิจมีเสถียรภาพ มากยิ่งขึ้น เป็นต้น และนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 844 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการค่าใช่จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (23,400 ล้านบาท) | นร | 02/08/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่าย
เพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) เสนอ ดังนี้ รับทราบโครงการที่เสนอขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการค่าใช้ จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ รวม 2 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 43,936,600 บาท ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพ การแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ประกอบด้วย โครงการบูรณะและปรับปรุงทางหลวงเพื่อรอง รับนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี และโครงการวางผังเมืองและผังเฉพาะชุมชนชายแดน และอนุมัติโครงการที่สมควรเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง ราย การค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ รวม 3 โครงการ วงเงินทั้งสิ้น 431,400,000 บาท ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริม สร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ประกอบด้วย โครงการจัดหาน้ำให้นิคมอุตสา หกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี โครงการปรับปรุงทัศนียภาพบึงทุ่งสร้าง จังหวัดขอนแก่น และโครง การก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเทศบาลเมืองแม่สอด ระยะที่ 1 จังหวัดตาก ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครง การเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล ให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณรายการดัง กล่าวกันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี จนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 โดยให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2548 เรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปี พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2549 และให้รัฐมนตรีผู้กำกับ ดูแล ติดตามเร่งรัดการดำเนินโครงการที่ได้รับอนุมัติวงเงินดังกล่าวด้วย สำหรับโครงการบูรณะและปรับ ปรุงทางหลวงเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี และโครงการจัดหาน้ำให้นิคม อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี ซึ่งยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด แต่เนื่องจาก เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน ให้อนุมัติเป็นกรณีพิเศษและให้ส่วนราชการขอทำความตกลงกับสำนักงบประ มาณตามขั้นตอนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 845 | สรุปผลการดำเนินงานของรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ในการสนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (วันที่ 29 - 30 กรกฎาคม 2548) | นร | 02/08/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานสรุปผลการดำเนินงานของรอง
นายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่สาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้มีการประชุมร่วมกับส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อ พิจารณาแนวทางและมาตรการในการดำเนินการแก้ไขปัญหา และสนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ดัง กล่าว ได้ข้อสรุปเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการแล้วรวม 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการเงิน การคลัง ประกอบด้วย การให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 1.5 ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย การเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เพื่อให้มี ผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ นโยบายการจัดเก็บภาษีเพื่อการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และการ เร่งรัดปรับปรุงรูปแบบการให้สินเชื่อของกองทุนหมู่บ้าน ธนาคารประชาชน ธนาคารวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม (SMEs) โรงรับจำนำ ในรูปแบบที่สอดคล้องกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้าน พืชผลการเกษตรและการขายสินค้า ในด้านปัญหาผลผลิตยางพารา ให้จังหวัดและ กอ.สสส.จชต. หา มาตรการและวิธีการที่จะให้ความปลอดภัยแก่ชาวสวนยาง ส่วนผลผลิตผลไม้ ในระยะเร่งด่วนให้จังหวัด และ กอ.สสส.จชต. ติดตามเร่งรัดงบประมาณ เพื่อให้ศูนย์คัดแยกผลไม้ของจังหวัดและศูนย์จัดซื้อผลไม้ ของ อบต. ต่าง ๆ ของจังหวัดสามารถเข้าไปดำเนินการจัดซื้อผลไม้ได้ทันฤดูกาล ด้านแรงงานและการ ส่งเสริมอาชีพให้สำรวจข้อมูลแรงงานจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปทำงานในต่างประเทศ การขาด แคลนแรงงานในพื้นที่ และหาแนวทางและมาตรการจูงใจให้แรงงานในพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาทดแทนแรง งานในจังหวัดสงขลาที่กำลังขาดแคลนแรงงาน ด้านการประมง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาและ พิจารณาถึงแนวทางการช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ ด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัด จัดทำโครงการและมาตรการพิเศษในการส่งเสริมการท่อง เที่ยวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ปรับลดหรือผ่อนปรนภาษีและค่าธรรมเนียมของสถาน บริการ และธุรกิจบริการ ให้มีโครงการด้านความปลอดภัย และมาตรการอำนวยความสะดวกแก่นัก ท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ด้านแผนงาน/โครงการพัฒนาและลงทุนในพื้นที่ ในการพิจารณาจัดทำโครงการ หรือการพิจารณาแก้ไขปัญหาต่างๆ ควรคำนึงถึงความเป็นพื้นที่พิเศษ ซึ่งต้องมีนโยบายที่แตกต่างจาก พื้นที่อื่นๆ โดยยึดความต้องการของประชาชน ความสอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนและมุ่งสร้างความพึงพอ ใจเป็นสำคัญ และด้านอื่นๆ เช่น ปัญหาการจัดหาผู้รับจ้างหรือผู้รับเหมาตามโครงการต่าง ๆ ให้กรม บัญชีกลาง และสำนักงบประมาณกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาจัดซื้อจัดจ้างสำหรับแผนงาน/โครง การ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ทุกประเภทของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ เป็น ต้น ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งรัดดำเนินการตามแนวทางและมาตรการในการดำเนินการสนับ สนุนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 846 | การเร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการดำเนินคดีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 26/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการ
เกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 เป็นต้นมา เช่น กรณีเหตุการณ์ที่อำเภอตากใบ เป็นต้น ให้แล้วเสร็จหรือได้ข้อยุติ โดยเร็ว และมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) ประสานกับรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม และเร่งรัดติดตามการดำเนินการกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ให้การดำเนินคดีต่าง ๆ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมแล้ว เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินคดีขอความร่วมมือให้พนักงานอัยการพิจารณาและดำเนินการ ในอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายโดยเร็วด้วยว่าสมควรจะถอนฟ้องผู้ต้องหารายใดที่พยานหลักฐานไม่เพียง พอและเร่งรัดดำเนินคดีสำหรับผู้ต้องหาที่มีพยานหลักฐานชัดเจนต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 847 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (23,400 ล้านบาท) | นร | 26/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบและอนุมัติตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ประธานคณะกรรม
การพิจารณาค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,000 ล้านบาท) เสนอ โครงการที่จะเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ รวม 11 โครง การ (วงเงิน 528,476,150 บาท) และ 7 โครงการ (วงเงิน 5,959,382,200 บาท) ตามลำดับ ตามผล การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาค่าใช้จ่าย ฯ โดยให้ระงับการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนของโครง การศึกษาระบบนิเวศน้ำกร่อย แม่น้ำบางปะกง ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (จำนวน 10,470,000 บาท) ซึ่งได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติม กับอนุมัติให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับงบประมาณรายการค่าใช้จ่าย กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 มิถุนายน 2548 เรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปี พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 รวมทั้งให้รัฐมนตรีกำกับดูแล เร่งรัด ติดตาม การดำเนินงานตามโครงการที่ได้รับอนุมัติวงเงินให้แล้วเสร็จ และบรรลุผลโดยเร็วต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 848 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 | นร | 19/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เมื่อสิ้นไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (ตุลาคม 2547- มีนาคม 2548) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพ มหานคร และเมืองพัทยา สรุปได้ดังนี้ เงินอุดหนุนที่จัดสรรให้มีจำนวนทั้งสิ้น 101,610,700.00 บาท (ไม่ รวมเงินอุดหนุนเพิ่มเติมกลางปีงบประมาณ พ.ศ. 2548) มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน 67,617,815,292 บาท โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับจำนวน 2,054,093,000 บาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน 201,030,100 บาท กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้รับจำนวน 95,873,224,600 บาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 63,533,574,190 บาท กรุงเทพมหานคร ได้รับจำนวน 11,321,062,000 บาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 3,767,826,716 บาท และเมืองพัทยา ได้รับจำนวน 1,362,320,000 บาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน 115,384,386 บาท สำหรับปัญหาอุปสรรคที่สำคัญในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ อาทิ โครงการบางโครง การไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาทำให้ต้องมีการขออนุมัติจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ หรือต้องประกวดราคาใหม่ รวมทั้งการ เปลี่ยนแปลงระบบการเบิกจ่ายเงินจากเดิมมาเป็นระบบ GFMIS ซึ่งทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นเกิดความสับสนและรอการสั่งการจากหน่วยงานต้นสังกัดทำให้การเบิกจ่ายล่าช้า เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||
| 849 | รายงานการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในภาพรวม | นร | 19/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) รายงานการแก้ไข
ปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในภาพรวมในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2548 ในส่วนของจังหวัดระยอง อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและท่าดอกกราย มีปริมาณน้ำในอ่างรวมกัน 26.30 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรองรับการใช้น้ำในกรณีที่ไม่มีฝนตกได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2548 ได้มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยแบ่งออกเป็น 3 แผนได้แก่ แผนเร่งด่วน ประกอบด้วย การวางท่อที่ 1 เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำระยองเข้าสู่ระบบต่อของบริษัท อีสท์ วอเตอร์ จำกัด (มหาชน) การ วางท่อที่ 2 เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำระยองเข้าสู่คลองทับมาและคลองหู เพื่อส่งเข้าสู่ระบบท่อของการนิคม อุตสาหกรรมมาบตาพุด การขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล และจัดทำฝนหลวง ส่วนแผนระยะกลาง (ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2548) ประกอบด้วย การวางท่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่สู่อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และการวางท่อผันน้ำ จากอ่างเก็บน้ำประแสร์-คลองใหญ่-หนองปลาไหล-การนิคมอุตสาหกรรมมาบตา พุด และแผน 2 ปี ประกอบด้วย การวางท่อผันน้ำอ่างเก็บน้ำดอกกราย-หนองปลาไหล และการก่อสร้าง ประตูระบายน้ำแม่น้ำระยอง พร้อมทั้งขุดลอกแม่น้ำระยองทั้งสาย ส่วนจังหวัดชลบุรี มีปริมาณน้ำในอ่าง เก็บน้ำ จำนวน 8 อ่าง รวม 24.59 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้ได้ในกรณีไม่มีฝนตกได้ถึงต้นเดือน กันยายน 2548 มีแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำโดยแบ่งออกเป็น 3 แผน คือ แผนเร่งด่วน ประ กอบด้วย การวางท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 700 มิลลิเมตร จากอ่างเก็บน้ำบางพระไปยังการประ ปาชลบุรีและการประปาพัทยา การเร่งรัดการทำฝนเทียม และขุดลอกอ่างเก็บน้ำ แผนระยะสั้น ประกอบ ด้วย การวางท่อส่งน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1,400 มิลลิเมตร จากแม่น้ำบางปะกง เพื่อเติมน้ำลงในอ่าง เก็บน้ำบางพระ และแผนระยะกลาง 2 ปี ให้เร่งศึกษาการวางท่อเพิ่มขึ้นอีก 1 ท่อ โดยวางคู่ขนานกับท่อ เดิม และการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำมาบหวายโสม ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอ บางละมุง จังหวัดชลบุรี และเพื่อ ให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ได้สั่งการให้ดำเนินการในส่วนอื่นๆ ดังนี้ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ให้วาง แผนก่อสร้างฝายยาง ศึกษาโครงการขุดลอกคลองท่าลาด เร่งรัดโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ดำเนิน การก่อสร้างโครงการห้วยโสมง ศึกษาการปรับปรุงโครงการแควระบม ศึกษาแนวทางป้องกันตลิ่งพัง ทลายในแม่น้ำบางปะกง เมื่อโครงการต่างๆ ในส่วนที่เหลือดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2550 จะ สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์น้ำในภาคตะวันออกได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 850 | การดำเนินการตามมาตรการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2548 | นร | 19/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติเสนอ ดังนี้
รับทราบกำหนดการเร่งรัดการดำเนินการตามมาตรการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนหลัง ของปี พ.ศ. 2548 และให้รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามการดำเนินงานของ หน่วยงานในความรับผิดชอบให้เป็นไปตามกำหนดอย่างเคร่งครัด และหากเป็นการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับ หลายหน่วยงานให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดด้วย และเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรการ สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจ หน้าที่กำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการของส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทบทวน มาตรการและโครงการเพื่อให้การดำเนินมาตรการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเสนอแนะต่อคณะ รัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 851 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันอีกครั้ง) | นร | 19/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอผลการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ
(รายจ่ายลงทุน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้ยืนยันแผนการเบิก จ่ายงบประมาณ ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2548 ครบแล้ว จำนวน 305 หน่วยงาน ไม่รวมหน่วยงานอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ จำนวน 8 แห่ง โดยผลการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 30 กันยายน 2548 ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 274,035.43 ล้านบาท สำหรับการเบิก จ่ายงบประมาณถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายได้อีกเป็นเงิน จำนวน 43,024.24 ล้านบาท โดยในส่วนของงบประมาณที่ไม่สามารถเบิกจ่ายทันในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 เป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 46,686.29 ล้านบาท ได้แก่ งบประมาณรายการ/โครงการ ที่อยู่ระหว่าง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และขอรับการจัดสรรงบประมาณ จึงยังไม่อาจ กำหนดแผนการเบิกจ่ายได้ชัดเจน เป็นเงินจำนวน 18,636.37 ล้านบาท และงบประมาณ รายการ/โครง การที่ผูกพันแล้วแต่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจยืนยันว่าเบิกจ่ายไม่ทันภายใน 31 ธันวาคม 2548 เป็น เงินจำนวน 7,669.76 ล้านบาท ในการนี้ สำนักงบประมาณได้เตรียมการสำหรับงบประมาณ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 โดยได้กำหนดหลักการและวิธีปฏิบัติการจัดทำแผน และรายงานผลการเร่งรัดการ เบิกจ่าย รายจ่ายลงทุน และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจดำเนินการต่อไปตามแนวทาง หลักการ และวิธี ปฏิบัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 852 | รายงานการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 แห่ง | กค | 12/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำ
ปี พ.ศ. 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย การเคหะแห่งชาติ ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายงบ ลงทุนปี พ.ศ. 2548 จำนวน 50,193.738 ล้านบาท สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้เพียง 16,543.143 ล้าน บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 32.96 และได้ขอปรับลดงบประมาณโครงการลงทุนอื่นลง จำนวน 369.418 ล้าน บาทเนื่องจากได้ยกเลิกโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบางส่วน และโครงการบ้านพักอัยการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีวงเงินเบิกจ่ายงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติในปี พ.ศ. 2548 จำนวน 21,408.7 ล้านบาท ประมาณ การว่า จะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ร้อยละ 59.43 พร้อมทั้งได้เสนอขอปรับเป้าหมายเบิกจ่ายงบลงทุนปี พ.ศ. 2548 จำนวน 3,615 ล้านบาท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีกรอบวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้ เบิกจ่ายในปี พ.ศ. 2548 จำนวน 6,458.23 ล้านบาท (ใช้เงินงบประมาณอุดหนุนจำนวน 1,630 ล้านบาท) คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายเงินได้ จำนวน 4,323.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 66.95 ของวงเงินที่ได้รับ อนุมัติให้เบิกจ่าย และได้เสนอขอปรับเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนปี พ.ศ. 2548 ลงจำนวน 166.26 ล้าน บาท เนื่องจากการจัดซื้อโดยวิธี E-Auction ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณลงได้จำนวน 34.5 ล้านบาท และยกเลิกแผนงานขยายช่องจราจรของโครงการทางพิเศษอาจณรงค์-ท่าเรือ เนื่องจากมีทางด่วนสายอื่น มารองรับ วงเงิน 131.76 ล้านบาท การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีกรอบวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิก จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 1,650.43 ล้านบาท ประมาณการว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 552.24 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 33.46 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่าย และได้เสนอขอเปลี่ยน แปลงรายการจากโครงการเรือขจัดคราบน้ำมันเป็น Truck Terminal ในวงเงินเท่าเดิม คือ 150 ล้านบาท พร้อมทั้งได้ยกเลิกโครงการจ้างที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการศึกษาและออกแบบก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือ แหลมฉบัง ขั้นที่ 3 วงเงิน 66 ล้านบาท และโครงการเปลี่ยนสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ท่าเทียบเรือ ฝั่ง B วงเงิน 2.57 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 68.57 ล้านบาท นอกจากนี้ ได้ขอชะลองบลงทุนในส่วนของแผนระยะ ยาว รวม 5 แผนงาน วงเงินทั้งสิ้น 245.70 ล้านบาท ไปดำเนินการในปี พ.ศ. 2549 การรถไฟแห่งประเทศ ไทยมีกรอบวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 7,042.17 ล้านบาท (ใช้เงินงบประมาณอุดหนุนจำนวน 3,296.78 ล้านบาท) และประมาณการว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 552.24 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 33.46 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่าย และบริษัท ท่าอากาศ ยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด มีกรอบวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 51,673.04 ล้านบาท และประมาณการว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 40,734.12 ล้าน บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79.22 ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่า ย อย่างไรก็ตาม บทม. จะสามารถเร่ง รัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2548 และจะสามารถเบิกจ่ายเงินได้หมดภายในเดือน ธันวาคม 2548 ทั้งนี้ เนื่องจากการก่อสร้างที่ใช้เงินกู้จาก JVIC เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จ JBIC จะ ต้องตรวจสอบก่อนโอนเงินให้ผู้รับเหมาโดยตรง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 60 วัน |
|||||||||||||||||||||||||||
| 853 | ขอรับจัดสรรงบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (เพิ่มเติม) | พณ | 12/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่ประธานกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรเสนอให้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 งบกลาง สำหรับอุดหนุน เป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรบางส่วน โดยจัดทำบัญชีแยกต่างหากและให้ตกลงรายละเอียดกับสำนัก งบประมาณ และให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วย เหลือเกษตรกรเสนอขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ให้แก่กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในส่วนที่ ขาดตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เร่งรัดการจำหน่ายสินค้าคงเหลือ และกำหนดมาตรการในการเร่งรัดหนี้สินของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่ง รวมทั้งทบทวน หลัก เกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรใหม่อย่าง เป็นระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพแก่เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและความเห็นของคณะ รัฐมนตรีที่ว่า กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ควรทำหน้าที่หลักในการกระตุ้นตลาดแทรกแซงราคา หรือช่วยขับเคลื่อนกระบวนการโลจิสติกส์ของสินค้าเกษตรในภาวะจำเป็น เพื่อดูดซับส่วนเกิน และทำให้ ราคาสินค้าเกษตรเป็นไปตามกลไกตลาด แต่กองทุนต้องไม่เป็นกลไกตลาดเสียเอง นอกจากนี้ กองทุนยัง ควรทำหน้าที่เป็นช่องทางในการนำสินค้าเกษตรของไทยไปดำเนินการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) กับต่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 854 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (ให้ส่วนราชการแจ้งยืนยันอีกครั้ง) | นร | 12/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ
(รายจ่ายลงทุน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2549 ในภาพรวมส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐได้แจ้งยืนยันว่าสามารถใช้และเบิก จ่ายงบประมาณได้ทันภายในเวลาที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งแจ้งขอคืนงบประมาณมาเป็นส่วนน้อย จึงขอ ให้รัฐมนตรีทุกท่านไปทำความเข้าใจและตรวจสอบกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลัดกระทรวงและอธิบดีให้ชัดเจนและมั่นใจอีกครั้งว่า งบประมาณในรายการโครงการต่าง ๆ ตามที่ได้ แจ้งยืนยันกับสำนักงบประมาณไว้จะสามารถดำเนินการได้จริงทั้งหมด เพราะหากปรากฏในภายหลัง ว่าไม่สามารถดำเนินการได้โดยไม่มีเหตุผลอันควร จะถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่และขาดประสิทธิ ภาพในการปฏิบัติงาน อันจะมีผลต่อการพิจารณาความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งต่อไป ทั้งนี้ ให้ ทุกส่วนราชการแจ้งยืนยันข้อมูลที่ได้ตรวจสอบและทบทวนแล้วให้สำนักงบประมาณทราบอีกครั้ง ภาย ในวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2548
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 855 | ขอขยายเวลาทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันและระยะเวลาดำเนินงานโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น | อก | 05/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอขอขยายเวลาการดำเนิน
โครงการกรุงเทพ ฯ เมืองแฟชั่น จาก 18 เดือน ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 โดยให้กระทรวง อุตสาหกรรมรับไปพิจารณาทบทวนในภาพรวมด้วยว่า การดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้โครงการกรุง เทพ ฯ เมืองแฟชั่น โครงการใดหมดความจำเป็นหรือไม่คุ้มค่าที่จะดำเนินการให้ระงับการดำเนินโครงการ นั้นได้ตามความเหมาะสม สำหรับการขยายระยะเวลาการทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันสำหรับ 4 โครงการที่ เหลือ ได้แก่ โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจแฟชั่น สาขาอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่อง หนัง โครงการสร้างแนวโน้มแฟชั่นโลก โครงการประกวดออกแบบแฟชั่นนานาชาติ และโครงการสร้าง ภาพลักษณ์กรุงเทพ ฯ เมืองแฟชั่น รวมทั้งการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณและการขอกัน เงินงบประมาณในส่วนที่ยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพัน จำนวน 527.63 ล้านบาท นั้น ให้ดำเนินการให้เป็นไป ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2548 (เรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่าย ลงทุน ประจำปี พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549) ที่ให้เร่งรัดการ ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ตามความ เห็นของกระทรวงการคลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 856 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 | นร | 05/07/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอสถานภาพงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2548 งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 แผนการเบิกจ่ายงบ ประมาณ รายจ่ายลงทุน ตามที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้แจ้งยืนยัน ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 รวม ทั้งการเตรียมความพร้อมในการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ และแนวทางการบริหารงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และปีต่อ ๆ ไป และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติและดำเนิน การในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณกำหนดกลไกร่วมกับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจใน การติดตาม ตรวจสอบ เร่งรัด ผลการดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนของส่วนราช การและรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด โดยประสานกับกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) และรวบรวมข้อมูลผล การดำเนินงานและการเบิกจ่าย ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และรายงานให้คณะรัฐมนตรี ทราบเป็นประจำทุก ๆ เดือนนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้พิจารณาปรับปรุงกลไกการปฏิบัติงานภาย ในสำนักงบประมาณเพื่อให้การพิจารณาอนุมัติงบประมาณเป็นไปอย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอก จากนี้ ให้พิจารณากำหนดกลไกการประสานชี้แจง แนะนำ และอำนวยความสะดวกกับส่วนราชการและรัฐ วิสาหกิจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงบประมาณเพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมี ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และสามารถนำงบประมาณไปใช้เพื่อดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ ต่าง ๆ ในความรับผิดชอบได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 857 | ผลการเยือนราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนและรัฐสุลต่านโอมานของนายกรัฐมนตรี | นร | 28/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรายงานผลการเยือนราชอาณาจักร
ฮัชไมต์จอร์แดนและรัฐสุลต่านโอมานของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2548 สรุปดังนี้ นายก รัฐมนตรีและคณะได้พบหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีจอร์แดน และคณะ โดยการหารือเป็นไปอย่างสร้าง สรรค์มีการหยิบยกประเด็นทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี ประเด็นหลักที่ตกลงร่วมกัน ได้แก่ การเปิดสถาน เอกอัครราชทูตระหว่างกัน ความร่วมมือด้านการข่าว การแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมในระดับอธิบดี ความร่วมมือ ทางวิชาการในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาชนบท การเกษตร และเทคโนโลยีสารสนเทศ การ ทำความตกลงด้านวัฒนธรรมและเห็นชอบให้มีการจัดให้มีความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และอนุสัญญาว่าด้วยการหลีกเลี่ยงภาษีซ้อนระหว่างกันโดยเร็ว รวมทั้งการขอให้จอร์แดนพิจารณาเพิ่มเที่ยวบิน มาไทย นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง สถาน การณ์ในอิรัก การประชุม Asia-Middle East Dialogue (AMED) Amman Message ในการส่งเสริมความเข้าใจ เรื่องศาสนาอิสลามสายกลาง ได้หารือเกี่ยวกับลู่ทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การบิน ความเป็นไปได้ที่จะมีความร่วมมือในด้านการพลังงานกับกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 และได้ลงนามแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) สำหรับการเยือนรัฐสุลต่าน ได้พบปะหารือกับรองนายกรัฐมนตรีแห่งสภาคณะรัฐมนตรี ในการนี้ ฝ่ายโอมานประสงค์ที่จะสนับสนุนการทำงานของศูนย์เตือนภัยล่วงหน้าเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Centre-ADPC) เพื่อเตือนภัยสึนามิล่วงหน้า และจะเป็นผู้ขับเคลื่อนในสาขาความปลอดภัยบน ท้องถนน และไทยได้ขอให้โอมานพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น อาจเป็นสินค้าอาหาร ฮาลาลหรือสินค้าเกษตรอื่น ๆ นอกจากนี้ได้มีการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะขยายความร่วมมือในการ ขุดเจาะสำรวจน้ำมันในประเทศที่สาม เช่น แอลจีเรีย ควรมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวิชาการและ ประสบการณ์ระหว่างกัน ตลอดจนการเร่งรัดให้มีการลงนามความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองการ ลงทุน การให้เพิ่มเที่ยวบินของสายการบินโอมานบินตรงระหว่างกัน การขอความสนับสนุนในการอำนวย ความสะดวกแก่นักธุรกิจไทยที่เข้าไปทำธุรกิจโอมาน การจัดงานแสดงสินค้าในโอมานในเดือนกันยายน 2548 ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่าย และประธานคณะกรรมการบริหาร ปตท.สผ ได้ร่วม ลงนามความตกลงซื้อขายก๊าซกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันและก๊าซของรัฐสุลต่านโอมาน รวมทั้งได้ออก แถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) เกี่ยวกับผลการเยือนรัฐสุลต่านโอมานของนายกรัฐมนตรี และให้กระ ทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามผลการเยือนดังกล่าวโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 858 | การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่ายลงทุน) ประจำปี 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณประจำปี 2549 | นร | 26/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงบประมาณเสนอเกี่ยวกับการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ (รายจ่าย
ลงทุน) ประจำปี พ.ศ. 2548 และการเตรียมการสำหรับงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2549 ดังนี้ งบประมาณ ปี พ.ศ. 2546 และปี พ.ศ. 2547 ที่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัด ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 โดยให้ยกเว้น การปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2548 เรื่อง เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบ กลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2547 งบประมาณปี พ.ศ. 2548 ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัด ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 งบประมาณเพิ่ม เติมปี พ.ศ. 2548 (งบกลางเพิ่มเติม 50,000 ล้านบาท) ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งขอตกลงในรายละ เอียดกับสำนักงบประมาณและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันตามกำหนดเวลา แต่มีเหตุ ผลความจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายออกไปจากที่กำหนดไว้ ก็ให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่าย ไปได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเสนอปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงาน โอนหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ ทั้งที่ได้รับและยังไม่ได้รับการจัดสรรไปใช้จ่ายสำหรับรายการหรือ โครงการที่ดำเนินการได้เร็วกว่าแผน หรือจ่ายค่า K ค่าสาธารณูปโภค งบบุคลากร และค่าใช้จ่ายอื่นที่เป็นข้อ ผูกพันตามกฎหมายหรือตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 859 | ผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2548 | นร | 14/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติรายงานผลการ
ปฏิบัติงานในห้วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2548 ตามปฏิบัติการพลังแผ่นดินร่วมกวาดล้างยาเสพติด ครั้งที่ 3 มีผลการดำเนินการดังนี้ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ได้ดำเนินการจับกุมคดียาเสพติดทั่วประเทศ รวม 9,790 ราย 10,651 คน ได้ของกลางยาบ้า 1,685,010 เม็ด และตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน 31,371,168 บาท จับกุมคดียาเสพติดในชุมชนคลองเตยรวม 441 ราย 439 คน ได้ของกลางยาบ้า 34,405 เม็ด การควบ คุมแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด รวม 139,122 ครั้ง จับกุมได้ 5,085 คน และได้ดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติด ตามแนวชายแดน โดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการเสริมประสิทธิภาพการปราบปรามด้านการสืบสวน หาข่าว การปราบปรามการสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ ตลอดจนระดมความร่วมมือจากต่างประเทศ เพื่อ ยุติการผลิตและการนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศ ส่วนการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ/ผู้ติด ยาเสพติด เป็นการบำบัดโดยสมัครใจ 781 ราย บังคับบำบัด 1,183 ราย และต้องโทษ 372 ราย ด้านการ ป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีการจัดตั้งผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจำนวน 3,743,329 คน การจำแนกสถานะหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง จำนวนสมาชิก To Be Number One 1,035,668 คน ตลอดจนการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ อาทิเช่นการดำเนินงานของกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติด โครง การ "กิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อการป้องกันแก้ไขและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด" เป็นต้น สำหรับ ความคืบหน้าผลการใช้จ่ายงบประมาณ ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (ตุลาคม 2547-เมษายน 2548) จากงบประมาณที่ได้รับ 4,041,888,900 บาท ณ วันที่ 30 เมษายน 2548 มีรายงานการใช้จ่ายงบประมาณ 1,585,508,876 บาท คงเหลือ 2,456,380,024 บาท ซึ่งจะได้มีการเร่งรัดการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการต่อไป ส่วนการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ได้ มีการเฝ้าระวังยาเสพติดภายนอกประเทศ การเฝ้าระวังยาเสพติดภายในประเทศ การเฝ้าระวังสถานการณ์ การค้ายาเสพติด การเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยพื้นที่ที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ในการเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก แม่ฮ่องสอน ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ตราด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สมุทร ปราการ ภูเก็ต ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 860 | ผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ (23 มีนาคม 2548) | มท | 14/06/2548 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) รายงาน
ผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนแห่งชาติ โดยมีผลการดำเนินงานในด้าน ต่าง ๆ ดังนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ มีผู้จดทะเบียน 1.76 ล้านราย มูลหนี้ 136 ล้านบาทเศษ ได้ดำเนินการผ่านการเจรจาหนี้ 1.63 ล้านราย มูลหนี้ 125 ล้านบาทเศษ การแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบ มี ประชาชนเข้าสู่การเจรจาหนี้ 1,948,360 ราย เจรจาสำเร็จ 185,172 ราย ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกัน ได้ตามเงื่อนไขเดิม 1.75 ล้านราย เจรจาไม่สำเร็จ 4,919 ราย ส่วนการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน เอกสาร สิทธิ์และที่อยู่อาศัย แยกเป็น การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ประกอบด้วยโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการสร้าง ระวางแผนที่ในระบบดิจิทัล ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งที่ดินของเอกชนและของรัฐ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการ ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินประเภทต่าง ๆ และระวังแนวเขตที่ดิน และโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินให้ครอบ คลุมทั่วประเทศ การจัดที่ดินทำกินเพื่อขจัดความยากจน มีผลการดำเนินงาน อาทิ การตรวจสอบกลั่นกรอง ข้อมูลคนยากจนที่มาจดทะเบียนความต้องการด้านที่ดิน (Demand) สำรวจทรัพยากรที่ดินที่เป็นของรัฐทั่ว ประเทศ (Supply) เพื่อให้ทราบจำนวนที่ดินของรัฐที่ถือครองอยู่เพื่อประโยชน์ในการจัดที่ทำกิน และการ บูรณาการ (Matching) Demand ที่เป็นความต้องการที่ดินทำกินของประชาชนและ Supply ที่เป็นทรัพยากร ของรัฐ ให้สามารถตอบสนองต่อปัญหา เป็นต้น และการจัดที่อยู่อาศัยคนยากจน ได้ให้สิทธิคนจนของโครง การบ้านเอื้ออาทรไปแล้ว 30,327 ราย และดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของคนจนใน ชนบท 670 ครัวเรือน สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน ได้จัดหางานให้นักเรียน นักศึกษา 266,241 คน ฝึกอาชีพด้านการบริการสาธารณสุข 2,950 คน และจัดหางานให้ผู้ว่างงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ 12,048 คน
|
|||||||||||||||||||||||||||
.....
