ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 795 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15881 - 15900 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15881 | การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2561 จำนวน 500 ล้านบาท | พม | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ จำนวน ๕๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้มีการจัดทำแผนการบริหารความเสี่ยง มีการวางแผนการเงินล่วงหน้า และพัฒนาระบบการบริหารจัดการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนจัดทำแผนการบริหารจัดการการกู้เงินให้สอดคล้องกับการดำเนินกิจการและสภาพคล่องทางการเงินของสำนักงานธนานุเคราะห์ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15882 | ร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศย | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. ๒๕๔๕ เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในกรณีที่คู่พิพาทประสงค์จะให้อนุญาโตตุลาการและผู้รับมอบอำนาจซี่งเป็นคนต่างด้าวเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยได้ ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวและกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โดยให้มีสิทธิปฏิบัติหน้าที่ได้ตามข้อบังคับนั้น ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และได้รับอนุญาตให้ทำงานในฐานะผู้เชี่ยวชาญตามตำแหน่งหน้าที่ของตนในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นปัญหาและความสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดไปประกอบการพิจารณาด้วยว่า การแก้ไขให้ประธานศาลฎีการักษาการตามพระราชบัญญัตินั้น มีความจำเป็นหรือไม่ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ ๓. มอบหมายให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการรับรองการดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ จะต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15883 | ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบการจอดรถในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | กค | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบการจอดรถในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบการจอดรถยนต์ในเขตเทศบาลและสุขาภิบาลเพื่อให้มีผลใช้บังคับถึงองค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติฯ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๓. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรพิจารณาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำรายงานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจอดรถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแจ้งหรือเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งให้พิจารณาการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและเงินค่าปรับตามร่างพระราชบัญญัติฯ ให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยคำนึงถึงผลกระทบของประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15884 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การจัดการน้ำเสีย พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อโอนย้ายองค์การจัดการน้ำเสียไปอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย โดยกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาฯ แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับคณะกรรมการองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อให้การบูรณาการงานด้านการจัดการน้ำเสียเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้องค์การจัดการน้ำเสียรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๐ ที่กำหนดให้องค์การจัดการน้ำเสียซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจทบทวนปรับสถานภาพให้เป็นองค์การมหาชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15885 | การขอกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์ประจำปีงบประมาณ 2561 | กค | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์กู้เงินโดยการออกพันธบัตรวงเงินรวมไม่เกิน ๓๓,๒๐๐ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๑ แบ่งเป็น (๑) การกู้เงินโดยการออกพันธบัตรใหม่ จำนวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งได้กำหนดไว้ในแผนการจัดหาแหล่งเงินทุนและการปรับสมดุลโครงสร้างเงินทุนในระยะยาวของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และ (๒) การกู้เงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อ Roll-over จำนวน ๑๘,๒๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นกรอบวงเงินการออกพันธบัตรเพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่มีอายุครบกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาออกแบบผลิตภัณฑ์เงินฝากหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีความสอดคล้องกับการให้สินเชื่อระยะยาวเพื่อเพิ่มสัดส่วนการระดมทุนของธนาคารอาคารสงเคราะห์จากเงินฝากระยะยาว ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การขอกู้เงินของธนาคารอาคารสงเคราะห์) อย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรจัดทำแผนการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากปัญหาความไม่สัมพันธ์กันระหว่างอายุของสินทรัพย์และหนี้สินและความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยในการดำรงเงินรับฝาก รวมถึงการพัฒนาระบบการบริหารจัดการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15886 | โครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก (ทุนพัฒนาอาจารย์) พ.ศ. 2561 - 2580 | ศธ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการถอนเรื่อง โครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก (ทุนพัฒนาอาจารย์) พ.ศ ๒๕๖๑-๒๕๘๐ คืนไปเพื่อพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา เช่น ควรมีการผสมผสานระหว่างการให้ทุนรัฐบาลและการขอทุนจากสถาบันในต่างประเทศ ในส่วนของทุนพัฒนาอาจารย์หลังปริญญาเอก หากมีการขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายสถาบันอื่น ๆ เช่น สถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดตามกระทรวงต่าง ๆ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความครอบคลุมมากขึ้น ควรมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลกระทบโครงการเมื่อสิ้นสุดโครงการในระยะที่ ๑ ก่อนการดำเนินโครงการในระยะที่ ๒ ต่อไป เพื่อให้การบริหารจัดการทุนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และควรมีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดสรรทุนกับแหล่งทุนอื่น ๆ ที่มีการจัดสรรทุนให้แก่อาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาด้วย เป็นต้น รวมทั้งข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15887 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารถนนรัชดาภิเษก 2) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ เพิ่มเติม | อส | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้สำนักงานอัยการสูงสุดเพิ่มวงเงินงบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเป็นกรณีเฉพาะราย ดังนี้ ๑.๑ ค่าก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารถนนรัชดาภิเษก ๒) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยให้เพิ่มวงเงินจากเดิม ๗๐,๔๖๒,๗๐๐ บาท (รวมเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด) เป็น ๒๑๐,๙๑๘,๐๐๐ บาท ๑.๒ ค่าควบคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด (อาคารถนนรัชดาภิเษก ๒) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยให้เพิ่มวงเงินจากเดิม ๑,๒๕๙,๒๐๐ บาท (รวมเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด) เป็น ๓,๗๖๕,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ การใช้จ่ายและเบิกจ่ายค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงานดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความประหยัดและประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณก่อนลงนามในสัญญาต่อไป ๒. ให้สำนักงานอัยการสูงสุดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการ และการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15888 | การดำเนินโครงการของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน | ทส | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีและออกหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าแล้ว คือ โครงการสนับสนุนธุรกิจประมงพื้นบ้าน จังหวัดปัตตานี ตามแนวทางขับเคลื่อนโครงการต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เนื้อที่ ๓ ไร่ โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ และออกหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๒. โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังมิได้ออกหนังสืออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า ได้แก่ (๑) โครงการก่อสร้างพุทธมณฑลจังหวัดสงขลา และศูนย์กีฬาและส่งเสริมคุณภาพตำบลน้ำน้อย เนื้อที่ ๑๕๑-๑/๗๓ ไร่ (๒) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล เนื้อที่ ๓.๖ ไร่ (๓) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองตำมะลัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เนื้อที่ ๗.๖๘ ไร่ (๔) โครงการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่ ๔๕๓ ไร่ และ (๕) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายน้ำคลอง D2 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เนื้อที่ ๑๖๕-๓-๖๗ ไร่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15889 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านตุลาการศาลปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศป | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านตุลาการศาลปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราค่าเช่าบ้านของตุลาการศาลปกครอง โดยกำหนดให้ตุลาการศาลปกครองได้รับค่าเช่าบ้านในอัตราเท่ากับข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมที่ได้รับเงินเดือนในอัตราที่เทียบเท่ากัน ตามที่ศาลปกครองเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยกำหนดวันใช้บังคับเป็นวันเดียวกับวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๒ กันยายน ๒๕๖๐) แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้สำนักงานศาลปกครองรับความเห็นของสำนักงบประมาณและฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างหน่วยงานและระบบค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐที่เห็นว่า เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว ให้สำนักงานศาลปกครองปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในโอกาสแรกก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป และในโอกาสต่อไปอาจพิจารณานำอัตราค่าเช่าบ้านของตุลาการศาลปกครองไปกำหนดเป็นบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการเช่นเดียวกับบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านของข้าราชการประเภทอื่น ๆ เพื่อความเป็นเอกภาพและความสะดวกในการปรับปรุงอัตราค่าเช่าบ้าน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15890 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... | นร09 | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการแบ่งส่วนราชการ รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๕๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15891 | รายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือตามโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับประเทศกัมพูชา | ยธ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือตามโครงการเสริมสร้างและยกระดับความร่วมมือด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐ ที่สนับสนุนงบประมาณให้แก่สำนักงานคณะกรรมการต่อสู้ยาเสพติดแห่งชาติกัมพูชา (National Authority for Combating Drugs : NACD) จำนวน ๓๘,๐๑๑,๔๐๐ บาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างศูนย์บำบัดและฝึกอาชีพสำหรับผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ ซึ่งพิธีส่งมอบความช่วยเหลือฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ อำเภอสตึงฮาว จังหวัดพระสีหนุ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางไปเข้าร่วมพิธีส่งมอบความช่วยเหลือฯ พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับสมเด็จกลาโหม ซอร์ เค็ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาซึ่งได้แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนของรัฐบาลไทยและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยตรงในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบของยาเสพติด ปัญหาด้านสาธารณสุข และอาชญากรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน และยังเป็นการปกป้องประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ตามเป้าหมายของแผนปฏิบัติการอาเซียนเพื่อประชาคมอาเซียนปลอดภัยจากยาเสพติดระยะ ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๘) อีกด้วย ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15892 | รายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การหารือทวิภาคีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (๑) การติดตามความคืบหน้าในการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ที่คาดว่าจะมีการลงนามในระหว่างการเดินทางเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนช่วงต้นปี ๒๕๖๑ และ (๒) การส่งเสริมความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้าน creative content industry (อุตสาหกรรมที่นำเอามรดกทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์เป็นผลงาน) การส่งเสริมความร่วมมือในการเผยแพร่ภาพยนตร์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน และการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง ๒. กิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ (๑) การเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “สานสัมพันธ์ศิลปินไทย-จีน : ฉลองสมาพันธ์ศิลปินไทย-จีน ก่อตั้งครบรอบ ๑๘ ปี” (๒) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการทางวัฒนธรรม ณ พระราชวังหลวง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน วัดลามะ วัดขงจื่อ และพิพิธภัณฑ์กั๋วจื่อเจี้ยน และ (๓) การสำรวจพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ 798 Art Distict กรุงปักกิ่ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15893 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... | มท | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสุขสำราญ ตำบลพุนกยูง และตำบลตากฟ้า อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นควรเพิ่มประเภทโรงงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงที่มีการประกอบกิจการโรงงาน และเพิ่มขนาดโรงงานในที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด โดยคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่และปริมาณการใช้น้ำในพื้นที่ และในการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่าง ๆ ควรพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อมมิให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดสร้างระบบรวบรวมหรือระบบบำบัด/กำจัดมลพิษ และการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่เป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินรองของการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในแต่ละประเทศ และควรจัดทำฐานข้อมูลว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใดและใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการกำหนดผังเมืองรวมฉบับที่จะมีการปรับปรุงของแต่ละเมือง นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองควรพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแลและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15894 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาร์เมเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เมเนียประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเซอร์เกย์ มานาซาร์ยัน (Mr. Sergey Manasaryan)] | กต | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเซอร์เกย์ มานาซาร์ยัน (Mr Sergey Manasayan) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เมเนียประจำประเทศไทย คนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15895 | รัฐบาลสาธารณรัฐฟิจิเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิจิประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายโกลีนีโอ กาตา ตากาลี (Mr. Kolinio Gata Takali)] | กต | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายโกลีนีโอ กาตา ตากาลี (Mr. Kolinio Gata Takali) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิจิประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สืบแทน นายเมลี ไบนีมารามา (Mr. Meli Bainimarama) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15896 | รัฐบาลสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นางเอลซา นูรี เบาซาน เบนซาโน (Mrs. Elsa Nury Bauzan Benzano)] | กต | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเอลซา นูรี เบาซาน เบนซาโน (Mrs. Elsa Nury Bauzan Benzano) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สืบแทน นายเคราร์โด ปราโต (Mr. Gerardo Prato) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15897 | การแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ (ผลการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งที่ 1/2560) | กษ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ประกอบด้วย (๑) นโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ (๒) กิจกรรมจำเป็นเร่งด่วน และ (๓) การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่บึงบอระเพ็ด ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ และวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ และให้เร่งรัดจัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาบึงบอระเพ็ด โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเสนอคณะกรรมการฯ ให้ความเห็นชอบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับวงเงินงบประมาณที่จะดำเนินการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น พิจารณาทบทวน ชะลอยกเลิกรายการที่ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาตามผลการประชุมคณะกรรมการฯ ตลอดจนรายการที่มีลำดับความสำคัญลดลง หรือรายการที่ไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจหลักของหน่วยงาน หรือโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินงานที่บรรลุวัตถุประสงค์หรือจากการจัดซื้อจัดจ้างแล้วไปดำเนินการในอันดับแรกก่อน หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการบึงบอระเพ็ด โดยประสานงานกับคณะกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม (กรมเจ้าท่า) เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่บึงบอระเพ็ดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้เร่งดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุก การใช้ประโยชน์เป็นที่ดินทำกิน และการเพิ่มพื้นที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำของบึงบอระเพ็ด ตามลำดับ ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบอย่างถูกต้อง และทั่วถึงเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของส่วนราชการทั้งที่ได้ดำเนินการแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ และที่จะดำเนินการต่อไป รวมทั้งประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15898 | ผลการประชุมขยะทะเลระดับอาเซียน เรื่อง การลดปริมาณขยะทะเลในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Conference on Reducing Marine Debris in ASEAN Region) | ทส | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมขยะทะเลระดับอาเซียน เรื่อง การลดปริมาณขยะทะเลในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Conference on Reducing Marine Debris in ASEAN Region) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ จังหวัดภูเก็ต โดยที่ประชุมได้ร่วมกันทบทวนสถานภาพและสถานการณ์ของมลภาวะด้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนโยบาย ความคิดริเริ่ม และการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบข้อเสนอแนะแนวทางในการจัดการและแก้ไขปัญหาขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน ได้แก่ (๑) สนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านนโยบาย โดยกำหนดนโยบายแบบบูรณาการและกรอบแนวทางความร่วมมือข้ามภาคส่วนในการจัดการขยะจากแหล่งทั้งบนบกและในทะเล (๒) เสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการและการริเริ่มต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหามลภาวะขยะทะเลระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และภูมิภาค (๓) เร่งดำเนินการศึกษาเพื่อให้ได้ฐานข้อมูลสถานภาพและผลกระทบของมลภาวะด้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และพัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทะเล (๔) ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล และ (๕) สร้างความตระหนักรู้และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบของขยะทะเล โดยผลสำเร็จจากการประชุมดังกล่าวได้ถูกนำเสนอในที่ประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๓ ณ สาธารณรัฐเคนยา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ และจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการประชุมของอาเซียนอย่างเป็นทางการ เพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะดังกล่าวทั้ง ๕ ข้อ เป็นกรอบการดำเนินงานในแนวทางที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการกำจัดขยะในพื้นที่ต่าง ๆ ให้เหมาะสม เป็นระบบครบวงจร ทั้งที่เป็นขยะต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งนี้ หากโครงการ/กิจกรรมใดมีความพร้อมขอให้เริ่มดำเนินการก่อน และในกรณีที่มีการฝังกลบขยะในพื้นที่แล้ว ให้พิจารณาปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย เช่น ปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะ ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งบริษัท ห้างร้าน หรือสถานประกอบการต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการลดการใช้วัสดุที่ผลิตขึ้นจากพลาสติกเนื่องจากจะกลายเป็นขยะตกค้างที่ย่อยสลายได้ยาก เช่น การใช้ถุงพลาสติกใส่สินค้าเท่าที่จำเป็นและกระตุ้นให้ผู้ซื้อสินค้านำถุงผ้ามาใส่สินค้าเอง การให้ส่วนลดราคาสินค้ากรณีที่ลูกค้าไม่ใช้ถุงพลาสติก เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15899 | รายงานผลการดำเนินงานและการนำเสนอวีดิทัศน์รายงานผลการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ. 2559 - 2560 | ยธ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง ๖ คณะ ได้พิจารณาร่างยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี ในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดส่งเป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว โดยยืนยันว่าจะจัดทำ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ชาติฯ ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑ ตามกำหนดเวลาของพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๒ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการจัดทำ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ และจัดส่ง (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ตามกำหนดเวลาของพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑.๓ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอยู่ระหว่างการดำเนินสรุปและสังเคราะห์ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เพื่อพิจารณาความสอดคล้องกับร่างยุทธศาสตร์ชาติฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุมร่วมประธานกรรมการปฏิรูปทุกคณะ ในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมการรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ยุทธศาสตร์ชาติในระดับภาค ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้ง ๑๑ ด้าน จะได้นำข้อมูลที่ได้รับไปปรับปรุงแก้ไข (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ในการนำ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศ ไปประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ดังกล่าว ให้พิจารณาแบ่งหมวดหมู่ สาระสำคัญของ (ร่าง) แผนการปฏิรูปประเทศให้เหมาะสมด้วย เช่น แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ (๑) เศรษฐกิจ (๒) สังคม และ (๓) การบริหารราชการแผ่นดิน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15900 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2563 พ.ศ. .... | พณ | 23/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับปี ๒๕๖๑ ถึงปี ๒๕๖๓ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับปี ๒๕๖๑ ถึงปี ๒๕๖๓ ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน [ASEAN Free Trade Area (AFTA)] เพื่อประกอบการใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรระบุบทอาศัยอำนาจเป็น “อาศัยอำนาจตามความใน (๕) และ (๖) ของมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒” เพื่อให้การระบุบทอาศัยอำนาจเป็นไปโดยชัดเจนและครบถ้วน และตัดวันใช้บังคับในร่างข้อ ๒ นอกจากนี้ การกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ เช่น การกำหนดช่วงเวลานำเข้าสำหรับผู้นำเข้าทั่วไป ต้องพิจารณาถึงความสอดคล้องกับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน [ASEAN Trade in Goods Agreement (ATIGA)] และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำกับดูแลการปฏิบัติตามร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ในการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดเพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหารของสินค้า รวมทั้งควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบนโยบายการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ที่กำหนดระยะเวลานำเข้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคม ของแต่ละปี (ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓) เพื่อให้ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าได้ทันตามกฎหมายกำหนดและได้รับประโยชน์สูงสุดตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....