ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 799 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 15961 - 15980 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15961 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) | กก | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ตามลำดับ ดังนี้ ๑.๑ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๑.๒ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15962 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม [รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์)] | อก | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15963 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) (นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์) | พณ | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15964 | การมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน | นร | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป ดังนี้
๑. กำหนดกรอบหลักการในการดำเนินการเพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ๑.๑ คนไทยรักกัน ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคม หรือเรียกอย่างอื่นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน ๑.๒ คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ๑.๓ เมืองไทยน่าอยู่ ด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน ๑.๔ วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ ๑.๕ รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี ๑.๖ รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหารราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน ๑.๗ รู้รักประชาธิปไตย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล ๑.๘ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน ๑.๙ บูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ๒. ให้มีคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนทุกระดับ โดยแต่งตั้ง (๑) คณะอำนวยการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน (๒) คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และ (๓) คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ทั้งนี้ ให้มีทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบล ประกอบด้วยข้าราชการและหน่วยงานความมั่นคง ปราชญ์ชาวบ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการตามแนวทางประชารัฐ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเตรียมการจัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบายและวางกรอบการปฏิบัติร่วมกันให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงาน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลสัมฤทธิ์ในพื้นที่ต่อไป ๔. ให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานที่มีหรือจะมีโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการในระดับตำบล หมู่บ้าน บูรณาการการดำเนินการร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืนระดับตำบลเป็นแกนหลัก รวมทั้งสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับด้วย ๕. ให้เริ่มขับเคลื่อนการดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15965 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรือที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุการสัญจรทางน้ำ รวมทั้งพิจารณาแก้ไข ปรับปรุง กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือในน่านน้ำไทยให้มีความปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการกำกับดูแลผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรืออย่างเคร่งครัด การปรับปรุงบทลงโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการพิจารณาการออกใบอนุญาตให้กับเจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรืออย่างเข้มงวด ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเรือ และประชาชนผู้ใช้บริการในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นั้น ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้ครอบคลุมถึงกรณีผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรือโดยสารและเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น เรือสปีดโบ็ต เรือเฟอร์รี่ เป็นต้น และให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลการกำหนดราคาจำหน่ายสินค้าและอาหารของร้านค้าต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่าอากาศยานทุกแห่งให้เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ซื้อ รวมถึงให้พิจารณาดำเนินการจัดให้มีร้านค้าที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน ให้สามารถเลือกซื้อสินค้าและอาหารในราคาที่ย่อมเยากว่าได้ ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการกำหนดมาตรการส่งเสริมและจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคเอกชนที่ประกอบการเกี่ยวกับการจัดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ การส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15966 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2561 | นร05 | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า ในการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งต่อไปในพื้นที่ภาคตะวันออก นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการให้จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๕-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยให้จัดการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดตราด และจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดจันทบุรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15967 | ร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561) | นร | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15968 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รวม 2 ฉบับ | คค | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ เพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งรัดจัดทำรายงานชี้แจงเพิ่มเติมและดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ รวมทั้งในการกำหนดบริเวณที่ที่จะเวนคืนและดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๒ ฉบับ ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถาน ทั้งโบราณสถานที่อยู่เหนือพื้นดิน และโบราณสถานที่อยู่ในบนแนวเส้นทางหรือใกล้เคียงกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และอาคารที่ก่อสร้างเกี่ยวเนื่องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ ควรเร่งรัดการดำเนินการตามขั้นตอนพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการโครงการได้ทันทีเมื่อการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15969 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกันภัย | กค | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณามาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกันภัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยที่ประชุมเห็นว่า ในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีกลไกการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนและการให้ความคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการประกันภัยที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยยังได้ดำเนินมาตรการและนโยบายต่าง ๆ เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เอาประกันภัยและประชาชน ซึ่งเป็นมาตรการที่นอกเหนือจากมาตรการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถ การจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโฆษณาเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านสื่อโฆษณา และการกำกับดูแลการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15970 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ พ.ศ. .... | คค | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ ตามมาตรา ๒๘๕/๑ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช ๒๔๕๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมเจ้าท่าพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลสำคัญประจำตัวคนประจำเรือให้เป็นระบบเพื่อใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนมาตรการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) และพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้เป็นช่องทางยื่นคำขอหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขอรับบริการและเพื่อให้ดำเนินการตามกฎกระทรวงฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15971 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ....) | มท | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรมและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15972 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... | สว | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เตรียมออกระเบียบหรือประกาศเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว และได้จัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อเป็นมาตรการหรือเครื่องมือในการจัดเก็บรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองและสมาชิกพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ แล้ว รวมทั้งได้พิจารณาจัดตั้งสถาบันวิทยาการพรรคการเมือง เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และสร้างกระบวนการรับรู้เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนหรือสมาชิกพรรคการเมือง ตลอดจนแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองด้วยแล้ว สำหรับกรณีให้พรรคการเมืองจัดทำแผนงานโครงการที่จะดำเนินการแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ยังมีประเด็นว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้บัญญัติให้อำนาจไว้ ส่วนแนวทางการพิจารณาว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ และกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเห็นควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนำความเห็นของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เช่น กระบวนการในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น ไปเป็นแนวทางในการออกกฎหมายลำดับรองและในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น จะได้นำมาพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามมาตรา ๒๖๗ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอและแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15973 | การรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2560 | ยธ | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำกฎหมายและการดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประจำเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๔-๘ เดือน นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๑๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๑๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๑๖ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๑๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๕ ฉบับ ๒. กฎหมายที่ต้องจัดทำภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ จำนวน ๖ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๖ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำทั้ง ๘ ฉบับ ๓. กฎหมายที่ต้องจัดทำโดยไม่กำหนดระยะวลา แต่ควรดำเนินการภายใน ๑-๒ ปี นับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีจำนวน ๓๗ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๓๗ เรื่อง เป็นกฎหมาย จำนวน ๘๒ ฉบับ โดยเป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน ๓๑ ฉบับ และเป็นกฎหมายที่อยู่ระหว่างการจัดทำ จำนวน ๕๑ ฉบับ ๔. การดำเนินการโดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการจัดทำกฎหมาย มีจำนวน ๓๐ เรื่อง ได้รับการรายงานผลแล้ว จำนวน ๒๙ เรื่อง ๕. มาตรการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งที่ต้องจัดทำกฎหมาย และการดำเนินการโดยวิธีอื่น ๆ มีจำนวน ๓๘ เรื่อง ได้รับการรายงานผลครบถ้วนแล้วทั้ง ๓๘ เรื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15974 | การลงนามแผนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2561 - 2563 ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย | วท | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงนามในแผนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาของแผนความร่วมมือฯ จากปี ๒๕๖๐-๒๕๖๒ เป็นปี ๒๕๖๑-๒๕๖๓ เพื่อให้ระยะเวลาการดำเนินงานของแผนความร่วมมือฯ สอดคล้องกับระยะเวลาในปัจจุบัน และทั้งสองประเทศมีระยะเวลาการดำเนินงานครบถ้วนตามกรอบการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแผนความร่วมมือฯ ซึ่งครอบคลุมสาขาความร่วมมือทั้งด้านวิทยาศาสตร์การเกษตร ดาราศาสตร์ เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีทัศนศาสตร์และโฟโตนิกส์ วิทยาศาสตร์อวกาศ รวมถึงการประยุกต์ใช้ภูมิอวกาศ ชีววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอาหาร และสาขาอื่น ๆ ที่สนใจร่วมกัน ทั้งในรูปแบบโครงการวิจัยร่วม การประชุมเชิงปฏิบัติการร่วม และการแลกเปลี่ยนการเยือน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15975 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกระทรวงแรงงานพิจารณาเห็นว่า ในกรณีที่มาของคณะกรรมการค่าจ้างและการกำหนดค่าจ้างเป็นรายกลุ่มหรือเฉพาะกิจการต่าง ๆ จะได้รับไปพิจารณาต่อไป สำหรับมาตรการตรวจสอบการประกาศข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานนั้น ได้มีการเตรียมมาตรการเพื่อรองรับกรณีดังกล่าวโดยวางแนวทางปฏิบัติของพนักงานตรวจแรงงานเมื่อเข้าตรวจสถานประกอบการดังกล่าวแล้ว ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15976 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน (กองทุนสิ่งแวดล้อม) | กค | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบผลการพิจารณาการขอจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ครั้งที่ ๕/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม โดยมีข้อสังเกตว่า การเพิ่มแหล่งเงินของกองทุนฯ ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... มาตรา ๒๓ (๖) ที่กำหนดให้ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ เงินเพิ่ม ค่าปรับ หรือภาษีอากร ที่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นของกองทุนฯ หรือส่งเข้ากองทุนฯ นั้น อาจเป็นการกำหนดแหล่งที่มาของเงินไม่สอดคล้องกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. .... ที่บัญญัติให้การเสนอกฎหมายที่มีบทบัญญัติให้จัดเก็บภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปจ่ายตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานนั้น หรือเพื่อการหนึ่งการใดเป็นการเฉพาะจะกระทำมิได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน และความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า หากมีการตัดมาตรา ๒๓ (๖) ออกจากร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... อาจส่งผลให้ในอนาคตหากมีกฎหมายที่กำหนดให้ส่งค่าธรรมเนียม ค่าบริการ เงินเพิ่ม ค่าปรับ หรือภาษีอากรเข้ากองทุนฯ อาจไม่มีช่องทางในการเปิดรับเงินดังกล่าวได้ ไปประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. .... ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15977 | สรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 31/2560 (เรื่อง การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ) | สม | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๖๐ เรื่อง การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ ประกอบด้วยข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการเพิกถอนเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อนำที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ในกิจการอื่น อาจทำให้เกิดช่องว่างในการบริหารจัดการที่ดินในพื้นที่ตามกฎหมาย จึงควรให้มีการกำหนดประเภทกิจการหรือโครงการที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมีอำนาจพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรมให้ชัดเจน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการกำหนดประเภทกิจการหรือโครงการดังกล่าว รวมทั้งควรเพิ่มเติมบทบัญญัติให้มีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับภาครัฐ หากการประกอบกิจการของภาคเอกชนก่อให้เกิดมลพิษต่อทรัพยากรดินและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ โดยกำหนดให้ส่งเงินเข้ากองทุนประกันความเสียหาย เพื่อภาครัฐจะได้นำเงินค่าเสียหายไปฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15978 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 4/2560 | กค | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ประกอบด้วย ๕ เรื่อง ได้แก่ (๑) รายงานความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... (๒) แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ (๓) การแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ๗ แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย (๔) การขออนุมัติจัดตั้ง/ร่วมทุนบริษัทในเครือของบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA Encom) เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของแผนงานผลิตไฟฟ้าชุมชนจากชีวมวล และ (๕) หลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสกรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทลูกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ถือหุ้น และมอบหมายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ ดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจดังกล่าวต่อไป ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยประสานกระทรวงการคลังเกี่ยวกับกระบวนการเพิ่มทุนอย่างใกล้ชิดและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นการล่วงหน้า และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการแนวทางต่าง ๆ ในการจัดตั้งบริษัทลูกตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกำหนดให้แล้วเสร็จก่อนเริ่มเปิดให้บริการ รวมทั้งพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจให้ชัดเจนและเหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงผลกระทบจากปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ให้รัฐวิสาหกิจทั้ง ๗ แห่ง ดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ มติคณะรัฐมนตรี และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ตลอดจนให้กระทรวงที่กำกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวกำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งให้จัดทำแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวที่สอดคล้องกับภารกิจหลักขององค์กรและการจัดทำแผนปฏิบัติการรายปีที่มีความชัดเจนและเป็นไปตามแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาวดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15979 | รายงานผลการติดตามและตรวจสอบการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60 | นร01 | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการติดตามและตรวจสอบการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ๒๕๖๐ (ยกเว้นภาคใต้ดำเนินการตรวจสอบช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ๒๕๖๐) ประกอบด้วย การประชาสัมพันธ์โครงการ การป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การยื่นขอสินเชื่อและการอนุมัติสินเชื่อของโครงการ การช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและการปรับปรุงคุณภาพข้าว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร). กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น การช่วยเหลือให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าร่วมโครงการได้เพิ่มขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าว และการเร่งรัดโอนเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกร รวมทั้งความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของการประชาสัมพันธ์โครงการให้เกษตรกรทราบอย่างถูกต้องและทั่วถึง การดำเนินโครงการจัดหาสถานที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เพียงพอ เช่น ลานตากข้าว ยุ้งฉาง และเครื่องอบลดความชื้น เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ดียิ่งขึ้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15980 | ผลการประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ 17 ณ เมืองเดอร์บัน | กต | 09/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสภารัฐมนตรีสมาคมแห่งมหาสมุทรอินเดีย ครั้งที่ ๑๗ ณ เมืองเดอร์บัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมืออย่างรอบด้าน การอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน ความมั่นคงและความปลอดภัยทางทะเล และการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยที่ประชุมฯ ได้ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยและความมั่นคงทางทะเล การยกระดับสถานภาพและบทบาทของสตรี เศรษฐกิจภาคทะเล รวมถึงการค้าและการลงทุนระหว่างกันภายในภูมิภาค เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงเน้นย้ำความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของมหาสมุทรอินเดีย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ และความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือความท้าท้ายต่าง ๆ รวมถึงผลักดัน ๓ ประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) ความเชื่อมโยงของกรอบความร่วมมือต่าง ๆ (๒) ความยั่งยืนและการเติบโตอย่างทั่วถึง และ (๓) การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งได้ร่วมรับรองแถลงการณ์เดอร์บันด้วย และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมฯ ต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและประเด็นที่ประสงค์จะให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาเพื่อจะได้ให้ความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และประเทศสมาชิก Indian Ocean Rim Association (PORA) ควรให้ความสำคัญต่อการจัดทำมาตรการหรือแนวทางการจัดการผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลอันเนื่องมาจากการดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อปกป้องการสูญเสียและการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของภูมิภาค สำหรับการมอบหมายหน่วยงานที่รับผิดชอบในประเด็นผลการประชุมฯ ตามแถลงการณ์เดอร์บัน ควรแก้ไขจาก “คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” เป็น “สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....