ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 159 จากทั้งหมด 169 หน้า แสดงรายการที่ 3161 - 3180 จากข้อมูลทั้งหมด 3379 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3161 | โครงการจัดหาเรือขุดหัวสว่านขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อส่งดิน 28 นิ้ว จำนวน 3 ลำ ของกรมเจ้าท่า | คค | 25/06/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจัดหาเรือขุดหัวสว่านขนาดเส้นผ่า
ศูนย์กลางท่อส่งดิน 28 นิ้ว จำนวน 3 ลำ ของกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบ สวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว ซึ่งในชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง กับการดำเนินโครงการดังกล่าวไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ผู้บังคับบัญชา กับได้มอบหมายให้ผู้อื่นไปปฏิบัติ หน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว โดยยังไม่มีคำสั่งพักราชการ แต่หากภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรรม การสอบสวนได้รายงานว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการอันเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน กระทรวงคมนาคมก็จะ มีคำสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนกับผู้กระทำต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
3162 | รายงานผลการดำเนินโครงการพัฒนามาตรฐานแรงงานเพื่อส่งเสริมการค้าเสรี ในรอบ 6 เดือน (ตุลาคม 2544 - มีนาคม 2545) | รส | 25/06/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนามาตรฐานแรงงานเพื่อ
ส่งเสริมการค้าเสรี ในรอบ 6 เดือน (ตุลาคม 2544 - มีนาคม 2545) ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการ สังคมเสนอ โดยได้รณรงค์ส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานแรงงานในสถานประกอบกิจการกลุ่มเป้าหมายในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งในส่วนภูมิภาค คือ จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดฉะเชิงเทรา ดังนี้ จัด ตั้งสำนักงานพัฒนามาตรฐานแรงงาน จัดฝึกอบรม สัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ และประชุมเชิงวิชาการ จัด ทำคู่มือมาตรฐานแรงงาน สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานแรงงาน สร้างระบบ ตรวจประเมินและจูงใจ และรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่เกี่ยวกับมาตรฐานแรงงาน ซึ่งการดำเนินกิจ กรรมหลักโครงการเกือบทั้งหมดบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด ยกเว้นในส่วนของการสร้างระบบตรวจประเมิน และจูงใจสถานประกอบกิจการ ต้องใช้เวลาศึกษาหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม จะได้เร่งรัดดำเนินการในช่วง งบประมาณต่อไปส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าวใช้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 7.77 ล้านบาท สำหรับ แผนการดำเนินงานตามงวดเงินงบประมาณ งวดที่ 2 (เดือนเมษายน-กันยายน 2545) ได้แก่ การเร่งรัดการ สร้างเครือข่ายพัฒนามาตรฐานแรงงานในสถานประกอบกิจการ และการสร้างระบบตรวจประเมินและจูงใจ สถานประกอบกิจการ และติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมตามตัวชี้วัดผลผลิตในเชิงปริมาณเพื่อส่ง เสริมการส่งออกไปยังส่วนภูมิภาค รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน และกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ และแผนกลยุทธ์การบริหาร ฯ ในปีงบประมาณ 2545 |
||||||||||||||||||||||||||||||
3163 | ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 | นร | 25/06/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2545 ปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศได้เริ่มฟื้นตัว และความจำเป็นในการใช้ค่าใช้จ่าย ฯ ดังกล่าว ดำเนินการบางโครงการอาจเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ถ้าโครงการใดกระทบต่อเศรษฐกิจ ก็ให้เสนอขอใช้งบสำรอง เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนโครงการใดไม่กระทบเศรษฐกิจ ก็ให้ใช้งบประมาณปกติดำเนินการ เพื่อเป็นการ ประหยัดและใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเงินงบประมาณบางส่วนต้องกู้ยืม จึงให้หน่วยงาน เจ้าของโครงการพิจารณาทบทวนให้รอบคอบตามแนวทางดังกล่าว แล้วเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ เร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ยกเว้น โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับรักษาของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่ อยู่ในกรอบวงเงิน และคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการไว้แล้ว จึงให้ใช้จ่ายจากค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐ กิจตามที่เสนอได้ สำหรับโครงการภายใต้แผนงานด้านชุมชน ซึ่งเป็นโครงการขนาดเล็กจำนวนมาก มอบให้ คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติโครงการและวงเงิน ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่าย ค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อดำเนินโครงการแล้ว นั้น โดยที่ขณะนี้มีการเบิกจ่ายเงินต่ำกว่าร้อยละ 50 จึงให้ส่วนราชการเจ้าของโครงการเร่งรัดการดำเนินโครงการ และการเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
3164 | โครงการหารายได้เพื่อการสาธารณประโยชน์โดยการออกสลากพิเศษ | กค | 25/06/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการหารายได้เพื่อการสาธารณประโยชน์โดยการออก สลากพิเศษ โดยได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาโครงการ ฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็น ประธาน ฯ ทำหน้าที่พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการจัดสรรรายได้และอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังกำหนด รวมทั้งได้กำหนดระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดสรรเงินรายได้ของ โครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการออกสลากพิเศษ พ.ศ. 2545 ซึ่งมีหลักการและวัตถุ ประสงค์ในการจัดสรรรายได้เพื่อกิจการสาธารณประโยชน์ สำหรับกรณีจำเป็นอื่น ๆ ที่รัฐไม่สามารถจัด สรรงบประมาณสนับสนุนได้ โดยเสด็จพระราชกุศล ตลอดจนเพื่อสมทบเป็นเงินบริจาคตามข้อบังคับของ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพื่อบริหารการคลังของประเทศได้ตามความ จำเป็นและเหมาะสม สำหรับผลการดำเนินงานโครงการ ฯ ในช่วง 6 เดือนแรก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2544 - เดือนเมษายน 2545 มีรายรับรวม 1,562 ล้านบาท รายจ่ายรวม 1,500 ล้านบาท คงเหลือเงิน ทั้งสิ้น 62 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2545 มีรายรับเพิ่มอีก 330 ล้านบาท จึงทำให้ในขณะนี้มี เงินคงเหลือทั้งสิ้น 392 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายวราเทพ รัตนากร) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3165 | การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายของไทยต่อองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) | กต | 28/05/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายของไทยต่อองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความ
ร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe - OSCE) โดยมีปลัดกระทรวงการ ต่างประเทศ เป็นประธาน ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และมีกระทรวงการต่าง ประเทศเป็นหน่วยประสานงานและเป็นฝ่ายเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะและประสานนโยบายของไทย ในกรอบ OSCE รวมทั้งจัดทำแผนงานระดับชาติในการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับ OSCE ตาม ที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
3166 | การประชุมพิจารณาโครงการแก้ไขปัญหายาปฏิชีวนะตกค้างในสินค้ากุ้งและไก่เพื่อส่งออกของไทย | กษ | 14/05/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานการประชุมพิจารณาโครง
การแก้ไขปัญหายาปฏิชีวนะตกค้างในสินค้ากุ้งและไก่เพื่อส่งออกของไทย เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2545 โดยมี ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เป็นประธานในที่ประชุม รัฐมนตรีว่า การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายชูชีพ หาญสวัสดิ์) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นาย สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ให้กรมปศุสัตว์และกรมประมงจัดซื้อเครื่องมือ LC-MS-MS รวมทั้งให้จัดซื้อเครื่องมืออื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อ ตรวจวิเคราะห์สารตกค้างทั้งในไก่ กุ้ง และผลิตภัณฑ์ และให้จัดจ้างลูกจ้างชั่วคราวในการดำเนินโครงการ ตามที่กำหนดไว้ในโครงการ กับให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาดำเนินการควบคุมยา 4 ชนิด ที่สำนักงานคณะกรรมการ ฯ จะถอนทะเบียนตำรับ ได้แก่ โรนิดาโซล ไดมิไตรดาโซล ฟิวราโซลิโดน และ ไนโตรฟูราโซน ทั้งนี้ ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ให้มีการเรียกเก็บคืนยากลับโดย สมัครใจ โดยรัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง และให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยสั่งการให้มีการควบคุมในพื้นที่ ตลอดจนกำหนดมาตรการและขั้นตอนในการควบคุม นำเข้า จำหน่าย จ่ายแจก ยา เภสัช เคมีภัณฑ์ เกลือของเภสัชเคมีภัณฑ์ และเภสัชเคมีภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป ตามร่าง ประกาศกระทรวงพาณิชย์ อย่างชัดเจน |
||||||||||||||||||||||||||||||
3167 | โครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ (บ่อบำบัดน้ำเสีย คลองด่าน) | นร | 07/05/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุม
มลพิษจังหวัดสมุทรปราการ (บ่อบำบัดน้ำเสีย คลองด่าน) ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก แต่มีประเด็นปัญหา ในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เช่น การระบายน้ำเสียของโครง การลงสู่ทะเลจะส่งผลกระทบต่อสภาพนิเวศน์วิทยาของทะเลบริเวณนั้นซึ่งเป็นแหล่งสัตว์น้ำหรือไม่ ระบบ บำบัดน้ำเสียของโครงการไม่มีเครื่องกรองสารโลหะหนัก น้ำที่ผ่านการบำบัดและปล่อยลงสู่ทะเลจะก่อให้ เกิดปัญหาเพียงใดหรือไม่ ส่วนบ่อเก็บกากของเสียจากการบำบัดจะก่อให้เกิดปัญหาด้านกลิ่นกับชุมชนใน ละแวกใกล้เคียงและการดึงน้ำเสียเข้ามาสู่โรงงานบำบัดจะก่อให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเหม็นหรือไม่ โดยจะได้ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3168 | การดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ | นร | 30/04/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปเร่งรัดติดตามการ
ดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของ กรมชลประทาน โดยเฉพาะการก่อสร้างประตูระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง ประตูระบายน้ำท่าพญา และ ประตูระบายน้ำคลองปากพนัง (เสือหึง) เพื่อให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด (ปี พ.ศ. 2547) ด้วย ตาม ที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3169 | โครงการจัดสร้างสถานที่บริการทางหลวง | คค | 30/04/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการจัดสร้างสถานที่บริการทางหลวงตามโครงการนำร่อง 4 แห่ง
ได้แก่ บนทางหลวงหมายเลข 11 ตอนลำปาง-เชียงใหม่ ทางหลวงหมายเลข 2 ตอนสระบุรี-นครราชสีมา ทางหลวงหมายเลข 32 ตอนสี่แยกชัยนาท-สี่แยกทางน้ำสาคร และทางหลวงหมายเลข 4 ตอนประจวบ คีรีขันธ์-ชุมพร เป็นโครงการเร่งด่วน และอนุมัติให้ใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้นเศรษฐ กิจในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2545 จำนวน 114.2 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และเห็นชอบในหลักการให้กรมทางหลวงบริหารจัดการสถานที่บริการทางหลวงดังกล่าว ด้วยการมอบให้ สมาคมสโมสรกรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการแทนในระยะเริ่มแรกภายใต้การกำกับดูแลของกรมทางหลวง และเปิดประมูลเพื่อคัดเลือกผู้สนใจเป็นการทั่วไปในภายหลัง รวมทั้งให้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ มอบอำนาจให้กรมทางหลวงมีอำนาจดำเนินการแทนกรมธนารักษ์ในการจัดทำสัญญาเช่าและดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการจัดเก็บรายได้ตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 ตามที่กระทรวง คมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 และ ข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการดำเนินโครงการจัดสร้างสถานที่บริการทางหลวงในโอกาสต่อไป รัฐควรดำเนินการเองเช่นเดียวกับโครงการทดลอง 4 แห่งนี้ โดยมีการบริหารในเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม หากจะให้ภาคเอกชนดำเนินการบางแห่งเพื่อเปรียบเทียบนั้น ก็ไม่ควรให้มีการทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา หลายปี เพราะอาจมีการผูกขาดได้ สำหรับสินค้าตามโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ควรมีการคัด สรรผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลดีเด่นในภูมิภาค หรือรายการสินค้าที่อยู่ในเว็บไซต์ไทยตำบลมาวางจำหน่าย โดยไม่คิดค่าเช่า แต่ใช้วิธีการเพิ่มราคาแล้วหักเปอร์เซ็นต์) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
3170 | โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 - 2547 | นร | 23/04/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มี
มติเห็นชอบโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545-2547 จำนวน 28 โครงการ วงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 1,971.98 ล้านบาท และอนุมัติให้ดำเนินการตามความ เห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) รับข้อสังเกตของคณะ กรรมการ ฯ (เกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าวมีผลตอบแทนทางสังคมคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ และเพื่อให้การดำเนินงานของ กปภ. มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กปภ. ควรพิจารณาปรับปรุงคุณภาพการ ดำเนินงานเพื่อเข้าสู่มาตรฐาน ISO 9000 และ ISO 14000 โดยเฉพาะในสำนักงานประปาขนาดใหญ่ หรือสำนักงานประปาที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ นอกจากนี้ การสนับสนุนทางด้านงบประมาณ ในการลงทุนให้แก่ กปภ. รัฐบาลควรกำหนดนโยบายราคาและแนวทางการให้เงินอุดหนุนที่ชัดเจน) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย และให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่ง ชาติ (คปช.) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เป็นประธาน เร่งรัดการศึกษา แผนปรับปรุงพัฒนา โดยพิจารณาถึงการให้เอกชนร่วมลงทุนโดยรัฐกำหนดอัตราราคาการจำหน่าย น้ำประปาที่เหมาะสม แล้วรายงานคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3171 | ขอใช้เงินค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับรักษา ของกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 09/04/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ใช้เงินค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบ บังคับรักษาของกระทรวงยุติธรรม ตามความเห็นที่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณารายละเอียด แล้ว ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้มีการก่อสร้างอาคารเท่าที่จำเป็น และหากเรื่องใดไม่จำเป็น หรือดำเนินการ ไม่ทันก็ให้ตัดออกได้ กับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งรัดประชาสัมพันธ์ และควรให้สังคมได้เข้าใจถึงแนว นโยบายในการทำลายโครงสร้างของปัญหายาเสพติด โดยการตัดวงจรของยาเสพติดด้วยการแยกผู้เสพ ติดออกมาบังคับรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เพราะถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วย รวมทั้งในการดำเนินโครงการนี้ ควรศึกษารูปแบบโครงการโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองเพื่อประกอบการดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
3172 | การแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินโครงการก่อสร้าง กรณีกำหนดระยะเวลาก่อสร้างไว้นานและการเสนอราคาต่ำกว่าความเป็นจริงในการประกวดราคาทำให้มีการทิ้งงาน | นร | 26/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการดำเนินโครงการก่อสร้าง กรณีกำหนด
ระยะเวลาก่อสร้างไว้นานและการเสนอราคาต่ำกว่าความเป็นจริงในการประกวดราคาทำให้มีการทิ้งงาน โดย ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้งานก่อสร้างมีความรวดเร็ว ขึ้น ทั้งนี้ อาจมีสิ่งจูงใจเพื่อให้ผู้รับเหมาเร่งรัดดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็วด้วยก็ได้ แล้วนำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
3173 | แผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2545 กระทรวงอุตสาหกรรม | อก | 26/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งปี พ.ศ. 2545 ซึ่งกระทรวง
อุตสาหกรรม โดยกรมทรัพยากรธรณี ได้จัดเตรียมแผนเฉพาะกิจเพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย แล้ง โดยจัดเตรียมบ่อน้ำบาดาลที่มีปริมาณน้ำมากและคุณภาพน้ำดี จำนวน 500 บ่อ ทั่วประเทศ เพื่อเป็น จุดจ่ายน้ำ และจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ จำนวน 250 คัน สูบน้ำจากจุดจ่ายน้ำแจกจ่ายให้ราษฎรในพื้นที่ ขาดแคลนน้ำ ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับ จะสามารถให้บริการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคแก่ราษฎรที่ประสบปัญหา ขาดแคลนน้ำได้ไม่น้อยกว่าวันละ 25 ล้านลิตรเป็นเวลา 5 เดือน รวมปริมาณน้ำได้ทั้งสิ้น 3,750 ล้านลิตร ครอบคลุม 5,000 หมู่บ้านภัยแล้งทั่วประเทศ คิดเป็นประชากร 250,000 ครัวเรือน จำนวนไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านคน ส่วนงบประมาณในการดำเนินงานจะใช้เงินงบประมาณปกติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน วงเงิน 50 ล้านบาท โดยจัดทำโครงการ "กรมทรัพยากรธรณี - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) - การ ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) - กองทัพบก (ทบ.) ร่วมใจสู้ภัยแล้ง" ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับ สนุนการดำเนินโครงการ และเห็นชอบให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||
3174 | ข้อมูลประกอบการจัดทำฐานข้อมูลในการดำเนินโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชนถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค) | สธ | 19/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ขอความร่วมมือจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงาน
ของรัฐแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับบุคลากรในสังกัด เพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการดำเนิน โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชนถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค) ซึ่งปรากฏว่า ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2545 ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ได้แจ้งข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วน รวม 21 หน่วยงาน จึงขอความร่วมมือจากรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการและจัดส่งข้อมูลดังกล่าวให้ แก่กระทรวงสาธารณสุขโดยด่วนต่อไป ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3175 | รายงานความคืบหน้าโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz | คค | 19/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้า ในการดำเนินโครงการในเบื้องต้นกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 ให้องค์การ โทรศัพท์แห่งประเทศ (ทศท.) การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศ ไทย จำกัด (บวท.) ร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน และให้บริษัทได้รับสิทธิการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบ 1900 MHz จาก ทศท. และ กสท. ซึ่งขัดต่อมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่น ความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2543 นั้น เพื่อให้ การดำเนินโครงการสามารถดำเนินการต่อไปได้ทันภายในวันที่ 27 มีนาคม 2545 กระทรวงคมนาคมจึง เห็นชอบให้ดำเนินการตามมติที่ประชุมร่วมระหว่างผู้บริหารของ ทศท. และ กสท. โดยให้ทั้งสองฝ่ายร่วม กันเป็นผู้จัดสร้างโครงข่ายในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz และให้เช่าใช้อุปกรณ์กับ บริษัท ฯ เพื่อให้บริการตามโครงการต่อไป และคณะกรรมการบริหารของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง มีมติ เห็นชอบด้วยแล้ว โดยจะร่วมกันดำเนินงานและบริหารโครงการในลักษณะกิจการร่วมค้า รวมทั้งจัดตั้ง คณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐวิสาหกิจทั้งสอง เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลและกำหนดนโยบายในการดำเนิน การต่อไป สำหรับในส่วนของการลงทุนโครงการจะได้นำเสนออีกครั้งหนึ่งต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี มีข้อสังเกตว่า ต่อไปการดำเนินการโครงการขนาดใหญ่และมีวงเงินลงทุนสูง ควรต้องระมัดระวัง มิควร หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายจากงบลงทุนมาใช้งบทำการ ซึ่งจะมีปัญหาในระยะยาว และการวิเคราะห์ผลตอบ แทนทางการเงิน (IRR) ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3176 | ขอใช้เงินค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับ ของกระทรวงยุติธรรม) | ยธ | 19/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ใช้เงินค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 มารองรับการดำเนินโครงการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในระบบบังคับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สำหรับรายละเอียดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรับ ไปพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่า ในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2545 สามารถดำเนินการตามโครงการ ฯ ได้เพียงใด และต้องการใช้จ่ายเงินสำรองเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ ฯ จำนวนเท่าใด โดยในส่วนที่เหลือของโครงการ ฯ ให้กระทรวงยุติธรรมเสนอขอจัดสรร จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ดำเนินการต่อไป และรับทราบตามที่รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา) รายงานในส่วนของการดำเนินการเพื่อรอง รับผู้ติดยาเสพติดของกระทรวงกลาโหม โดยได้เตรียมการจัดทำเป็นโครงการเรียกว่า "กรงขังใจ" มีพื้นที่ ดำเนินโครงการใน 7 จังหวัด ทั้งนี้ หากร่างพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. .... ประกาศใช้เป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ และได้รับงบประมาณ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที |
||||||||||||||||||||||||||||||
3177 | การปรับแผนการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย | พณ | 12/03/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2
(ฝ่ายเศรษฐกิจ) (คกก.2) ที่มีมติเห็นชอบการปรับแผนการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมสิ่งทอ ไทยที่ผ่านการทบทวนโครงการต่าง ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สำหรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการในปี พ.ศ. 2545 สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ขอให้จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรม โดยใช้ งบประมาณที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่เดิมในปี พ.ศ. 2545 มาดำเนินการ ส่วนในปี พ.ศ. 2546 - 2548 ให้จัดทำคำของบประมาณตามปกติ โดยแจ้งความพร้อมในการดำเนินโครงการ การทบทวนและปรับ โครงการ รวมทั้งแหล่งเงินที่จะของบประมาณมาดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และ เห็นควรให้มีการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง Fashion ทางด้านสิ่งทอของภูมิภาค ASEAN โดยจัดให้ มีการแสดงนิทรรศการทางการค้า โดยเน้นด้านสิ่งทอเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ภาครัฐควรสนับสนุนภาคเอก ชนจัดให้มีการจัดแสดงนิทรรศการทางการค้า (Exhibition Trade) ในระดับนานาชาติ และเชิญนัก ออกแบบ (Designer) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้ประกอบการด้านสิ่งทอ และสื่อมวลชนจากต่างประเทศ มาร่วมนิทรรศการด้วย นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานของวัตถุดิบที่ใช้ใน การผลิตสิ่งทอ และพิจารณาในเรื่องราคาของสินค้าประเภทนี้ ซึ่งจะต้องแข่งขันกับราคาในตลาดต่าง ประเทศได้ โดยรับไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงอุตสาห กรรมต่อไป ตามความเห็นของ คกก.2 |
||||||||||||||||||||||||||||||
3178 | การจำหน่ายสินค้าของโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ | นร | 25/02/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ และนายปองพล
อดิเรกสาร) และคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (8 มกราคม 2545) เรื่อง การจำหน่ายสินค้าของโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ให้มีผลเป็นรูปธรรม โดยเร็ว โดยเฉพาะในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และการตลาด โดยกำหนดแนวทางการดำเนินการประกวดคัด เลือกสินค้าของโครงการให้ชัดเจน โดยมีเวทีประกวดและคัดเลือกสินค้าตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับ ชาติ และระดับที่สามารถส่งออกจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ชี้แจงแนวทางการดำเนินการประกวดคัดเลือก และการจำหน่ายสินค้าให้ประชาชน ชุมชน องค์กรท้องถิ่นที่ผลิตสินค้าได้ทราบ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ ผลิตมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ควรพิจารณา ให้การสนับสนุน ส่งเสริม การพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของสินค้า ทั้งในด้านวัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยี การผลิตที่เหมาะสม และส่งเสริมด้านการตลาดของการจำหน่ายสินค้าของโครงการ ฯ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยกำหนดจุดตลาดขายสินค้าหรือบริการ (Outlet) แต่ละที่ ให้มีการกระจายตัวอย่างเหมาะสม และใน อนาคตต้องมีศูนย์การค้าเพื่อขายสินค้าประเภทนี้ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการ ฯ รับไปพิจารณาว่า เพื่อให้การ บริหารจัดการเกี่ยวกับการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความ ต่อเนื่องควรจัดตั้งองค์กรถาวรขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ จะเหมาะสมหรือไม่ เพียงไร ตามที่นายก รัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3179 | แนวทางการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมนมทั้งระบบ | กษ | 25/02/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมนมทั้งระบบ ตามที่กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยในส่วนของการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายนมแห่งชาติ มอบให้รองนายก รัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เป็นประธานกรรมการ และให้คณะกรรมการ ฯ นำความเห็น ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) (เกี่ยวกับการปรับปรุงการอุดหนุนของรัฐให้มีความเหมาะสม เพื่อป้องกันการ แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการ ส่วนสถานภาพของคณะกรรมการนโยบายนมแห่งชาติ ไม่ควรมีสถาน ภาพที่ถาวร รวมไปถึงการกำหนดองค์ประกอบและจำนวนกรรมการให้กำหนดในลักษณะกว้าง ๆ เป็น การทั่วไป โดยไม่ต้องระบุรายชื่อกรรมการ แต่กำหนดตัวบุคคลผู้มีอำนาจแต่งตั้งไว้ ส่วนปัญหาด้านการ กระจายอำนาจควรกำหนดให้ชัดเจนหรืออาจมอบอำนาจให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รับผิดชอบในการ จัดซื้อนม หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่มีคุณค่าทางอาหาร นอกจากนี้ อาจนำหลัก Area Appoach มาใช้ในการแก้ ปัญหา ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดต้นทุนในการผลิตและขนส่งได้) ไปพิจารณาปรับปรุงเพื่อให้แนวทาง การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปอย่างมีระบบและยั่งยืน ทั้งนี้ ให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณา ด้วย และให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีประสานกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อ พิจารณาวางระบบและแนวทางในการติดตามและตรวจสอบการดำเนินโครงการ ฯ และให้ประสานข้อมูล กับคณะกรรมการ ฯ ด้วย กับให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งทีมงานทั้งใน ระดับจังหวัดและท้องถิ่น เพื่อติดตามดูแลและประสานงานการดำเนินงานโครงการ ฯ ในจังหวัดให้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีการถ่วงดุลย์และตรวจสอบซึ่งกันและกัน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3180 | โครงการเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตร (รวม 13 โครงการ) | กษ | 05/02/2545 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง ไปหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าสมควรให้มีการเบิกจ่าย เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตร งวดที่ 2 จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ต่อไป หรือไม่ และหากยก เลิกจะกระทำได้หรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเหมาะสม คุ้มค่า ประโยชน์ และผลกระทบในด้าน ต่าง ๆ และให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน สำหรับโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตของชุมชน ในพื้นที่ตำบลหลัก วงเงิน 239.77 ล้านบาท และโครงการจัดองค์กรและปรับปรุงระบบงานของกระทรวง เกษตร ฯ วงเงิน 20 ล้านบาท เห็นชอบในหลักการ โดยให้กระทรวงเกษตร ฯ เสนอคณะกรรมการ กลั่นกรองโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณา เพื่อใช้จ่ายจากค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อการกระตุ้น เศรษฐกิจ ฯ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้พิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณของกระทรวงเกษตร ฯ ส่วนโครงการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาสวนป่าเศรษฐกิจ วงเงิน 800 ล้านบาท ให้พิจารณาทบทวน ความจำเป็นและเหมาะสมของโครงการ และหากเห็นว่ายังมีความจำเป็น ก็ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ครั้งหนึ่ง รวมทั้งโครงการจัดทำแผนที่เพื่อการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและทรัพย์สินของกระทรวง เกษตร ฯ วงเงินเพิ่มเติม 168.16 ล้านบาท ให้กระทรวงเกษตร ฯ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวง ศึกษาธิการ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม พิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะ สมของโครงการ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ มีมติรับทราบการยกเลิก การดำเนินโครงการชลประทานระบบท่อ 10 โครงการย่อยของกรมชลประทาน แต่ให้กระทรวงเกษตร ฯ รับไปพิจารณาทบทวน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |