ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 45 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 881 - 900 จากข้อมูลทั้งหมด 1479 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 881 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย - จีนเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ครั้งที่ 1 | กษ | 09/11/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการประชุมคณะกรรมการ
ร่วมไทย-จีน เพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันด้านความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ครั้งที่ 1 (JTC on SPS) ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวง ควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรค (AQSIQ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนจีน และปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุม ฯ ดังกล่าว โดยผลการประชุมสรุปดังนี้ ที่ประชุมได้มี การเจรจาและได้ข้อสรุปของพิธีสาร 2 ฉบับซึ่งครอบคลุมเกี่ยวกับข้อกำหนดมาตรการดำเนินการด้านศัตรู พืช และสารตกค้างต่าง ๆ ในผลไม้ 5 ชนิด จากไทยไปจีน ได้แก่ มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง และทุเรียน และ จากจีนมาไทย 5 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ลแพร์ พืชตระกูลส้ม พุทรา และองุ่น และได้มีการแก้ไขข้อกำหนดที่เป็น ข้อจำกัดหลายประการในการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน โดยได้มีการลงนามในพิธีสารทั้ง 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 6 เดือนภายหลังการลงนาม ส่วนการส่งออกผลไม้อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้มีการ ทำพิธีสาร แต่มีการค้าขายกันอยู่แล้ว ให้ถือปฏิบัติดังเช่นปัจจุบันไปก่อน โดยจีนจะไม่ใช้มาตรการพิเศษใด ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคกับการค้าของไทยเพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันทางการค้า สำหรับการจัดทำพิธีสารการส่ง ออกผักจากจีนมาไทยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนรายชื่อสินค้าก่อน ส่วนด้านการเร่งรัดการตรวจ ปล่อยสินค้าเกษตรและอาหารนำเข้าจากไทย ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันว่าการส่งเจ้าหน้าที่จากจีนมาประจำ ในไทยในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็น แต่การส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบตามพิธีสาร และในกรณีที่ทั้งสองฝ่าย เห็นว่าเป็นปัญหา และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบร่วมกัน ก็สามารถจะดำเนินการได้เป็นกรณี ๆ ไป นอก จากนี้ ฝ่ายจีนรับข้อเสนอของไทยในการเปิดตลาดไก่สุกและแปรรูป โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโรง งานไก่สุกในไทย รวมถึงกำหนดกลไกให้มีการหารือกำหนดท่าทีและผลักดันร่วมกันในเวทีเจรจาระหว่าง ประเทศในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาไข้หวัดนก และอื่น ๆ ส่วนการจัดทำพิธีสารส่งออกผลิตภัณฑ์จระเข้เพื่อ การบริโภคจากไทยไปจีน ที่ประชุมเห็นชอบให้ไทยเร่งรัดจัดส่งข้อมูลให้จีน เพื่อดำเนินการวิเคราะห์ความ เสี่ยงเพื่อจัดพิธีสาร ฯ ต่อไป รวมทั้งเร่งรัดให้มีการตรวจสอบปัญหาการส่งออกตะพาบน้ำจากไทยไป จีนและเห็นชอบตามข้อเสนอของไทยที่จะนำเสนอระบบการจัดทำการเชื่อมโยงการตรวจสอบใบรับรองทาง อิเลคทรอนิค (cer.list) ส่วนปัญหาในด้านอื่น ๆ อาทิเช่น รูปแบบในรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ของไทยมีขนาดหรือสีแตกต่างกัน เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
| 882 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 3 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 1314 ร. เรื่อง นโยบายให้ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ 1.2 กระทู้ถามที่ 1342 ร. เรื่อง สวัสดิการผู้สูงอายุและคนพิการ 1.3 กระทู้ถามที่ 1414 ร. เรื่อง ขอให้บูรณะเมืองเก่าศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ | นร | 26/10/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1415
ร. เรื่อง ขอให้บูรณะเมืองเก่าศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้ แทนราษฎร คำตอบกระทู้ถามที่ 1314 ร. เรื่อง นโยบายให้ทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ ของพลตรี ศรีชัย มนตริ วัต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคำตอบกระทู้ถามที่ 1342 ร. เรื่อง สวัสดิการผู้สูงอายุและคนพิการ ของ นายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ ถามที่ 1415 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์และองค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ดำเนินปรับปรุงแผนแม่บทอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัด เพชรบูรณ์ ขึ้นใหม่ให้มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เป็นแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ส่วนคำตอบกระทู้ถามที่ 1314 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ราษฎรได้มี ไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนในปี พ.ศ. 2548 ได้แก่ โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 3 (คพช.3) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโครงการเร่งรัดการขยายการบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Home System) ของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนของการอนุญาตให้มีการนำ สาธารณูปโภคต่าง ๆ เข้าไปในเขตพื้นที่ป่าไม้ได้หรือไม่ นั้น จะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ โดยยึดถือมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึ่งคณะรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตว่า ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ที่มีราษฎรครอบ ครองอยู่ราษฎรมักจะร้องขอให้ทางราชการจัดสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ กรมป่าไม้พิจารณาด้วยความรอบคอบว่า การจัดสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในพื้นที่นั้น ๆ สมควรหรือไม่ และจะเป็นการยั่วยุให้เกิดการบุกรุกหรือตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ และ คำตอบกระทู้ถามที่ 1342 ร. สรุปได้ว่า รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือคนชราอายุเกิน 60 ปี เพื่อให้สามารถ ดำรงชีวิตอยู่ในครอบครองและชุมชนอย่างมีความสุข และให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความ เดือดร้อนและไม่มีผู้อุปการะ โดยให้การสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายละ 300 บาทต่อเดือน ตลอดจน ให้การสนับสนุนรถเข็น รถโยก แก่คนพิการ โดยในส่วนของจังหวัดลพบุรีได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อ การนี้เป็นเงิน 104,000 บาท นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ให้การสนับสนุน เครื่องมือเพื่อประกอบอาชีพได้เฉพาะกรณีผู้ป่วย หรือคนพิการที่สามารถรวมกลุ่ม และขอเข้าโครงการกอง ทุนเพื่อรับงานไปทำที่บ้าน
|
||||||||||||||||||||||||
| 883 | ขออนุมัติเพิ่มเติมสถานที่ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ ศาสนสถาน และสถานที่ราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ห่างไกล | มท | 26/10/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการติดตั้ง
ระบบไฟฟ้าให้แก่ครัวเรือนของประชาชน ภายใต้โครงการเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้า ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (solar Home System) ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ครบถ้วน และทั่วถึงมากที่สุดก่อน สำหรับการติดตั้งให้แก่สถานที่ราชการ นั้น ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอตั้งงบประมาณประจำปี เพื่อดำเนิน การ ส่วนกรณีศาสนสถานที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชนมากและตรวจสอบดูแลได้ยาก ให้พิจารณาความจำเป็น เหมาะสมเป็นกรณี ๆ ไป ทั้งนี้ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครับความเห็นของกระทรวงพลังงาน สำนักนายก รัฐมนตรี (สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) และสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพิจารณาติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับสถานที่ดังกล่าว ไปประกอบการ พิจารณาต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 884 | มาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2548 | กค | 26/10/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการ
ใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 โดยกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณใน ภาพรวมไว้ในอัตราร้อยละ 92.0 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย 1,176,600 ล้านบาท ไม่รวมงบกลาง ราย การค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (23,400 ล้านบาท) โดยอัตราการเบิกจ่ายเมื่อเทียบกับวงเงินงบประมาณ 1,200,000 ล้านบาท จะผันแปรไปตามอัตราการเบิก จ่ายเงินงบกลางรายการดังกล่าว และกำหนดเป้าหมายของรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 72.0 ของวงเงิน งบประมาณรายจ่ายลงทุนของแต่ละส่วนราชการ โดยให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูก พันให้แล้วเสร็จภายในสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 (สิ้นเดือนมีนาคม 2548) และให้ส่วน ราชการเร่งโอนงบประมาณของหน่วยงานในสังกัดส่วนราชการที่ต้องดำเนินการในส่วนภูมิภาค ไปยังจังหวัด ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการและ รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้ถือปฏิบัติตามแนวทางเดียวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 คือ ให้ถือเสมือนว่าเดือนสิงหาคม 2548 เป็นเดือนสิ้นสุดปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 แทนเดือนกันยายน |
||||||||||||||||||||||||
| 885 | รายงานความก้าวหน้าตามมาตรการเร่งรัดงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม
มาตรการเร่งรัดงานโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของหน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย กรมโยธา ธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการไฟฟ้านครหลวง สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินงาน ของกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำโครงการวางและจัดทำผังเมืองเฉพาะ พื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบิน ฯ เพื่อใช้เป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการดำเนินการจัดทำ ผังพัฒนาทางด้านกายภาพที่กำหนดโครงการพัฒนาในแต่ละย่าน ผังการใช้ที่ดินและอาคาร แผนปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงพื้นที่เฉพาะ โครงการคมนาคมและขนส่งครบวงจร ผังสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ การ ป้องกันน้ำท่วม การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการนำเสนอของบประมาณ และการนำเสนอกลยุทธ์ ที่ส่งเสริมภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ส่วนผลการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ แต่งตั้งคณะกรรมการ รวม 2 คณะ เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับบทบาทขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและประสานแผนการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่พัฒนา สำหรับผลการดำเนินงานของการไฟฟ้านครหลวง ในส่วนของผลการดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า และน้ำเย็นสำหรับท่าอากาศยาน ฯ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2548 นั้น ขณะนี้มีผล ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ ฯ ในส่วนของงานจัดจ้างก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับ โรงไฟฟ้า งานปรับปรุงเครื่องกังหันก๊าซ งานก่อสร้างระบบผลิตน้ำเย็น งานก่อสร้างโรงผลิตน้ำเย็นให้แก่ อาคาร และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะเสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนโครงการจ่ายไฟฟ้าให้ระบบ ขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ในขั้นตอนการสำรวจออกแบบ คาดว่า จะสามารถดำเนิน การตามโครงการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด |
||||||||||||||||||||||||
| 886 | ขออนุมัติงบกลางโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศให้เป็นพื้นที่บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ | วธ | 21/09/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ที่มี
มติอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอของบกลาง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ให้เป็นพื้นที่ บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติ จำนวน 588,564,300 บาท ส่วนการจัดทำโครงการ ฯ ให้ดำเนิน การให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 เดิม ในคราวประชุม ครั้ง ที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2547 ที่ให้กระทรวงวัฒนธรรมหารือกับคณะกรรมการนโยบายการ บริหารและพัฒนาองค์ความรู้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของโครงการ แต่เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับการเร่งรัดจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในการซื้อที่ดินของกองทุนบริเวณ ติดกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 35 ไร่ เพราะกองทุนมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการให้เป็น ไปตามแผนงาน และนโยบายที่คณะกรรมการจัดการกองทุนกำหนด ประกอบกับราคาที่ตกลงซื้อขายเป็น ราคาที่ถูกเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายรายอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน และกระทรวงวัฒนธรรมมิได้ขอรับ การจัดสรรงบประมาณปกติเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ไว้ ซึ่งหากมิได้มีการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวอาจก่อ ให้เกิดผลเสียหายต่อราชการของกระทรวงวัฒนธรรม |
||||||||||||||||||||||||
| 887 | ขออนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและหน่วยงานในสังกัดขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2545 จำนวน 3 รายการ | ศธ | 21/09/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอการขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ในรายการต่าง ๆ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้น ฐาน และหน่วยงานในสังกัด รวม 3 รายการ วงเงินรวม 115,104,828.75 บาท ออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 เป็นกรณีพิเศษ ดังนี้ (1) เงินงบประมาณสมทบโครงการเงินกู้ธนาคารโลก ประกอบด้วย โครงการพัฒนาการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระยะที่ 1 ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อครุภัณฑ์คอม พิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 จำนวน 3,446,531.20 บาท โครงการพัฒนาคุณภาพการมัธยมศึกษาตอนปลาย ระยะที่ 1 ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการบริหารโครง การ จัดประชุมสัมมนา และจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาตามเงื่อนไขธนาคารโลก ของสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 100,008,434.55 บาท (2) งบประมาณเบิกแทนสำนักงานปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ประกอบด้วย จ้างที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2,689,980 บาท จ้างพัฒนาระบบข้อมูลบริหารงานภายใน กรมสามัญศึกษา (เดิม) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 1,440,000 บาท และ ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และครุภัณฑ์ประจำห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษานครนายก จำนวน 576,415 บาท และ (3) งบประมาณเบิกแทนสำนักบริหารงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ประกอบด้วย ค่าก่อสร้างอาคารเรียน คสล. 4 ชั้น ขนาด 18 ห้องเรียน โรงเรียนนันทบุรีวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาน่าน เขต 1 จำนวนเงิน 6,943,468 บาท ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเร่งรัด ติดตาม การดำเนินการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถ เบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
| 888 | การรายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรีในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับ GMOs | วท | 14/09/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานผลการประชุมคณะ
กรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรีในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับ GMOs มีจำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ การปรับระยะเวลากรอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศไทย การจัดตั้งไบโอพาร์ค การมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็น "แกนกลาง" ในการบริหารจัดการคลัสเตอร์กุ้งในระยะแรก และการมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเป็นเจ้า ภาพหลักในการดำเนินมาตรการเร่งรัดที่นำไปสู่การลงทุนผลิตพลังงานจากของเสียฟาร์มปศุสัตว์ และโรง งานอุตสาหกรรมอาหาร |
||||||||||||||||||||||||
| 889 | รายงานผลการเยือนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) | พณ | 24/08/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการเยือนประเทศสาธารณรัฐประชา
ชนจีนของรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่าง ไทย-จีนว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ (Joint Committee on Trade Investment and Economic Cooperation : JC) ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2547 และมอบให้หน่วย งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุม ฯ ต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจ ยุทธ) เสนอ สำหรับผลการประชุม ฯ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะมีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ดังนี้ (1) ความร่วม มือทางด้านการค้า ได้มีการกำหนดเป้าหมายการค้าระหว่างกันในปี พ.ศ. 2553 ไว้ที่มูลค่า 30,000 ล้าน เหรียญสหรัฐ ฯ และเห็นชอบให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการร่วมด้านการค้าและการลงทุนเพื่อศึกษาความเป็นไป ได้ในการเร่งรัดการเปิดเสรีระหว่างกัน และให้กระทรวงพาณิชย์ทั้งสองฝ่ายหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนสินค้า ลำใยอบแห้งของไทยกับสินค้าอาวุธของจีน (2) ความร่วมมือทางด้านการลงทุน เห็นชอบที่จะให้มีการแลก เปลี่ยนการลงทุนระหว่างกัน ในการนี้ จีนขอให้ไทยสนับสนุนการลงทุนของจีนอย่างต่อเนื่องในโครงการจัด ซื้อเครื่องตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์สินค้า โครงการก่อสร้างโรงงานยาสูบที่เชียงใหม่ โครงการจัดซื้อหัวรถ จักรและหัวรถไฟ โครงการผลิตแร่โปแตซ และโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของไทย (3) ความร่วม มือด้านการท่องเที่ยว ได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันในปี พ.ศ. 2553 เป็น 4 ล้าน คน และเห็นชอบให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการร่วมด้านการท่องเที่ยว เพื่อกำหนดมาตรการส่งเสริมและสนับ สนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวระหว่างกัน (4) ความร่วมมือด้านการเกษตร ได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมด้านเทคนิค เพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคทางการค้าสินค้าผักและผลไม้ พร้อมทั้งตกลงให้มีการแลกเปลี่ยน และส่งเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคการตรวจสอบและกักกันโรคและแมลงไปประจำในประเทศของอีกฝ่ายหนึ่ง กับ ให้มีช่องทางพิเศษ (Express Lane) ณ จุดนำเข้าเพื่อให้สินค้าเกษตรผ่านพิธีการรวดเร็วขึ้น และ (5) ความ ร่วมมือวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายจะได้มีความร่วมมือกันในด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ความร่วม มือทางเศรษฐกิจไทย-จีน เพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ได้ครบวงจร |
||||||||||||||||||||||||
| 890 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล (สถิติผลการจับกุมยาเสพติดให้โทษ และรายงานความก้าวหน้าโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า) | ตช | 10/08/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ รายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ได้แก่ โครงการ สร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค) โดยในด้านการตรวจสอบทะเบียนผู้มีสิทธิ และการออกบัตร โรงพยาบาลตำรวจได้ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ และประสานสิทธิประโยชน์ ตลอดจน แนะนำสิทธิประโยชน์ของบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึง และในส่วนของการขอขึ้นทะเบียนแบบ Online ทั้ง Model 1 (เครือข่าย) และ Mode l 2 (เครือข่าย ใหม่ที่เน้นศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกอบอุ่น) มีประชาชนมาใช้บริการเฉลี่ยเดือนละ 50 ราย ใน ส่วนของโรงพยาบาลดารารัศมี จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินเปลี่ยนบัตรทองจากสถานพยาบาลเดิม (โรง พยาบาลนครพิงค์) มาเป็นบัตรทองของโรงพยาบาลดารารัศมี จำนวน 1,019 ราย ด้านการให้บริการ รักษาพยาบาล ได้ให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยตามโครงการ ฯ ตามแผนที่กำหนด ซึ่งมีผู้ป่วยที่ถือบัตร สถานบริการอื่นมาใช้บริการมากขึ้น ด้านการส่งเสริมป้องกันโรค ได้ให้บริการสุขภาพด้านการส่งเสริม สุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนที่มารับบริการในโรงพยาบาลตำรวจ และได้ร่วมกับศูนย์บริการ สาธารณสุข 5 สำนักงานอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการออกเยี่ยมชุมชน ด้านการเงิน ในส่วนของโรง พยาบาลตำรวจ ค่าใช้จ่ายของผู้มาใช้บริการ ในส่วนของผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และผู้ป่วยฝากรักษาโรง พยาบาลอื่น ๆ ตามโครงการ ฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 - เมษายน 2547 จำนวน 39,065,015.96 บาท โรงพยาบาลดารารัศมี จำนวน 194,076 บาท ส่วนของข้อร้องเรียนจากประชาชนผู้มารับบริการ ได้รับข้อร้องเรียน จำนวน 2 ราย และได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว สำหรับการเร่งรัดจัดตั้งสถาน บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้ให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด จำนวน 196 คน |
||||||||||||||||||||||||
| 891 | รายงานผลการจัดสัมมนาโครงการ "รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 6 | นร | 03/08/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอผลการสัมมนา
โครงการ "รัฐบาลสื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 6 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะของสื่อสารมวลชนท้องถิ่นไปดำเนินการต่อไป สำหรับผลการสัมมนาโครงการ "รัฐบาล สื่อสารสู่สื่อท้องถิ่น" ครั้งที่ 6 ซึ่งสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ และโฆษกกระทรวง จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2547 ณ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นประธานการสัมมนา โดยหัวข้อการสัมมนาในครั้งนี้ ได้แก่ เรื่อง แนวทาง การทำงานร่วมกันระหว่างสื่อมวลชนท้องถิ่นกับหน่วยงานประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในการทำงานร่วมกัน โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นได้เสนอความคิดเห็นและปัญหาต่าง ๆ ในการ ทำงาน อาทิเช่น สื่อมวลชนจังหวัดสมุทรปราการ ต้องการให้ อบต. และหน่วยงานต่าง ๆ ส่งข้อมูลข่าว สารให้แก่ประชาสัมพันธ์จังหวัด เพื่อเป็นศูนย์ข่าวที่สื่อมวลชนจะสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ไปเผยแพร่แก่ ประชาชนได้ต่อไป สื่อมวลชนจังหวัดจังหวัดสระแก้ว ได้เสนอขอให้จังหวัดจัดตั้งทีมเฉพาะกิจในการให้ข้อ มูลข่าวสาร เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งกรณีที่ไม่ได้รับความร่วม มือจากองค์กรอิสระในเรื่องข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น ซึ่งประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะที่สื่อมวลชนได้นำ เสนอในการสัมมนา คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะโฆษกกระทรวง จะได้นำไปพิจารณา ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการทำงานร่วมกัน นอก จากนี้ ที่ประชุมสัมมนาได้ชี้แจงนโยบายการบริหารงานของรัฐบาล และตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนใน ประเด็นต่าง ๆ อาทิเช่น การเร่งรัดดำเนินโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมที่อำเภอปากน้ำ จังหวัด สมุทรปราการ ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าโดยเฉพาะการเวนคืนที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว และขอทราบการจ่าย เงินชดเชยให้เกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับความเสียหายจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ว่าจะดำเนินการจ่ายได้เมื่อใด เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
| 892 | เร่งรัดการดำเนินโครงการภายใต้ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 59,000 ล้านบาท | นร | 03/08/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการเร่งรัดการดำเนินโครงการภายใต้ค่าใช้จ่าย
สำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 59,000 ล้านบาท ของส่วนราชการที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการที่เสนอ ซึ่งมี การเบิกจ่ายจากงบกลาง รายการ ฯ ดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 580 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของยอดเงินงบประมาณทั้งหมดเท่านั้น จึงขอให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการดำเนินโครงการ และการขอเบิก จ่ายงบประมาณ งบกลางรายการ ฯ ดังกล่าว ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 893 | การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | ทส | 16/07/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ รับทราบผล
การดำเนินงานในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ตามสาระสำคัญของโครงการเร่งรัดการพัฒนา ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และโครงการภายใต้แผนบูรณาการงบประมาณ การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 และเห็นชอบให้ขยายเวลาการเบิก จ่ายเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2545 งบกลาง ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับเป็นค่าจ้าง จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและค่าใช้จ่ายของสำนักงานเลขานุการโครงการจัดทำ แผนแม่บท ฯ โดยให้ขยายเวลาการเบิกจ่ายออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 รวมทั้งเห็นชอบโครงการที่เสนอขอแปรญัตติเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่ายการพัฒนาลุ่ม น้ำทะเลสาบสงขลา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 จำนวน 11 โครงการ ในวงเงิน 87.9 ล้านบาท โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการตามขั้นตอนการขอแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ เพื่อแก้ไขฟื้นฟูสภาพของลุ่มน้ำให้ดีขึ้นใกล้เคียงกับสภาพเดิมตามธรรมชาติให้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ จะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิต และการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่ จึงให้ส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องประสานและร่วมมือในการดำเนินการด้านต่าง ๆ กันอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของการประกอบ อาชีพของประชาชนที่ไม่ถูกต้อง เช่น การใช้ไซ หรือโพงพางในการจับปลา เป็นต้น ให้คณะกรรมการ พัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ยุติการกระทำดังกล่าว และให้กำหนด ระยะเวลาผ่อนผันให้ชัดเจนหลังจากนั้นจึงให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 894 | การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล (สถิติผลการจับกุมยาเสพติดให้โทษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายงานความก้าวหน้าโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า) | ตช | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ รายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล ได้แก่ โครงการสร้าง หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค) โดยในด้านการตรวจสอบทะเบียนผู้มีสิทธิและการ ออกบัตร โรงพยาบาลตำรวจได้รับลงทะเบียนแบบ Online ทั้ง Model 1 (เครือข่าย) และ Model 2 (เครือ ข่ายใหม่ที่เน้นศูนย์บริการสาธารณสุขและคลินิกอบอุ่น) ในส่วนของโรงพยาบาลดารารัศมี จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2547 โดยมีประชากรใน เขตอำเภอแม่ริม เข้าร่วมโครงการ จำนวน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1, 4, 6 และ 7 ด้านการให้บริการรักษา พยาบาลได้ให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยตามโครงการ ฯ ตามแผนที่กำหนด ซึ่งมีผู้ป่วยที่ถือบัตรสถาน บริการอื่นมาใช้บริการมากขึ้น ด้านการส่งเสริมป้องกันโรค ได้ดำเนินการจัดทำโครงการ/กิจกรรมด้านการ ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาลตำรวจ และร่วมกับศูนย์บริการ สาธารณสุข 5 สำนักงานอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการออกเยี่ยมชุมชนและส่งเสริมด้านการดูแลสุข ภาพในโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้านการเงิน ได้รับโอนเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งวดที่ 3 ประจำเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2547 สำหรับเป็นค่าบริการผู้ป่วย และส่งเสริมสุข ภาพป้องกันโรคในสถานพยาบาล จำนวนเงิน 1,471,030.00 บาท และการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉินและค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัด ส่งข้อมูล จึงยังไม่ได้รับโอนเงินในส่วนที่ให้บริการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546-31 มีนาคม 2547 ส่วนของข้อ ร้องเรียนจากประชาชนผู้มารับบริการ ได้รับข้อร้องเรียน จำนวน 1 ราย และได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อย แล้ว สำหรับการเร่งรัดจัดตั้งสถานบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้ให้บริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพ ติด จำนวน 334 คน |
||||||||||||||||||||||||
| 895 | รายงานผลการตรวจราชการ (จังหวัดแพร่) | มท | 22/06/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการตรวจราชการในพื้นที่จังหวัด
แพร่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เพื่อรับทราบปัญหาอุทกภัยที่ เกิดขึ้นในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ สูงเม่น ร้องกวาง เด่นชัย และ ลอง สรุปได้ว่า สาเหตุสำคัญ ของการเกิดปัญหาดังกล่าวเป็นผลจากการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและการบริหารจัดการระบบลุ่มน้ำไม่ดีพอ จึงได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เร่งรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ และได้แจ้งให้ราษฎรทราบว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและแนวทาง ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แก้ไขอย่างเป็นระบบทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งพร้อมทั้งการป้องกันน้ำท่วมใน ฤดูน้ำหลากให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมเยือน และให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทก ภัยในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ มอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย และรับทราบความต้องการในพื้นที่ที่ ประสงค์ให้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก และใช้น้ำเพื่อการเกษตรในฤดู แล้ง เป็นต้น |
||||||||||||||||||||||||
| 896 | เร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ | นร | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11
กุมภาพันธ์ 2546 เห็นชอบให้กำหนดวันเปิดให้บริการด้านพาณิชย์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวันที่ 29 กันยายน 2548 ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างท่าอากาศยาน ฯ และสิ่งก่อสร้าง ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่า การก่อสร้างในภาพรวมมีความล่าช้ากว่าแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ เพียงเล็กน้อย แต่ส่วนที่มีความล่าช้ามากจนอาจส่งผลกระทบต่อการเปิดให้บริการของท่าอากาศยานดัง กล่าว ได้แก่ การก่อสร้างในส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานรองรับด้านการจราจรที่จะใช้ในการขนส่งผู้โดย สารและสินค้าเข้าและออกท่าอากาศยาน ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการทางหลวงพิเศษวงแหวนกาญ จนาภิเษกด้านใต้ ช่วงสุขสวัสดิ์-บางพลี และโครงการก่อสร้างระบบรถไฟขนส่งมวลชนสายมักกะสัน- สุวรรณภูมิ ซึ่งตามวิธีการและขั้นตอนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้มีความล่าช้าและมีแนวโน้มว่าอาจจะ ไม่สามารถแล้วเสร็จทันการเปิดให้บริการท่าอากาศยานฯ ได้ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับไปพิจารณาแนวทางการเร่งรัดการดำเนินงานในขั้นตอนต่าง ๆ โดยให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งสองให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 897 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 201 สาย บ.หนองบัวโคก-ชัยภูมิ ตามโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร โดยใช้เงินกู้ IBRD | คค | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมทางหลวงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 สาย บ.หนองบัวโคก-ชัยภูมิ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2543-พ.ศ. 2545 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2549 สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเงินให้ เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ซึ่งให้กรมทางหลวงจ้างเหมาก่อสร้างทางหลวงดังกล่าวภายในวง เงิน 488,264,688.00 บาท แบ่งเป็นใช้เงินงบประมาณจำนวน 219,719,109.60 บาท และใช้จากเงินกู้ จำนวน 268,545,578.40 บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 67,500,000.00 บาท ส่วนที่เหลือจำนวน 152,219,109.60 บาท ให้เสนอ ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2549 |
||||||||||||||||||||||||
| 898 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 อ.นิคมคำสร้อย - อ.เลิงนกทา ตามโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร โดยใช้เงินกู้ IBRD | คค | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมทางหลวงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณงานก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 212 สาย อ.นิคมคำสร้อย-อ.เลิงนกทา จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2547 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2549 สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร 0707.2/7550 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2547 ที่ให้กรมทางหลวงจ้างเหมาก่อสร้างทางหลวงสายดังกล่าวในวงเงิน 313,682,342.40 บาท แบ่งเป็นใช้เงินงบประมาณจำนวน 141,157,054.08 บาท และใช้จากเงินกู้จำนวน 172,525,288.32 บาท โดยในส่วนของเงินงบประมาณนั้น ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 40,500,000.00 บาท ส่วนที่เหลือจำนวน 100,657,054.08 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2549 ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 899 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 401 สาย อ.สิชล - อ.ท่าศาลา ตามโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร โดยใช้เงินกู้ IBRD | คค | 25/05/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมทางหลวงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน
ข้ามปีงบประมาณงานก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 401 สาย อ.สิชล-อ.ท่าศาลา จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 -2547 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2547-2549 สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้เป็นไปตามความเห็น ของสำนักงบประมาณ ตามหนังสือสำนักงบประมาณที่ นร 0707.2/7550 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2547 ที่อนุมัติ ให้กรมทางหลวงจ้างเหมาก่อสร้างทางสายดังกล่าว ภายในวงเงิน 229,553,990.00 บาท แบ่งเป็นใช้เงินงบ ประมาณจำนวน 103,299,295.50 บาท และจากเงินกู้จำนวน 126,254,694.50 บาท โดยในส่วนของเงินงบ ประมาณให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 36,900,000.00 บาท ส่วนที่เหลือจำนวน 66,399,295.50 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 -2549 |
||||||||||||||||||||||||
| 900 | การเร่งรัดการประหยัดพลังงาน | นร | 11/05/2547 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการเร่งรัดการประหยัดพลังงาน เนื่องจากราคา
น้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบดังกล่าวยังปรับตัวสูงขึ้นไปอีกจนเกิน กว่ากองทุนน้ำมันจะรับภาระได้ รัฐอาจต้องพิจารณาปรับราคาจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างแน่นอน จึงขอให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อ รณรงค์ส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปใช้พลังงานต่าง ๆ อย่างประหยัดเท่าที่จำเป็น อย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งควรเร่งศึกษาหาแหล่งพลังงานอื่นเพื่อใช้ทดแทนพลังงานที่ต้องนำเข้าจากต่าง ประเทศด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการเพื่อการประหยัดพลังงานแต่ละชนิด ควรประสานการดำเนินการให้มีหน่วย งานที่เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
.....
