ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 800 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 15981 - 16000 จากข้อมูลทั้งหมด 123973 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15981 | ร่างแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจประเทศสมาชิกแม่โขง - ล้านช้าง เพื่อกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน | พณ | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง เพื่อกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ระหว่างประเทศสมาชิกแม่โขง-ล้านช้าง ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ โดยประเทศสมาชิกจะร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนและลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน และให้มีการประกาศในช่วงการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๑ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรผลักดันให้สาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะประเทศสมาชิกผู้ริเริ่มจัดตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ได้มีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยสู่ความสำเร็จของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในสาธารณรัฐประชาชนจีน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||
15982 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (จำนวน 4 ราย 1. นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ ฯลฯ) | กต | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ๒. นายธงชัย ชาสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ณ ไทเป ๓. นายมานพชัย วงศ์ภักดี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ๔. นายศรายุธ กัลยาณมิตร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ โรมาเนีย
|
||||||||||||||||||||||||
15983 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน) (พันตำรวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร) | รง | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรีหญิง รมยง สุรกิจบรรหาร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
15984 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน) (นางอัจฉรา แก้วกำชัยเจริญ และนายอภิญญา สุจริตตานันท์) | รง | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. นางอัจฉรา แก้วกำชัยเจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอภิญญา สุจริตตานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
15985 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (นางสุกัญญา งามบรรจง) | ศธ | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสุกัญญา งามบรรจง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
15986 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ (จำนวน 6 คน 1. นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ฯลฯ) | กค | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ จำนวน ๖ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชัย ฤชุพันธุ์ ๒. นายพชร ยุติธรรมดำรง ๓. นายวรากรณ์ สามโกเศศ ๔. นายมนูญ สรรค์คุณากร ๕. นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ๖. นายประสัณห์ เชื้อพานิช
|
||||||||||||||||||||||||
15987 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (นักบริหารสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางวิสุนี บุนนาค) | นร04 | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวิสุนี บุนนาค ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
15988 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) | กก | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอภิชาติ จีระพันธุ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๒. นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
|
||||||||||||||||||||||||
15989 | การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ (นายจำเริญ โพธิยอด) | พม | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายจำเริญ โพธิยอด ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ แทน นายวีระวุฒิ ศรีเปารยะ กรรมการเดิมที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
15990 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด | พม | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานผลการดำเนินงานโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ สรุปได้ว่า การพิจารณาให้ผู้ลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนโดยต้องเป็นผู้มีข้อมูลในฐานข้อมูลการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ยังไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการในระยะนี้ และหากให้ชะลอการจ่ายเงินหรือระงับสิทธิ์สำหรับผู้ที่เคยได้รับเงินแล้วจะส่งผลให้ผู้มีสิทธิ์ไม่ได้รับเงินต่อเนื่องในการนำไปใช้ประโยชน์แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กที่จะเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป และมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับฐานข้อมูลให้ตรงกัน ซึ่งในระหว่างเตรียมความพร้อม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและรับรองสิทธิ์ โดยเพิ่มเติมข้อมูลสำหรับผู้ลงทะเบียน ผู้รับรองสิทธิ์ในระเบียบกรมกิจการเด็กและเยาวชน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมทั้งปรับปรุงแบบฟอร์มการลงทะเบียน และเสนอกรมบัญชีกลางเห็นชอบด้วยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
15991 | ร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | รง | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
15992 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2561) | นร | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
15993 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. ....) | มท | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรมและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
15994 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการการส่งเสริมการลงทุนให้แก่ภาคเอกชนในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยสำหรับแรงงานต่างด้าวในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยในการจัดหาพื้นที่เพื่อการดังกล่าวให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้คำนึงถึงประเด็นด้านความมั่นคงด้วย นั้น ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว ให้มีการจัดระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้เหมาะสมด้วย รวมทั้งให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่โดยรอบด้วย ทั้งนี้ ในการดำเนินการต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น หากมีประเด็นปัญหาเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเสนอให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) พิจารณาต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการจัดทำความร่วมมือในด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กับสาธารณรัฐประชาชนจีนให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนมีความพร้อมดำเนินการและไทยมีขีดความสามารถที่จะพัฒนาได้ เช่น การตั้งโรงงานผลิตแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์ อุตสาหกรรมต่อเรือ เทคโนโลยีอวกาศ ๑.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนรายชื่อผู้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับชาติและระดับนานาชาติประเภทต่าง ๆ และปรับปรุงฐานข้อมูลของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถที่จะขับเคลื่อนประเทศให้มีความก้าวหน้าต่อไปได้ รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดดำเนินการสนับสนุนผู้ได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่าง ๆ เช่น การให้ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ ความเชี่ยวชาญและความสามารถในด้านต่าง ๆ นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามข้อสั่งการดังกล่าว โดยจัดทำฐานข้อมูลในภาพรวมให้เป็นปัจจุบันและกำหนดมาตรการในการสนับสนุนผู้ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน เช่น การเปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานในภาคราชการหรือภาคเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อนำความรู้ความสามารถมาใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไป ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ขับเคลื่อนการดำเนินงานในเรื่องการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว (One Stop Service) ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลภาครัฐ (Government Data Center) โดยประสานหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ นำข้อมูลที่พร้อมให้บริการมาดำเนินการเป็นโครงการนำร่องให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๐ และข้อสั่งการที่ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เป็นเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลจากส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวทางการใช้ประโยชน์ Big Data ของทุกหน่วยงานจัดทำเป็นภาพรวมและแผนการขับเคลื่อนและการใช้ประโยชน์เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลกลางภาครัฐภายใน ๓ เดือน นั้น ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความสอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือนด้วย ๒.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) โดยเฉพาะพื้นที่ที่แนวเขตที่ดินได้ข้อยุติแล้ว เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้ นั้น ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ๒.๓ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศการเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ-ลานีญา เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ ว่ามีความเป็นไปได้ว่าในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๑ ปริมาณฝนในภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศไทยมีโอกาสร้อยละ ๕๐-๗๐ จะสูงกว่าปกติ นั้น เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขเหตุอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจัดเตรียมแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ที่คาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากปริมาณฝน รวมตลอดถึงการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รองรับ เช่น การขยายหรือขุดลอกคูคลองที่เป็นทางระบายน้ำ และการจัดทำแก้มลิงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในการจ้างแรงงานเพื่อดำเนินการดังกล่าว ให้พิจารณาเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ๒.๔ ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของการกำหนดสัดส่วนของค่าปรับที่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายได้รับจากการกระทำผิดกฎหมายแล้วหักไว้เพื่อเป็นค่าตอบแทนของพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของหน่วยงาน ก่อนนำส่วนที่เหลือส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป ทั้งนี้ หากผลการพิจารณาเป็นประการใด ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
15995 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. ....) | มท | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรมและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
15996 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. ....) | มท | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรมและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
15997 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) กำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขยายขอบเขตการดำเนินมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เช่น การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยให้นำผลการดำเนินการที่ผ่านมามาพิจารณาทบทวนเพื่อให้การดำเนินการในระยะต่อไปมีความเหมาะสมและรัดกุมมากยิ่งขึ้น ๑.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาทบทวนการกำหนดเส้นความยากจน (Poverty Line) ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในปัจจุบัน เพื่อนำมากำหนดเป้าหมายในการลดความยากจนและปรับปรุงโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยต่าง ๆ ของรัฐบาลให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๑.๓ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการจดลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรให้ชัดเจน ถูกต้อง เช่น ในกรณีที่จะจดสิทธิบัตรพันธุ์พืชจะต้องดำเนินการจดทะเบียนคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ก่อน รวมทั้งพิจารณากำหนดแนวทางการแบ่งปันสิทธิประโยชน์ในลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรต่าง ๆ ให้แก่ผู้ค้นพบและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้เหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อส่งเสริมให้มีการนำลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ๑.๔ ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสร้างการรับรู้แก่ประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากจะเน้นเรื่องการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวม เช่น การส่งออกและการท่องเที่ยวเช่นที่ผ่านมาแล้ว ให้หน่วยงานดังกล่าวบูรณาการข้อมูลในการรายงานและสร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้เข้าใจถึงการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจฐานรากด้วย ๑.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีผลกระทบต่อผู้ที่มีรายได้น้อย รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้น้อย เช่น หมวกข้าราชการ เครื่องแบบข้าราชการทหาร ตำรวจ เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณากำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อย เช่น การจัดหาผ้าสำหรับตัดเย็บเครื่องแบบให้แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ เป็นต้น ๑.๖ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือแก่ภาคการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่การทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ เช่น พิจารณากำหนดมาตรการให้ภาคเอกชนส่งเสริมการเพาะปลูกพืชและรับซื้อผลผลิตจากพืชนั้นโดยมีการประกันราคาขั้นต่ำ เป็นต้น ทั้งนี้ ในการกำหนดแนวทางดังกล่าวควรคำนึงถึงประโยชน์ที่ภาคเอกชนและเกษตรกรจะได้รับอย่างเหมาะสม เป็นธรรม และดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและโปร่งใส ๑.๗ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน การพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ (Homestay) การปรับปรุงพัฒนาเส้นทางการคมนาคมและเส้นทางการท่องเที่ยวให้มีความสะดวกและปลอดภัย ๑.๘ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการส่งเสริมให้นักลงทุนภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (East Economic Corridor : EEC) ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก เช่น การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่อยู่อาศัย ธุรกิจการค้าและบริการ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ โดยอาจพิจารณาความจำเป็นและเหมาะสมในการใช้วิธีเปิดประมูลนานาชาติ (International Bidding) ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้เร่งรัดการดำเนินโครงการสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการด้านคมนาคมขนส่ง เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาท่าเรือ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ ด้วย ๒. ด้านสังคม ๒.๑ ให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สัญชาติ จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล และจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้กำหนดมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการนำลูกจ้างไปจดทะเบียนให้เป็นไปตามกรอบเวลาตามที่กฎหมายกำหนด และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบการศึกษาในภาพรวมของประเทศให้มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยให้คำนึงถึงทิศทางการพัฒนาประเทศ แนวโน้มของสถานการณ์ด้านต่าง ๆ รวมทั้งความต้องการของตลาดแรงงานในระยะต่อไป และให้กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่ ๒.๒.๑ การพัฒนานักเรียนนักศึกษา เช่น ลดชั่วโมงเรียนด้านวิชาการ ลดปริมาณการบ้าน ลดการเรียนพิเศษเสริมจากการเรียนในห้องเรียนปกติ ประเมินผลคุณภาพการศึกษาที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ๒.๒.๒ การพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา เช่น พัฒนาด้านภาษาต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านวิทยาการสมัยใหม่ การประเมินคุณภาพครูผู้สอน การนำผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศมาจัดการเรียนการสอน ๒.๒.๓ การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาในแต่ละระดับให้มีความเหมาะสม ได้แก่ (๑) การศึกษาระดับอาชีวศึกษา ส่งเสริมให้มีการศึกษาในสายวิชาชีพนี้เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านแรงงานของประเทศในระยะต่อไป เช่น ร่วมดำเนินการกับภาคเอกชนในการกำหนดหลักสูตรการศึกษาที่ตรงกับความต้องการของภาคเอกชน กำหนดมาตรการจูงใจให้นักเรียนนักศึกษาเลือกศึกษาต่อในสาขาที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ (๒) การศึกษาระดับอุดมศึกษา พิจารณาทบทวนสาขาที่มีผู้ให้ความสนใจเข้าศึกษาน้อย หรือจบการศึกษาแล้วมีโอกาสว่างงานสูง หรืออาจมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ๒.๒.๔ การกำหนดมาตรการในการผลิตแรงงานเพื่อกลับไปทำงานในภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น เป็น Smart Farmer ในภาคการเกษตร ๒.๒.๕ การติดตามและประเมินผลการดำเนินการด้านการศึกษาที่ผ่านมา เช่น ผลการลดชั่วโมงเรียนด้านวิชาการ การประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) ๒.๒.๖ การจัดทำฐานข้อมูลด้านการศึกษา โดยให้สถาบันการศึกษาแต่ละแห่งจัดเก็บข้อมูลการมีงานทำและรายได้ของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาและข้อมูลการจ้างงานนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของสถานประกอบการ ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยาพาราควอด (Paraquat) และผลกระทบจากการใช้ยาดังกล่าว ซึ่งเป็นสารเคมีที่เกษตรกรนิยมนำมาใช้ในการกำจัดวัชพืชให้ชัดเจนและมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไป ๓.๒ ให้สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ โดยให้นำโครงการที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการและจัดทำเป็นแผนการดำเนินการที่มีระยะเวลาเริ่มต้น-สิ้นสุด ระบุเป้าหมาย/ผลที่คาดว่าจะได้รับให้ชัดเจน เพื่อรองรับและป้องกันการเกิดอุทกภัยและภัยแล้งให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ให้สร้างการรับรู้ถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำต่าง ๆ ดังกล่าวให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
15998 | รายงานผลการดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ประจำปีงบประมาณ 2560 | กค | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้นำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วย ๒ ส่วน ดังนี้
๑. ผลการดำเนินการตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ประกอบด้วย รายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่กระทำในปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้ว และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ ๒. รายงานผลการประเมินความสำเร็จของโครงการหรือแผนงานที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ประกอบด้วย ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ผลกระทบของโครงการ และความยั่งยืนของโครงการ โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้พิจารณาคัดเลือกโครงการจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วอย่างน้อย ๒-๕ ปี รวมทั้งมีความพร้อมของข้อมูลมาประเมินผล รวม ๓ โครงการ ได้แก่ (๑) โครงการเงินกู้เพื่อการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน : มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ ๒ ของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน (๒) โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตร ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ (๓) โครงการปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ ๖ ระหว่างสถานีชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
|
||||||||||||||||||||||||
15999 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน (Transfer Pricing)] | กค | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการป้องกันการกำหนดราคาโอนระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน (Transfer Pricing)] โดยกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันในด้านทุน การจัดการ หรือการควบคุมเพื่อป้องกันมิให้มีการถ่ายโอนกำไรระหว่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอากรที่พึงเสีย ของกระทรวงการคลัง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาประสานกับกระทรวงการคลัง แล้วให้เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
16000 | รายงานประจำปี 2559 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ | วท | 03/01/2561 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๕๙ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ประกอบด้วย (๑) ผลการดำเนินงานของ สวทช. ประจำปี ๒๕๕๙ ได้แก่ งานวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยี งานด้านพัฒนากำลังคน งานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผลการใช้จ่ายงบประมาณ และ (๒) รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ ซึ่งผ่านการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....