รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 48 จากทั้งหมด 74 หน้า แสดงรายการที่ 941 - 960 จากข้อมูลทั้งหมด 1479 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
941
การรายงานผลการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณและการติดตามหนี้ค้างชำระของกองทุนต่าง ๆ
กค
30/09/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่มีมติ
รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ และการติดตามหนี้ค้างชำระของ
กองทุนต่าง ๆ โดยในส่วนของสถานะหนี้ของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและกองทุนสงเคราะห์เกษตร
กร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2546 กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร มีลูกหนี้โอนจัดสรรโครงการ ที่สิ้นสุด
โครงการแล้วแต่ยังไม่ปิดบัญชี และไม่ส่งเงินคืนกองทุน ฯ รวม 11 หน่วยงาน 44 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น
จำนวน4,092.80 ล้านบาท ส่วนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ประกอบด้วย 2 กองทุน คือ กองทุนสงเคราะห์
เกษตรกร มีลูกหนี้ที่สิ้นสุดโครงการแล้ว แต่ยังไม่ปิดบัญชี และไม่ส่งเงินคืนกองทุน ฯ รวม 9 หน่วยงาน 31
โครงการ เป็นเงินจำนวน 1,373.83 ล้านบาท และเงินกองทุนหมุนเวียนสำหรับอุดหนุนเกษตรกรในการ
หาปัจจัยการผลิตตามโครงการความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารจากรัฐบาลญี่ปุ่น มีลูกหนี้ที่สิ้นสุด
โครงการแล้ว แต่ยังไม่ปิดบัญชี และไม่ส่งเงินคืนกองทุน ฯ รวม 2 หน่วยงาน 3 โครงการ จำนวน 461.94
ล้านบาท สำหรับการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินฝากในภาพรวมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ณ วันที่ 30 เมษายน 2546 แยกเป็นประเภทเงินฝากได้ 23 ประเภท โดยมียอดยกมาของประเภทต่าง ๆ
รวมเป็นเงิน 107,277.87 ล้านบาท ยอดรายรับรวม 208,249.92 ล้านบาท รายจ่ายรวม 205,481.76 ล้าน
บาท ซึ่งเงินฝากเหล่านี้ ส่วนราชการนำฝากกระทรวงการคลังไว้ก่อนในระหว่างที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้
จ่าย โดยมีข้อผูกพันว่าจะต้องจ่ายคืนให้ตามคำขอของผู้ฝาก ตามระเบียบและข้อบังคับแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ใน
ส่วนของมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณ รวมทั้งการติดตามหนี้ ได้มีการพัฒนาระบบ MIS เงินนอก
งบประมาณใหม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และสมบูรณ์ และกำหนดให้ส่วนราชการนำเงินนอกงบ
ประมาณที่ฝากธนาคารพาณิชย์กลับเข้ามาฝากคลัง ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ที่ กค 0526.9/ว 107
ลงวันที่ 27 กันยายน 2543 กับให้ส่วนราชการรายงานการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณเป็นประจำทุกเดือน
มีการทวงถามหนี้ค้างชำระอย่างสม่ำเสมอเมื่อหนี้ครบกำหนด และสรุปหนี้ค้างชำระนำเสนอคณะกรรมการ
บริหารกองทุนเพื่อพิจารณาและกำหนดมาตรการเร่งรัดหนี้ดังกล่าว พร้อมทั้งกำหนดระบบการติดตาม
ประเมินผลให้เป็นมาตรฐานสากล โดยเริ่มใช้ระบบ Balanced Scorecard (BSC) และกำหนดตัวชี้วัดการ
ดำเนินงาน (KPI) เพื่อวัดด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลการดำเนินงาน ทั้งนี้ ให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่มี
เงินนอกงบประมาณถือปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลเงินนอกงบประมาณ รวมไปถึงการติดตามหนี้ตามที่
กระทรวงการคลังเสนออย่างเคร่งครัด และให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ติดตามผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไปด้วย
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (15149/2546)
2
ยืนยันมติ (15150/2546)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (11630/2546)
942
การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (smart card)
นร
23/09/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการเร่งรัดการดำเนินการจัดทำบัตรประจำตัว
ประชาชนแบบอเนกประสงค์ (smart card) ที่ใช้เลขประจำตัว 13 หลัก ซึ่งเป็นฐานข้อมูลบุคคลตามทะเบียน
ราษฎรของกระทรวงมหาดไทยเป็นฐานของบัตรให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้สามารถเพิ่มเติมดรรชนี (index) บ่งชี้
ข้อมูลของหน่วยงานอื่น ๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น สำหรับกรณีการ
บันทึกลายพิมพ์นิ้วมือลงบนบัตรนั้น เดิมกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้บันทึกลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 นิ้ว ลง
บนบัตร ถ้าเป็นบุคคลพิการไม่มีนิ้วหัวแม่มือให้บันทึกลายพิมพ์ริมฝีปากแทน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า
เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ควรจะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว ซึ่งอาจทำให้
ไม่มีพื้นที่ว่างบนบัตรเพียงพอ ควรมีการพิจารณาว่าสมควรดำเนินการในแนวทางใดจึงจะมีความคุ้มค่าเหมาะสม
ประกอบกับขณะนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ดัง
กล่าวได้ในราคาประมาณใบละ 40 บาทเท่านั้น จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ประธาน
กรรมการดำเนินการโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์รับประเด็นดังกล่าวไปจัดประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ แล้วรายงานให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) รอง
ประธานกรรมการบูรณาการและปฏิรูประบบการทะเบียนแห่งชาติ ทราบ และเร่งดำเนินการจัดทำบัตรประจำ
ตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2546 เรื่อง การจัดทำบัตรประจำตัว
ประชาชนแบบอเนกประสงค์ (smart card) ให้แล้วเสร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (14979/2546)
2
ยืนยันมติ (14980/2546)
943
แนวทางการผ่อนผันให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีสำหรับรายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพัน
นร
16/09/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง แนวทางการผ่อนผันให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขยายเวลาก่อ
หนี้ผูกพันงบประมาณและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีสำหรับรายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพัน ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ โดยเห็นว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2546 เรื่อง รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2546 และแนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทั้งภาย
ในไตรมาสที่ 2 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 เรื่อง มาตรการและแนวทางการเร่งรัดการ
เบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2546
เรื่อง แนวทางการผ่อนผันสำหรับรายการที่ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในเดือนสิงหาคม 2546 ตาม
ลำดับ มีสาระสำคัญของมติ โดยสรุปว่า เห็นชอบมาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 หลักเกณฑ์การผ่อนผันให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขยายเวลาก่อหนี้ผูก
พันงบประมาณ ฯ การกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี การขยายเวลาเบิกจ่ายเงินดังกล่าว และเห็นชอบให้ส่วนราช
การและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไปตามที่กระทรวงการคลังเสนอ นั้น โดยที่ปัจจุบันภาพรวมของการเบิกจ่าย
เงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศนับว่าดีขึ้นโดย
ลำดับ รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่า ยังมีรายการงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง บางราย
การไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันงบประมาณได้ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่มีคณะรัฐมนตรีกำหนดแต่ก็เป็นราย
การที่มีความสำคัญและจำเป็นจะต้องดำเนินการ ซึ่งบางรายการหากให้กันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีโดยไม่มี
หนี้ผูกพันได้ก็จะทำให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณในรายการนั้น มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทาง
ราชการมากกว่าจะต้องเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ หรือจะให้งบประมาณต้องพับไป ดังนั้น เพื่อให้การใช้
จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ จึงให้ส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 นี้ ให้รวดเร็วภายในเวลา
ที่กำหนด ทั้งนี้ โดยให้คำนึงถึงประสิทธิภาพประสิทธิผล และประโยชน์สูงสุดของราชการ ตลอดจนความ
จำเป็นที่แท้จริงของการใช้จ่ายเงินงบประมาณ และในกรณีที่ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจไม่สามารถดำเนิน
การตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยมิใช่เกิดจากความล่าช้าหรือละเลย เพิกเฉย ไม่ดำเนินการตามโครง
การ/แผนงาน ที่มีความชัดเจนแล้วตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ก็ให้เสนอเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาผ่อน
ผันให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้ตามความจำเป็นเหมาะสมเป็นกรณี ๆ ไป
944
ผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 35 การประชุมระหว่าง AEM กับประเทศคู่เจรจา และการหารือทวิภาคี
พณ
09/09/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน
(AEM) ครั้งที่ 35 การประชุมระหว่าง AEM กับประเทศคู่เจรจา และการหารือทวิภาคี เมื่อวันที่ 1-4 กันยายน
2546 ณ กรุงพนมเปญ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม ฯ
สำหรับสาระสำคัญของการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ฯ ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของฟิลิปปินส์ที่ขอ
ชะลอการลดภาษีปิโตรเคมี 11 รายการ ประกอบด้วย เม็ดพลาสติก แผ่นพลาสติก และเสื่อน้ำมัน จากปี 2003
ออกไปเป็นปี 2005 และขอเลื่อนการลดภาษีน้ำตาลจากปี 2003 เป็นปี 2010 รวมทั้งได้กำหนดให้มีการเร่ง
รัดความร่วมมือในสาขาสินค้าและบริการสำคัญ 11 สาขา โดยมอบหมายให้มีประเทศผู้ประสานงานในแต่ละ
สาขา โดยในส่วนของประเทศไทย ได้แก่ สาขาท่องเที่ยวและการบิน ซึ่งประเทศไทยได้มีการจัดการประชุมภาค
รัฐและเอกชนของอาเซียนเพื่อหารือเรื่องแนวทางการเร่งรัดการดำเนินงานใน 2 สาขาดังกล่าว โดยที่ประชุม
เห็นชอบแผนงาน ดังนี้ ด้านการท่องเที่ยว ได้ตกลงผลักดันการดำเนินโครงการความร่วมมือต่าง ๆ เช่น โครง
การ Single ASEAN Visa โครงการ Visit ASEAN Campaign Logo โครงการจัดทำรายการเผยแพร่ทางโทรทัศน์
โดยให้ผู้นำเป็น presenter โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนในอาเซียน โครงการจัด ASEAN Road
Show ในปี 2004 และการให้ภาคเอกชนมีบทบาทในด้านการส่งเสริมและการทำการตลาด ส่วนด้านการบิน
ได้ตกลงเร่งรัดการดำเนินการเปิดน่านฟ้าเสรีในอาเซียน โดยจะเริ่มเจรจาลดข้อจำกัดด้านการบินในด้านต่าง ๆ
ภายในปี 2004 และจัดทำข้อตกลงที่ระบุเป้าหมายและกำหนดเวลาของการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยใช้วิธีการ
ASEAN-X ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับ AEM ของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ได้ลงนามในพิธีสาร
เพื่อแก้ไขกรอบความตกลงด้านบริการของอาเซียนและความตกลงว่าด้วยการปรับกฎระเบียบด้านเครื่องสำอาง
ให้สอดคล้องกันของอาเซียน และการจัดทำเขตการค้าเสรีและความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด (FTA/
CEP) ระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา สำหรับการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา ประกอบ
ด้วย การหารือไทย-จีนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดทำความตกลงเขตการค้าอาเซียน-จีน การหารือไทย-
อินเดียเกี่ยวกับการจัดทำ FTA ไทย-อินเดีย และการเจรจาเพื่อเพิ่มเติมรายการสินค้าเร่งลดภาษี เพิ่มขึ้น การ
หารือไทย-ลาว ได้มีการหยิบยกปัญหาการค้าชายแดน การหารือไทย-ออสเตรเลีย ได้หารือในเรื่องปัญหา
ด้านสุขอนามัยซึ่งเป็นอุปสรรคในการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปยังออสเตรเลีย
945
สรุปผลการประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่วิกฤติ
นร
02/09/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอมาตรการหรือแนวทางใน
การดำเนินการให้สามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้ทันในปี 2546 ตามผลการประชุมเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับ
แนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่วิกฤติ ครั้งที่ 3/2546 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2546 โดยที่ประชุม ฯ ได้
มีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ ประสานกรมทรัพยากรน้ำ และจังหวัดทั้ง 15 จังหวัด จัดกลุ่มหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (1 กรกฎาคม 2546) ที่อนุมัติให้ดำเนินการโครงการป้องกันน้ำท่วมในระยะ
เร่งด่วนในเขตพื้นที่วิกฤติ รวม 15 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 181 โครงการ วงเงินรวม 623.81 ล้านบาท เพื่อให้มีการ
ตรวจสอบงบประมาณเหลือจ่ายของแต่ละหน่วยงานในปี 2546 ว่า มีอยู่จำนวนเท่าใด และต้องการใช้เงินงบ
กลางในส่วนที่ขาดอีกเท่าใด แล้วรีบแจ้งยืนยันไปยังสำนักงบประมาณต่อไป และกำหนดระยะเวลาในการดำเนิน
การภายใน 4 สัปดาห์ คือ ส่วนจังหวัดเร่งประสานงานกับส่วนราชการเจ้าของเรื่อง 1 สัปดาห์ ส่วนราชการเจ้า
ของโครงการยืนยันสำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ และสำนักงบประมาณพิจารณาภายใน 1 สัปดาห์ กับ
ให้เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไปก่อน โดยมีเงื่อนไขว่า จะลงนามในสัญญาเมื่อได้รับอนุมัติเงินประจำงวด ส่วน
กรณีจำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ประหยัด และเกิดประโยชน์สูง
สุดต่อทางราชการ นอกจากนี้ ที่ประชุม ฯ ได้มีมติเกี่ยวกับการเร่งรัดการดำเนินการในส่วนแผนงาน/โครงการ
ที่สามารถแก้ไขปัญหาและป้องกันอุทกภัยได้ทันก่อนฤดูน้ำหลาก ให้จังหวัดเร่งเตือนภัยและเตรียมความพร้อม
ให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการกระทรวง ที่เกี่ยวข้องประสานงาน ตรวจเยี่ยม ติดตาม
ผลให้เป็นไปโดยรวดเร็ว โปร่งใส ประหยัด ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจว่าจังหวัดใดจำเป็นต้องจัดทำ
ช่องระบายน้ำ (Box Culvert) ลอดถนนสายต่าง ๆ ในจุดที่ทางน้ำไหลผ่านเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งรัดการปรับปรุง
แก้ไขร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ....
ให้แล้วเสร็จ ทันกับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2546
946
ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 345 (ส่วนที่ 2) (ทางแยกต่างระดับที่บางบัวทอง) สายทางหลวงหมายเลข 9 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 345
คค
26/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 345 (ส่วนที่ 2) (ทางแยกต่างระดับที่
บางบัวทอง) สายทางหลวงหมายเลข 9 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 345 จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2547
เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2548 ในวงเงิน 103,612,509 บาท สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เป็น
ไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546
จำนวน 20,000,000 บาท ค่างานก่อสร้างส่วนที่เหลือเบิกจ่ายจากงบประมาณปีต่อ ๆ ไปจำนวน 83,612,509
บาท และให้ดำเนินการเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์และความเสีย
หายทางเศรษฐกิจโดยรวม
947
ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องทางจราจร ตามโครงการเงินกู้ JBIC
คค
26/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร ตามโครงการเงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่าง
ประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) จำนวน 8 สายทาง ประกอบด้วย สายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ตอน 1 สายพิษณุโลก-อุตร
ดิตถ์ ตอน 2 สายขอนแก่น-อ.ยางตลาด (รวมทางเลี่ยงเมืองขอนแก่น) สายขอนแก่น-อ.หนองเรือ สายอ.บ้านไผ่
-อ.บรบือ สายมุกดาหาร-อ.นิคมคำสร้อย สายนครศรีธรรมราช-อ.ร่อนพิบูลย์-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมาย
เลข 41 และสายแยกไป อ.ดอนสัก-อ.สิชล จากปี พ.ศ. 2544-ปี พ.ศ. 2546 เป็นปี พ.ศ. 2544-ปี พ.ศ. 2547
948
ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
กค
19/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลการดำเนินงานของคณะกรรม
การตรวจสอบภาคราชการ (คตส.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ซึ่ง คตส. ได้ทำการสอบทานการบริหาร
งบประมาณ ทรัพย์สิน การเงิน การบัญชี และการปฏิบัติงานตามแผนการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่า การเบิกจ่ายเงินงบ
ประมาณของส่วนราชการส่วนมากเป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่ยังมีส่วนราชการบางแห่งยังคงมี
การกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และการบริหารทรัพย์สินที่อยู่ในครอบครองยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นอกจากนี้
คตส. ได้กำกับดูแลให้ผู้ตรวจสอบภายในให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการดำเนินงาน และสนับสนุนส่งเสริม
ให้ผู้ตรวจสอบภายในได้พัฒนาศักยภาพโดยให้มีการอบรม/สัมมนาผู้ตรวจสอบภายในของกรมในสังกัดกระทรวง
ที่รับผิดชอบเป็นการเฉพาะด้วย ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการใช้ประโยชน์จากงานตรวจสอบภายในในการติดตามประเมิน
ผลการดำเนินงานของส่วนราชการ และสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ตรวจสอบภายในสามารถปฏิบัติงานในความรับผิด
ชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการตามแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการควบคุมและตรวจ
สอบตามมติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2544 และ 16 กรกฎาคม 2545 อย่างเคร่งครัด และให้ส่วนราชการพิจารณา
ดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของ คตส. ตามรายงานสรุปผลการดำเนินงานของ คตส. อย่างจริง
จังพร้อมกับรายงานผลให้ คตส. ทราบด้วย หากส่วนราชการใดยังมิได้ดำเนินการ ให้ คตส. พิจารณาแจ้งให้
รัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวงทราบเพื่อพิจารณาสั่งการให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป และในกรณีที่ คตส. พิจารณา
เห็นว่า การดำเนินการตามข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบในเชิงนโยบายของรัฐบาล ในอันที่
จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อประเทศชาติ และจำเป็นต้องได้รับการเร่งรัดให้มีการปรับปรุงแก้ไขการ
บริหารงานและการดำเนินงานอย่างจริงจังและโดยเร็ว ซึ่งหากนำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อคณะรัฐมนตรีแล้วอาจ
เกิดความล่าช้าในการพิจารณาสั่งการให้มีการปรับปรุงแก้ไข เห็นควรให้ คตส. สามารถรายงานเรื่องดังกล่าวต่อ
นายกรัฐมนตรีเพื่อทราบและพิจารณาสั่งการ หรือให้มีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ตามที่
เห็นสมควร
949
สรุปผลการประชุมดูงานเรื่องการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนและเทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ ณ ประเทศเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และฟินแลนด์
พน
19/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานสรุปผลการประชุมดูงานเรื่องการบริหารจัด
การพลังงานอย่างยั่งยืนและเทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ ณ ประเทศกลุ่มประชาคมยุโรป (European Union)
3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และฟินแลนด์ ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม
2546 ซึ่งผลจากการประชุมและดูงานครั้งนี้เห็นได้ว่า ประเทศกลุ่มประชาคมยุโรปทั้ง 3 ประเทศมีการกำหนดเป้า
หมายในการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ที่สำคัญ 4 ประการ คือ (1) การเพิ่มประสิทธิภาพใน
การใช้พลังงาน ที่ให้ความสำคัญมากในการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน ในการเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการใช้พลังงาน โดยใช้มาตรการด้านภาษี มาตรการใช้เงินอุดหนุน มาตรการส่งเสริมโดยสมัครใจ และการ
กำกับดูแล เป็นเครื่องมือเชิงนโยบาย (2) การเร่งรัดเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน
(Renewable Energy Resources) มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือการลดผลกระทบของราคาน้ำมันต่อระบบเศรษฐกิจ
โดยรวม อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์
บอนไดออกไซด์ได้อีกด้วย และมีแนวโยบายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนจากแหล่งที่มีศักยภาพสูงสุด 3 อันดับ
แรก ได้แก่ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจากชีวมวล (3) การมีส่วนร่วมของชุมชน (Community
Participation) อย่างเป็นระบบ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในระดับการวางแผน กระบวนการตัดสิน
ใจ และการเสริมสร้างบทบาทองค์กรปกครองท้องถิ่นให้มีความพร้อม และสามารถตอบสนองความต้องการของ
ชุมชน พร้อมทั้งให้ชุมชนและประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมถึงระดับของการเป็นเจ้าของ (Ownership) ในโครงการ
สาธารณูปโภคด้านพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้า เป็นต้น และ (4) การพัฒนางานวิจัยควบคู่กับการพัฒนาพลังงาน
(Energy Research and Development) ประเทศทั้ง 3 ให้ความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ
งานวิจัยที่สามารถนำผลงานวิจัยมาพัฒนาต่อเนื่องได้
950
การเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาประเด็นสำคัญในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 35
พณ
19/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเกี่ยวกับการเสนอประเด็นสำคัญในการ
ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Ministers : AEM) ครั้งที่ 35 ซึ่งกัมพูชาเป็นเจ้าภาพในการจัด
การประชุมในวันที่ 2 กันยายน 2546 ที่กรุงพนมเปญ ได้แก่เรื่อง พิธีสารเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงด้านการบริการ
ของอาเซียน (Protocol to Amend the ASEAN Framework Agreement on Services) และการเข้าร่วมในกรอบความ
ตกลงการปรับประสานกฎระเบียบเครื่องสำอางของอาเซียน และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นของ
กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์เรื่องท่าทีไทยในการกำหนดวัน
(end date) ที่ให้มีการลดภาษีภายใต้ความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน
(Basic Agreement on the ASEAN Industrial Cooperation Scheme : AICO) ลงเหลือร้อยละ 0 ไว้ในพิธีสาร ฯ ตาม
ข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ให้กำหนดเป็นวันที่ 1 มกราคม 2548 ตามข้อยุติของผลการหารือร่วมกันระหว่าง
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับความเห็นของกระทรวงการต่าง
ประเทศ มีดังนี้ ข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางการเร่งรัดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน ของคณะทำงานระดับสูง
ว่าด้วยการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) นั้น
เห็นว่า อาเซียนควรจะสามารถกำหนดเป้าหมาย (end goal) และกรอบเวลา (timeframe) ของการรวมตัวเป็น
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังกล่าวให้ชัดเจนมากที่สุดในการประชุมสุดยอดของอาเซียนที่เกาะบาหลี ในวันที่ 7 -
8 ตุลาคม 2546 และหากเป็นไปได้อาจมีแนวทางที่จะเร่งรัดให้สามารถรวมตัวกันได้ก่อนปี พ.ศ. 2563 ที่กำหนดไว้
เดิมเพื่อเป็นการสร้างศักยภาพร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซียน และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของ
อาเซียนในประชาคมโลก ส่วนพิธีสารแก้ไขความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของ
อาเซียน ในชั้นนี้ ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะกำหนดการลดภาษีภายใต้ AICO ลงเหลือร้อยละ 0 อย่างไรก็ตาม
ทางการไทยควรจะพยายามหลีกเลี่ยงการแสดงท่าทีที่ขัดกับนโยบายสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้า การลงทุน
และการรวมตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยอาจมีแนวทางที่ชัดเจนที่จะเร่งรัดเรื่องดังกล่าว และการ
พิจารณาปรับโครงสร้างภาษีในส่วนที่เกี่ยวข้องให้สนับสนุนนโยบายการเปิดเสรีดังกล่าวด้วย และในกรณีที่มีการ
แก้ไขหรือปรับปรุงในสาระสำคัญของพิธีสาร ฯ ให้กระทรวงพาณิชย์ขออนุมัติจากนายกรัฐมนตรีก่อนดำเนินการลง
นาม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สัตยาบันในภายหลัง นอกจากนี้ ยังมีความเห็นเกี่ยวกับกรอบความตกลง
การปรับประสานกฎระเบียบเครื่องสำอางของอาเซียน โดยกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะจัดทำหนังสือมอบ
อำนาจเมื่อคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในกรอบความตกลงดังกล่าวและจัดทำ
สัตยาบันสารภายหลังที่ได้มีการลงนามเรียบร้อยแล้ว
951
โครงการจักรยานยืมเรียน
ศธ
13/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานโครงการ
จักรยานยืมเรียน โดยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดคุณลักษณะจักรยานยืมเรียนพร้อม
ทั้งประสานกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอใช้คุณลักษณะจักรยาน
ยืมเรียนแทนมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว สำหรับสำนักงบประมาณได้อนุมัติงบกลาง รายการ
ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 403,171,545 บาท ให้สำนักงานคณะกรรม
การการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว ในส่วนของการจัดซื้อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบให้สำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาฯ ดำเนินการจัดซื้อจักรยานฯ ซึ่งคาดว่า จะทำสัญญาจัดซื้อได้ภายในเดือนกันยายน 2546 และ
จะสามารถจัดจักรยานให้นักเรียนยืมใช้งวดแรกได้ภายในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 (ภายในเดือนพฤศจิกายน 2546)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการจักรยานยืมเรียนในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและต่อ
เนื่อง เพื่อให้สามารถส่งมอบจักรยานที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้แก่นักเรียนนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันในช่วงเปิดภาค
เรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2546 นี้
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (11762/2546)
2
ยืนยันมติ (11763/2546)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (586/2546)
952
ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 โดยใช้เงินกู้ JBIC สายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ตอน 1
คค
13/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมทางหลวงเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบ
ประมาณ โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร ตามโครงการเงินกู้ JBIC สายพิษณุโลก-อุตร
ดิตถ์ ตอน 1 จากวงเงินค่างานตามสัญญาเดิม 1,254,036,000 บาท เป็นวงเงินค่างานใหม่ 1,313,554,000
บาท คิดเป็นค่างานที่เพิ่มขึ้น จำนวน 59,518,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณร้อยละ 25 เป็นเงิน
14,879,500 บาท และเงินกู้ร้อยละ 75 เป็นเงิน 44,638,500 บาท
953
การเร่งรัดดำเนินการเพื่อประกาศใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ
นร
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การเร่งรัดดำเนินการเพื่อประกาศใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
เขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ โดยเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดต่าง ๆ ตามที่กระทรวงมหาดไทย
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป
นั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาอยู่ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะต้องดำเนินการจัดทำ
แผนที่ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการเพื่อนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น
กฎหมาย โดยได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน จึงยังคงเหลือร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องดังกล่าวอีกส่วนหนึ่งค้าง
ดำเนินการอยู่ที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้น เพื่อให้สามารถใช้บังคับกฎหมายในจังหวัดต่าง ๆ ครอบคลุม
ทั่วประเทศอันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาและจัดระเบียบสังคมตามนโยบายของรัฐบาล จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องเร่งรัดดำเนินการร่างพระราชกฤษฎีกาที่ค้างดำเนินการอยู่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
954
การรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล
ตช
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานความก้าวหน้าของโครงการหรือที่
เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล (ความก้าวหน้าโครงการต่างๆ ของสำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
โดยในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ ได้ดำเนินโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) โดย
ตรวจสอบข้อมูลผู้มีสิทธิและทำหนังสือชี้ชวนให้ประชาชนผู้มีสิทธิมาขอรับบัตรทองที่เหลืออยู่ ด้านการให้บริการ
รักษาพยาบาล เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้านการส่งเสริมและป้องกันโรค ได้ร่วมกับทางศูนย์สาธารณสุข 5
สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ซึ่งหากคณะอนุกรรมการด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้รับการแต่งตั้ง ก็
จะเริ่มดำเนินการตรวจประเมินผลการปฏิบัติงานต่อไป ด้านการเงิน การโอนเงินค่าใช้จ่ายรายหัวและเงินชดเชย
ค่าใช้จ่ายสูงและอุบัติเหตุได้ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ ยังขาดงบลงทุนปี พ.ศ. 2546 ที่ยังไม่ได้รับการจัด
สรรและอยู่ระหว่างการติดตาม ส่วนข้อร้องเรียนจากประชาชนผู้มารับบริการ ในเดือนเมษายน และพฤษภาคม
2546 มีจำนวนทั้งสิ้น 500 เรื่อง ตรวจสอบแล้วไม่มีส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ และในส่วนของการดำเนินการ
ขอเป็นโรงพยาบาลลูกข่ายของโรงพยาบาลนครพิงค์ สำหรับโรงพยาบาลดารารัศมี ได้ประสานในเรื่องดังกล่าว
กับสาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการเร่งรัดจัดตั้งสถานบำ
บัดรักษาผู้ติดยาเสพติด (ศูนย์ซับน้ำตาผู้ติดยาเสพติด) โดยจัดกิจกรรมป้องกันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพ
ติด ในช่วงไตรมาส 3 (เมษายน ถึง มิถุนายน 2546) มีผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟู 399 คน มีผู้ได้รับการอบรม
2,496 คน และสื่อสนับสนุน 1,000 สื่อ ในส่วนของสถาบันนิติเวชวิทยา ได้จัดทำโครงการเก็บรวบรวมข้อมูล
DNA ของผู้ต้องขังทั่วประเทศประมาณ 176 แห่ง โดยเลือกประเภทผู้ต้องขังอายุ 50 ปี ลงมา และตามลักษณะ
ความผิด ปัจจุบันเก็บตัวอย่างได้ประมาณ 10,000 ราย (ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2547) ทั้งนี้
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ผู้ต้องขังไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บตัวอย่างเท่าที่ควร ซึ่งทางสถาบัน ฯ
จะได้ประสานขอความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ก่อนที่จะไปเก็บตัวอย่างจากผู้ต้องขัง
955
รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงมหาดไทยรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2546)
มท
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
กระทรวงมหาดไทย (ศตส.มท.) รายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในภาพรวม
ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศตส.จ.) ทั้ง 75 จังหวัด ในรอบสัปดาห์ (ถึงวันที่ 27
กรกฎาคม 2546) สรุปได้ดังนี้
(1) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดของ ศตส.จ. ศตส.อ./กิ่ง อ. มียอดการจับกุมรวมทั้ง
สิ้น 48,015 คน ส่วนการแสดงตน ในช่วงวันที่ 21-27 กรกฎาคม 2546 มีผู้ผลิต/ผู้ค้าเข้าแสดงตนต่อทางราช
การเพิ่มขึ้น 6 คน และผู้เสพแสดงตนเพิ่มขึ้น 68 คน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพ มีผลการบำบัดรักษา
ทั้งสิ้น 285,469 คน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชน ได้ดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าว
ครบ 6 ขั้นตอน จำนวน 41,448 หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินการในขั้นตอนที่ 5 จำนวน 19,661 หมู่บ้าน/ชุมชน
ดำเนินการในขั้นตอนที่ 4 จำนวน 797 หมู่บ้าน/ชุมชน และดำเนินการในขั้นตอนที่ 2 จำนวน 6 หมู่บ้าน/
ชุมชน
(2) การปราบปรามจับกุมผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ และการยึดทรัพย์สิน มีผลการปราบปรามจับกุม
ผู้ผลิต/ผู้ค้ารายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-27 กุมภาพันธ์ 2546 รวม 1,997 คน การตรวจยึดทรัพย์
สินได้มูลค่า 6,728.236 ล้านบาท สำหรับผลการปฏิบัติงานยึดทรัพย์สินของ ป.ป.ส. และ ปปง. ตั้งแต่วันที่ 1
กุมภาพันธ์-27 กรกฎาคม 2546 สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินผู้ผลิต/ผู้ค้า จำนวน 2,786.160 ล้านบาท
(3) การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการตรวจสอบเพิ่มเติมปรากฏ
ว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 1,351 ราย และจากรายงานของกรม
การปกครอง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 359 ราย และกรมส่ง
เสริมการปกครองท้องถิ่น มีบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งสิ้น 201
ราย
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการในส่วนของการปฏิบัติงานด้านการป้องกันกลุ่มเสี่ยง
การจัดงาน "12 สิงหาสร้างมหาอภัยทานต้านยาเสพติด" มาตรการเร่งรัดผู้เสพ/ผู้ติด ยาเสพติดเข้ารับการ
บำบัด ฟื้นฟูและพัฒนา และการมอบนโยบายและแนวทางการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและการดำเนินการต่อ
สู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด
956
มาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546
กค
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน
งบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามแนวทางที่คณะ
กรรมการติดตามผลการใช้จ่ายเงินภาครัฐเสนอต่อไป ดังนี้ รายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกพัน ให้ผ่อนผันการก่อหนี้
ผูกพันเฉพาะรายการที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3 ต้องเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน
มีนาคม 2547 ได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546 โดยรายการที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน ให้ขอทำความตกลงกับสำนัก
งบประมาณเพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระเท่านั้นกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีหนี้สาธารณูป
โภคค้างชำระ หรือได้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระเรียบร้อยแล้ว
ละยังมีงบประมาณเหลืออยู่ ให้งบประมาณจำนวนนั้นพับไป ส่วนรายการที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว และได้วางใบกัน
เงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกพันก่อนสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งประกอบด้วย รายการที่ก่อหนี้ผูกพันก่อนสิ้นไตร
มาสที่ 2 หรือรายการที่ได้รับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกพันถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 และรายการที่ได้รับการผันผ่อน
ให้ก่อหนี้ผูกพันได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546 สำหรับวิธีการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกพัน ฯ ให้
ถือปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ รายการที่ก่อหนี้ผูกพัน
แล้ว ฯ หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในระยะเวลาตามที่กำหนดให้เงินงบประมาณดังกล่าวพับไป
หากมีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายเงิน ให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการในปีที่ได้รับแจ้งหนี้ นอก
จากนี้ เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมาย
ที่กำหนด ( ร้อยละ 72) ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำชับหัวหน้าส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณราย
จ่ายลงทุน หากส่วนราชการใดไม่อาจดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ให้พิจารณาถึงประสิทธิภาพ
ของหัวหน้าส่วนราชการนั้นต่อไป
957
แนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง
ทส
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3) ที่มี
มติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการ
ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพื้นที่ลุ่มน้ำปิง และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นของ คกก.3
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายขอให้ทำความตกลงในรายละเอียดตามที่จ่ายจริงกับสำนักงบประมาณ
ต่อไป สำหรับความเห็นของ คกก.3 ซึ่งเห็นว่า การเร่งรัดฟื้นฟูลุ่มน้ำปิงควรให้ครอบคลุมถึงการดูแลอย่างต่อเนื่อง
โดยประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย ส่วนการจัดระเบียบชุมชนและที่ทำกินของประชาชนในพื้น
ที่สูงและพื้นที่ต้นน้ำลำธารในลุ่มน้ำปิง ควรให้มีกลุ่มหรือองค์กรประชาชนเป็นผู้ดูแลในระยะยาว รวมทั้งการจัดตั้ง
คณะกรรมการบริหารจัดการลุ่มน้ำต่าง ๆ ควรกำหนดให้คณะกรรมการมีบทบาทหน้าที่ดูแลรักษาและจัดการต้น
น้ำ ตลอดจนการจัดสรรน้ำควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการบูรณาการทั้งระบบ โดยองค์ประกอบของคณะกรรม
การ ให้พิจารณาตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ควรจัดให้มีคณะกรรมการดูแลไฟป่าประจำหมู่บ้านในลักษณะของ
อาสาสมัครและให้มีการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการบำบัดและป้องกันน้ำเสียในเขตชุมชน
ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้และนำไปปฏิบัติ เพื่อช่วยลดความรุนแรงของปัญหาน้ำเสียได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ คณะ
รัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมว่า แม่น้ำปิงมีปัญหาประการหนึ่งคือ ทรายที่ทับถมปิดกั้นทางไหลของน้ำ ดังนั้นแนวทาง
แก้ไขที่อาจทำได้คือ การอนุญาตให้มีการดูดทรายดังกล่าวในช่วงฤดูแล้งเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ จึงขอให้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับเรื่องนี้ไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมด้วย
958
ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการ พร้อมทั้งขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและขอเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง เพื่อจ้างเหมาต่อเติมความยาวทางวิ่ง ความยาวประมาณ 900 เมตร พร้อมก่อสร้างทางขับขนานบางส่วน ที่ท่าอากาศยานกระบี่ จังหวัดกระบี่
คค
22/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมการขนส่งทางอากาศเปลี่ยนแปลงรายการ
ต่อเติมทางวิ่งของท่าอากาศยานกระบี่ จากที่กำหนดไว้เดิม 600 เมตร เป็น 900 เมตร และก่อสร้างทางขับขนาน
บางส่วน พร้อมทั้งขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2547 เป็น
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2548 และเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างดังกล่าว รวมเป็นวงเงิน 229,940,046.80 บาท
สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง และให้ดำเนินการเร่งรัดการ
ก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์และความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยรวม
959
ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ที่ท่าอากาศยานกระบี่ จังหวัดกระบี่
คค
22/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมการขนส่งทางอากาศขยายระยะเวลาก่อหนี้
ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ที่ท่าอากาศยานกระบี่ จังหวัดกระบี่
จากปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2547 เป็นปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2548 ในวงเงิน 327,292,585.90 บาท สำหรับการ
เบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 จำนวน 146,000,000 บาท ผูกพันงบประมาณปีต่อไป จำนวน 181,292,585.90
บาท และให้ดำเนินการเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์และความเสีย
หายทางเศรษฐกิจโดยรวม
960
ขออนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 345 (ส่วนที่ 1) (ทางแยกต่างระดับที่บางบัวทอง) สายทางหลวงหมายเลข 9 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 345
คค
22/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้กรมทางหลวงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปี
งบประมาณจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2547 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2548 เพื่อจ้างเหมา
ก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 345 (ส่วนที่ 1) (ทางแยกต่างระดับที่บางบัวทอง) สายทาง
หลวงหมายเลข 9 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 345 เป็นเงิน 313,141,600 บาท สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณให้
เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546
จำนวน 70,000,000 บาท และผูกพันงบประมาณปีต่อ ๆ ไป จำนวน 243,141,600 บาท และให้ดำเนินการเร่งรัด
การก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์และความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยรวม
.....
|<<
Previous
<
Previous
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย