ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 188 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3741 - 3760 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3741 | รายงานผลความคืบหน้าในการจัดตั้งศูนย์ซ่อมและตกแต่งรถยนต์ (Auto Module) ในโครงการไทยแลนด์มาร์เก็ตเพลส (Thailand Market Place : TMP) ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน | พณ | 27/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลความคืบหน้าในการจัดตั้งศูนย์ซ่อม
และตกแต่งรถยนต์ (Auto Module) ในโครงการไทยแลนด์มาร์เก็ตเพลส (Thailand Market Place : TMP) ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารของสมาคมอู่กลางประกันภัย ได้เดินทางไปศึกษาความเหมาะสมและสำรวจ สถานที่จัดตั้ง TMP ในส่วนของศูนย์ซ่อมและตกแต่งรถยนต์ ณ กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2547 จากการสำรวจศูนย์ซ่อมและตกแต่งรถยนต์ในกรุงปักกิ่งจำแนกเป็น 2 ประเภทได้แก่ ศูนย์ ซ่อม ฯ ของบริษัทรถยนต์ และศูนย์ซ่อม ฯ อิสระ โดยศูนย์ซ่อม ฯ ของบริษัทรถยนต์เปิดให้บริการเฉพาะลูก ค้าของตนเองและมีคุณภาพการให้บริการดีกว่าศูนย์ซ่อม ฯ อิสระ จากผลการหารือระหว่างผู้ประกอบการ ของไทย และ Local Partner ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการที่จะร่วมลงทุนพัฒนาและขยายแฟรนไชส์ศูนย์ ซ่อมและตกแต่งรถยนต์ในจีน โดยจะเริ่มดำเนินการจากกรุงปักกิ่งก่อน และขยายต่อไปยังเมืองสำคัญอื่นใน อนาคต ทั้งนี้ ผู้ประกอบการของไทยจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหาแรงงาน ฝีมือและความชำนาญ ส่วน Local Partner จะดูแลด้านการตลาด และมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุง ปักกิ่ง ตรวจสอบกฎระเบียบเกี่ยวกับเงื่อนไขการลงทุนในกิจการดังกล่าวในกรุงปักกิ่ง ข้อมูลค่าจ้างแรงงาน ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และข้อมูลด้านการตลาดอื่น ๆ ก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3742 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 | พณ | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 โดยมีสาระสำคัญคือ ยกเลิกความ ในวรรคหนึ่งของข้อ 5 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พ.ศ. 2546 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "ข้อ 5 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการนโยบาย เศรษฐกิจระหว่างประเทศ" เรียกโดยย่อว่า "กนศ." ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ" และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3743 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมิถุนายน 2547 และระยะ 6 เดือนแรกของปี 2547 | พณ | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคา
ผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมิถุนายน 2547 และระยะ 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 โดยดัชนีราคาผู้ บริโภคทั่วไปเดือนมิถุนายน 2547 เท่ากับ 109.1 เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จาก การสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มซึ่งดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.3 เป็นสำคัญ โดย สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้นได้แก่ น้ำมันเบนซิน และค่าโดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนสินค้าหมวดอาหาร และเครื่องดื่มดัชนีราคาลดลงร้อยละ 0.2 โดยสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวสารเจ้าหอมมะลิ เนื้อสุกร และไก่สด ในขณะที่ราคาผักสด ได้แก่ ผักคะน้า ผักชี ต้นหอม ผักกาดขาว มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ฟักเขียว หัว ผักกาดขาวและขิง ส้มเขียวหวาน มะม่วง แตงโม และทุเรียน มีราคาสูงขึ้น สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ของประเทศระยะ 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 เท่ากับ 108.2 เทียบกับดัชนีราคาเฉลี่ยช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 ซึ่งเท่ากับ 105.8 สูงขึ้นร้อยละ 2.3 โดยสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.9 จากการสูงขึ้นของราคาข้าวสารเจ้าหอมมะลิ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ ปลาและสัตว์น้ำ ผักและผลไม้ สินค้า หมวดอื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.7 จากการสูงขึ้นของราคาค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะ และค่ายารักษาโรค สินค้าและบริการที่ราคาลดลง ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ และสุรา นอกจากนี้ ในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ปี พ.ศ. 2547 (คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 235 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของ ประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และสินค้ากลุ่มพลังงาน จำนวน 91 รายการ ซึ่งคิดเป็นประมาณ ร้อยละ 25 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจากการเปรียบเทียบดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนมิถุนายน 2547 เท่ากับ 104.9 โดยเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2547 ไม่เปลี่ยนแปลง เดือนมิถุนายน 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.5 และเดือนมกราคม-มิถุนายน 2547 เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.3 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3744 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนกรกฎาคม 2547 | พณ | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนกรกฎาคม 2547 โดยภาวะราคาสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร อาหารสด ราคา ส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว ยกเว้น ราคาไข่ไก่ (เบอร์ 3) ที่สูงขึ้นจาก 2.70-2.90 บาท/ฟอง เป็น 2.90-3 บาท /ฟอง ผักสด มีบางชนิดราคาเปลี่ยนแปลง โดยผักที่มีราคาลดลง ได้แก่ ผักคะน้าราคาลดลงจาก 25-30 บาท/กก. เป็น 20-28 บาท/กก. ผักชีราคาลดลงจาก 6-10 บาท/ขีด เป็น 4-10 บาท/ขีด ผักที่มีราคา สูงขึ้น ได้แก่ ผักบุ้งจีนราคาเพิ่มขึ้นจาก 8-18 บาท/กก. เป็น 12-18 บาท/กก. ผลไม้ ส่วนใหญ่มีราคาสูง ขึ้น ได้แก่ เงาะราคาเพิ่มขึ้นจาก 13-18 บาท/กก. เป็น 15-25 บาท/กก. ส้มเขียวหวานราคาเพิ่มขึ้นจาก 22-30 บาท/กก. เป็น 25-32 บาท/กก. และกล้วยหอมทองราคาเพิ่มขึ้นจาก 2.5-3 บาท/ผล เป็น 2.5 -4 บาท/ผล ในส่วนของวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ราคาขายปลีกลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาปูน ซีเมนต์ผสมตราเสือ (ขนาด 50 กก.) ลดลงจาก 115-120 บาท/ถุง เป็น 105-120 บาท/ถุง และราคา ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ตราช้าง (ขนาด 50 กก.) ลดลงจาก 129-130 บาท/ถุง เป็น 125-130 บาท/ ถุง เหล็กและผลิตภัณฑ์ ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเหล็กชนิดเส้นกลม (ขนาด 9 มม.) ราคาลดลงจาก 110 บาท/เส้น เป็น 102 บาท/เส้น และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เช่น เหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45 x15x2.3 มม.) ราคาลดลงจาก 449 บาท/ท่อน เป็น 440 บาท/ท่อน สายไฟฟ้าที่ใช้ในอาคาร (ขนาด 2x1 มม.) ลดลงจาก 460 บาท/ขด เป็น 447 บาท/ขด สำหรับสินค้าหมวดอื่น ๆ ราคาสินค้าเคลื่อน ไหวขึ้น-ลงเล็กน้อยตามภาวะการแข่งขันและการส่งเสริมการขายของห้างสรรพสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา สบู่ แป้งโรยตัว ผ้าอนามัย เป็นต้น ส่วนสถานการณ์ราคาสินค้าในภูมิ ภาค ส่วนใหญ่ปกติและปริมาณเพียงพอกับความต้องการของตลาด มีเพียงบางชนิดมีการเคลื่อนไหวด้าน ราคาเล็กน้อยตามกิจกรรมที่มีการส่งเสริมการขายในพื้นที่ และในส่วนของการตรวจสอบพฤติกรรมการ จำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 รวมทั้ง พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ในเขตกรุงเทพมหานคร พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดง ราคาสินค้าและจำหน่ายไม่ตรงกับราคาที่แสดง จำนวน 8 ราย และภูมิภาค พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้าย แสดงราคาสินค้า จำหน่ายไม่ตรงกับราคาที่แสดง และจำหน่ายก๊าซในปริมาณต่ำกว่าที่แสดงไว้ จำนวน 19 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 26,400 บาท |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3745 | ความคืบหน้ากรณีสหรัฐอเมริกาไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้ากุ้งของไทย | พณ | 20/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้ากรณีสหรัฐอเมริกาไต่สวน
การทุ่มตลาดสินค้ากุ้งของไทย โดยสถานะล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ (DOC) ได้เลื่อนกำหนดการตาม กระบวนการไต่สวนออกไป โดยจะประกาศผลอัตราตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) เบื้องต้น ในวันที่ 28 กรกฎา คม 2547 เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงรายบริษัท ในปลายเดือนสิงหาคม 2548 ประกาศผลอัตรา AD ขั้นสุดท้าย ไม่เกิน 10 ธันวาคม 2547 ประกาศผลการพิสูจน์ความเสียหายขั้นสุดท้าย ปลายเดือนธันวาคม 2547 และประกาศใช้มาตรการ AD อย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม 2547 สำหรับการดำเนินการของ ไทย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้นำคณะเดินทางไปสหรัฐ ฯ เพื่อพบปะกับ DOC เพื่อหารือในเรื่องข้อมูล ต่าง ๆ ที่สหรัฐ ฯ ใช้ในการคำนวณส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด (AD) และขอให้ดำเนินการไต่สวน โดยไม่โน้ม เอียงไปตามข้อเรียกร้องของอุตสาหกรรมภายในสหรัฐ รวมทั้งการเรียกเก็บอากร AD ย้อนหลัง นอกจากนี้ ยังได้หารือกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Council) กระทรวงการ คลังและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) และสมาชิกรัฐสภาของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนฝ่ายไทย โดยได้ยกประเด็น ในเรื่องผลกระทบทั้งต่อไทยและสหรัฐ ฯ จากการใช้มาตรการ AD กับกุ้งไทย และการคัดค้านของสมาคม ผู้ส่งออกเมล็ดและกากถั่วเหลืองของสหรัฐ ฯ ในการไต่สวนกรณีนี้ เนื่องจากไทยเป็นประเทศนำเข้าเมล็ด และกากถั่วเหลืองรายใหญ่ของสหรัฐ ฯ เพื่อใช้ในการเลี้ยงสัตว์ซึ่งรวมถึงการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งหากกุ้งไทยได้รับผล กระทบจากมาตรการ AD ของรัฐสหรัฐ ฯ ก็อาจมีผลให้ผู้นำเข้าไทยหันไปซื้อถั่วเหลือจากประเทศอื่น โดยผู้ แทนของหน่วยงานดังกล่าวได้แสดงความเข้าใจและพร้อมให้การสนับสนุนฝ่ายไทย และแจ้งว่าจะติดตามและ หารือกับ DOC เพื่อให้การไต่สวนเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรมกับฝ่ายไทยมาก ที่สุด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3746 | รายงานความก้าวหน้าการสร้างงานและอาชีพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (วาระสำคัญของรัฐบาล Agenda based) | พณ | 16/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความก้าวหน้าการสร้างงานและอาชีพใน
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 2 ตามกรอบอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย (1) ด้านการ ส่งเสริม และพัฒนาอาชีพ รวมทั้งการสร้างรายได้ อาทิเช่น การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ของทั้ง 3 จังหวัด โดยหมุนเวียนนำสินค้ามาจำหน่ายที่ห้างเทสโก โลตัส และห้างแม็คโคร ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อให้สินค้าของกลุ่มแม่บ้านและกลุ่มผู้ผลิตในท้องถิ่นมีช่องทางการจำหน่ายและสร้างรายได้ กลับสู่ชุมชน (2) ด้านการส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้า ได้เตรียมการเพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจการค้า และโครงการส่งเสริมการประกอบธุรกิจบริการ โดยวางระบบและให้ความรู้เชิงปฏิบัติ การในด้านการบริหารการจัดการ การตลาดแก่ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ และสนับ สนุนอุปกรณ์ตกแต่งร้านและอุปกรณ์ในการทำธุรกิจ (3) ด้านการส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เช่น การส่งเสริมกลุ่มผู้ค้าชายแดนรายใหม่ทำการค้ากับประเทศมาเลเซีย และอำนวยความสะดวกในการออก เอกสารรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อสนับสนุนการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย (4) ด้าน การให้ความคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชน (ด้านราคาปัญหาการขาดแคลนและการกักตุนสินค้า ด้านการ ประกันภัย) ได้ทำการตรวจสอบสถานประกอบการกำกับดูแลราคาสินค้า/บริการ และการชั่งตรงวัด เพื่อดู แลคุ้มครองผู้บริโภคและเกษตรกรในพื้นที่ 3 จังหวัด มิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องราคาและน้ำหนักของ สินค้า ตลอดจนช่วยเหลือและดูแลผลประโยชน์ของประชาชนในเรื่องการประกันภัยและประกันชีวิตโดยเฉพาะ ในเรื่องการไกล่เกลี่ย ประนีประนอมข้อพิพาท การร้องเรียนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม (5) ด้านการ พัฒนาเศรษฐกิจการค้าและพัฒนาตามศักยภาพของจังหวัด อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเบิกเงินงบประมาณ และแผนปฏิบัติการในแต่ละโครงการที่กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ ได้แก่ โครงการจัดตั้งศูนย์รวบรวมและ กระจายสินค้าระดับอำเภอ (60 ล้านบาท) โครงการจัดสร้างห้องเย็นจังหวัดยะลา (5 ล้านบาท) โครงการ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจการค้า (6 ล้านบาท) โครงการส่งเสริมการประกอบธุรกิจบริการ (13 ล้านบาท) และโครงการพัฒนาสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (20 ล้านบาท) นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินการใน ส่วนขงการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ โดยได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาราคาลองกอง ลาดสาด ปี 2547 และ การพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจการค้า ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อมุ่งเน้นการ พัฒนาเศรษฐกิจทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้พลิกฟื้นสถานการณ์กลับสู่ความ เจริญรุ่งเรืองได้เร็วที่สุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3747 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนมิถุนายน 2547 | พณ | 06/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนมิถุนายน 2547 ระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2547 สรุปได้ดังนี้ ภาวะราคา สินค้าในเขตกรุงเทพมหานครมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงด้านราคาเพียงเล็กน้อย ดังนี้ หมวดอาหารสด /ผักและผลไม้ ได้แก่ สุกรชำแหละ ราคาลดลงจาก 90-95 บาท/กก. เป็น 85-92 บาท/กก. ผักสด ผัก คะน้า ลดลงจาก 25-40 บาท/กก. เป็น 25-30 บาท/กก. ผักบุ้งจีน ราคาลดลงจาก 6-10 บาท/กก. เป็น 6-8 บาท/กก. ยกเว้นผักชี ราคาเพิ่มขึ้นจาก 9-11 บาท/ขีด เป็น 9-13 บาท/ขีด ผลไม้ เงาะ ราคา เพิ่มขึ้นจาก 10-13 บาท/กก. เป็น 12-13 บาท/กก. ส้มเขียวหวาน ราคาเพิ่มขึ้นจาก 20-22 บาท/กก. เป็น 20-25 บาท/กก. หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันเบน ซิน ได้ปรับเพดานราคาน้ำมันขายปลีกสูงขึ้นลิตรละ 60 สตางค์ โดยราคาน้ำมันเบนซิน 91 และเบนซิน 95 ปรับเพิ่มจาก 17.39 บาท/ลิตร และ 18.19 บาท/ลิตร เป็น 17.99 บาท/ลิตร และ 18.79 บาท/ ลิตร ตามลำดับ และเม็ดพลาสติก ราคาเพิ่มขึ้นจาก 40 บาท/กก. เป็น 41 บาท/กก. เหล็กและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เหล็กเส้น (ขนาด 9 มม.) ราคาลดลงจาก 96-110 บาท/เส้น เป็น 91-110 บาท/เส้น และเหล็ก รูปพรรณ (ชนิดเหล็กฉาก ขนาด 40x40x3 มม./6 ม.) ราคาลดลงจาก 230-245 บาท/ท่อน เป็น 225 -245 บาท/ท่อน ผลิตภัณฑ์ปัจจัยการเกษตร ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ราคา 480 บาท/กระสอบ เพิ่มเป็น 485 บาท/กระสอบ และอาหารสัตว์ ราคา 364 บาท/ถุง เพิ่มเป็น 377 บาท/ถุง สำหรับภาวะราคาสินค้าใน ภูมิภาค ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว ยกเว้นปุ๋ยเคมีได้ปรับตัวสูงขึ้นในบางจังหวัดตามราคาโรงงาน ที่ปรับสูงขึ้น และในส่วนของการตรวจสอบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตามพระราช บัญญํติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ใน เขตกรุงเทพมหานคร พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 3 ราย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3748 | มาตรการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค (เพิ่มเติม) | พณ | 06/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
(เพิ่มเติม) ดังนี้ (1) มาตรการกฎหมาย ได้แก่ ปรับเพิ่มรายการสินค้าและบริการควบคุม ปรับเพิ่มมาตรการ กำกับดูแล เข้มงวดการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย ขยายเวลาการเพิ่มโทษปรับเป็น 2 เท่า ป้องกันการค้า กำไรเกินควรและปฏิเสธการจำหน่าย (2) มาตรการตรวจสอบ (ดำเนินการทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิ ภาค) ได้แก่ ตรวจสอบพฤติกรรมและราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัดและสินค้าหีบห่อ ตรวจสอบพิเศษโดยหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (3) มาตรการบริหารจัดการสินค้า ได้แก่ เพิ่มรายการสินค้าที่ติดตาม ดูแล ปรับระบบการพิจารณาราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุน จัดระบบการแก้ไขปัญหาราคาสินค้า (4) มาตรการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ แจ้งสิทธิ-ปัญหาที่ผู้ซื้อได้รับไปที่สายด่วนกรมการค้าภาย ใน 1569 ในกรุงเทพมหานครหรือศูนย์บริการประชาชน (Call Center) ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัด ทุกจังหวัด และสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และ (5) มาตรการช่วยบรรเทาค่าครอง ชีพ ได้แก่ จัดโครงการมุมธงฟ้า-ราคาประหยัด จัดโครงการธงฟ้า-ราคาประหยัดเคลื่อนที่ ให้ร้านอาหารธง ฟ้าและห้างสรรพสินค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและภูมิภาคให้จำหน่ายอาหารใน Food Center ในราคาเท่า เดิม และเพิ่มปริมาณผักสดเข้าสู่ตลาด |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3749 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนมิถุนายน 2547 | พณ | 06/07/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนมิถุนายน 2547 (21-25 มิถุนายน 2547) โดยภาวะราคาสินค้าหมวดอาหารสด /ผักและผลไม้ ในเขตกรุงเทพมหานคร ราคาอาหารสดส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้นราคาสุกรชำแหละลดลงต่อ เนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาลดลงจาก 85 - 92 บาท/กก. เป็น 85 - 90 บาท/กก. ราคาผักสดหลาย ชนิดทรงตัวหลังจากที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ยกเว้นผักบางชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านราคา เช่น ผักชี ผักบุ้งจีน เป็นต้น ราคาผลไม้หลายชนิดสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อระหว่างผลผลิตรุ่นใหม่และเก่า ซึ่ง ปกติจะมีปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดลดลง ส่วนหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เม็ด พลาสติกมีการเปลี่ยนแปลงราคาสูงขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เหล็กและ ผลิตภัณฑ์ มีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ราคาเหล็กรูปพรรณชนิดรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม.) ราคาลดลงจาก 440-449 บาท/ท่อน เป็น 430-449 บาท/ท่อน เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ปัจจัยการเกษตร ปุ๋ย เคมีสูตร 16-20-0 ราคาเพิ่มขึ้นจาก 420 บาท/ถุง เป็น 440 บาท/ถุง และสูตร 15-15-15 ราคาเพิ่ม ขึ้นจาก 485 บาท/ถุง เป็น 520 บาท/ถุง สำหรับสถานการณ์สินค้าในภูมิภาค ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้น ปุ๋ยเคมีได้ปรับตัวสูงขึ้นในบางจังหวัด ตามราคาโรงงานที่ปรับสูงขึ้น ในส่วนของการตรวจสอบพฤติ กรรมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ในเขตกรุงเทพมหานคร พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดง ราคาสินค้าและจำหน่ายไม่ตรงกับราคาที่แสดง จำนวน 5 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 5,200 บาท ภูมิภาค พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า จำนวน 2 ราย ได้ลงโทษปรับรวมเป็นเงิน 2,400 บาท |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3750 | รายงานความก้าวหน้าการสร้างงานและอาชีพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | พณ | 22/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานภาพรวมความก้าวหน้าการสร้างงาน
และอาชีพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำเดือนพฤษภาคม 2547 ตามกรอบอำนาจหน้าที่ของกระทรวง พาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วย ด้านการส่งเสริม และพัฒนาอาชีพ รวมทั้งการสร้างรายได้ ด้านการส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจการค้า ด้านการส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านการให้ความคุ้มครองผู้บริโภคและ ประชาชน (ด้านราคา ปัญหาการขาดแคลนและการกักตุนสินค้า ด้านการประกันภัย) ด้านการพัฒนา เศรษฐกิจการค้าและพัฒนาตามศักยภาพของจังหวัด รวมถึงบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3751 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมิถุนายน 2547 | พณ | 22/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมิถุนายน 2547 (7-11 มิถุนายน 2547) เปรียบเทียบกับสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน มิถุนายน 2547 (1-4 มิถุนายน 2547) สรุปได้ดังนี้ ภาวะราคาสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร หมวดผัก สดและผลไม้ ราคาผักหลายชนิดทรงตัวหลังจากที่ปรับสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อน ยกเว้นผักบุ้งจีนที่ราคาลดลง จาก 12-18 บาท/กก. เป็น 6-10 บาท/กก. และผักชีราคาลดลงจาก 10-18 บาท/ขีด เป็น 9-11 บาท /ขีด ราคาผลไม้หลายชนิดทรงตัว หลังจากลดลงเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเพียงมะนาวที่ราคายังคงลดลงอย่าง ต่อเนื่องจาก 1.50-2.50 บาท/ผล เป็น 1-2 บาท/ผล ส่วนหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ปิโตรเลียม สินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาสูงขึ้น ได้แก่ น้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นการปรับตามราคาตลาด โลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์เหล็ก ส่วนใหญ่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นเหล็กรูปพรรณที่ลด ลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน จากเดิมราคา 1,140-1,260 บาท/ท่อน เป็น 1,124-1,170 บาท/ท่อน สำหรับสถานการณ์สินค้าในภูมิภาค ส่วนใหญ่ราคายังคงทรงตัว ยกเว้นปุ๋ยเคมี ได้ปรับตัวสูงขึ้นในบาง จังหวัดตามราคาโรงงานที่ปรับสูงขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2547 ในส่วนของการตรวจสอบพฤติกรรมการ จำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และพระ ราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 มีจำนวนทั้งสิ้น 16,967 ราย โดยในเขตกรุงเทพมหานคร พบผู้ กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 9 ราย และปริมาณสินค้าไม่ถูกต้อง 1 ราย ภูมิภาค พบผู้กระทำผิด ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 14 ราย และปริมาณสินค้าไม่ถูกต้อง 1 ราย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3752 | ขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโรคระบาดสัตว์ปีก | กษ | 22/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการจัดสรรงบประมาณเพิ่ม
เติมเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโรคระบาดสัตว์ปีก จำนวน 2,824 ล้านบาท และ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือและชดเชยให้กับเกษตรกรดังกล่าวโดยเร็ว และให้ กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการจ่ายเงินให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามข้อเท็จจริงด้วย โดยเบิกจ่าย ดังนี้ เงินจำนวน 500,000,000 บาท เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ สำหรับเงินส่วนที่เหลือ จำนวน 2,324,000,000 บาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานขอยืมจากเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร หากยังไม่เพียงพอก็ให้ขอยืมจากเงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณดำเนินการตั้งงบ ประมาณชดใช้เงินยืมให้แก่กองทุนดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสม ในการนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่ม เติมว่า การให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งปัญหาโรคระบาดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงควรพิจารณา กำหนดมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาไว้ให้พร้อมเป็นการล่วงหน้า กับให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาร่วมกับ กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงความเหมาะสมและจำเป็นในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการ ส่งออก (premium) ผลิตภัณฑ์ไก่ต้มสุก เพื่อชดเชยภาระของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร รวมทั้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ควรส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ต้มสุก ให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาและความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคระบาด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3753 | การขออนุมัติโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร | มท | 22/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการพัฒนาระบบบริหารและ เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย ให้รับความเห็นของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการ ด้วย โดยในส่วนของคณะรัฐมนตรีมีความเห็นว่า การจัดตั้งสถาบันหรือศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิงและบรร เทาสาธารณภัย หรือโรงเรียนดับเพลิงที่จะจัดตั้งขึ้น ให้เป็นหน่วยงานในสังกัดของกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ให้กรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมในการพิจารณาดำเนินการตั้งแต่ต้น เพื่อ ให้การจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวสามารถรองรับภารกิจของกรุงเทพมหานครในฐานะที่จะเป็นผู้ใช้บริการจาก หน่วยงานดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ได้ ทั้งนี้ การขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลออสเตรีย โดยการจัดทำการ ค้าต่างตอบแทน (Counter Trade) ให้ขอรับความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยในส่วนของอาคาร หาก จำเป็นต้องดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมจากที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีอยู่แล้ว ให้แยกออกจาก การขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลออสเตรีย และให้ดำเนินการโดยใช้งบจากเงินงบประมาณของฝ่ายไทย เอง สำหรับวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ และที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ภายใต้การดำเนินการโครงการนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร และกรมป้องกันและบรร เทาสาธารณภัย และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมกันสำรวจตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่อง ความจำเป็นและจำนวนที่จะต้องจัดหาให้ชัดเจน และถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในส่วนที่ฝ่ายไทยมีอยู่แล้ว และ ส่วนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยให้นำเข้าเฉพาะส่วนที่จำเป็นและที่ไม่มีหรือที่ไม่สามารถผลิตได้เองใน ประเทศเท่านั้น และให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ คณะ กรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสัดส่วน และจำนวนเงินอุดหนุนของรัฐบาลต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการดังกล่าว ซึ่งจะต้องผูกพันงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2553 ให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการการทำการค้าต่างตอบแทน (Counter Trade) กับรัฐบาลออสเตรีย สำหรับโครงการ ฯ โดยประสานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2546 เรื่อง การดำเนินการถ่ายโอนภารกิจของกองบังคับการตำรวจ ดับเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จครบถ้วน โดย เร็ว โดยในส่วนของวัสดุ อุปกรณ์ และยานพาหนะบางส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงเก็บไว้ใช้ในภาร กิจการป้องกันและระงับอัคคีภัย ให้โอนไปให้กรุงเทพมหานครทั้งหมด และให้กรุงเทพมหานครเป็นหน่วย งานรับผิดชอบภารกิจการป้องกันและระงับอัคคีภัยในกรุงเทพมหานครเพียงหน่วยงานเดียว และมอบให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประสานและติดตามการดำเนินการให้เรียบร้อยและแล้วเสร็จโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3754 | การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา | นร | 22/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รอง
นายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) เป็นผู้รับผิดชอบในการกำกับ ติดตาม ดูแลการแก้ไข ปัญหาการจราจรและปัญหาสังคมในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล รวมทั้งการแก้ไขปัญหาสังคมเมืองที่เกิด ขึ้น อาทิ ปัญหาการค้ามนุษย์และการค้าผู้หญิง เป็นต้น นั้น โดยที่ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นอีกปัญหาหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับปัญหาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อันจะส่ง ผลกระทบต่อการได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากร (GSP) ในการส่งสินค้าของไทยเข้าไปจำหน่ายในประเทศ ต่าง ๆ และต่อการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับต่างประเทศ จึงขอมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์ ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ด้วย โดยให้รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ (นายยรรยง พวงราช) และพลตำรวจโท ธวัชชัย ภัยลี้ ตลอดจน หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวต่อไป และให้ กระทรวงพาณิชย์ให้ความร่วมมือกับผู้รับผิดชอบอย่างเต็มที่ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3755 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนมิถุนายน 2547 | พณ | 15/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 1 เดือนมิถุนายน 2547 โดยในเขตกรุงเทพมหานคร ผักสดหลายชนิดยังมีราคาสูงขึ้น แต่เริ่มชะลอตัว ลงจากเดิม เนื่องจากผลผลิตได้รับความเสียหายจากภาวะฝนตก ผลไม้หลายชนิดราคาลดลง เนื่องจากเป็นช่วง ฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก สุกรชำแหละ และไก่สด ราคาลดลงเนื่องจากมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่ม ขึ้นมาก และภาวะการจำหน่ายชะลอตัว ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปัจจัยการเกษตร เม็ดพลาสติก และปุ๋ยเคมี มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุน วัตถุดิบเพิ่มขึ้น ในส่วนของเหล็กและผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้นเหล็กเส้น และตะปู ที่มีราคาลดลง อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มอาหารและ เครื่องดื่มบางชนิดมีราคาเคลื่อนไหวขึ้น-ลงเล็กน้อยตามภาวะการแข่งขัน และการส่งเสริมการขายของห้างสรรพ สินค้า สำหรับสถานการณ์สินค้าในภูมิภาค ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้นอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นในบางจังหวัด ตามราคาโรงงานที่ปรับสูงขึ้น และจากการตรวจสอบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตามพระ ราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 ในเขต กรุงเทพมหานคร พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 18 ราย มาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย ภูมิ ภาค พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 13 ราย เครื่องชั่งไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย สำหรับการดำเนิน การดูแลผู้บริโภค ได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สถานีบริการน้ำมันละเว้นการกระทำที่มีลักษณะเป็นการกัก ตุนหรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รวมทั้งได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันให้เข้มงวดกำกับดูแล สถานีบริการน้ำมันที่อยู่ในความดูแลไม่ให้กักตุนน้ำมันเชื้อเพลิงหรือปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และให้ ร้านอาหารธงฟ้าที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายในทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และภูมิภาค จำหน่ายใน ราคาเท่าเดิม เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคและช่วยดึงราคาจำหน่ายในร้านอาหารทั่วไปไม่ให้ปรับสูงขึ้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3756 | ขออนุมัติจัดทำประกันภัยสถานีตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้น (เสาสูง 100 เมตร) | ทส | 15/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ จัดทำประกันภัยสำหรับสถานีตรวจวัด สภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้น (เสาสูง 100 เมตร) จำนวน 5 สถานี ต่อเนื่องจากเดิมเป็นระยะ เวลา 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2552) และให้กำหนดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับสถานี ตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยมวิทยาระดับผิวพื้นในอัตราสูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท ต่อปี ต่อ 1 สถานี จำนวน 5 สถานี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับ ความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ที่แจ้งว่าอัตราเบี้ยประกันภัยสำหรับสถานีตรวจวัดสภาพอากาศทางอุตุนิยม วิทยาระดับผิวพื้นที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ เป็นอัตรา ฯ ที่ต่ำกว่าอัตรา ฯ ที่กรม การประกันภัยกระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดเป็นมาตรฐานให้ทุกบริษัทถือปฏิบัติ ฉะนั้น หากจะกำหนด ให้อัตรา ฯ ดังกล่าวบริษัทประกันภัยสามารถดำเนินการได้ แต่ทั้งนี้ต้องขอรับความเห็นชอบจากกรมการ ประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ เป็นกรณีพิเศษก่อน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3757 | ขอให้เข้มงวดกวดขันธุรกิจผิดกฎหมาย | นร | 15/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) เสนอเกี่ยวกับการเข้ม
งวดกวดขันธุรกิจผิดกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงว่า ขณะนี้การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย หลายประเภทเริ่มทวีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งบางธุรกิจได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างมาก เช่น การหลอกลวงแรงงาน ไปทำงานต่างประเทศ การลักลอบนำเข้าและค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย การลักลอบนำเข้าและค้าน้ำมันเถื่อน และ การลักขโมยรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพื่อนำข้ามแดนไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานตำรวจ แห่งชาติกวดขันดูแล ป้องกันและปราบปรามเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้ผลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3758 | รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2547 | พณ | 15/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีผู้บริโภคพื้น
ฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2547 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2547 เท่ากับ 108.9 เทียบ กับเดือนเมษายน 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อย ละ 0.3 และดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.5 โดยสินค้าหมวดอาหารและ เครื่องดื่ม สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไข่ไก่ ผักสด อาหารสำเร็จรูป สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ เนื้อสัตว์ และผลไม้สด ส่วนสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ก๊าซ หุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง การศึกษา ส่วนสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ค่าโดยสารสาธารณะ สำหรับดัชนีราคา ผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศปี พ.ศ. 2547 (คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 235 รายการ) คือ ดัชนี ราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และสินค้ากลุ่มพลังงาน จำนวน 91 ราย การ ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนพฤษภาคม 2547 เท่ากับ 104.9 เทียบกับเดือนเมษายน 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.3 เดือนพฤษภาคม 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.5 และเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2547 เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.2 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3759 | การตรวจพิสูจน์สารปนเปื้อน (สารแคดเมี่ยม) | นร | 08/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่มีข่าวว่าข้าวที่ปลูกในท้องที่บ้านพะเต๊ะ
และหมู่บ้านแม่ตาวใหม่ ตำบลพระธาตุผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปนเปื้อนสารแคดเมี่ยม (cadmium) ซึ่งเป็นสารเคมีอันตราย เป็นผลมาจากการดำเนินกิจการเหมืองของบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) และบริษัท ตากไมร์นิ่ง จำกัด ซึ่งทางบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) พร้อมจะให้ความร่วมมือแก่ทาง ราชการในการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากตรวจพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากความบก พร่องของบริษัท ฯ บริษัท ฯ จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ข้าวที่เพาะปลูกในเขตพื้นที่ดังกล่าว หากพบว่ามีสารปนเปื้อนจริง ก็จะต้องดำเนินการควบคุมดูแลมิให้มีการจำหน่ายออกสู่ตลาด เพราะจะทำให้ผู้ บริโภคข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศที่เป็นลูกค้าของไทยเกิดความหวาดระแวงและขาดความเชื่อมั่นใน คุณภาพของข้าวไทย จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับเป็นเจ้าภาพหลักในการประสาน และแก้ไขปัญหานี้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง มหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดความชัดเจนและเป็นที่ยุติโดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3760 | สรุปภาวะราคาสินค้า | พณ | 08/06/2547 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าประจำสัปดาห์ที่
3 เดือนพฤษภาคม 2547 ดังนี้ ความเคลื่อนไหวราคาสินค้าในเขตกรุงเทพมหานคร หมวดอาหารสดและผล ไม้ ราคาเนื้อสุกรชำแหละ และเงาะ มีราคาลดลง หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง ยางรถยนต์ มีราคาสูงขึ้น หมวดวัสดุ ก่อสร้าง สังกะสี มีราคาสูงขึ้น ส่วนเหล็กเส้น, เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ราคาลดลง และหมวดปัจจัยการ เกษตร ปุ๋ยเคมี มีราคาสูงขึ้น สำหรับความเคลื่อนไหวราคาสินค้าในภูมิภาค ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ยกเว้น หมวดปัจจัยการเกษตร ได้แก่ อาหารสัตว์ ที่มีราคาสูงขึ้น ด้านการตรวจสอบพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้า ของผู้ประกอบการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติมาตรา ชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 จำนวนทั้งสิ้น 23,190 ราย แยกเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 993 รายการ พบผู้ กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 2 ราย ภูมิภาค จำนวน 22,197 ราย พบผู้กระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดง ราคาสินค้า 6 ราย มาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย และน้ำหนักบรรจุหีบห่อไม่ถูกต้อง 4 ราย สำหรับ การช่วยบรรเทาค่าครองชีพได้จัดจัดหน่ายเนื้อสุกร-เนื้อไก่ ไข่ไก่และกุ้ง...ธงฟ้า ที่ตลาด อ.ต.ก. และที่ชุมชน ตลอดจนบริเวณหน้าสถานที่ทำการ อาทิเช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวง พาณิชย์ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้บริโภค รวมทั้งจัดงาน Thai Fruit Paradise ระหว่างวันที่ 14-31 พฤษภาคม 2547 ณ สนามบินดอนเมือง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและเป็นการเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายผล ไม้ในตลาดต่างประเทศ |