ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 792 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15821 - 15840 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15821 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) | นร12 | 06/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15822 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายดนัย การพจน์) | กต | 06/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายดนัย การพจน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15823 | ร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 06/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15824 | การจัดทำแผนงาน/โครงการหลักในพื้นที่ 6 ภาค | นร04 | 06/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ยึดหลักการแบ่งพื้นที่การดำเนินแผนงาน/โครงการในระดับภาค เป็น ๖ ภาค (ตามนัยคำสั่งคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ แผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ ๒/๒๕๖๑ เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาความเหมาะสมโครงการตามแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค) เพื่อประกอบการพิจารณาการจัดทำแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้
๑. ภาคเหนือ จำนวน ๑๗ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ๒. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวน ๒๐ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี ๓. ภาคกลาง จำนวน ๑๗ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง ๔. ภาคตะวันออก จำนวน ๘ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว ๕. ภาคใต้ จำนวน ๑๑ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ๖. ภาคใต้ชายแดน จำนวน ๓ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15825 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้ว โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเกี่ยวกับวิธีการหักหนี้ของผู้ฝากเงินได้จัดเตรียมทำกฎหมายลำดับรอง จำนวน ๕ ฉบับ ประกอบร่างพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ครอบคลุมขั้นตอนการดำเนินงานจ่ายคืนผู้ฝากเงิน การยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูล การขอคืนเงินฝากในกรณีที่ไม่ได้รับเงิน และจะได้ประสานงานกับสถาบันการเงินภายใต้กฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝากเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการหักหนี้ที่ถึงกำหนดชำระก่อนหรือในวันที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต รวมทั้งกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้จัดเตรียมแผนงานในการศึกษาเพื่อทบทวนระดับวงเงินความคุ้มครองที่เหมาะสมให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช ๒๔๘๕ โดยกำหนดมาตรการและกลไกเพิ่มเติมเพื่อเป็นเครื่องมือรองรับการแก้ไขปัญหาวิกฤตทางการเงินของสถาบันการเงิน ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องนี้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15826 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง เงื่อนไขหลักของความสำเร็จในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง เงื่อนไขหลักของความสำเร็จในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยข้อเสนอแนะที่ให้แก้ไขปัญหาระยะสั้น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำเนินการแล้ว เช่น การให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อกรมสรรพากร การจัดทำสื่อวีดิทัศน์เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ การประสานงานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และกรมสรรพากรในการจัดทำหลักการและรายละเอียดการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และได้มีการจัด Road Show ร่วมกับสถานประกอบการทั้ง ๕ ภูมิภาค ในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น สำหรับข้อเสนอแนะที่ให้แก้ปัญหาระยะยาว อยู่ระหว่างการดำเนินการ คือ การแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ และ/หรือ จัดทำกฎหมายส่งเสริมการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเป็นการเฉพาะ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพิจารณา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15827 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แนวทางในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป สรุปได้ ดังนี้
๑. ข้อเสนอแนะที่ได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ (๑) กิจกรรมที่มอบให้หน่วยงานภายในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษารับผิดชอบ เช่น การให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีโดยดำเนินการในทุกภูมิภาค การศึกษาข้อเท็จจริงเพื่อจัดการศึกษาระดับพื้นที่ การสนับสนุนงบประมาณพื้นฐานเพื่อเพิ่มปริมาณผู้เรียน การยกย่องเชิดชูเกียรติสถานศึกษา ครู ครูนิเทศ และครูในสถานประกอบการให้ได้รับการพัฒนาและรับเกียรติบัตร โล่รางวัลในโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น และ (๒) กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ประกอบด้วย สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับการนำเข้าวัสดุและเครื่องจักรอุปกรณ์จากต่างประเทศ ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดระบบทวิภาคีสถานประกอบการสามารถยกเว้นภาษีได้ตามประมวลรัษฎากร ๒. ข้อเสนอแนะที่กำลังดำเนินการ ได้แก่ การพัฒนาการจัดการศึกษาเทียบกับมาตรฐานของต่างประเทศ การจัดทำแผนการวิจัยที่เกี่ยวกับระบบทวิภาคีและหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ ๓. ข้อเสนอแนะที่ไม่สามารถดำเนินการได้เอง ได้แก่ การจัดตั้งสมาคมอาชีวศึกษาทวิภาคีไทย และการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานในการคัดกรองและพัฒนาครูอาชีวศึกษา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15828 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬา | ศธ | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬาในปีการศึกษา ๒๕๕๙ และปีการศึกษา ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬาในปีการศึกษา ๒๕๕๙-๒๕๖๐ โดยปีการศึกษา ๒๕๕๙ กระทรวงศึกษาธิการเปิดห้องเรียนกีฬา ๓ โรงเรียน ๓ จังหวัด โดยเปิดรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ในชนิดกีฬาฟุตบอลและวอลเลย์บอลหญิง ปัจจุบันมีนักเรียนรุ่นที่ ๑ จำนวน ๒๐๐ คน และในปีการศึกษา ๒๕๖๐ เปิดห้องเรียนกีฬาเพิ่มเติม จำนวน ๖ โรงเรียน ๕ จังหวัด โดยเปิดรับเฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ปัจจุบันมีนักเรียนในรุ่นที่ ๒ จำนวน ๔๔๑ คน ๒. ผลการแข่งขันของโรงเรียนในโครงการห้องเรียนกีฬาในระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับนานาชาติที่สำคัญ เช่น ชนะเลิศฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชนะเลิศการแข่งขันบาสเกตบอลนักเรียนชิงชนะเลิศระดับประเทศรายการ OBEC MONO CHAMPION CUP 2017 เป็นต้น และผลงานของนักเรียนรายบุคคลในโครงการห้องเรียนกีฬาที่เป็นตัวแทนทีมชาติ มีนักเรียนเป็นตัวแทนทีมชาติ จำนวน ๓ คน ๓. กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกันดำเนินโครงการตามข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการห้องเรียนกีฬา (MOU) โดยเปิดห้องเรียนได้ครบถ้วนในจังหวัดที่มีสถาบันการพลศึกษาตั้งอยู่ แต่ไม่มีโรงเรียนกีฬา จำนวน ๙ โรงเรียน ใน ๘ จังหวัด และได้จัดทำบันทึกข้อตกลงให้นักเรียนที่จะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโครงการห้องเรียนกีฬาดังกล่าว รุ่นที่ ๑ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ สามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในสถาบันการพลศึกษาในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15829 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... | มท | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15830 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน รวม 2 ฉบับ (ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน) | คค | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ (๑) ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน-นครราชสีมา เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และ (๒) ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทนเพื่อเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนและส่งมอบพื้นที่เพื่อสร้างทางหลวงทั้ง ๒ สายดังกล่าวได้ทันตามเวลาที่กำหนดไว้ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15831 | ขอความเห็นชอบการเสียภาษีสลากบำรุงกาชาดไทย | สกช | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สภากาชาดไทย หรือเหล่ากาชาดจังหวัด หรือกิ่งกาชาดอำเภอซึ่งเป็นตัวแทนของสภากาชาดไทยผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินแบ่ง หรือสลากกาชาดประจำปี ๒๕๖๑ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้มอบให้สภากาชาดไทย เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๐.๕ แห่งยอดราคาสลาก ซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหักรายจ่าย ตามข้อ ๑๒ (๔) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ ได้ ตามที่สภากาชาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15832 | ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเยียวยาความเสียหาย กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกรณีการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม | สม | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเยียวยาความเสียหาย กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกรณีการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้แจ้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบด้วย ซึ่งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักกิจการยุติธรรมได้ศึกษาแนวคิดและกฎหมายจากต่างประเทศ เช่น เยอรมัน และชิลี พบว่ายังไม่มีประเทศใดที่กำหนดให้มีกฎหมายกลาง แต่จะมีเพียงบางประเทศมีการช่วยเหลือในรูปแบบของระเบียบ ๒. กรมบัญชีกลางจะมีการยกร่างระเบียบเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง และเหตุพิเศษอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีชีวิตและร่างกาย โดยกำหนดกรอบอัตราการช่วยเหลือเทียบเคียงจากพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าตอบทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15833 | ขอความเห็นชอบในชนิด ขนาด และจำนวน ของอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ เพื่อใช้ในราชการของสำนักงาน ปปง. ตามมาตรา 46/2 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 | ปง | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการในชนิด ขนาด และจำนวนของอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด ๙ มิลลิเมตร จำนวน ๑๐๐ กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด ๙ มิลลิเมตร จำนวน ๓,๐๐๐ นัด ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จะจัดซื้อ ตามที่สำนักงาน ปปง. เสนอ และให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการควบคุมอาวุธปืนให้มีประสิทธิภาพ และมีการกำหนดจำนวนการอนุญาตให้มีอาวุธปืนต่อคนอย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ ไปดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15834 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | ดศ | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและอนุมัติลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Memorandum of Understanding on Cooperation in the Field of Posts, Telecommunications, Information and Digital Technology between the Ministry of Digital Economy and Society of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Posts and Telecommunications of the Lao People’s Democratic Republic) ซึ่งจะมีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างวันที่ ๑-๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเทคโนโลยีดิจิทัลของสองประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีและเทคโนโลยีดิจิทัล ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15835 | การดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี [ข้อมติฯ ที่ 2397 (ค.ศ. 2017)] | กต | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) ที่ ๒๓๙๗ (ค.ศ. ๒๐๑๗) เกี่ยวกับมาตรการลงโทษสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดยยกระดับและเพิ่มมาตรการลงโทษ เช่น (๑) เพิ่มเติมรายชื่อบุคคลและองค์กรที่ถูกมาตรการลงโทษ (๒) ขยายมาตรการทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมการห้ามส่งออกทรัพยากรพลังงาน (๓) กำหนดรายการสิ่งของที่ห้ามนำเข้าและส่งออกเพิ่มเติม (๔) ห้ามซื้อหรือรับโอนสิทธิการทำประมง (๕) กำหนดมาตรการตรวจค้นและมาตรการทางเรือเพิ่มเติม และ (๖) กำหนดมาตรการด้านแรงงานเพิ่มเติม ๒. มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ถือปฏิบัติตามข้อมติ UNSC ปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือให้ทันสมัยตามข้อมูลเว็บไซต์ของสหประชาชาติ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องพึงระวังและดำเนินการให้เป็นไปตามข้อมติ UNSC และแจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับข้อขัดข้องหรืออุปสรรคในการปฏิบัติตามข้อมติดังกล่าวให้กระทรวงการต่างประเทศทราบด้วย เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15836 | รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ ครั้งที่ 5 | มท | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ ครั้งที่ ๕ (The 5th ASEAN Ministerial Meeting on Disaster Management : AMMDM) และการประชุมผู้นำภาคีเพื่อดำเนินการตามความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ ๖ [The 6th Meeting of the Conference of the Parties (COP-6) to the AADMER] เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสุธี มากบุญ) เข้าร่วมการประชุมพร้อมคณะ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Committee on disaster Management : ACDM) และศูนย์ประสานงานอาเซียนในการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม (the ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on disaster management AHA Center) และเห็นชอบในหลักการที่สำคัญ เช่น (๑) สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งในระดับชุมชน (๒) รับรองตามมติที่ประชุม ACDM ให้สำนักเลขาธิการอาเซียนจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเพื่อพัฒนาแผนการดำเนินงานตามปฏิญญาดังกล่าวภายในไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๑ (๓) รับรองตามมติที่ประชุม ACDM สนับสนุนให้อาเซียนเข้าร่วมการประชุมนานาชาติภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติ และ (๔) รับทราบการจัดการประชุมภาคีรัฐมนตรีอาเซียนเพื่อหารือด้านการจัดการภัยพิบัติ ครั้งที่ ๑ ในปี ๒๕๖๑ ณ ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15837 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. .... | ศธ | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. .... ของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ที่ตรวจพิจารณาแล้วไปปรับปรุงแก้ไขตามความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เช่น แหล่งที่มาของเงินกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา การจัดตั้งหน่วยงานตามร่างพระราชบัญญัติฯ และการกำหนดวงเงินที่รัฐบาลจัดสรรเป็นทุนประเดิม การกำหนดแหล่งที่มาของเงินทุนและการกำหนดโครงสร้างของกองทุนฯ เป็นต้น แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการนโยบายบริหารทุนหมุนเวียน ไปพิจารณาดำเนินการเมื่อได้จัดตั้งเป็นสำนักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาตามกฎหมายนี้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15838 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหมากแข้ง ตำบลหนองบัว ตำบลหนองนาคำ ตำบลหนองขอนกว้าง ตำบลบ้านจั่น และตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... | คค | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหมากแข้ง ตำบลหนองบัว ตำบลหนองนาคำ ตำบลหนองขอนกว้าง ตำบลบ้านจั่น และตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี และสร้างถนนเชื่อมต่อสาย ง๘ กับสาย ก๗ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กรมทางหลวงชนบทควรให้ความสำคัญกับการกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และประสานกับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพื่อร่วมกันกำหนดรูปแบบการดำเนินโครงการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนพัฒนาระบบรถไฟในพื้นที่เพื่อให้เกิดการบูรณาการแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพและลดภาระการลงทุนของภาครัฐในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15839 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 5 | ทส | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๕ (Greater Mekong Subregion Environment Ministers’ Meeting : GMS EMM) จำนวน ๒ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) ร่างกรอบยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการของแผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อม (ระยะที่ ๓) (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) เป็นเอกสารที่กำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานในการดำเนินการตามแผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อมในระยะที่ ๓ (ระยะเสริมสร้างความเข้มแข็ง) โดยเป็นการกำหนดให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงได้ และ (๒) ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๕ เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกันของรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงในการให้คำมั่นร่วมกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่ครอบคลุมและยั่งยืนตามแนวทางของแผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมุ่งเน้นการเชื่อมโยงแผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อมกับระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและส่งเสริมการดำเนินโครงการของกรอบการลงทุนระดับภูมิภาคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ จำนวน ๒ ฉบับดังกล่าว ในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๕ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ จำนวน ๒ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายนำเสนอประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาและเพิ่มพื้นที่การปลูกป่าต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๕ ด้วย ๔. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดศึกษาการจัดการผลกระทบเนื่องมาจากการจัดการความเสี่ยงและป้องกันผลกระทบเนื่องมาจากภัยธรรมชาติและภัยพิบัติข้ามแดน และร่วมหารือเพื่อสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติอย่างจริงจัง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15840 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดเลือกกรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... | พณ | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคัดเลือกกรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสรรหาบุคคลเป็นกรรมการการแข่งขันทางการค้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้พิจารณาในประเด็นความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น การอ้างบทอาศัยอำนาจตามมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๑๒ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๖๐ การกำหนดบทนิยามคำว่า “คณะกรรมการ” “กรรมการ” และ “สำนักงาน” รวมทั้งหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาหรือสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เป็นต้น และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประกาศรายชื่อผู้สมัครคัดเลือกเป็นกรรมการแข่งขันทางการค้าผ่านสื่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนทั่วไปรับทราบอย่างแพร่หลาย รวมทั้งควรพิจารณาขยายระยะเวลาการคัดค้านคุณสมบัติของผู้สมัคร จากที่ได้กำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงฯ ออกไปเป็นจะต้องดำเนินการภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้สมัคร ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....