ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 180 จากทั้งหมด 334 หน้า แสดงรายการที่ 3581 - 3600 จากข้อมูลทั้งหมด 6672 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3581 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ 2548 (31 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2548) | พณ | 15/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2548 - 4 กุมภาพันธ์ 2548 โดยแนวโน้มราคา สินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบนซินในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 เป็นต้นมา สำหรับความเคลื่อนไหวราคาสินค้า มี ดังนี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ไก่สด ราคาลดลง ร้อยละ 3.92 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 1.16-1.18 ส้มเขียวหวาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 9.09 ผักคะน้า และผักบุ้ง ราคาสูงขึ้นร้อยละ 21.21 และ 13.64 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์ การขายในระยะสั้น เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว ปลากระป๋อง สบู่ และผง ซักฟอก เป็นต้น รวมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตรวจ สอบเครื่องชั่ง และประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาและบริการในช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ตลาดคลองเตย และตลาดพรานนก/ตลาดบางขุนศรี จากการตรวจสอบพบว่าภาวะราคาสินค้าโดยทั่วไปปกติ แต่ปริมาณการ จำหน่ายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และไม่พบพฤติกรรมการกระทำผิดแต่อย่างใด
|
|||||||||||||||
3582 | รายงานผลการดำเนินมาตรการแทรกแซงราคาข้าวของรัฐบาล ปี 2547 | พณ | 15/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินมาตรการแทรกแซงราคา
ข้าวของรัฐบาลปี 2547 สรุปดังนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2546/47 และนาปรังปี 2547 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2546 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2547 ในส่วนของข้าวเปลือกนาปี ปริมาณรวม 9.0 ล้านตัน ข้าวเปลือกนาปรัง ปริมาณรวม 2.5 ล้านตัน จากปริมาณเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 11.5 ล้านตัน มีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาจำนำในโครงการ ฯ เพียง 2.502 ล้านตัน เพราะราคาข้าวเปลือก ในตลาดซื้อขายกันสูงกว่าที่รัฐบาลรับจำนำ ส่วนงบประมาณดำเนินโครงการ ฯ ได้รับการสนับสนุนจากกอง ทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในวงเงิน 1,729.4 ล้านบาท ต่ำกว่างบประมาณที่ได้รับในโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือกนาปี 2545/46 และนาปรังปี 2546 ซึ่งได้รับในวงเงิน 3,206.8 ล้านบาท เป็นจำนวน 1,477.4 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 46 สำหรับผลการดำเนินโครงการ ด้านการยกระดับราคาข้าวเปลือกปีการผลิต 2546/47 ราคาข้าวเปลือกในตลาดสูงขึ้นจากปีการผลิต 2545/46 ทำให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกได้ราคา สูงขึ้นโดยเฉลี่ย ด้านปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวปี 2547 ได้บริหารสต๊อกข้าวที่หลุดจำนำ และระบาย โดยการประมูลขายให้เอกชนส่งออกในช่วงที่ข้าวขาดตลาดในราคาที่สูง ทำให้ปี 2547 มีปริมาณการส่งออก ทั้งสิ้นสูงถึง 10.14 ล้านตัน มูลค่า 110,376 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2547 ที่ส่งออก 7.60 ล้านตัน มูล ค่า76,368 ล้านบาท เป็นปริมาณ 2.54 ล้านตัน และมูลค่า 34,008 ล้านบาท จะเห็นได้ว่ารัฐบาลใช้งบ ประมาณในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2546/47 น้อยกว่างบประมาณที่ใช้ในปี การผลิต 2545/46 เกือบเท่าตัว ในขณะที่ผลตอบแทนที่ได้รับคุ้มค่าและเพิ่มขึ้น จึงถือได้ว่ามาตรการแทรก แซงราคาข้าวดังกล่าวประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
|
|||||||||||||||
3583 | ความคืบหน้ากรณีสหรัฐอเมริกาใช้มาตรการการทุ่มตลาดกับสินค้ากุ้งของไทย | พณ | 15/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้ากรณีสหรัฐอเมริกาใช้มาตร
การการทุ่มตลาดกับสินค้ากุ้งของไทย โดยสถานการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ ฯ (DOC) ได้ประกาศใช้อัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) กับสินค้ากุ้งแช่แข็งที่นำเข้าจากไทย และ อีก 5 ประเทศอย่างเป็นทางการ และแก้ไขอัตรา AD เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการคำนวณโดยจะใช้อัตราใหม่ ในส่วนของไทยคือ ผู้ส่งออกรายใหญ่ 5.29-6.82 และบริษัทอื่น ๆ 5.95 ในการจัดเก็บอากร AD สำหรับการ นำเข้าตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2547 เป็นต้นมา และคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ICT) ของ สหรัฐฯ ได้ประกาศรับข้อมูลและข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากคลื่นสึนามิต่ออุตสาหกรรมกุ้งของไทย และอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2548 เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดทบทวนกรณีสถาน การณ์เปลี่ยนแปลง (Changed Circumstance Review) หรือไม่ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดรับข้อมูล สำหรับ การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าต่างประเทศ ได้รับแจ้งข้อมูลเบื้องต้นจากภาคเอกชนและข้อ มูลประเมินความเสียหายที่เป็นทางการจากกรมประมงแล้วและจะจัดการหารือร่วมทุกฝ่ายเพื่อประมวลข้อมูล ความเสียหายของอุตสาหกรรมกุ้งไทยในวันที่ 16 กุมภาพัน ธ์ 2548 เพื่อเตรียมยื่นให้ ITC พิจารณา ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะได้มีหนังสือถึง DOC และผู้แทนการค้าสหรัฐ ฯ (USTR) เพื่อสนับสนุนให้ ITC พิจารณา กรณีของไทยอีกทางหนึ่ง ส่วนสถานการณ์ส่งออกกุ้งของไทยในปี 2547 มีปริมาณ 240,953 ตัน มูลค่า 67,319 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.93 แต่มูลค่าลดลงร้อยละ 6.25 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตลาด หลักยังคงเป็นสหรัฐ ฯ ที่ร้อยละ 55 ตลอดรองคือ ญี่ปุ่น ร้อยละ 19 ส่วนตลาดที่มีแนวโน้มการส่งออกดี คือ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และฮ่องกง
|
|||||||||||||||
3584 | การจัดตั้ง Thailand Plaza (THP) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา | พณ | 15/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดตั้ง Thailand Plaza
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 จากอาคารเลขที่ 529 Fifth Avenue นครนิวยอร์ก ประเทศ สหรัฐอเมริกา ระยะเวลา 10 ปี เป็นอาคารเลขที่ 505 Fifth Avenue ระยะเวลา 10 ปี โดยมีค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่ม ขึ้นจากเดิมร้อยละ 51 และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่น กรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ครั้งที่ 1/2548 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548 เกี่ยวกับทำเลที่ตั้ง ควรใช้พื้นที่ด้านหน้าอาคารเป็นที่แสดงสินค้า และพื้นที่ด้านหลังเป็นสำนักงาน และจัดให้มีห้องประชุมที่ตกแต่ง แบบไทย รวมทั้งพิจารณาให้มีการใช้ประโยชน์สถานที่ โดยมีการดำเนินการอย่างบูรณาการและให้เกิดผลตอบ แทนที่คุ้มค่า และควรมีการเตรียมผู้บริหารที่มีความพร้อมและมีความเป็นมืออาชีพด้วย ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในส่วนของภาคราชการ ให้ดำเนินการตามแนวทางตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 เรื่อง การจัดตั้ง Thailand Plaza ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อไป ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||
3585 | การค้าระหว่างประเทศของไทย ปี 2547 | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทย
ปี 2547 ดังนี้ การส่งออกของไทยเดือนธันวาคม 2547 มีมูลค่า 8,468.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือน เดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 16.8 และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 22.1 ส่วนการนำเข้าเดือน ธันวาคม 2547 มีมูลค่า 7,545.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 2.9 และ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 26.6 สำหรับดุลการค้าของไทยเดือนธันวาคม 2547 เกินดุลมูล ค่า 922.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ในส่วนของตลาดส่งออกสำคัญ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดใหม่และ ตลาดหลัก โดยตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อาเซียน (เพิ่มขึ้นร้อยะ 27.9) แอฟริกา (ร้อย ละ 57.2) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 33.6) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 29.8) และลาตินอเมริกา (ร้อยละ 29.2) รวมทั้งตลาดที่ไทยจัดทำเขตการค้าเสรี คือ อินเดีย (ร้อยละ 43.0) จีน (ร้อยละ 25.1) และออสเตรเลีย (ร้อย ละ 14.3 ) สำหรับการส่งออกสินค้าสำคัญ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งสินค้าเกษตรกรรม/อุตสาหกรรมการ เกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูงถึงร้อยละ 46.9, 32.5 และ 23.1 ตามลำดับ และไก่แปรรูปซึ่งส่งออกเพิ่มขึ้นในอัตราสูงถึงร้อยละ 36.9 และกุ้งแช่แข็งและ แปรรูปที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 28.1 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าสำคัญอื่น ๆ ที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และส่วนประกอบ สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิต ภัณพ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เภสัช
|
|||||||||||||||
3586 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนมกราคม 2548 (17 - 21 มกราคม 2548) | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 17 - 21 มกราคม 2548 โดยความเคลื่อนไหวราคา สินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรางน้ำ (ขนาด 100 x 50 x 5 มม./6 ม.) ราคาลดลงร้อยละ 4.92 ตะปู ราคาลดลงร้อยละ 1.89 ปุ๋ยเคมี (สูตร 46-0-0) และ ยากำจัดศัตรูพืช (ตราแลนแนท 40%) ราคาลดลงร้อยละ 0.40 และ 3.13 และผักชี ราคาลดลงร้อยละ 16.67 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.90-5.19 ถุงพลาสติก ราคาสูง ขึ้นร้อยละ 2.78-6.25 ไก่สดและไข่สด ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2.04 และ 1.89 รวมทั้งมะนาว ราคาสูงขึ้นร้อย ละ 6.86 สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น ผลิต ภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว สบู่ ผงซักฟอก แป้งผงโรยตัว และผ้าอนามัย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มี การประชุมระหว่างกรมการค้าภายในกับกรมประมง องค์การสะพานปลา สมาคมการประมงแห่งประเทศ ไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาจำหน่ายปลาตกต่ำใน พื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ โดยให้มีการรณรงค์การบริโภค การเชื่อมโยงการซื้อ-ขายโดยตรงระหว่างแหล่ง ผลิตและแหล่งบริโภค ในกรณีที่มีปัญหาปริมาณสัตว์น้ำทะเลล้นตลาดจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) พิจารณานำสัตว์น้ำทะเลที่ล้นตลาดจำนวนหนึ่งเก็บเข้าห้องเย็น เพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางการตลาดต่อไป
|
|||||||||||||||
3587 | การเร่งรัดการบริหารจัดการลำไยอบแห้งปี 2545-2547 | นร | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการเร่งรัดการบริหารจัดการลำไยอบแห้งปี
2545-2547 โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) เร่งรัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานอื่น ที่เกี่ยวข้องให้เร่งจำหน่ายลำไยอบแห้งให้แก่จีนให้หมดโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไยอบแห้งปี 2545 ให้คัดแยกและตัดยอดจำนวนลำไยเน่าเสียออกแล้วทำลายทั้งหมดเพื่อมิให้เกิดปัญหาการนำไปปลอมปนกับ ลำไยในฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาด และให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ การดำเนินการจัดหารถจักรดี เซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 มกราคม และ 18 มกราคม 2548 ที่ให้ใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าที่มีมูลค่าเท่ากัน (Barter Trade) โดยนำลำไยอบแห้งแลก กับรถจักรดีเซลไฟฟ้า นั้น หากฝ่ายจีนมีความประสงค์จะขอแลกรถจักรดีเซลไฟฟ้ากับสินค้าชนิดอื่นของไทย นอกเหนือจากลำไยอบแห้ง ให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม โดยลำไยอบแห้งส่วนที่เกินจากดำเนินการภายใต้การจัดหา รถจักรดีเซลไฟฟ้า อาจขอให้จีนชำระคืนเป็นเงินสด หรือขอแลกเป็นสินค้าอื่นใดตามความต้องการของทาง ราชการไทย และหากส่วนราชการใดมีความประสงค์จะขอจัดซื้อสินค้าใด ๆ จากจีนโดยวิธีแลกเปลี่ยนสินค้า ดังกล่าวกับลำไยอบแห้งที่ส่งขายให้จีน เช่น กรณีการจัดหายุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม เป็นต้น ให้ ส่วนราชการนั้น ๆ ประสานและแจ้งข้อมูลไปยังกระทรวงพาณิชย์โดยเร็ว เพื่อรวบรวมข้อมูลและดำเนินการ เจรจาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายจีนต่อไป และให้ส่วนราชการนั้น ๆ แจ้งข้อมูลดังกล่าวไปให้สำนัก งบประมาณทราบด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อเตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการงบประมาณของส่วนราช การให้สอดคล้องกัน นอกจากนี้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) เร่งรัดและติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2547 เรื่อง ขออนุมัติงบ ประมาณสนับสนุนสถาบันเกษตรกรเป็นผู้ผลิตลำไยบรรจุกระป๋องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเป็นการช่วยลด อุปทานของลำไยในตลาด ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ราคาจำหน่ายลำไยดีขึ้น
|
|||||||||||||||
3588 | ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2548 | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป
และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2548 สรุปได้ดังนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของ ประเทศเดือนมกราคม 2548 เท่ากับ 105.4 เทียบกับเดือนธันวาคม 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 จากการสูง ขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.6 โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ นมและผลิตภัณฑ์นม ผักสด ผลไม้สด ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและ เครื่องดื่มลดลง ร้อยละ 0.2 โดยสินค้าและบริการสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับดัชนี ราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2548 เท่ากับ 100.9 เทียบกับเดือนธันวาคม 2547 สูง ขึ้นร้อยละ 0.1 และเดือนมกราคม 2547 สูงขึ้นร้อยละ 0.7
|
|||||||||||||||
3589 | ผลการดำเนินนโยบายยกเว้นอากรสินค้าขาเข้าลักษณะ One Way Free Trade | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินนโยบายยกเว้นอากร
สินค้าขาเข้าลักษณะ One Way Free Trade ระหว่างเดือนมีนาคม-ธันวาคม 2547 มีการนำเข้าสินค้าจาก พม่า สปป.ลาว และกัมพูชา รวม 7 รายการ คือ ข้าวโพดหวาน ข้าวโพด (เมล็ด) ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ด ละหุง ยูคาลิปตัส และลูกเดือย (สปป.ลาว) มูลค่ารวม 69,068,430.33 บาท ส่วนมันฝรั่งและเมล็ดมะ ม่วงหิมพานต์ไม่มีการนำเข้า สำหรับการนำเข้าสินค้าของพม่า สปป.ลาว และกัมพูชา มีดังนี้ พม่า มีการ นำเข้าสินค้า 3 รายการ คือ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และเมล็ดละหุ่ง มูลค่ารวม 42,651,985.61 บาท สปป. ลาว มีการนำเข้าสินค้า 6 รายการ คือ ข้าวโพดหวาน ข้าวโพด (เมล็ด) ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ยูคาลิปตัส และ ลูกเดือย มูลค่ารวม 26,121,979.72 บาท และกัมพูชา มีการนำเข้าสินค้า 1 รายการ คือ เมล็ดละหุ่ง มูลค่ารวม 294,465.00 บาท
|
|||||||||||||||
3590 | รายงานสถานการณ์การตลาดและการส่งออกข้าวไทยปี 2548 | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์และข้อเท็จจริงการตลาดและ
การส่งออกข้าวไทยปี 2548 สรุปได้ดังนี้ การส่งออกข้าวในเดือนมกราคม 2548 มีปริมาณการส่งออกรวมทั้ง สิ้น 768,464 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 ส่วนการระบายข้าวในสต็อก ขณะนี้ยังไม่มีความ เหมาะสมเนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว และปริมาณข้าวเปลือกส่วนใหญ่ประมาณ 17 ล้านตันยังอยู่ในมือ เกษตรกรและกำลังออกสู่ตลาด ประกอบกับข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านตัน หากมี การระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลออกสู่ท้องตลาดในระยะนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาและรายได้ของ เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลอย่างแน่นอน รวมทั้งในปี 2547 ที่ผ่านมาได้มีการ เปิดประมูลข้าว โดยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่มีความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่ว ไปสามารถเข้าร่วมการประมูลซื้อข้าวได้เท่าเทียมกัน สำหรับสถานการณ์การแข่งขันข้าวไทยในตลาดโลก ข้าว ไทยเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของผู้ซื้อในต่างประเทศ เนื่องจากข้าวไทยมีคุณสมบัติที่หลากหลายและคุณภาพดี ตรงความต้องการของผู้ซื้อและยังมีการส่งมอบตรงตามสัญญา ฯ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดโครงการ รับจำนำข้าวเปลือกปี 2547/48 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2548 มีปริมาณข้าว เปลือกทั้งสิ้น 3,185,239 ตัน ประกอบด้วย ข้าวเจ้า 1,892,117 ตัน ข้าวหอมมะลิ 1,110,398 ตัน และข้าว อื่น ๆ 182,724 ตัน โดยข้าวเปลือกประกาศราคารับจำนำไว้ที่ 6,600 บาทต่อตัน ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ประกาศราคารับจำนำไว้ที่ 9,000 บาทต่อตัน และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาทต่อตันในเดือนธันวาคม 2547 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการค้าข้าวในปี 2548 คาดว่า จะสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน ทั้งนี้ขึ้น กับปริมาณผลผลิตและปริมาณสต็อกข้าว สำหรับนโยบายด้านราคาจะได้ผลักดันราคาข้าวไทยให้สูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 350 เหรียญสหรัฐต่อตัน ภายในปี 2548 สำหรับข้าวขาวชนิด 100 เปอร์ เซ็นต์ และผลักดันให้ระดับราคาส่งออกเฉลี่ยตลอดปี 2548 อยู่ที่ระดับราคาไม่ต่ำกว่า 330 เหรียญสหรัฐต่อ ตัน ส่วนนโยบายราคาภายในประเทศ จะยกระดับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิให้สูงขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้ราคา ข้าวอื่น ๆ ปรับตัวสูงขึ้น
|
|||||||||||||||
3591 | การจัดงานแสดงสินค้า "หัวใจไทย สู่ผู้ประสบภัยสึนามิ" | พณ | 08/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการจัดงานแสดงสินค้า "หัวใจไทย
สู่ผู้ประสบภัยสึนามิ" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-13 กุมภาพันธ์ 2548 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิม แพค เมืองทองธานี โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ส่วนหนึ่งนำขึ้นทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภา กาชาดไทย โดยเสด็จพระราชกุศล และอีกส่วนหนึ่งมอบให้สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากคลื่นใต้น้ำสึนามิ คาดว่าจะสามารถรวบรวมรายได้ทั้งหมด ในวงเงินประมาณ 30 ล้านบาท สำหรับกิจ กรรมภายในงานมีการจัดแสดงและการจำหน่ายสินค้าคุณภาพชั้นนำของไทยที่คัดสรรแล้วกว่า 1,000 คูหา ประกอบด้วย สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าหัตถกรรมและอุตสาหกรรม อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องหนัง เสื้อ ผ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องสำอาง สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สปา อาหาร เกษตร แปรรูป และสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
|
|||||||||||||||
3592 | มาตรการทางการค้าของสหภาพยุโรปที่จะช่วยเหลือประเทศที่ประสบสึนามิ | พณ | 01/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการทางการค้าของสหภาพยุโรปที่
จะช่วยเหลือประเทศที่ประสบสึนามิ โดยสถานะล่าสุด อียูใช้มาตรการภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti- dumping duties : AD) กับสินค้าไทย 9 รายการ ได้แก่ โทรทัศน์สี ข้อต่อท่อเหล็ก (Pipe Fitting) ข้อต่อท่อ เหล็กชนิด Malleable เส้นใยสังเคราะห์ชนิดสั้น เม็ดพลาสติก เส้นลวด เหล็กเกลียว ท่อเหล็กชนิด Welded Tubes สารคูมาริน และสลักภัณฑ์ (Stainless Steel Fasteners) ส่วนโครงการ GSP รอบใหม่ เดิมคาดว่าจะ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 โดยสินค้าไทยที่น่าจะได้สิทธิ GSP คืน คือ กุ้งแช่แข็งและกุ้งแปรรูป และอื่น ๆ อีกหลายรายการ ส่วนกำหนดการประกาศใช้ที่จะพยายามเลื่อนให้เร็วขึ้น ทางอียูยังไม่สามารถ ระบุเวลาแน่ชัดได้ สำหรับการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรวบรวมข้อมูลที่จะใช้ยื่นต่อคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการด้วยว่า การขอรับความ ช่วยเหลือที่ฝ่ายไทยจะยื่นขอต่อคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้แก่ประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ และเกิด ความเสียหายจากคลื่นสึนามิเช่นเดียวกับประเทศไทย
|
|||||||||||||||
3593 | ผลการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย | นร | 01/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอดังนี้ รับทราบรายงานผลการเยือนไทย
อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อร่วมหารือประจำปีใน ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2547 โดยในการ เยือนไทยครั้งนี้ได้มีการหารือครอบคลุมประเด็นทวิภาคีในทุกสาขา มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็น ภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศต่างๆ อาทิเช่น ความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การค้าต่างตอบแทน การแก้ไขปัญหาหนี้ข้าวรัสเซีย การเข้าเป็นสมาชิก WTO ของรัสเซีย ความร่วมมือด้าน การท่องเที่ยว ความร่วมมือทางการทหาร เป็นต้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองได้ลง นามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาไทย-รัสเซีย เพื่อเป็นกรอบการดำเนินการขยายความร่วม มือด้านการศึกษาระหว่างกัน และอนุมัติให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ อาทิเช่น ให้กระทรวงการ ต่างประเทศประสานกับฝ่ายรัสเซีย เพื่อให้การหารือประจำปีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประ เทศทั้งสองเป็นกลไกถาวรต่อไป ให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้า แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ติดตามความคืบหน้าในการจัด ตั้งสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย และร่วมกับหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมมาตรการทางการค้าเพื่อ เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับรัสเซียให้ถึงระดับ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงพิจารณาความเป็นไป ได้ในการทบทวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กจากรัสเซีย ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุนร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พิจารณาลู่ทางการ เข้าไปลงทุนในภูมิภาคไซบีเรียและตะวันออกไกลของรัสเซีย เป็นต้น
|
|||||||||||||||
3594 | การตรวจโรงงานไก่เพื่อส่งออกไปรัสเซียโดยการจัดทำความตกลงการค้าต่างตอบแทน | พณ | 01/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการตรวจโรงงานไก่เพื่อส่ง
ออกไปยังรัสเซีย โดยเชิญเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์รัสเซียมาตรวจรับรองโรงงานไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูป ของไทยในระหว่างวันที่ 30 มกราคม-7 กุมภาพันธ์ 2548 ยกเว้นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ซึ่งจะมีการเลือก ตั้งทั่วประเทศ นั้น ฝ่ายรัสเซียแจ้งว่า ในครั้งนี้ ต้องการมารวบรวมข้อมูลด้านสุขอนามัยและระบบการควบคุม โรคของไทย พร้อมเยี่ยมชมโรงงานโดยยังไม่ตรวจรับรอง ซึ่งหลังจากได้ผลการตรวจสอบแล้วจึงจะส่งเจ้าหน้า ที่สัตวแพทย์มาตรวจรับรองโรงงานอีกครั้งโดยเร็ว ซึ่งฝ่ายไทยได้จัดทำกำหนดการโดยมีโรงงานที่จะเยี่ยมชม ทั้งสิ้น 8 โรง โดยทั้งหมดเป็นโรงงานที่มีทั้งโรงชำแหละและโรงแปรรูป
|
|||||||||||||||
3595 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสิทธิบัตร (จำนวน 12 ราย) | พณ | 01/02/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
สิทธิบัตร ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ได้แก่ นายอำพล ไมตรีเวช สาขาเภสัชศาสตร์ นายวีระศักดิ์ ว่องปรีชา สาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นายกิตติ อมรรักษา สาขาวิทยาศาสตร์ นายวิชา ธิติประ เสริฐ สาขาเกษตรศาสตร์ และนายธีระ หงส์เจริญ สาขานิติศาสตร์ และผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน ได้แก่ นาย โยธิน อนาวิล สาขาวิศวกรรมศาสตร์ นายพลาวุธ เชาวนโยธิน สาขาวิศกรรมศาสตร์ นายเย็นใจ เลาหวณิช สาขาวิทยาศาสตร์ นายฉัตรชัย บุญรัตน์ สาขาวิทยาศาสตร์ นายจิระศักดิ์ เกษร์สุวรรณ สาขาวิทยาศาสตร์ นายทวี ฟองกษีร สาขาเศรษฐศาสตร์ และนายนำชัย เอกพัฒนพาณิชย์ สาขานิติศาสตร์ โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่ วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (1 กุมภาพันธ์ 2548) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||
3596 | การบริหารจัดการลำไยอบแห้ง ปี 2545-2547 | นร | 25/01/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบให้รองนายก
รัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหากรณีลำไยปี 2545-2547 โดยให้ทำ ลายลำไยส่วนเน่าเสียทั้งหมดก่อนจำหน่าย และให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการจัดจำหน่ายและส่งออกลำไยที่มี คุณภาพดีไปต่างประเทศให้เสร็จสิ้นก่อนผลผลิตของลำไยฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด เนื่องจากการดำเนินการใน เรื่องนี้ยังมีความล่าช้าอยู่มาก จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานกรรมการนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธุ์ 2548 นี้ด้วย
|
|||||||||||||||
3597 | สถานการณ์การส่งออกไก่ในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2547 (ม.ค. - พ.ย.) | พณ | 25/01/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอสถานการณ์การส่งออกไก่ในระยะ 11 เดือน
แรกของปี 2547 (มกราคม-พฤศจิกายน 2547) โดยในภาพรวมการส่งออกไก่ในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2547 ไทยส่งออกไก่ทั้งหมด 182,463 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 20,473 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44 โดยการส่ง ออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งมีปริมาณและมูลค่าลดลงร้อยละ 92 แต่การส่งออกไก่แปรรูปมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 (155,984 ตัน) ส่วนการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ (ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเกาหลีใต้) ประเทศผู้นำเข้า หลักห้ามนำเข้าเฉพาะไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง แต่ไทยยังสามารถส่งออกไก่แปรรูปไปทั้ง 3 ตลาดเพิ่มขึ้น โดยส่ง ออกไปญี่ปุ่นมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 (74,912 ตัน) และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 (9,213 ล้านบาท) การส่งออกไปสหภาพยุโรปมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 (69,727 ตัน) และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 (8,289 ล้านบาท) เกาหลีใต้มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 348 (5,032 ตัน) และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 217 (466 ล้านบาท) สำหรับไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไทยส่งออกไปทั้ง 3 ตลาด เป็นปริมาณและมูลค่าลดลงระหว่างร้อยละ 89-94 และแนวโน้มการส่งออกในปี 2548 การส่งออกไก่แปรรูปมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น ตลาด เกาหลีใต้ มีการขยายตัวเป็นปริมาณมากถึงร้อยละ 348 ในปี 2547 และในปี 2548 คาดว่าจะสามารถขยาย ตัวเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากทางการเกาหลีได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจรับรองโรงงานไก่แปรรูปแล้วเมื่อเดือนธันวา คม 2547 จำนวน 22 โรงงาน และคาดว่าเกือบทุกโรงงานจะผ่านการรับรอง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเพิ่ม การส่งออกในตลาดอื่น เช่น สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินระบบการ ตรวจรับรองโรงงานร่วมกับกรมปศุสัตว์ไทยในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2548 ส่วนสหรัฐ ฯ อยู่ระหว่างการ พิจารณาเปิดตลาดเนื้อไก่แปรรูปให้ไทย โดยกระทรวงพาณิชย์กำลังประสานขอให้สหรัฐ ฯ ส่งเจ้าหน้าที่มา ตรวจสอบโรงงานไก่ และเก็บข้อมูลประกอบการพิจารณาเปิดตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2548 ทั้งนี้ ให้ กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) กับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ เพื่อให้ ส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งให้มากขึ้นโดยเร็ว โดยประสานกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ต่อไป
|
|||||||||||||||
3598 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนมกราคม 2548 (4 - 7 มกราคม 2548) | พณ | 25/01/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 1 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 4-7 มกราคม 2548 โดยแนวโน้มราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ ผัก ใบจะมีราคาลดลงตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญ เติบโต ส่วนความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม./6ม.) ราคาลดลงร้อยละ 0.96 เม็ดพลาสติก ราคาลดลงร้อยละ 1-6.98 ปุ๋ยเคมี (15-15- 15) ราคาลดลงร้อยละ 0.91 สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ สุกรชำแหละ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 5.71 ไก่สดและ ไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.40 และ 1.96 ตามลำดับ ส้มเขียวหวาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 11.11 และผักบุ้งจีน ราคา สูงขึ้นร้อยละ 28 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น ผลิตภัณพ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย สบู่ ผงซักฟอก แชมพู ผ้าอนามัย และถ่านไฟฉาย เป็นต้น ในส่วนของการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้มีการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ ประสบภัย 6 จังหวัดภาคใต้ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2548 โดยผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยตรงจะลดราคาจำหน่ายพิเศษ ในอัตราร้อยละ 5-15 รวมทั้งทยอยจัดส่งผลิตภัณฑ์ไก่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ได้รับความเสียหายในจังหวัดกระบี่และพังงา เป็นลำดับแรก จำนวน 3.2 ตัน และ 4 ตัน ตามลำดับ
|
|||||||||||||||
3599 | การปรับลดค่าธรรมเนียมพิเศษการส่งออกข้าวขาวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรป | พณ | 25/01/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษการส่ง
ออกข้าวขาวไปสหภาพยุโรป จาก 5,000 บาทต่อตัน เป็น 2,500 บาทต่อตัน และให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางการดำเนินการที่สามารถนำเงินค่าธรรมเนียมดัง กล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่เกษตรกรให้มากที่สุด รวมทั้งความเหมาะสมในการยกเลิกการเก็บ ค่าธรรมเนียมในลักษณะนี้ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป |
|||||||||||||||
3600 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 (10 - 14 มกราคม 2548) | พณ | 25/01/2548 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 10-14 มกราคม 2548 โดยแนวโน้มราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์ นี้ ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กและพลาสติกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตามราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงในตลาดต่าง ประเทศ ส่วนไก่สดและไข่ไก่ คาดว่าราคาจะแข็งตัวขึ้น เป็นผลจากการมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ในขณะ ที่การบริโภคเริ่มปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในด้านความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็ก เส้นชนิดเส้นกลม (ขนาด 9 มม.) ราคาลดลงร้อยละ 0.44 ท่อพีวีซีและถุงพลาสติก ราคาลดลงร้อยละ 5.50 และ 1.37-5.88 ตามลำดับ ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาลดลงร้อยละ 31.25 และ 14.29 ตามลำดับ สำหรับสินค้า ที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไก่สดและไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.16 และ 1.92 ตามลำดับ ส้มเขียวหวานและมะนาว ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2 และ 8.02 ตามลำดับ นอกจากนี้ ได้มีการปรับลดราคาแนะนำเหล็กเส้นตามต้นทุนวัตถุ ดิบ ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ประกอบด้วย การ ปรับลดราคาแนะนำเหล็กเส้นกลม SR 24 เหล็กข้ออ้อย SD 30 และเหล็กข้ออ้อย SD 40 ในส่วนของราคาแนะ นำเหล็กแผ่น ได้ให้ผู้ผลิตกำหนดราคาจำหน่ายให้สอดคล้องกับต้นทุน
|
.....