ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 616 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 12301 - 12320 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12301 | ข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ | นร12 | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (โครงการ นปร.) ตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๒ โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปพิจารณาทบทวนและหารือร่วมกับสำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่าง ๆ ให้เหมาะสมชัดเจน ดังนี้ ๑.๑ แนวทางการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) ทั้งในด้านวิชาการและการฝึกปฏิบัติราชการควรจะต้องสอดคล้องและตรงตามความต้องการของแต่ละส่วนราชการซึ่งมีบทบาทและภารกิจที่แตกต่างกัน มากยิ่งขึ้น ๑.๒ การบรรจุและแต่งตั้ง นปร. เข้ารับราชการ ควรพิจารณาดำเนินการให้มีการกระจายตัวไปยังส่วนราชการต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและทั่วถึง (ไม่กระจุกตัวอยู่ในส่วนราชการเดิม ๆ เพียง ๒-๓ แห่ง เท่านั้น) ๑.๓ นอกเหนือจากการพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการขยายกรอบอัตรากำลังของ นปร. เป็นจำนวน ๑๕๐ อัตราแล้ว ควรพิจารณาแนวทางการกำหนดอัตรากำลังรองรับการบรรจุและแต่งตั้ง นปร. ของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วย ๑.๔ เมื่อ นปร. ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับราชการแล้ว ควรมีกลไกการติดตาม กำกับ ดูแล เพื่อให้ นปร. ดังกล่าวสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ส่วนราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคงไว้ซึ่งความเป็นข้าราชการที่มีความสามารถสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้แก่องค์กร ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น (๑) ควรมุ่งเน้นส่งเสริมสร้างขีดสมรรถนะในการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Management) ในการพัฒนา นปร. รวมทั้งควรศึกษาและกำหนดกรอบแนวทางจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ตลอดจนรูปแบบ วิธีการประเมินผล และแนวทางการบรรจุ นปร. กลับไปยังส่วนราชการนั้น ๆ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการอย่างเป็นระบบ และ (๒) ควรเพิ่มการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติทางด้านเทคโนโลยีในอนาคตที่มีผลต่อการพัฒนาระบบราชการ เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างนวัตกรรมในระบบราชการ เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการดังกล่าวด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการพัฒนาและบริหารจัดการบุคลากรภาครัฐในภาพรวม ตั้งแต่กระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ระบบราชการ การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรภาครัฐที่อยู่ในระบบราชการแล้วให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะต่าง ๆ ที่สอดคล้องและเท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรักษาบุคลากรภาครัฐไว้ในระบบราชการ เพื่อให้กลุ่มบุคลากรดังกล่าวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบราชการให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12302 | แถลงการณ์ของการประชุมระดับสูงของคณะกรรมการบริหารศูนย์การพัฒนาขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ครั้งที่ 5 | กต | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแถลงการณ์ของการประชุมระดับสูงของคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ ๕ (5th High-Level Meeting of the Governing Board HLM) ของศูนย์การพัฒนา (Development Centre หรือ DEV) ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรองแถลงการณ์ให้เป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมดังกล่าว โดยมีการปรับถ้อยคำบางส่วนของร่างแถลงการณ์ให้มีความเหมาะสมและให้เป็นปัจจุบัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12303 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2562 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี ๒๕๖๒ จำนวน ๒ แผนงาน โดยให้ทยอยดำเนินการกู้เงินตามความจำเป็นรายปีจนกว่าการดำเนินงานจะแล้วเสร็จ ได้แก่ แผนงานพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ระยะที่ ๑ วงเงินกู้ภายในประเทศ ๘๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และแผนงานระยะยาวการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน วงเงินกู้ภายในประเทศ ๑,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๘๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ กฟภ. เร่งจัดทำแผนความต้องการกู้เงินตามแบบฟอร์ม และนำส่งมายังสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเพื่อขอบรรจุความต้องการกู้เงินดังกล่าวในแผนการบริหารหนี้สาธารณะต่อไป และให้ กฟภ. จัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในด้านการเงิน การลงทุน ให้เหมาะสมสอดคล้องกับแผนการดำเนินงาน เพื่อให้การดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าวไปเป็นภาระทางการคลังและงบประมาณในอนาคต รวมถึงการพิจารณาแหล่งเงินโดยเฉพาะกำไรสะสม เพื่อมิให้กระทบต่อเงินนำส่งรายได้แผ่นดินตามสัดส่วนที่กระทรวงการคลังถือหุ้น นอกจากนี้ กฟภ. ควรพิจารณากู้เงินเพื่อการลงทุนตามความจำเป็นโดยพิจารณาฐานะการเงินในปีนั้น ๆ ประกอบด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากภาระหนี้สินขององค์กรในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12304 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติม (จำนวน 5 ราย) | นร05 | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติม จำนวน ๕ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายไชยยศ จิรเมธากร ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. รองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ๒. นางสาวดารณี ลิขิตวรศักดิ์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ๓. นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงคมนาคม ๔. นายอดิศร นุชดำรงค์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๕. พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12305 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวิชัย ไชยมงคล) | ยธ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิชัย ไชยมงคล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12306 | รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย (นายคาซูยะ นาชิดะ) | กต | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายคาซูยะ นาชิดะ (Mr. Kazuya Nashida) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายชิโระ ซะโดะชิมะ (Mr. Shiro Sadoshima) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12307 | ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 | นร07 | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีหลักการและสาระสำคัญของระเบียบทำนองเดียวกับที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. กำหนดกรณีที่จะขอรับจัดสรรเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ได้แก่ เป็นรายจ่ายเพื่อการป้องกันหรือแก้ไขสถานการณ์อันมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ เป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อการเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง เป็นรายจ่ายที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว แต่มีจำนวนไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐต้องใช้จ่ายเพื่อก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว และเป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ แต่มีภารกิจจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการและต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว ๒. การขอรับจัดสรรงบประมาณ ให้หน่วยรับงบประมาณเสนอเรื่องให้รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการ แล้วแต่กรณี พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนส่งคำขอให้สำนักงบประมาณ ๓. การจัดสรรงบประมาณ สำนักงบประมาณจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ก่อนที่จะอนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่หน่วยรับงบประมาณ ได้แก่ กรณีวงเงินไม่เกิน ๑๐ ล้านบาท สำนักงบประมาณจะเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ กรณีวงเงินเกิน ๑๐ ล้านบาท แต่ไม่เกิน ๑๐๐ ล้านบาท สำนักงบประมาณจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และกรณีวงเงินเกิน ๑๐๐ ล้านบาท สำนักงบประมาณจะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อน เมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นชอบแล้วจะแจ้งให้หน่วยรับงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ๔. การใช้จ่ายงบประมาณ เมื่อหน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรรแล้ว หรือดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วมีงบประมาณเหลือจ่ายต้องดำเนินการนำงบประมาณส่งคืน ๕. การรายงาน หน่วยรับงบประมาณจะต้องรายงานผลการดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณต่อสำนักงบประมาณ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นไตรมาสและวันที่การใช้จ่ายงบประมาณแล้วเสร็จ รวมทั้งจัดทำสรุปผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อเสนอรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นผู้กำกับแผนงานบูรณาการกรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ แล้วแต่กรณี ๖. กำหนดให้ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับในวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ และให้ถือปฏิบัติในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12308 | การลงทุนโครงการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3) | อก | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการลงทุนโครงการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตามโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ในกรอบวงเงิน ๕๕,๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการฯ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม กนอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนในพื้นที่และบริเวณโดยรอบให้ถูกต้องและทั่วถึง รวมทั้งพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการฯ ให้เหมาะสม ชัดเจนด้วย ๒. ให้ กนอ. รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และ กนอ. ควรให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในกรณีที่การลงทุนโครงการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดทำให้ กนอ. มีความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบของโครงการฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ กนอ. ต้องขออนุมัติการลงทุนตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ ก่อนดำเนินการต่อไป รวมทั้งหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการลงทุนโครงการฯ มีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนและขยายพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในสาาระสำคัญของโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ และวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ ให้ กนอ. ดำเนินการขออนุมัติการลงทุนและการขยายพื้นที่ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12309 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจและการตลาดในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ) | อื่นๆ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจและการตลาดในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12310 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ | นร | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสุพัฒตรา ลิมปะพันธุ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12311 | คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) | กษ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน ๑๒ คณะ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ๑.๒ คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ๑.๓ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ๑.๔ คณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ๑.๕ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ๑.๖ คณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน แก้ไขและฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล ๑.๗ คณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ๑.๘ คณะกรรมการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ๑.๙ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประมงปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ๑.๑๐ คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ๑.๑๑ คณะกรรมการประสานงานกับองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและการเกษตรต่างประเทศ ๑.๑๒ คณะทำงานฝ่ายไทยของคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและคณะกรรมาธิการยุโรปในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาทบทวนความจำเป็นเหมาะสมในการขอให้คงอยู่ของคณะกรรมการฯ ตามข้อ ๑ ที่ไม่มีการประชุมเลย หรือที่มีการจัดประชุมเพียง ๑-๒ ครั้ง ในรอบ ๓ ปี ที่ผ่านมา (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๒) อีกครั้งหนึ่ง และให้แจ้งยืนยันไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12312 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นายปกรณ์ นิลประพันธ์) | นร04 | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งเกษียณอายุราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12313 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) | นร | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งผู้ที่ครองตำแหน่งอยู่เดิมโอนไปดำรงตำแหน่งอื่น ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12314 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 3 คน 1. นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ และคณะ ) | กต | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์ ๒. นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส ๓. นายสรยุทธ ชาสมบัติ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12315 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ และนายกีรติ รัชโน) | พณ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ๒. นายกีรติ รัชโน ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12316 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ | พม | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ รวม ๑๐ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล เป็นประธานกรรมการ ๒. นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ เป็นกรรมการ ๓. นายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ เป็นกรรมการ ๔. นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย เป็นกรรมการ ๕. ศาสตราจารย์พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เป็นกรรมการ ๖. นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา เป็นกรรมการ ๗. นายอัครพล ลีลาจินดามัย เป็นกรรมการ ๘. พันเอก (พิเศษ) เจียรนัย วงศ์สอาด เป็นกรรมการ ๙. นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ เป็นกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑๐. นายธำรงค์ ทองตัน เป็นกรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12317 | การขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 42 สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | พณ | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๖ เพื่อเป็นค่าเช่าสำนักงานในต่างประเทศและค่าเช่าบ้านของข้าราชการในต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๖ รายการ วงเงินงบประมาณ ๗๔,๓๗๐,๓๐๐ บาท หรือไม่เกินวงเงินตามสกุลเงินท้องถิ่น สำหรับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย ค่าเช่าสำนักงานในต่างประเทศ จำนวน ๔ แห่ง วงเงิน ๒๔,๐๘๔,๐๐๐ บาท และค่าเช่าบ้านของข้าราชการในต่างประเทศ จำนวน ๑๒ ราย วงเงิน ๕๐,๒๘๖,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ สำหรับรายการค่าเช่าสำนักงานในต่างประเทศ ๔ แห่ง จำนวน ๑๒,๐๔๒,๐๐๐ บาท และค่าเช่าบ้านของข้าราชการในต่างประเทศ ๑๒ ราย จำนวน ๒๑,๑๔๘,๘๐๐ บาท รองรับไว้แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป เห็นควรให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยสอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ในการดำเนินการเกี่ยวกับการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานในต่างประเทศ และค่าเช่าบ้านของข้าราชการในต่างประเทศ ของสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในครั้งต่อไป ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรังดำเนินการหรือเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จก่อนที่สัญญาเช่าเดิมจะสิ้นอายุ เพื่อให้สามารถต่ออายุสัญญาเช่าใหม่ได้ทันโดยไม่กระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12318 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว "ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย" สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | กก | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้กระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย” จำนวน ๒ มาตรการ ประกอบด้วย (๑) มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “ร้อยเดียว เที่ยวทั่วไทย” และ (๒) มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยววันธรรมดา ราคา SHOCK โลก” โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๑๑๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการใช้จ่ายงบกลางรายการดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องจัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางตามมาตรการภายใต้โครงการดังกล่าว เช่น การคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการ การคัดเลือกประเภทของสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว การคัดสรรบริการ/แพ็คเกจท่องเที่ยว รวมทั้งวิธีการ ขั้นตอนในการจัดซื้อแพ็คเกจจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงภารกิจของหน่วยงาน โดยบูรณาการร่วมกับมาตรการชิมช้อปใช้ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ พร้อมจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายและจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอน โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด การดำเนินการจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์กับประชาชน ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ นอกจากนี้ ควรมีการติดตามและควบคุมการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการของโครงการที่กำหนดไว้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมรายละเอียดในส่วนของวิธีการดำเนินกิจกรรม ให้ชัดเจน รัดกุม และกำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12319 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ครั้งที่ 1 วงเงิน 2,282.98 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จำนวน 24 จังหวัด) ของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท | คค | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน ๒๔ จังหวัด ภายในวงเงิน ๒,๒๘๒,๙๘๐,๐๐๐ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเบิกจ่ายในงบลงทุน และให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการสำรวจ ออกแบบ และจัดทำประมาณการค่าก่อสร้างเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงประมาณ และเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีผลใช้บังคับ ให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท หักงบประมาณที่ได้รับเพื่อการบูรณะ/ซ่อมแซม ที่ได้ดำเนินการในพื้นที่เดียวกันกับแผนงานที่จะดำเนินการในงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12320 | การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนและความตกลงการดำเนินงานโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN - REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) | ทส | 01/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๑.๑ เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำอาเซียนกับเลขาธิการอาเซียน และอนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือตอบรับของฝ่ายอาเซียน โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ระบุถึงวัตถุประสงค์ งบประมาณ และประเด็นด้านการบริหารเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN-REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) และหนังสือของฝ่ายอาเซียนจะตอบรับข้อเสนอของฝ่ายเยอรมนี ทั้งนี้ โครงการ ASEAN-REPEAT จะมีผลบังคับใช้ในวันที่เลขาธิการอาเซียนลงนามในหนังสือตอบรับดังกล่าว ๑.๒ เห็นชอบร่างความตกลงการดำเนินงาน (Implementation Agreement) ระหว่างอาเซียนกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (German Society for International Cooperation : GIZ) เกี่ยวกับโครงการ Strengthening Regional Experiences on Sustainable Peatland Management (ASEAN-REPEAT) ภายใต้โครงการการใช้ประโยชน์ป่าพรุอย่างยั่งยืนและบรรเทาหมอกควันในอาเซียน (Sustainable Use of Peatland and Haze Mitigation in ASEAN : SUPA) และอนุมัติให้รองเลขาธิการอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ ในนามของอาเซียน โดยร่างความตกลงฯ จะกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและบุคลากร การสนับสนุนทางการเงิน การจัดหาสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ การบริหารจัดการ การประเมินผล รวมทั้งข้อบทเกี่ยวกับการแก้ไขและบอกเลิกความตกลงฯ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....