รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 190 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3781 - 3800 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
3781
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม 2547 และระยะ 3 เดือนแรกของปี 2547
พณ
20/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม 2547 และระยะ 3 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 โดย
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนมีนาคม 2547 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.2
จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.6 เป็นสำคัญ โดยสินค้า
สำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้าหอมมะลิ เนื้อสัตว์ ไก่สด ปลาและสัตว์น้ำ สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง
ได้แก่ ผักสด ในขณะที่สินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มดัชนีราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง แต่มี
สินค้าบางชนิดมีราคาเปลี่ยนแปลง ดังนี้ สินค้าและบริการสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม ของใช้ส่วน
บุคคล สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์และสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด ส่วนดัชนีราคา
ผู้บริโภคทั่วไปของประเทศระยะ 3 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 เท่ากับ107.5 เทียบกับดัชนีราคาเฉลี่ยช่วงเดียว
กันของปี พ.ศ. 2546 ซึ่งเท่ากับ 105.5 สูงขึ้นร้อยละ 1.9 โดยสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ดัชนีราคาสูง
ขึ้นร้อยละ 4.8 จากการสูงขึ้นของราคาข้าวสารเจ้าหอมมะลิ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ ปลาและสัตวน้ำ ผักและ
ผลไม้ สินค้าหมวดอื่นๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม ดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการสูงขึ้นของราคาค่า
กระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าตรวจรักษา และค่ายารักษาโรค สินค้าและ
บริการที่ราคาลดลง ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ และสุรา สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้น
ฐานของประเทศปี พ.ศ. 2547 (คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 235 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค
ทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และสินค้ากลุ่มพลังงาน จำนวน 91 รายการ ซึ่งคิดเป็น
ประมาณร้อยละ 25 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมีนาคม
2547 เท่ากับ 104.6 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ไม่เปลี่ยนแปลง เดือนมีนาคม 2546 สูงขึ้นร้อยละ
0.2 และเดือนมกราคม-มีนาคม 2547 เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.1
3782
การแก้ไขปัญหาราคาอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ
พณ
20/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาราคาอ้อยและ
น้ำตาลทรายทั้งระบบเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว ข้อ 1.2 (8) "การพัฒนาตลาดส่งออกให้มีการ
ขายให้กับผู้ซื้อโดยตรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อขายในลักษณะรัฐต่อรัฐ เพื่อลดการพึ่งพาการซื้อขาย
ผ่านพ่อค้าคนกลาง" ซึ่งมีความคืบหน้าดังนี้ ได้มีการประสานกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศหลาย
ประเทศเพื่อขอทราบช่องทางการจำหน่ายน้ำตาลโดยตรง รวมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาการซื้อขายน้ำตาล
โดยตรงกับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งในคราวประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ครั้งที่
1/2547 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2547 ได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะทำงาน ฯ เสนอแนวทางและเงื่อนไขการซื้อ
ขายน้ำตาลโดยตรงกับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อเป็นการชดเชยในกรณีที่ประเทศดังกล่าวขอชะลอ
การลดภาษีน้ำตาลภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) และจากผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรม
การอ้อยและน้ำตาลทราย ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการตามมติดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากปีนี้ฟิลิปปินส์มีผล
ผลิตน้ำตาลภายในประเทศเพียงพอ จึงไม่จำเป็นต้องมีการนำเข้า นอกจากนี้ จากผลการหารือทวิภาคีระหว่าง
นายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีพาณิชย์ฟิลิปปินส์ ในคราวประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อวันที่ 6 - 8 ตุลาคม 2546
ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์แจ้งว่าอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นการนำเข้าข้าวแทน
3783
ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 1
พณ
20/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการ
ค้าไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่โรมแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยจัดการประชุมดังกล่าว และมอบหมายให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมไปปฏิบัติเพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรม โดยสาระสำคัญของการประชุม ฯ
ได้มีการพิจารณาเรื่อง การค้าระหว่างไทยกับกัมพูชาซึ่งยังมีมูลค่าค่อนข้างต่ำ โดยในปี พ.ศ. 2546 อยู่ที่
531.9 ล้านบาท และในปี พ.ศ. 2547 อยู่ที่ 727.6 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.79 โดยไทยเป็นฝ่ายได้
เปรียบดุลการค้าเกือบทั้งหมด และฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้ไทยเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากกัมพูชามากขึ้น สำหรับ
ข้อหารือในความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นและข้อตกลงในเรื่องต่าง ๆ
ได้แก่ การดำเนินการค้าแบบหักบัญชี การรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากกัมพูชา 8 รายการ ได้แก่ ถั่ว
เหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เม็ดละหุ่ง มันฝรั่ง ข้าวโพดหวาน เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ยูคาลิปตัส และถัวลิสง
ตามนโยบาย One Way Free Trade การให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ASEAN Integration System of
Preferences : AISP) แก่กัมพูชาจาก 48 รายการ เป็น 310 รายการ การจัดตั้งคณะทำงานร่วม ฯ เร่ง
พิจารณาการจัดตั้ง One Stop Service ณ ด่านชายแดน การสนับสนุนภาคเอกชนกัมพูชาเข้าร่วมงานแสดง
สินค้านานาชาติในประเทศไทย การขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่กัมพูชาต่อไปอีก 3
ปี (ปี พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2549) การเร่งดำเนินการเพื่อให้มีการลงนามความตกลงการค้าชายแดนไทย-กัม
พูชา ภายในปี พ.ศ. 2547 นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบให้เร่งรัดการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อจัดทำแผน
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-กัมพูชา เพื่อดำเนินโครงการภายใต้ Thailand-Cambodia Joint Develop
ment Study และ ECS รวมทั้งฝ่ายกัมพูชาได้ขอบคุณไทยที่ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ ในการจ้าง
บริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งตลาดกลางค้าส่ง/ส่งออกในกัมพูชา และการจัดตั้งเขต
นิคมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ในการนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการร่วม
ไทย-กัมพูชาระหว่างคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และสมาคมธนาคารไทยกับหอการค้ากัมพูชา และได้มีการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเข้า-ออกผ่าน
แดน ณ จุดผ่านแดนถาวรคลองลึก-ปอยเปต โดยกัมพูชาได้ขอให้ฝ่ายไทยแยกช่องการตรวจลงตรารับ
รองหนังสือเดินทางเป็นการเฉพาะสำหรับคนไทยต่างหากจากชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติอื่นๆ เพื่ออำนวย
ความสะดวกและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน
3784
การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคณะกรรมการแก้ไขปัญหาค้าส่งค้าปลีกไทย
พณ
20/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคณะกรรมการ
แก้ไขปัญหาค้าส่งค้าปลีกไทย ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ) เป็นประธานกรรม
การ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทน
กระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม
ผู้แทนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกรรมการ โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็น
กรรมการและเลขานุการ โดยมีอำนาจหน้าที่คงเดิม
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (5596/2547)
2
ยืนยันมติ (5597/2547)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (1483/2547)
3785
รายงานการจัดสรรงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (วันที่ 16 เมษายน 2547)
นร
20/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานการจัดสรรงบประมาณของส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ณ วันที่ 16 เมษายน 2547 โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้ส่วนราช
การและรัฐวิสาหกิจ จำนวนทั้งสิ้น 971,893.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94.5 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน
1,028,000.0 ล้านบาท โดยการจัดสรรงบประมาณสำหรับรายจ่ายลงทุน มีจำนวน 162,668.5 ล้านบาท
หรือร้อยละ 73.4 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ มีจำนวน 809,225.3 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 100.3 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ ทั้งนี้ จากการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเมื่อเทียบกับวงเงิน
จำแนกตามงบรายจ่ายพบว่างบบุคลากรและงบเงินอุดหนุนมีการจัดสรรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจแล้วเกิน
กว่าจำนวนวงเงินงบประมาณที่ได้รับ จำนวนร้อยละ 0.2 และร้อยละ 0.5 ตามลำดับ เนื่องจากมีการโอนงบ
กลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จากงบราย
จ่ายอื่นไปตั้งจ่ายในงบบุคลากร รวมทั้งงบเงินอุดหนุน เพื่อให้เป็นไปตามลักษณะการเบิกจ่ายงบประมาณจริง
สำหรับงบรายจ่ายที่มีการจัดสรรให้ต่ำสุด ได้แก่ งบลงทุนและงบรายจ่ายอื่น จัดสรรให้ร้อยละ 79.8 และร้อย
ละ 88.1 ตามลำดับ โดยในระดับกระทรวง กระทรวงที่มีการจัดสรรงบประมาณสูงสุด ได้แก่ กระทรวงแรงงาน
กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามลำดับ ส่วนในระดับกรม กรมที่มีการจัดสรร
งบประมาณสูงสุดเต็มตามจำนวนวงเงินงบประมาณที่ได้รับ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิ
การ หน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานใน
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง หน่วยงานในสังกัด
กระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ หน่วยงานใน
สังกัดกระทรวงยุติธรรม และรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
3786
ทบทวนการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชา ลาว และพม่า ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
พณ
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าข้าว
โพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชา ลาว และพม่า ตามมติคณะกรรมการนโยบายอาหาร ซึ่งเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรม
การกำกับดูแลวัตถุดิบอาหารสัตว์ ปี 2547 เสนอให้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชา ลาว และพม่า ได้เสรี
ไม่จำกัดปริมาณ และช่วงเวลานำเข้า โดยกำหนดให้ผู้นำเข้าทุกรายต้องจดทะเบียนและแจ้งปริมาณการนำเข้า
การใช้หรือจำหน่าย ซึ่งต้องระบุผู้รับซื้อ และสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่นำเข้าเป็นประจำทุกเดือน โดยให้มีผล
บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2547
3787
การเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน
อก
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงพาณิชย์ (นายวัฒนา เมืองสุข) ในฐานะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนของไทย ลงนามในพิธีสารเพื่อแก้ไข
ความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน (Protocol to Amend the Basic
Agreement on the ASEAN Industrial Cooperation Scheme (AICO)) ในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน
อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2547 ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยหากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่
สาระสำคัญในพิธีสาร ฯ ให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ
จัดทำหนังสือมอบอำนาจลงนามในพิธีสาร ฯ ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวัฒนา เมืองสุข) ลง
นาม และจัดทำสัตยาบันสารสำหรับพิธีสารดังกล่าวต่อไป รวมทั้งพิจารณาเร่งรัดให้กระทรวงการคลังดำเนินการ
ออกประกาศการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ AICO โดยด่วน ทั้งนี้ ให้
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีศุลกากรตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด เพื่อให้เป็นไปตาม
ข้อกำหนดในพิธีสารดังกล่าว
3788
ข้อสั่งการเพิ่มเติมของนายกรัฐมนตรีจากการเดินทางไปตรวจราชการต่างจังหวัด (ครั้งที่ 1)
นร
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอข้อสั่งการเพิ่มเติมจากการเดินทางไปตรวจราช
การในต่างจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม - 3 เมษายน 2547 โดยมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยว
ข้องรับไปดำเนินการเพิ่มเติมจากที่ได้สั่งการในระดับพื้นที่ไว้แล้ว ดังนี้ จังหวัดสระบุรี ขอให้กระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอันเกิดจากการระเบิดและย่อยหินทั้งระบบโดยประสานกับ
ผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และมอบให้กระทรวงพาณิชย์รับไปตรวจสอบและควบคุมดูแล
เกี่ยวกับปัญหาการส่งออกปูนซิเมนต์ไปจำหน่ายต่างประเทศในราคาต่ำกว่าที่จำหน่าย ในประเทศให้เกิดความ
เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของผู้บริโภคในประเทศและการส่งออกต่างประเทศ และจังหวัด
ปราจีนบุรี ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับไปพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการก่อสร้างอ่างเก็บ
น้ำห้วยโสมง เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนอีกแห่งหนึ่ง นอกเหนือจากการดำเนินการขุดลอกคลองระพีพัฒน์
แล้วรายงานผลให้นายกรัฐมนตรีทราบ รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาวางแผนการดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พืชสมุนไพร
และผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรให้เป็นระบบ ครบวงจร นับตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิต และการตลาด เพื่อให้
เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้รับประโยชน์อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และเกิดการพัฒนา
การใช้พืชสมุนไพรที่แพร่หลายกว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้กระทรวงวัฒนธรรม (กรมศิลปากร) รับไป
พิจารณาดำเนินการบูรณะและอนุรักษ์อาคารเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ ซึ่งเป็นอาคารโบราณสถาปัตยกรรมการ
ก่อสร้างที่สวยงาม หากมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้นอกเหนือจากงบประมาณปกติ ก็
ให้รีบนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
3789
รายงานการพิจารณาศึกษาและติดตามการแก้ไขฟื้นฟูวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ
สว
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอรายงานผลการพิจารณาศึกษา
และติดตามการแก้ไขฟื้นฟูวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และ
อุตสาหกรรม วุฒิสภา โดยผลการศึกษาจากการศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
ของไทยในช่วงปี พ.ศ. 2544-พ.ศ. 2545 ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น อัตราการขยายตัวของ GDP ดัชนี
การบริโภค ดัชนีการลงทุน และยอดสินเชื่อทั้งเพื่อการบริโภค และการลงทุน ต่างปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่แรงกดดันด้านการไหลออกของเงินทุนลดลง และค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณ
ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน รวมทั้งมีข้อสังเกตกรณีคณะอนุกรรมาธิการ ฯ ได้พิจารณาปัญหาที่เกิด
ขึ้นและสรุปข้อคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ประเด็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประเด็นการขยาย
ตัวของเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ประเด็นการแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และสินเชื่อของธนาคาร และ
ประเด็นด้านเสถียรภาพในการส่งออก ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ
กิจและสังคมแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอ
คณะรัฐมนตรีต่อไป
3790
รายงานผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร
พณ
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินงานของโครงการการประกัน
ภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร โดยนับจากวันเปิดโครงการเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2546 ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2547 มีผู้
ทำประกันภัยจำนวน 432,620 ราย มีการแจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตจำนวน 177 ราย ซึ่งโครงการได้จ่ายค่าทดแทน
ให้ทายาทของผู้เอาประกันภัยแล้วจำนวน 137 ราย และอยู่ระหว่างการรอเอกสารจากทายาทของผู้เอาประกัน
ภัยจำนวน 31 ราย ส่วนที่เหลือ 9 ราย ไม่เข้าข่ายได้รับความคุ้มครองเนื่องจากเสียชีวิตก่อนที่ความคุ้มครองจะ
เริ่มมีผลบังคับในการนี้โครงการได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้เอาประกันภัยซึ่งจากเดิมให้ความคุ้มครองเฉพาะการเสีย
ชีวิตจากอุบัติเหตุ และการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ ในจำนวนเงินเอาประกัน 300,000 บาท เบี้ย
ประกันภัย 365 บาท โดยได้จัดให้มีการขายความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับค่าปลงศพจากการเจ็บป่วยสำหรับ
ผู้เอาประกันภัยที่ต้องการจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติมจากความคุ้มครองหลัก ในวงเงิน 10,000 บาท เบี้ย
ประกันภัย 135 บาท สำหรับประชาชนทั่วไป รวมไปถึงข้าราชการหรือลูกจ้าง (ยกเว้นทหารและตำรวจ) ที่อยู่
ในเขตจังหวัดสตูล ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ได้มีการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมเป็นพิเศษโดยให้ได้รับความ
คุ้มครองหากเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากสงคราม (ไม่ว่าจะมีการประกาศ
หรือไม่ก็ตาม) การรุกราน หรือการกระทำของศัตรูต่างชาติ สงครามกลางเมือง การปฏิวัติ การกบฏ การก่อ
ความวุ่นวายถึงขนาดลุกฮือต่อต้านรัฐบาล การจลาจล การนัดหยุดงาน และการก่อการร้าย ซึ่งการขยาย
ความคุ้มครองดังกล่าวจะเพิ่มให้ทั้งสำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีการซื้อประกันภัยไว้แล้ว หรือที่จะซื้อประกันภัยใน
อนาคตด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงรอบการนำส่งข้อมูลของการรับประกันภัยจากเดิมเดือนละ 2 ครั้ง
เป็นเดือนละ 3 ครั้ง ส่งผลให้การเริ่มต้นความคุ้มครองเร็วขึ้นภายหลังจากที่ผู้เอาประกันภัยขอเอาประกันภัยซึ่ง
จะช่วยลดปัญหาการที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตก่อนกรมธรรม์ประกันภัยมีผลคุ้มครอง
3791
รายงานการจัดสรรงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (ณ วันที่ 25 มีนาคม 2547)
นร
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานการจัดสรรงบประมาณของส่วนราชการ
และรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ณ วันที่ 25 มีนาคม 2547 โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้ส่วนราช
การและรัฐวิสาหกิจ จำนวนทั้งสิ้น 900,478.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 87.6 ของวงเงินงบประมาณ จำนวน
1,028,000.0 ล้านบาท โดยการจัดสรรงบประมาณสำหรับรายจ่ายลงทุน มีจำนวน 156,308.4 ล้านบาท
หรือร้อยละ 70.6 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ มีจำนวน 744,169.9 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 92.3 ของงบประมาณรายจ่ายประจำ ทั้งนี้ จาการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับวง
เงินจำแนกตามงบรายจ่าย พบว่า งบบุคลากรมีการจัดสรรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจแล้วเกินกว่าจำนวน
วงเงินงบประมาณที่ได้รับจำนวนร้อยละ 0.2 เนื่องจากมีการโอนงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้าง
ศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ จากงบรายจ่ายอื่นไปตั้งจ่ายในงบบุคลากรเพื่อให้เป็น
ไปตามลักษณะการเบิกจ่ายงบประมาณจริง สำหรับงบรายจ่ายที่มีการจัดสรรให้ต่ำสุด ได้แก่ งบรายจ่ายอื่น
และงบลงทุนจัดสรรให้ ร้อยละ 66.8 และร้อยละ 77.4 ตามลำดับ โดยในระดับกระทรวง กระทรวงที่มีการจัด
สรรงบประมาณสูงสุด ได้แก่ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนในระดับกรม กรมที่มีการจัด
สรรงบประมาณสูงสุดเต็มตามจำนวนวงเงินงบประมาณที่ได้รับ จำนวน 106 หน่วยงาน ส่วนใหญ่เป็นหน่วย
งานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการ
คลัง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานอิสระตามรัฐ
ธรรมนูญ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
3792
ผลการดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเจาะตลาด
พณ
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการดำเนินงาน
ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเจาะตลาด (Special Task Force-STF) ซึ่งทำหน้าที่
เสาะหานักธุรกิจในตลาดใหม่ที่สนใจจะร่วมลงทุนในการจัดตั้ง International Trading Firm และ Thailand
Market Place ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฯ STF ของกระทรวงพาณิชย์สามารถ
เสริมความคล่องตัวในการดำเนินงานของหน่วยงานราชการอื่น ๆ ในประเทศไทยที่จำเป็นต้องเจรจากับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศผู้นำเข้าเพื่อขออนุญาตนำเข้า เช่น หน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานด้าน
การกักกันพืช หรือสัตว์ และการดำเนินธุรกิจในประเทศหรือเมืองนั้น โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การ
ปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฯ STF ควรเป็นการผนึกกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการ
ในแนวของทีมประเทศไทย (Team Thailand) มากกว่าจะเป็นการดำเนินงานของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
และหน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมมือเป็นครั้งคราวเท่านั้น ส่วนการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน จะขึ้นอยู่
กับความแตกต่างและหลากหลายของสินค้า รวมทั้งคุณภาพและมาตรฐานความต้องการของผู้บริโภค การ
สนับสนุนการจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ และ Thailand Market Place จึงควรมุ่งคุณภาพของธุรกิจ
ที่เข้าร่วมควบคู่ไปกับการขยายเชิงปริมาณที่เหมาะสมและให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัยการตลาดเพื่อสร้าง
โอกาสของประเทศไทยในระยะปานกลางและระยะยาว
3793
การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527
อก
23/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการบริหาร
กองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 จำนวน 3 คน ดังนี้ นายสุรศักดิ์ ทองเพียร เป็นผู้
แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แทนนายเดชา ศุภวันต์ นายทรงกลด อุบลสิงห์ เป็นผู้แทนกระทรวงพาณิชย์
แทนนางอัปษร เริงวรรณ และนายรัชดา สิงคาลวณิช เป็นผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม แทนนางสุมลมาลย์ กัลยา
ศิริ โดยให้แต่งตั้งนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (23 มีนาคม 2547) เป็นต้นไป
3794
รายงานการพิจารณาศึกษาปัญหาบังคับใช้กฎหมาย เรื่อง การส่งออกข้าว
สว
23/03/2547
รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอรายงานการพิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย
เรื่อง การส่งออกข้าว ของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรมวุฒิสภา โดยคณะ
กรรมาธิการ ฯ มีข้อสังเกตว่า พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า
พ.ศ. 2522 ไม่ให้อำนาจรัฐมนตรีเช่นเดิม โดยอำนาจการควบคุมที่เคยเป็นของรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว ได้ให้ไว้แก่คณะรัฐมนตรี และข้อ 3 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2523 ออกตามความในพระราช
บัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 ควรมีการพิจารณา
ปรับปรุงใหม่เพื่อมิให้เกิดข้อโต้แย้งว่าขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีการกำหนดบทลงโทษตัดสิทธิ
บุคคลหนึ่ง (ที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด) โดยการกระทำของอีกบุคคลหนึ่ง ส่วนระเบียบกระทรวงพาณิชย์ ว่า
ด้วยการส่งข้าวออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 1) พ.ศ. 2534 ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งในแง่ที่
มาของอำนาจและสาระสำคัญของระเบียบ ฯ รวมทั้งระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งข้าวออกไปนอกราช
อาณาจักร (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2540 ควรถูกยกเลิกเนื่องจากออกมาโดยไม่มีฐานอำนาจตามกฎหมายของรัฐมนตรี
ผู้ออกระเบียบ ประกอบกับสาระสำคัญของระเบียบยังขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญมาตรา 62 นอกจากนี้
ระเบียบกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2545 ไม่ชอบด้วยกฎ
หมาย ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิ
การคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
3795
รายงานการพิจารณา เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาการผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน
สว
23/03/2547
รับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอรายงานการพิจารณา เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหา
การผลิต การตลาดสุกรอย่างยั่งยืน ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภาโดยรายงานการ
ศึกษาในเรื่องนี้คณะกรรมาธิการได้สรุปผลการพิจารณาและมีข้อสังเกตและแนวทางแก้ไขทั้งในด้านการผลิต
ด้านการตลาด ด้านนโยบาย และด้านสิ่งแวดล้อม และมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
3796
ผลการดำเนินมาตรการด้านการนำเข้า
พณ
23/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ
บริหารนโยบายการนำเข้า (กบน.) ครั้งที่ 1/2547 เกี่ยวกับมาตรการด้านการนำเข้า ในส่วนของมาตรการ
ชะลอการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (เครื่องหนัง รองเท้า ปากกาและอุปกรณ์ น้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์) แนวทาง
การเพิ่มศักยภาพการผลิตและใช้สินค้าในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า และโครงการรณรงค์ให้ใช้สินค้าเพื่อ
ทดแทนการนำเข้า ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ กบน. อย่างเคร่งครัด จริงจัง และให้
รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วย ดังนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการ
ส่งเสริมการลงทุน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เร่งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการผลิตและการใช้วัตถุดิบหรือชิ้น
ส่วนที่ผลิตได้เองภายในประเทศ (local content) ให้มากยิ่งขั้น รวมทั้งการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าด้วย
ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควบคุมดูแลการนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบ
ต่าง ๆ ให้มีเท่าที่จำเป็น และลดการนำเข้าสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยเพื่อลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ ให้
กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบดูแลเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า
ของสินค้านำเข้าให้ถูกต้องและเป็นไปตามพันธกรณี และข้อตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำไว้กับ
ประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า และรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมที่ถูกต้อง กับให้
กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรณรงค์ให้ใช้สินค้าไทยเพื่อทดแทนสินค้านำเข้าอย่าง
ต่อเนื่องจริงจัง ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รับไปเร่ง
รัดกำกับติดตามการดำเนินการรณรงค์ให้ประชาชนนิยมไทยและเลือกใช้และบริโภคสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศ
(made in Thailand) โดยต้องระมัดระวังมิให้แนวทางการดำเนินการดังกล่าวขัดกับข้อตกลงทางการค้าหรือข้อ
กำหนดใดขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยให้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) สำรวจตรวจสอบรายการ
/ชนิดสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าสูงหรือมีปริมาณนำเข้าจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยเพื่อ
ใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการ และให้รายงานข้อมูลดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย นอกจากนี้ ให้
กระทรวงพลังงานเร่งรัดดำเนินการ เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน และเชื้อเพลิงในมิติต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณ
การนำเข้าก๊าซ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
3797
การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ)
พณ
23/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายก
รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่ง
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วย
3798
ขออนุมัติเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (จัดทำเขตการค้าเสรี)
พณ
23/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอเงินงบกลาง รายการเงินสำรอง
จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 192,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) เพื่อให้มีการรวมศูนย์การใช้จ่ายเงินสำหรับการเจรจา FTA โดยให้
ขอตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อความเหมาะสมรอบคอบ
และเป็นการเตรียมพร้อมก่อนการดำเนินการเจรจาเขตการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ กระทรวงพาณิชย์ควร
จะดำเนินการวิจัยเชิงประจักษ์ (empirical research) ในแง่มุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำ FTA กับแต่ละ
ประเทศก่อน เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ในการเจรจากับประเทศคู่เจรจาต่อไป โดยการดำเนินการวิจัย
ดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์อาจจัดจ้างให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการและขอความสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากเงินกอง
ทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (4890/2547)
2
ยืนยันมติ (4891/2547)
3
ยืนยันมติ (4892/2547)
4
ตอบความเห็น (5142/2547)
5
ตอบความเห็น (250/2547)
6
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (959/2547)
3799
การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย หรือธุรกิจประกันชีวิต สำหรับบริษัทใหม่ ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน
พณ
16/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่
มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาต และการออกใบอนุญาต
ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยสำหรับบริษัทใหม่ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการ
ขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตสำหรับบริษัทใหม่ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน
พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญ
ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวทั้งสองฉบับเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอรับใบอนุญาตประกอบ
ธุรกิจประกันวินาศภัยหรือธุรกิจประกันชีวิตสำหรับบริษัทใหม่ซึ่งเกิดจากการควบเข้ากัน โดยต้องยื่นคำขอภาย
ในระยะเวลาที่รัฐมนตรีกำหนดแต่ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันที่จดทะเบียนบริษัทใหม่ รวมทั้งกำหนดเงื่อนไข
ในการออกใบอนุญาต ดังนี้ ต้องดำเนินการควบเข้ากันและจดทะเบียนภายในระยะเวลาที่รัฐมนตรีกำหนด ต้อง
วางหลักทรัพย์ประกันไว้กับนายทะเบียน และต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด ทั้งนี้ คกก.7 มีมติไม่อนุมัติ
ในหลักการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สามารถออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทใหม่ ซึ่งเกิดจากการควบเข้า
กันได้เมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงดังกล่าวแล้วโดยต้องมานำเสนอ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามกฎหมายต่อไป
3800
การมอบหมายเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกลงนามในพิธีสารการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของยูเครน
พณ
16/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการมอบหมายให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร
ไทยประจำองค์การการค้าโลกลงนามในพิธีสารการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของยูเครน
.....
|<<
Previous
<
Previous
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย