ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 183 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3641 - 3660 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3641 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีด้านความร่วมมือในการรับซื้อสินค้าเกษตร 9 รายการ ภายใต้ ASIP จากประเทศเพื่อนบ้าน | พณ | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
ด้านความร่วมมือในการรับซื้อสินค้าเกษตร 9 รายการ ภายใต้ AISP จากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ข้าวโพด หวาน ละหุ่ง มะม่วงหิมพานต์ ยูคาลิปตัส ถั่วลิสง ลูกเดือย ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันฝรั่ง และการ เพิ่มจำนวนผู้นำเข้าถั่วเหลืองจากราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพ พม่า โดยนำเข้าถั่วเหลืองได้เสรีและไม่จำกัดปริมาณการนำเข้า ภายใต้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย One Way Free Trade และภาระการรับซื้อถั่วเหลืองในประเทศของผู้ นำเข้ารายใหม่ และเห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เห็นว่า หากมีผู้ประสงค์จะขอ เป็นผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองรายใหม่ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำ มันอื่นและต้องรับซื้อถั่วเหลืองที่ผลิตได้ภายในประเทศตามราคาที่กำหนดเช่นเดียวกับผู้ที่มีสิทธิรายเดิม ทั้งนี้ ผู้นำเข้าต้องทำสัญญารับซื้อถั่วเหลืองภายในประเทศกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ สำหรับสินค้า 8 รายการ ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ละหุ่ง มะม่วงหิมพานต์ ยูคาลิปตัส ถั่วลิสง มันฝรั่ง และลูกเดือย กระทรวงเกษตร ฯ ไม่ขัดข้องในการให้สิทธิพิเศษในทางภาษีศุลกากร เนื่องจากความ ต้องการในประเทศมีมาก ประกอบกับปริมาณและมูลค่าการนำเข้ามีเพียงเล็กน้อย และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ต่อการผลิตในประเทศการให้สิทธิพเศษดังกล่าวควรพิจารณาปีต่อปี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3642 | การเข้าเป็นสมาชิก WTO ของรัสเซีย | พณ | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการลงนามเอกสารสรุปผลการเจรจาสอง
ฝ่ายระหว่างไทยกับรัสเซียเกี่ยวกับการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ของรัสเซีย และ หนังสือแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการเปิดตลาดการค้าบริการธุรกิจสปา และร้านอาหารไทย ซึ่งลงนามโดยอธิบดี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์กับนาย Alexey A. Kaulbars, Director, Department of State Regulation of Foreign Trade and Customs เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2547 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3643 | โครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2548/49-2552/53 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาด) | นร | 21/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอเกี่ยวกับกรณีที่สหรัฐ
อเมริกาได้ประกาศอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (AD Duty) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2547 ทำให้ประเทศ ไทยถูกเก็บอากรดังกล่าวในอัตราร้อยละ 5.79 - 6.82 สำหรับผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ และอัตราร้อยละ 6.03 สำหรับบริษัทอื่น ๆ ของไทย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าของไทย และทำให้ ผู้ประกอบการของไทยมีความได้เปรียบในการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกาได้มากขึ้น และเห็นชอบ ให้กระทรวงคมนาคม [บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)] ลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องบินกับบริษัทผู้ ขายเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาตามกำหนดเวลาลงนามในสัญญา (วันที่ 23 ธันวาคม 2547) ตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2547 ต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3644 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนพฤศจิกายน 2547 (22 - 26 พฤศจิกายน 2547) | พณ | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนพฤศจิกายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งมีความเคลื่อนไหว ราคาสินค้า โดยหมวดผักและผลไม้ ได้แก่ ผักคะน้า ราคาสูงขึ้นจาก 10-12 บาท/กก. เป็น 12-18 บาท/ กก. ผักบุ้งจีน ราคาสูงขึ้นจาก 10-12 บาท/กก. เป็น 12-22 บาท/กก. ผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 4-5 บาท/ ขีด เป็น 6-7 บาท/ขีด มะนาว ราคาสูงขึ้นจาก 1-1.25 บาท/ผล เป็น 1.25-1.50 บาท/ผล หมวดวัสดุ ก่อสร้าง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรูปตัวชี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม./6 ม.) และตะปู ราคาลดลงจาก 525-540 บาท/ท่อน และ 560-720 บาท/ลัง เป็น 520-525 บาท/ท่อน และ 560- 580 บาท/ลัง ตามลำดับ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาลดลงจาก 48 บาท/กก. เป็น 46 บาท/กก. ถุงพลาสติก ราคาลดลงจาก 66-74 บาท/กก. เป็น 65-74 บาท/กก. และหมวดผลิต ภัณฑ์ปัจจัยทางการเกษตร ได้แก่ ปุ๋ยเคมี (15-15-15) ราคาลดลงจาก 560 บาท/กระสอบ เป็น 530- 560 บาท/กระสอบ สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยน แปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ปูนซีเมนต์ ยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) ผลิตภัณฑ์นม กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย อาหารกระป๋อง และสบู่ เป็นต้น ใน ส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบ การกระทำผิดราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคาสินค้า 1 ราย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3645 | การค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 10 เดือนแรกของปี 2547 | พณ | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ
ของไทย ในระยะ 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2547 โดยการส่งออกใน ระยะ 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 มีมูลค่า 80,432 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของ ปี พ.ศ. 2546 ร้อยละ 22.6 ส่วนการนำเข้าในระยะ 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 มีมูลค่า 78,783 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 ร้อยละ 29.0 เป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้น ในทุกหมวดตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ในตลาดโลก สำหรับดุลการค้าของไทยในระยะ 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 ดุลการค้าเกินดุลมีมูลค่า 1,649 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ในส่วนของตลาดส่งออกยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดใหม่และ ตลาดหลัก ร้อยละ 26.6 และ 20.3 ตามลำดับ โดยตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อาเซียน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4) แอฟริกา (ร้อยละ 60.6) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 31.7) ตะวันออก กลาง (ร้อยละ 29.8) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 26.5) และตลาดที่ไทยจัดทำเขตการค้าเสรี คือ อินเดีย (ร้อยละ 43.8) จีน (ร้อยละ 26.7) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 13.8) และในด้านการส่งออกสินค้าสำคัญยัง ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่ม ขึ้น ร้อยละ 12.9 และ 24.2 ตามลำดับ โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ขยายตัวเพิ่มขึ้นใน อัตราสูงถึงร้อยละ 59.2, 42.2 และ 25.8 ตามลำดับ นอกจากนี้ ไก่แปรรูปส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราร้อย ละ30.8 และสินค้าสำคัญอื่น ๆ ที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยาน ยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เภสัช |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3646 | โครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2548/49-2552/53 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) | นร | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบให้ดำเนินการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ
เครืองาม) เสนอเกี่ยวกับผลการดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจปี 2548/49-2552 /53 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 14 ลำ วงเงินลงทุน 96,355 ล้านบาท ซึ่งคณะ รัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2547 อนุมัติในหลักการให้บริษัท การบินไทย ฯ ดำเนิน โครงการดังกล่าวและให้ประสานขอความร่วมมือจากประเทศผู้ขายเครื่องบินเกี่ยวกับการส่งสินค้าไทย ไปจำหน่ายยังกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องบินระหว่าง กันต่อไป นั้น โดยที่บริษัท การบินไทย ฯ ได้ขอเลื่อนการยืนราคาเดิมในการลงนามในสัญญาซื้อขาย เครื่องบินกับบริษัทผู้ขายเครื่องบินของสหรัฐอเมริกามาเป็นลำดับ และการขอเลื่อนการยืนราคาเดิม ครั้งล่าสุดได้รับการขยายเวลาจนถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2547 และประกอบกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะ ประกาศเงื่อนไขและนโยบายทางการค้า ในวันที่ 18 ธันวาคม 2547 ดังนั้น เพื่อความรวดเร็วในการ ดำเนินการเรื่องนี้ จึงเห็นควรมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาประกาศเงื่อนไข ดังกล่าวร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หากเห็นว่าเหมาะสมให้บริษัท การบินไทย ฯ ดำเนิน การลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องบินตามหนังสือแสดงความจำนงภายในกำหนดเวลาดังกล่าวได้โดย ไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3647 | การตรวจสอบคุณภาพและความมีอยู่จริงของลำไย เพื่อป้องกันการปลอมปนอันทำให้ราคาตกต่ำ | นร | 14/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะทำงานเฉพาะกิจที่ตั้ง
ขึ้นเพื่อตรวจสอบคุณภาพและปริมาณลำไยอบแห้งคงค้าง (Stock) ที่เก็บไว้ในโกดังต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในความดูแล ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) พบว่า ระบบบัญชีสินค้าของทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีประสิทธิภาพดีพอ ทำให้ไม่สามารถสอบทนข้อมูลจำนวนสินค้าที่มีอยู่และสินค้าที่ย้ายออกจาก โกดังได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ จำนวนสินค้าคงเหลือในบางโกดังมีจำนวนและชนิดสินค้าไม่ตรงตามบัญชีและ มีการแก้ไขรายละเอียดบนกล่องบรรจุ โดยภาพรวมได้ตรวจสอบพบว่า ลำไยอบแห้งฤดูกาลผลิตปี 2545 และ 2546 ที่เก็บอยู่ในโกดังทั้งหมดมีส่วนที่เน่าเสียประมาณร้อยละ 20 จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดแก้ไขการจัดทำระบบบัญชีดังกล่าว รวมทั้งการบริหารจัดการคลังสินค้าให้ถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ และติดตั้ง bar code บนกล่องบรรจุเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา วันที่อบแห้ง ประเภท และชนิดของลำไย โดยประสานและขอรับข้อมูลจากเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการต่อไป และให้รอง นายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าว โดยกรณีลำไยปี 2545- 2547 ให้ทำลายส่วนเน่าเสียทั้งหมดก่อนจำหน่าย โดยมีคณะกรรมการกลางตรวจสอบเพื่อป้องกันการนำ กลับมาปลอมปน สำหรับลำไยที่มีคุณภาพดีที่เหลืออยู่ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งจัดจำหน่ายและส่งออกไปต่าง ประเทศให้เสร็จสิ้นก่อนผลผลิตของลำไยฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม เพื่อดำเนินการการค้าต่างตอบแทนตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง แนวทางปฏิบัติ เกี่ยวกับการดำเนินการการค้าต่างตอบแทน พ.ศ. 2547 กรณีการซื้อสินค้าและบริการ (อาวุธยุทโธปกรณ์) จากต่างประเทศที่มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาท ต่อไปด้วย และหากตรวจสอบแล้วพบว่า มีเอกชนหรือเจ้าหน้า ที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3648 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนพฤศจิกายน 2547 (15-19 พฤศจิกายน 2547) | พณ | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนพฤศจิกายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 15-19 พฤศจิกายน 2547 โดยสถานการณ์การ ค้าที่สำคัญ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและแจ้งเตือนผู้ค้าไข่ไก่ ให้ปรับราคาจำหน่ายปลีกลดลง ระหว่างวันที่ 9-26 ธันวาคม 2547 ด้านความเคลื่อนไหวราคาสินค้าใน ช่วง สัปดาห์นี้มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 3-5 บาท/ขีด เป็น 4-5 บาท/ขีด และ มะนาวราคาสูงขึ้นจาก 1-1.25 บาท/ผล เป็น 1-1.50 บาท/ผล ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ น้ำมัน เชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาลดลงจาก 20.79 บาท/ลิตร และ 21.59 บาท/ลิตร เป็น 20.39 บาท /ลิตร และ 21.19 บาท/ลิตร เม็ดพลาสติก ราคาลดลงจาก 50 บาท/กก. เป็น 48 บาท/กก. ไก่สด ราคาลดลงจาก 40-42 บาท/กก. เป็น 35-42 บาท/กก. และไข่ไก่ ราคาลดลงจาก 2.10-2.40 บาท/ ฟอง เป็น 2.10-2.30 บาท/ฟอง สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางราย การที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม กาแฟ ผงสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำตาลทราย แป้งโรยตัว และหม้อหุงข้าว เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ ประกอบการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้าย แสดงราคาสินค้า จำนวน 3 ราย และตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิด เครื่องชั่งสปริงไม่เที่ยงตรง จำนวน 1 ราย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3649 | การจัดตั้ง Thailand Plaza ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา | พณ | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการเช่าพื้นที่เพื่อจัดตั้งไทยแลนด์
พลาซ่า (Thailand Plaza) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจำหน่ายสินค้าไทยในต่างประเทศ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยกรณีการจ่ายค่าเช่าคืนในส่วนที่ภาคราชการเป็นผู้เช่าให้ตั้งงบประมาณราย จ่ายประจำปีจ่ายคืนเข้ากองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโดยตรง และหากมีการเลิกเช่าพื้นที่ดังกล่าว ในส่วนของค่ามัดจำให้จ่ายคืนเข้ากองทุน ฯ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวง พาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ไปดำเนินการด้วย โดยในส่วนของคณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า การคัดเลือกบุคลากรเพื่อทำหน้าที่บริหาร จัดการให้เหมาะสม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้บรรลุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อการดำเนินการในอนาคต สำหรับการสร้างตราสินค้าไทย (branding) ในภาพ รวม ควรใช้คำว่า "Thailand" โดยในส่วนของการให้บริการ ให้เน้นความเป็นไทย ควรใช้คำว่า "Thainess" และให้หารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่ง ชาติ เกี่ยวกับคำดังกล่าวตลอดถึงแนวทางการดำเนินการส่งเสริมและรณรงค์ในการสร้างตราสินค้าไทยดัง กล่าวให้แพร่หลายด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3650 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤศจิกายน 2547 | พณ | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤศจิกายน 2547 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของ ประเทศเดือนพฤศจิกายน 2547 เท่ากับ 109.7 เทียบกับเดือนตุลาคม 2547 (110.1) ลดลงร้อยละ 0.4 จากการลดลงของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.7 โดยสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ไก่สด ไข่ไก่ ผักสด (ผักคะน้า ผักกาดขาวลุ้ย ผักชี ผักบุ้งจีน แตงกวา ถั่วฝักยาว บวบ เห็ด ต้นหอม และหัวผัก กาดขาด) และผลไม้สด (ส้มเขียวหวาน มะละกอสุก สับปะรด และแตงโม) รวมทั้งดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.1 โดยสินค้าและบริการสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศปี พ.ศ. 2547 เท่ากับ 105.0 เทียบกับเดือนตุลาคม 2547 สูง ขึ้นร้อยละ 0.1 เดือนพฤศจิกายน 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.6 และเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2547 เทียบกับ ช่วงเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3651 | การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองปลอดภาษี | นร | 07/12/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3
มิถุนายน 2546 มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องถึงความเหมาะสมแนวทางปฏิบัติ และความ เป็นไปได้ที่จะกำหนดให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั้น เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวมี ความชัดเจนและสอดคล้องกับการแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยวในปัจจุบัน ให้ กระทรวงการคลังประมวลข้อมูลจากการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ตลอดจนผลการศึกษา ที่มีอยู่แล้วในอดีต รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของการลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยชนิดต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่ง ขันกับเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นต้น แล้วหารือร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อยุติ แล้วรายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3652 | การเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลกตั้งแต่ปี 2548 | พณ | 30/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการเปิดตลาด สินค้าเกษตร 22 รายการ (ใบยาสูบอีก 1 รายการ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง) ตาม ข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป ตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมาในช่วงปี 2539-2547 โดยให้เป็นไปตามประการกระทรวงพาณิชย์ 4 ฉบับเดิมคือ ฉบับที่ 111 ฉบับที่ 115 ฉบับที่ 117 และฉบับที่ 143 การกำหนดปริมาณโควตา อัตราภาษีในและนอกโควตาตามข้อผูกพันการเปิดตลาด ในปี 2547 ภายใต้ความตกลงองค์การการค้าโลกรอบอุรุกวัยไปก่อน และเมื่อมีข้อผูกพันการเปิดตลาดภาย ใต้ข้อตกลงรอบโดฮา แล้วให้ใช้เป็นฐานในการเปิดตลาดต่อไป สินค้ารายการใดจำเป็นต้องเปิดตลาด โดยมี ปริมาณในโควตาอัตราภาษีใน และนอกโควตาแตกต่างจากที่กำหนด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ ความเห็นชอบทุกรายการสินค้าเป็นแต่ละครั้งไป และให้กระทรวงพาณิชย์ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ หรือ ระเบียบบริหารการนำเข้าได้ตามความเหมาะสม โดยประสานกับหน่วยงานหรือคณะกรรมการนโยบายที่ เกี่ยวข้องของแต่ละสินค้า และให้กระทรวงการคลังประกาศกำหนดอัตราภาษีขาเข้าทั้งในและนอกโควตา ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ประกาศกำหนด อัตราอากรในโควตาเท่ากับอัตราเก็บจริงเพื่อให้นโยบายอัตราอากรขาเข้ามีความแน่นอน ทั้งนี้ หากมีการ เปลี่ยนแปลงอัตราภาษีในภายหลังกระทรวงการคลังจะออกประกาศแก้ไขตามมติคณะรัฐมนตรีเป็นกรณีๆ ไป และความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงนโยบายการ ค้าระหว่างประเทศที่รัฐบาลมีต่อประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ภายใต้นโยบาย one way free trade กับกัมพูชา ลาว และพม่า
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3653 | การดำเนินงานแก้ไขปัญหาการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน และการจัดการของเสียจากเรือ | ทส | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.2 (ฝ่าย การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติเกี่ยวกับการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการเคลื่อนย้าย ของเสียอันตรายข้ามแดนและการจัดการของเสียจากเรือ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องพัฒนาระบบประกันภัย และหลักประกันทางการเงินอื่นที่ให้ความคุ้มครองเสียหายที่เกิดจากการขน ส่งเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน เพื่อรองรับการดำเนินงานเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดนตาม อนุสัญญาบาเซล และให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ตรวจสอบการขนส่งของเสียบริเวณหน้าด่านขา เข้าและขาออกตามชายแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจมีการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายโดย การขนส่งทางบกผ่านจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยให้เกิดความรัดกุมยิ่งขึ้น และให้กระทรวงคมนาคม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการ ป้องกันมลพิษจากเรือ ค.ศ. 1973 และพิธีสาร ค.ศ. 1978 (MARPOL 73/78) ด้านเทคนิควิชาการ ระบบ รองรับการจัดการของเสียจากเรือ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามข้อกำหนด รวมทั้งให้กระทรวงคมนาคมอาศัย อำนาจตามความในพระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดระเบียบ ข้อปฏิบัติ หรือหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อป้องกันมลพิษและลดปัญหามลพิษทางน้ำจากเรืออื่น ๆ ที่ไม่เข้าข่าย ตามหลักเกณฑ์การควบคุมของอนุสัญญา MARPOL 73/78
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3654 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2547 (1 - 5 พฤศจิกายน 2547) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2547 สรุปได้ดังนี้ สินค้าที่ราคา สูงขึ้น ได้แก่ ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 70-74 บาท/กก. เป็น 74 บาท/กก. เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 18- 25 บาท/กก. เป็น 20-28 บาท/กก. สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาลดลงจาก 53 บาท/ กก. เป็น 51 บาท/กก. น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาลดลงจาก 21.59 บาท/ลิตร และ 22.39 บาท/ลิตร เป็น 21.19 บาท/ลิตร และ 21.99 บาท/ลิตร ไข่ไก่ ราคาลดลงจาก 2.30-2.70 บาท/ฟอง เป็น 2.20-2.50 บาท/ฟอง กล้วยหอม ราคาลดลงจาก 2.50-3 บาท/ผล เป็น 2-2.50 บาท/ผล ผัก คะน้า ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-15 บาท/กก. และผักชี ราคาลดลงจาก 5-7 บาท/ขีด เป็น 5-6 บาท/ขีด สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยน แปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำ ปลา น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย สบู่ และแชมพู เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าตามพระราช บัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 4 ราย และราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคา 1 ราย และตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดมาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3655 | สรุปข้อเท็จจริงกรณีการส่งออกข้าวของบริษัทเอกชนที่ประมูลซื้อข้าวของรัฐบาล (ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2547) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปข้อเท็จจริงกรณีการส่งออกข้าวของ
บริษัทเอกชนที่ประมูลซื้อข้าวของรัฐบาลไม่ได้ส่งออกข้าวจริงตามเงื่อนไขของทางราชการ โดยเห็นว่าไม่น่าจะ กระทำได้ เนื่องจากกระบวนการส่งออกข้าวต้องดำเนินการผ่านหลายหน่วยงาน และในแต่ละหน่วยงานมีขั้น ตอนในทางปฏิบัติที่รัดกุม ทั้งในแง่ของข้อมูลเอกสารที่ใช้ประกอบการส่งออก การตรวจสอบคุณภาพและ ปริมาณที่ขออนุญาตส่งออก การดำเนินตามขั้นตอนพิธีการส่งออก หลักฐานการโอนเงินค่าสินค้า และการ นำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกมาแสดงต่อองค์การคลังสินค้าภายหลังที่ได้ส่งสินค้าออกไปแล้ว ประกอบกับข้อมูลการส่งออกข้าวของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2547 มีปริมาณ 7,229,409 ตัน ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลของกรมศุลกากรที่มีปริมาณการส่งข้าว 7,272,839 ตัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่มีความผิดปกติในการส่งออกแต่อย่างใด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3656 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงพาณิชย์) (นางสาวชุติมา บุณยประภัศร) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นางสาวชุติมา
บุณยประภัศร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ 10 ชช) สำนักงานปลัด กระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2547 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3657 | ขอแต่งตั้งกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) แทนกรรมการคนเดิม (นายชัชวาล ลางดี) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นายชัชวาล ลางดี เป็นกรรมการใน
คณะกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ แทน นายโสภณ บัวชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3658 | รายงานการส่งออก - นำเข้าสินค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน (1 ต.ค. 46 - 31 - ต.ค. 47) และระหว่างไทยกับอินเดีย (1 ก.ย. 47 - 31 ต.ค. 47) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างไทย
กับจีน และระหว่างไทยกับอินเดีย สรุปได้ดังนี้ การส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับจีน ไทยส่งสินค้าออกไป จีนพิกัด ฯ 01-08 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546-30 กันยายน 2547 ปริมาณ 2,855,869 ตัน มูลค่า 13,102.53 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น ลำไยแห้ง ลำไยสด กุ้งแช่แข็ง และปลาแช่แข็ง ส่วนการนำเข้าในช่วงดังกล่าว ไทยนำเข้าสินค้าจากจีน พิกัด ฯ 01-08 ปริมาณ 273,337 ตัน มูลค่า 6,046.77 ล้านบาท โดยสินค้าที่นำเข้า ได้แก่ แอปเปิ้ลสด ปลาแช่แข็ง แพร์และ ควินส์สด เห็ดแห้ง และแครอท เทอร์นิพสด/แช่เย็น ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546-กันยายน 2547 ไทย เป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีน จำนวน 7,055.76 ล้านบาท เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนไทยยัง คงได้การค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 สำหรับการส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2547 ไทยส่งออกสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการ ปริมาณ 2,814 ตัน มูลค่า 759.17 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออก ได้แก่ โพลิคาร์บอเนต หลอดภาพแคโทดเรย์ของ เครื่องรับโทรทัศน์ อิพอกไซด์เรซิ่น และส่วนประกอบเครื่องเพชรพลอยทำด้วยโลหะมีค่า ในส่วนของการ นำเข้า ไทยนำสินค้าเข้าจากอินเดียในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการ ปริมาณ 4,598 ตัน มูลค่า 120.33 ล้านบาท โดยสินค้าที่นำเข้า ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องเพชรพลอยทำ ด้วยโลหะมีค่า ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปทำด้วยเหล็ก ฯ อะลูมิเนียมออกไซด์นอกจากคอรันดัมประดิษฐ์ และ ของอื่น ๆ ทำด้วยลวดเหล็กหรือลวดเหล็กกล้า ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2547 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุล การค้ากับอินเดีย จำนวน 638.84 ล้านบาท เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ไทยยังคงได้ดุลการ ค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 724 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3659 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า (จำนวน 6 ราย) | พณ | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นางสาวสายพิณ มณีพันธ์ นายศักดา
ธนิตกุล นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ นายสมพร อิศวิลานนท์ นายชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว และนายวินธัย โกตระกูล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3660 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 23/11/2547 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักประสานงานการเมืองเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรม
การประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 63/2547 วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งที่ประชุมได้ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 4 ครั้งที่ 32 และครั้งที่ 33 (สมัยสามัญ นิติบัญญัติ) วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2547 และวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2547 และที่รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอเพิ่มเติมว่า กระทู้ถามที่ 483 เรื่อง กรณีการแพร่ระบาดของภาพยนตร์วีซีดี (V.C.D) และดีวีดี (D.V.D) ที่มีลักษณะลามกอนาจาร (นายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามถามนายก รัฐมนตรี) ตามระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2547 นั้น รอง นายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) ได้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ ตอบชี้แจง |