ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 184 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3661 - 3680 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3661 | วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ณ จังหวัดอุบลราชธานี (เรื่อง การเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14) | นร | 16/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ดังนี้ รับทราบกรอบปัญหาและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14 และเห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการที่จังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 14 เสนอขอรับการสนับสนุน จำนวนทั้งสิ้น 52 โครงการ วงเงินงบประมาณ 4,007.6 ล้านบาท ประกอบด้วย ด้านการเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิ จำนวน 11 โครงการ งบประมาณ 213.7 ล้านบาท ด้านบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำ จำนวน 32 โครงการ งบประมาณ 3,000.7 ล้านบาท และด้านการส่งเสริมการค้าชายแดน จำนวน 9 โครงการ งบประมาณ 793.2 ล้านบาท โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนภาค ประชาชนและปราชญ์ชาวบ้านเป็นคณะที่ปรึกษา (Advisory Body) ในด้านการจัดทำแผนการดำเนินการและ การแก้ไขปัญหาของจังหวัดตามระบบผู้ว่า CEO และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ที่มีความเห็นว่า ควรให้มีการเจรจาและประสานงานกับ ประเทศเพื่อนบ้านทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเพื่อให้มีการพัฒนาเชิงบูรณาการ เพิ่มความคุ้มค่าต่อ การลงทุน โดยเฉพาะโครงการพัฒนาช่องสะงำ ซึ่งเป็นการวางผังเมืองระยะยาวให้สามารถรองรับการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจและเตรียมความพร้อมของพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดศรี สะเกษและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อย่างดี แต่ให้คำนึงถึงความพร้อมด้านสภาพเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนความจำเป็นของโครงการ ฯ ในปัจจุบัน เป็นต้น ไปประกอบ การดำเนินการ ทั้งนี้ ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ในคณะกรรมการทบทวนลำดับความสำคัญของโครงการ ฯ และให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมและ จัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ให้รอบคอบและไม่เกิดความซ้ำซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนงาน/โครงการเกี่ยวกับน้ำ เนื่องจากมีแผนงานและคณะกรรมการระดับชาติอยู่แล้ว และให้นำเสนอคณะ รัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||
3662 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2547 | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภค
ทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนตุลาคม 2547 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่ว ไปของประเทศเดือนตุลาคม 2547 เท่ากับ 110.1 เทียบกับเดือนกันยายน 2547 โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยน แปลง แต่พิจารณารายหมวดของดัชนีราคามีการเปลี่ยนแปลงคือ ดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่อง ดื่มลดลงร้อยละ 0.4 โดยสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวสารเจ้าหอมมะลิ ไก่สด เนื้อสุกร ปลาและ สัตว์น้ำ ไข่ไก่ ผลไม้สด (ส้มเขียวหวาน มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า และมะม่วง) ขณะที่ราคาดัชนีสินค้าหมวด อื่น ๆ ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 0.3 โดยสินค้าและบริการสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ค่า กระแสไฟฟ้า ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล น้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ของประเทศปี พ.ศ. 2547 เท่ากับ 104.9 เทียบกับเดือนกันยายน 2547 ไม่เปลี่ยนแปลง เดือนตุลาคม 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.6 และเดือนมกราคม-ตุลาคม 2547 เทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 |
|||||||||||||||
3663 | การจ่ายเงินปันผลของบรรษัทประกันต่อแห่งเอเชีย | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการจ่ายเงินปันผลของบรรษัทประกัน
ต่อแห่งเอเชีย (Asian Reinsurance Corporation) โดยในส่วนของประเทศไทยได้รับเงินปันผลจากบรรษัท ฯ ประจำปี พ.ศ. 2547 จำนวน 1,656,800 บาท ซึ่งบรรษัท ฯ ได้จ่ายเงินปันผลโดยส่งเช็คธนาคารหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่ 2031714 ลงวันที่ 30 กันยายน 2547 สั่งจ่ายในนามกรมการประกันภัย กระทรวง พาณิชย์ และกรมการประกันภัยได้นำเช็คฉบับดังกล่าวเข้าบัญชีเป็นรายได้ของรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นมูลค่า 100,000 เหรียญสหรัฐ ฯ บรรษัท ฯ จะออกใบหุ้นในนามของรัฐบาลไทย และจัดส่งให้กรมการประกันภัยดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ผลจากการได้รับเงินปันผลเป็นหุ้นในปีนี้ ทำให้ประเทศ ไทยถือหุ้นในบรรษัท ฯ จำนวน 900 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 900,000 เหรียญสหรัฐ ฯ จากทุนจดทะเบียนเรียก ชำระแล้ว 9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ |
|||||||||||||||
3664 | รายงานผลการเข้าร่วมงาน China-ASEAN Expo 2004 | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการเข้าร่วมงาน China-ASEAN
Expo 2004 ซึ่งจัดที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2547 โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้เข้าร่วมจัดแสดง สินค้าและบริการในงาน รวม 2 Halls ได้แก่ National Hall เป็นการแสดงภาพลักษณ์ของประเทศไทยใน ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว และ Commodities Trade Halls เป็นการจัดแสดง สินค้าเพื่อการเจรจาธุรกิจการค้า โดยได้นำนักธุรกิจไทยเข้าร่วมจัดแสดงสินค้ารวมทั้งสิ้น 112 คูหา 72 บริษัท โดยสินค้าที่นำไปจัดแสดง ได้แก่ เครื่องจักรและเครื่องมือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ ไฟฟ้า สินค้าไอที สินค้าอาหาร ยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเกษตร วัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบเคมีภัณฑ์ หัตถกรรม เสื้อผ้าและสิ่งทออื่น ๆ ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจและประชาชนชาวจีน ตลอดจนชาว ต่างชาติที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยที่ให้มีการทดลองชิม และนอก เหนือจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้แล้ว คณะผู้แทนไทยยังเข้าร่วมการประชุม China-ASEAN Business and Investment Summit ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำและรัฐมนตรีด้านการค้าและอุตสาหกรรมของจีน และประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน พร้อมทั้งเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน เพื่อหารือในประเด็น ต่าง ๆ เช่น จีนให้ความเห็นว่าข้าวที่นำเข้าไทยกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากมีคุณ ภาพดี และมีรสชาติถูกปากชาวจีน ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีนเห็นว่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นใน อนาคต เป็นต้น |
|||||||||||||||
3665 | การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคณะกรรมการแก้ไขปัญหาค้าส่งค้าปลีกไทย | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุ
สมบัติ) เป็นประธานกรรมการแก้ไขปัญหาค้าส่งค้าปลีกไทย เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 274/2547 ทั้งนี้ โดยมีคณะกรรมการอื่น และอำนาจหน้าที่คงเดิม
|
|||||||||||||||
3666 | การค้าระหว่างประเทศของไทย ในระยะ 9 เดือนแรกของปี 2547 | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของ
ไทย ในระยะ 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2547 ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2547 โดยการส่งออกเดือน กันยายน 2547 มีมูลค่า 8,668 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี พ.ศ. 2546 ร้อยละ 22.1 และการนำเข้าเดือนกันยายน 2547 มีมูลค่า 8,185 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของ ปี พ.ศ. 2546 ร้อยละ 29.0 ส่วนดุลการค้าเดือนกันยายน 2547 กลับมาเกินดุลมูลค่า 483 ล้านเหรียญ สหรัฐ ฯ หลังจากที่ขาดดุลในเดือนสิงหาคม 2547 ในด้านตลาดส่งออกสำคัญ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องทั้งในตลาดใหม่และตลาดหลัก โดยตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อาเซียน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 29.7) แอฟริกา (ร้อยละ 58.5) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 33.6) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 31.6) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 26.3) และตลาดที่ไทยจัดทำเขตการค้าเสรี คือ อินเดีย (ร้อยละ 41.8) จีน (ร้อยละ 26.5) และออสเตรเลีย (ร้อยละ 14.2) สำหรับการส่งออกสินค้าสำคัญ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งสินค้า เกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 64.2, 44.3 และ 22.3 ตามลำดับ รวมทั้งไก่แปรรูปซึ่งส่ง ออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูงถึงร้อยละ 24.9 และยังมีสินค้าสำคัญอื่น ๆ ที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณี เฟอร์ นิเจอร์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เภสัช |
|||||||||||||||
3667 | การจัดสร้างแหล่งจำหน่ายสินค้าและศูนย์แสดงสินค้าไทย | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการดำเนินการจัดสร้าง
แหล่งจำหน่ายสินค้าและศูนย์แสดงสินค้าไทย โดยได้ดำเนินโครงการจัดตั้ง OTOP Center ในประเทศไทย ภายใต้คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ จะเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายของ สินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการคัดสรรรูปแบบ คุณภาพ ให้เหมาะสมกับความต้องการของ ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ร้านค้าขนาดกลาง และ ร้านค้าขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ นายกรัฐมนตรีเห็นควรให้ปรับปรุง อาคารกระทรวงพาณิชย์ (เดิม) ถนนสนามไชย ให้เป็นสถานที่จัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าศิลปาชีพ และเป็น พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการค้า ซึ่งได้เสนอเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีทบทวนโครงการ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ในการใช้อาคารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเป็นศูนย์แสดงสินค้าศิลปาชีพ และ เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการค้า และได้จัดสร้างศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจัดแสดง และจำหน่ายสินค้าของมูลนิธิศิลปาชีพที่มีคุณภาพมาตรฐานส่ง ออก สำหรับการออกแบบตราสินค้าไทยและการสร้างภาพลักษณ์ให้ตราสินค้าไทย กรมส่งเสริมการส่ง ออกได้วางกลยุทธ์การขยายตลาดสินค้าไทยโดยใช้สัญลักษณ์ตราสินค้าไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการวาง กลยุทธ์การตลาด เพื่อยกระดับสินค้าไทยที่มีตราสินค้าไทย และสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้าไทยให้เป็นที่ รู้จักแพร่หลายในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง |
|||||||||||||||
3668 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือนตุลาคม 2547 (26 - 29 ตุลาคม 2547) | พณ | 09/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 5 เดือนตุลาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 26-29 ตุลาคม 2547 ซึ่งมีความเคลื่อนไหวด้านราคาของสินค้า ดังนี้ สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกชนิด PP ราคาสูงขึ้นจาก 54.50 บาท/กก. เป็น 55 บาท/กก. เงาะ ราคาสูงขึ้นจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 18-25 บาท/กก. ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูป พรรณชนิดเหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15 2.30 มม./6 ม.) ราคาลดลงจาก 520-546 บาท/ท่อน เป็น 510 -546 บาท/ท่อน ไข่ไก่ ราคาลดลงจาก 2.50-2.70 บาท/ฟอง เป็น 2.30-2.70 บาท/ฟอง ผักคะน้า ราคาลด ลงจาก 18-22 บาท/กก เป็น 15-20 บาท/กก. ผักบุ้งจีน ราคาลดลงจาก 12-20 บาท/กก. เป็น 10-12 บาท/กก. และผักชี ราคาลดลงจาก 7-8 บาท/ขีด เป็น 5-7 บาท/ขีด สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรง ตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวการณ์แข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา ซีอิ๊ว น้ำตาลทราย ผงซักฟอก และถ่านไฟฉาย เป็นต้น ในส่วนของ การตรวจสอบผู้ประกอบการค้าพบการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 2 ราย |
|||||||||||||||
3669 | ผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ครั้งที่ 3/2547 | นร | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) เสนอผล การประชุม กพข. ครั้งที่ 3/2547 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2547 ซึ่งได้พิจารณาและมีมติในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ (1) เรื่อง ผลการประชุมนานาชาติ Competitiveness : Challenges and Opportunities for Asian Countries ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปดำเนินการจัด ประชุมทีมงานที่ปรึกษาต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป (2) เรื่อง แผนงานและการจัดกลไก เพื่อพัฒนาโลจิสติกส์ของไทย ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะทำงาน และการจัดทำ แผนแม่บทซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2547 รวมถึงแนวทางการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ด้าน โลจิสติกส์ ให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาปัญหาโลจิสติกส์ และเห็นชอบใน หลักการโครงการการพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูล และบริการภาครัฐเพื่อการนำเข้า การส่งออก และโลจิสติกส์ (3) เรื่อง การพัฒนากำลังคนเพื่อการแข่งขันของอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ที่ประชุมมอบ หมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้สถาบันเฉพาะทาง ของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นแกนกลางดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลความต้องการกำลังคนของอุตสาหกรรม จัดทำ Best Practices ของอุตสาหกรรม และผลักดันการพัฒนาระบบมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพของอุตสาห กรรม และให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน สำรวจความต้องการแรงงานต่างชาติที่มีความรู้ความ เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของภาคเอกชนในสาขาต่าง ๆ (4) การขับเคลื่อนผลิตภาพที่สะอาดในอุตสาหกรรม การผลิตและการท่องเที่ยว ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเพิ่มผลิตภาพที่สะอาด 3 แนวทาง ประกอบด้วย การ พัฒนา SMEs การขยายตลาดสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยรัฐเป็นผู้นำ และการทำงาน เชิงรุก เพื่อเตรียมข้อจำกัดทางการค้า (NTB) ที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ดำเนินโครงการนำร่องในอุตสาหกรรม ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจโรงแรม และให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไป ดำเนินการกำหนดมาตรการรับมือ NTB ที่อาจเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยครอบคลุมถึงการควบ คุมมาตรฐานสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้า และ (5) เรื่อง การแยกคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถใน การแข่งขันของประเทศ และคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ประชุมเห็นควรให้คงคณะกรรมการทั้ง 2 คณะออกจากกัน โดยให้มีการประชุมทั้ง 2 คณะ พร้อมกันในกรณีที่มีวาระเกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาที่ ยั่งยืน |
|||||||||||||||
3670 | รายงานผลความก้าวหน้าการสร้างงานและอาชีพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ครั้งที่ 5) | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธ
ศาสตร์การพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นผลการปฏิบัติงานในช่วงเดือนกันยายน 2547 โดยมีผลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ อาทิเช่น การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้และการสร้างรายได้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลอง กอง เงาะ และทุเรียน ซึ่งได้รับอนุมัติเงินงบประมาณช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำให้จังหวัดละ 10 ล้านบาท รวม 30 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดจุดรวบรวมรับซื้อผลผลิตดังกล่าวจากเกษตรกรใน 3 จังหวัดภาค ใต้ ส่วนการช่วยเหลือด้านค่าครองชีพของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ได้จัด "มหกรรมสินค้าเพื่อไทยใต้" โดย จำหน่ายสินค้าราคาถูก รวมทั้ง "โครงการธงฟ้าเคลื่อนที่สู่ชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" โดยจัดส่งสินค้า ที่จำเป็นแก่การครองชีพ ได้แก่ ข้าวสาร น้ำตาล ฯลฯ จำหน่ายในราคาถูกให้ทุกอำเภอใน 3 จังหวัดภาคใต้ สำหรับการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจ ได้ดำเนิน "โครงการอาสาพัฒนาพาณิชย์ ไทยใต้" เป็นการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและปฏิบัติงาน เพื่อร่วมกัน พัฒนาเศรษฐกิจใน 3 จังหวัดภาคใต้ และ "โครงการนำคณะผู้แทนการค้าจากจังหวัดภาคใต้เยือนสาธารณ รัฐประชาชนจีน" เพื่อศึกษาและพบปะเจรจาขยายตลาดการค้ากับนักธุรกิจมุสลิมในประเทศจีน เป็นต้น |
|||||||||||||||
3671 | รายงานผลการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ 2547 ครั้งที่ 2 | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและ
เครื่องประดับ 2547 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 12-16 กันยายน 2547 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทอง ธานี โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า 1,020 บริษัท เป็นผู้ประกอบการในประเทศ 825 บริษัท และผู้ประกอบ การจากต่างประเทศ 195 บริษัท มีผู้เข้าชมงานรวมทั้งสิ้น 26,792 คน สำหรับผลการเจรจาการค้า มูลค่า การสั่งซื้อทันที 8,000 ล้านบาท มูลค่าการสั่งซื้อต่อเนื่องใน 1 ปี 15,500 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับ ความสนใจสั่งซื้อ ได้แก่ เพชร เครื่องประดับเงิน เครื่องประดับทอง พลอยเนื้ออ่อน พลอยเนื้อแข็ง ประเทศ ที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สวาซิแลนด์ และ อินเดีย และมูลค่าการขายปลีก 350 ล้านบาท สินค้าที่ได้รับความสนใจสั่งซื้อ ได้แก่ พลอยเนื้อแข็ง เครื่อง ประดับเงิน พลอยเนื้ออ่อน เครื่องประดับทอง เครื่องมือ เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งออกสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับของไทยในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2547 มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 4.8 ประเทศที่ส่งออกสูงสุด 5 ประเทศแรก คือ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เบลเยี่ยม ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร ส่วนประเทศที่มีการขยายตัวของการส่งออกมากที่สุด 5 อันดับ แรก คือ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 58.71 27.01 24.60 23.30 และ 21.35 ตามลำดับ |
|||||||||||||||
3672 | รายงานการส่งออก - นำเข้าสินค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งที่ 3 (1 ต.ค. 46 - 30 ก.ย. 47) และระหว่างไทยกับอินเดีย ครั้งที่ 1 (1 - 30 ก.ย. 47) | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างไทย
กับจีน ครั้งที่ 3 และระหว่างไทยกับอินเดีย ครั้งที่ 1 สรุปได้ดังนี้ การส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับจีน ไทย ส่งสินค้าออกไปจีน พิกัด ฯ 01-08 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546-31 สิงหาคม 2547 ปริมาณ 2,631,711 ตัน มูลค่า 11,858.16 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น ลำไยแห้ง ปลา แช่แข็ง ลำไยสด และทุเรียนสด เป็นต้น ส่วนการนำเข้า ไทยนำเข้าสินค้าจากจีน พิกัด ฯ 01-08 ปริมาณ 243,596 ตัน มูลค่า 5,429.30 ล้านบาท โดยสินค้าที่นำเข้า ได้แก่ แอปเปิ้ลสด กระเทียมสด/แช่เย็น แพร์ และควินส์สด ปลาแช่แข็ง แครอท เทอร์นิพสด/แช่เย็น ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546-สิงหาคม 2547 ไทย เป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีน จำนวน 6,428.86 ล้านบาท เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนไทยยัง คงได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 สำหรับการส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ตั้งแต่ 1-30 กันยายน 2547 ไทยส่งออกสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน รวม 82 รายการ ปริมาณ 2,494 ตัน มูลค่า 353.50 ล้านบาท ส่วนการนำเข้า ไทยนำเข้าสินค้าจากอินเดียในรายการสินค้าที่มีการ เร่งลดภาษีระหว่างกันดังกล่าว ปริมาณ 19,060 ตัน มูลค่า 275.98 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการ ค้ากับอินเดีย จำนวน 77.52 ล้านบาท |
|||||||||||||||
3673 | การพัฒนาขึ้นปีที่ 3 และผลการดำเนินการของศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (19 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2547) | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความก้าวหน้าแผนการพัฒนาสู่ปีที่ 3
ของศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Export Service Center) โดยศูนย์ ฯ ได้ดำเนินโครงการ พัฒนาจัดทำระบบออกใบรับรองด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certification) ซึ่งมีแผนการดำเนิน การภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547-2549 เพื่อพัฒนาสู่การดำเนินการระบบไร้กระดาษ (Paperless Trading Office) โดยผู้ส่งออกสามารถส่งใบคำขอกลางเพื่อขอเอกสารใบรับรองผ่านทางเว็บไซต์ http:// onestopservices.depthai.go.th รวมทั้งเพิ่มบทบาทหน้าที่ให้ศูนย์ ฯ ดูแลงานพัฒนาระบบโลจิสติกส์การ ค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ส่งออกระดับกลางและขนาดย่อม (SMEs) และขยายสาขาบริการใหม่ของศูนย์ ฯ ณ ด่านนำเข้า-ส่งออกที่สำคัญ 5 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือคลองเตยกรุงเทพ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ท่าเรือ แหลมฉบัง ท่าเรือสงขลา และท่าอากาศยานเชียงใหม่ สำหรับผลการดำเนินการในรอบ 2 ปี 3 เดือน (19 กรกฎาคม 2545-30 กันยายน 2547) ศูนย์ ฯ ได้ออกเอกสารใบรับรองจำนวน 155,006 ฉบับ ผู้ใช้ บริการรวม 69,163 ราย โดยมีหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการออกใบรับรองและให้คำปรึกษาแนะนำทั้งสิ้น 13 หน่วยงาน และเพิ่มขึ้น 1 หน่วยงานคือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ ไทย ประเภทกลุ่มสินค้าที่มาออกใบรับรอง ได้แก่ กลุ่มสินค้าอาหาร กลุ่มสินค้าส่งทอ กลุ่มสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น |
|||||||||||||||
3674 | แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี | นร | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการ
กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง เป็นประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีก 15 คน โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ผู้ช่วย รัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป |
|||||||||||||||
3675 | แต่งตั้งผู้กำกับดูแลและแก้ไขปัญหาการรับจำนำสินค้าเกษตรตามเขตพื้นที่เพาะปลูก | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการแต่งตั้งผู้กำกับดูแลและแก้ไขปัญหาการ
รับจำนำสินค้าเกษตร ปี 2547/48 ตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ 360/2547 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับดูแลและ แก้ไขปัญหาการรับจำนำสินค้าเกษตรตามเขตพื้นที่เพาะปลูก ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ 6 คน และนักวิชาการพาณิชย์ 9 ชช. กรมการค้าภายใน 3 คน เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละเขตพื้นที่รวม 9 เขต โดย ให้ผู้รับผิดชอบในเขตพื้นที่มีหน้าที่กำกับดูแล ติดตาม ประสานและแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับ จำนำในพื้นที่ แล้วรายงานผลการดำเนินการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะ กรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตกร (คชก.) ทราบทุกระยะ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2547 เป็นต้นไป |
|||||||||||||||
3676 | ขอให้รับซื้อเนื้อไก่และเนื้อเป็ดแช่แข็งคงคลังเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยการส่งออก | พณ | 02/11/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขออนุมัติให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับซื้อ
เนื้อไก่ จำนวน 102,931 ตัน มูลค่าประมาณ 5,382,162,500 บาท และเนื้อเป็ด จำนวน 1,293.15 ตัน มูลค่า ประมาณ 146,095,622 บาท โดยให้ อคส. กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเพื่อใช้เป็นทุน หมุนเวียนดำเนินการ จำนวนรวมไม่เกิน 5,528,258,122 บาท และอนุมัติเงินจ่ายขาดจากงบกลางรายการ ค่าใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อเป็นค่าเก็บรักษารอส่งออกสำหรับเนื้อไก่ เป็นเงินประมาณ 658,758,400 บาท เนื้อเป็ด เป็นเงินประมาณ 8,276,160 บาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการร้อยละ 1 ของมูลค่าเนื้อไก่ และเนื้อเป็ด เป็นเงินประมาณ 55,282,581 บาท จำนวนรวมไม่เกิน 722,317,141 บาท และอนุมัติเงินค่าชด เชยดอกเบี้ย จากเงินกู้ยืมเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและค่าชดเชยผลขาดทุน (ถ้ามี) จากการรับซื้อและระบายเนื้อไก่ และเนื้อเป็ดตามที่เกิดขึ้นจริง นั้น ให้กระทรวงการคลังรับไปประสานสถาบันการเงินของรัฐเพื่อปล่อยสินเชื่อให้ แก่ผู้ประกอบการส่งออกไทย/ผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออก ในวงเงินไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าเนื้อไก่และเนื้อ เป็ดแช่แข็ง โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรน และให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนและเร่งรัดดำเนินการเพื่อส่งเนื้อ ไก่และเนื้อเป็ดแช่แข็งดังกล่าวไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้หมดโดยเร็ว พร้อมทั้งประสานการชำระหนี้สินเชื่อดัง กล่าวของผู้ประกอบการคืนแก่สถาบันการเงินด้วย |
|||||||||||||||
3677 | โครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้แก่ราษฎรพื้นที่เลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืด โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ | กษ | 26/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.2 (ฝ่าย
การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ที่มีมติดังนี้ เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาอาชีพและ ส่งเสริมรายได้ให้แก่ราษฎรพื้นที่เลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืดโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ และอนุมัติงบกลาง ปี พ.ศ. 2548 ตามโครงการ ฯ ในวงเงิน 335,723,392 บาท ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับงบประมาณดำเนินการในปีต่อไป ให้ขอตั้งงบประมาณประจำปีต่อไป และ เห็นชอบให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณ (งบปกติ) ภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจาก พระราชดำริในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 สามารถดำเนินงานตามแผนงานเดิมภายในวงเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2548 ที่ได้รับ โดยเน้นในเขตพื้นที่อื่นนอกเหนือจากเขตพื้นที่เลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืด ทั้งนี้ ให้กระทรวง เกษตรและสหกรณ์รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่ให้มีการบูรณาการกิจกรรมระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการวัตถุดิบ การแปรรูป และการตลาดของสินค้าที่เกษตรกรเพาะปลูก อย่างต่อเนื่อง และในระยะเริ่มต้นให้รีบดำเนินการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะคุณภาพ ของดินที่ต้องปรับความอุดมสมบูรณ์ให้เหมาะสมกับชนิดของพืช เพื่อประโยชน์ของเกษตรกร และส่งเสริมให้ เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพใหม่อย่างยั่งยืน กับเห็นชอบให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณ (งบปกติ) ภาย ใต้โครงการ ฯ สามารถดำเนินงานตามแผนงานเดิมภายในวงเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2548 ที่ได้รับโดยเน้น ในเขตพื้นที่อื่นนอกเหนือจากเขตพื้นที่เลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืดได้ อาทิ การดำเนินการปรับปรุงพื้นที่นาร้าง เป็น ต้น โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการงบประมาณดังกล่าวร่วมกับงบประมาณที่จะใช้ตามโครง การนี้ เท่าที่จะดำเนินการได้เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ให้นำโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้ของผู้เลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืด มาผนวกไว้ในแผนแม่บทการพัฒนา อาชีพและส่งเสริมรายได้โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเป็นกรอบติด ตามประเมินผลในภาพรวมได้อย่างชัดเจน ไปดำเนินการด้วย และอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุ รนต์ ฉายแสง) เสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงเงินจำนวน 335,723,392 บาท ที่จะให้ดำเนินโครงการ ฯ เป็นงบ ประมาณรวมที่จะใช้ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548-พ.ศ. 2549 |
|||||||||||||||
3678 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนตุลาคม 2547 | พณ | 26/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 2 เดือนตุลาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 4-8 ตุลาคม 2547 โดยราคาสินค้ามีการเคลื่อนไหวลดลงและ สูงขึ้น โดยสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กฉาก (ขนาด 40x40x3 มม./6ม.) ราคาลดลงจาก 270-289 บาท/ท่อน เป็น 270-287 บาท/ท่อน เม็ดพลาสติก HDPE ราคาลดลงจาก 56 บาท/กก. เป็น 53 บาท/กก. ไก่สด ราคาลดลงจาก 48-50 บาท/กก. เป็น 44-48 บาท/กก. ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 ราคาลดลงจาก 450 บาท/กระสอบ เป็น 445 บาท/กระสอบ ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผัก คะน้าและผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 20-28 บาท/กก. และ 8-12 บาท/ขีด เป็น 25-30 บาท/กก. และ 11-12 บาท/ขีด มะนาว ราคาสูงขึ้นจาก 0.75-1.25 บาท/ผล เป็น 1-1.25 บาท/ผล ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ราคา สูงขึ้นจาก 530 บาท/กระสอบ เป็น 560 บาท/กระสอบ สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้น สินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น น้ำมัน พืช น้ำปลา น้ำตาลทราย และปลากระป๋อง เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าตามพระราช บัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 13 ราย |
|||||||||||||||
3679 | การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ (สำนักงานผู้แทนการค้าไทย) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 | นร | 26/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการพิจารณาบำเหน็จความ
ชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติจำนวน 1 ขั้น ให้แก่ผู้ที่มาช่วยปฏิบัติราชการ ในงานของผู้แทนการ ค้าไทยในวันที่ 1 ตุลาคม 2547 จำนวน 4 ราย ดังนี้ นางสาวศุภรำไพ หาญทวีพาณิชย์ นักวิชาการภาษี 8 ว กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง นาวาอากาศโท กำพจน์ พงศ์พันธ์พาณิชย์ หัวหน้าแผนกวิศวกรรม โรง พยาบาล กรมแพทย์ทหารอากาศ กองทัพอากาศ นายธรรม เนียมสกุล นักวิชาการพาณิชย์ 6 กรมส่งเสริม การส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และนางสาวอนงคสิริ กุลกำม์ธร นักวิชาการประกันภัย 6 กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ โดยให้ส่งรายชื่อให้กระทรวง กรม ต้นสังกัดตรวจสอบคุณสมบัติ และเลื่อนขั้นเงินเดือนต่อ ไปได้ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติอีก |
|||||||||||||||
3680 | การดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรฤดูการผลิต ปี 2548 | พณ | 26/10/2547 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมติคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วย
เหลือเกษตรกร (คชก.) และคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2547 เกี่ยวกับการกำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรฤดูกาลผลิต ปี 2548 ดังนี้ สินค้าข้าว ให้ปรับราคารับจำนำ ข้าวเปลือกทุกชนิด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาตันละ 8,700-9,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้านาปี (พันธุ์ไว แสงและไม่ไวแสง) ราคาตันละ 6,200-6,600 บาท ข้าวเปลือกหอมสุพรรณบุรี ราคาตันละ 6,500 บาท และ ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 7,000-7,200 บาท ระยะเวลารับจำนำตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2547-กุมภาพันธ์ 2548 สำหรับภาคใต้เริ่มรับจำนำตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2548 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กำหนดราคารับ จำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ด (ความชื้นไม่เกิน 14.5%) ที่กิโลกรัมละ 4.40 บาท ส่วนข้าวโพดในระดับ ความชื้นอื่น ๆ กำหนดราคาลดหลั่นกันไปตามคุณภาพ ระยะเวลารับจำนำตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม 2547 มันสำปะหลัง กำหนดราคารับจำนำหัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% ณ ลานมัน ที่กิโลกรัมละ 1.10 บาท ระยะเวลารับจำนำตั้งแต่พฤศจิกายน 2547-เมษายน 2548 เมล็ดกาแฟ กำหนดราคารับจำนำเมล็ดกาแฟ เกรดดี กิโลกรัมละ 35 บาท เกรดหนึ่ง กิโลกรัมละ 32 บาท และเกรดสอง กิโลกรัมละ 26 บาท ระยะเวลา รับจำนำตั้งแต่ธันวาคม 2547-มีนาคม 2548 ส่วนกุ้งกุลาดำ เนื่องจากระยะเวลาการรับจำนำได้สิ้นสุดลง เมื่อเดือนกันยายน 2547 จึงให้มีการขยายระยะเวลารับจำนำออกไปอีกจนถึงเดือนธันวาคม 2547
|
.....