ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 520 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 10381 - 10400 จากข้อมูลทั้งหมด 123975 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10381 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... | มท | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วน ในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เกิดผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ต่อภาครัฐและประชาชนเป็นสำคัญ และเมื่อร่างกฎกระทรวงฯ ประกาศใช้บังคับ กรมโยธาธิการและผังเมืองควรสนับสนุนให้เจ้าพนักงานของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงฯ อย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10382 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย พ.ศ. .... | ทส | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเบี้ยประชุมของคณะกรรมการผู้ชำนาญการและค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบันที่คณะกรรมการผู้ชำนาญการมอบหมาย ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10383 | การเลื่อนฐานะรองกงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐโมนาโก ณ กรุงเทพมหานคร (นายศิรเวท ศุขเนตร) | กต | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเลื่อนฐานะ นายศิรเวท ศุขเนตร รองกงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐโมนาโก ณ กรุงเทพมหานคร เป็น กงสุลกิตติมศักดิ์ราชรัฐโมนาโก ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งยังอยู่ภายใต้อำนาจของ นายศรีภูมิ ศุขเนตร กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ราชรัฐโมนาโก ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10384 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | พณ | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท การควบรวมบริษัท การจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อลดอุปสรรคและเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนของการจ่ายเงินปันผลและการควบรวมบริษัทจำกัดเข้ากัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10385 | รายงานผลการจัดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี 2563 และการจัดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) | พณ | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาไทยตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ตามมาตรา ๓๐๑ พิเศษ ประจำปี ๒๕๖๓ โดยประเทศไทยยังคงอยู่ในบัญชีประเภทที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) และการจัดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) ซึ่งมีการระบุชื่อตลาดในประเทศไทย ๒ แห่ง โดยเป็นการละเมิดในท้องตลาด ๑ แห่ง คือ ย่านพัฒน์พงษ์ และตลาดออนไลน์ ๑ แห่ง คือ www.shopee.co.th ๒. รับทราบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติสิทธิบัตร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๓. มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาตามขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว ๔. มอบหมายให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กวดขันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในท้องตลาดและอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในตลาดที่มีการระบุในรายงานการจดทำรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงในประเทศคู่ค้า (Notorious Markets) ตลอดจนสกัดกั้นการลำเลียงและขนส่งสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ๕. มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ (กรมทรัพย์สินทางปัญญา) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการร่วมกันเพื่อให้มีการระงับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ตหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาออกจากระบบคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องต่อไป ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเข้มงวด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10386 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563) | นร04 | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10387 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | กต | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ที่เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยที่ประชุมได้ร่วมรับรองถ้อยแถลงของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Statement of the Special ASEAN-China Foreign Ministers’ Meeting on the Coronavirus Disease 2019) ซึ่งมีสาระสำคัญในการสนับสนุนความร่วมมือด้านต่าง ๆ ได้แก่ (๑) การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติ (๒) ความร่วมมือภายใต้กลไกอาเซียนและความร่วมมือกับภาคีนอกภูมิภาค (๓) การสื่อสารต่อสาธารณชนและการมีส่วนร่วมและการตั้งรับของชุมชน (๔) การหารือเชิงนโยบายและการแลกเปลี่ยนพัฒนาการล่าสุดของเชื้อไวรัสผ่านกลไกที่มีอยู่แล้ว (๕) การเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อต่าง ๆ (๖) การบรรเทาผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของสินค้าทางการแพทย์ที่เป็นที่ต้องการเร่งด่วนและการพัฒนาการวิจัยยาและวัคซีน (๗) การสนับสนุนกิจการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดผ่านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (๘) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการพัฒนาสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และ (๙) ความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งหารือร่วมกันในประเด็นแนวทางความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอให้จัดประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่มีฉันทามติในประเด็นดังกล่าว โดยสาธารณรัฐอินโดนีเซีย บรูไนดารุสซาลาม และประเทศมาเลเซีย ประสงค์ให้พิจารณาผลลัพธ์ของการประชุมระดับผู้นำที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนก่อน ประกอบกับสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเช่นกัน จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการยกระดับการประชุมเป็นกรอบอาเซียนบวกสาม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10388 | การเพิ่มขั้นเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ เป็นกรณีพิเศษ | มท | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้รับเงินค่าตอบแทนเป็นกรณีพิเศษในลักษณะเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน เป็นระยะเวลา ๗ เดือน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยหารือในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติเกี่ยวกับอัตราเงินเพิ่มพิเศษในแต่ละตำแหน่งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10389 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือลดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน รวม 5 ฉบับ | มท | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้คนซี่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจดทะเบียนชื่อสกุลและค่าธรรมเนียมการออกหนังสือสำคัญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช ๒๔๗๘ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๕ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร ทะเบียนครอบครัว ทะเบียนชื่อบุคคล และบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ประชาชนที่ขอรับบริการ เพื่อให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการติดต่อขอรับบริการเกี่ยวกับการทะเบียนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) และในสถานการณ์ที่เกิดสาธารณภัยอื่น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรนำเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรมาประยุกต์ใช้ในการให้ความช่วยเหลือ การสื่อสาร การประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยและวันสิ้นสุดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและทันต่อสถานการณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้อง และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งพิจารณากำหนดระยะเวลาและพื้นที่ที่จะยกเว้นและลดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนชื่อบุคคล และทะเบียนครอบครัวตามร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ แล้วดำเนินการต่อไปได้พร้อมกับร่างกฎกระทรวงทั้ง ๕ ฉบับ ต่อไป ๔. ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งเร่งดำเนินการทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาต ของทางราชการให้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๓ (เรื่อง แนวทางการทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาต ของทางราชการ) เพื่อลดภาระของประชาชนต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10390 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | พน | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๖๙๐,๐๐๐ บาท [ตามมติคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๓ (วาระลับ) เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓] ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10391 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน | พม | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางผุสดี ตามไท เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10392 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | นร53 | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน ๑๐ คน เนื่องจากคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ได้พ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งตามประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ ดังนี้
๑. นางสาวปฐมา จันทรักษ์ ๒. นายสุรพล โอภาสเสถียร ๓. นายมงคล ลีลาธรรม ๔. นายสรกิจ มั่นบุปผชาติ ผู้แทนองค์การเอกชน ๕. นายโอฬาร วีระนนท์ ผู้แทนองค์การเอกชน ๖. นายมนตรี จงวิเศษ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๗. นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๘. นายเกรียงไกร วีระฤทธิพันธ์ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในภูมิภาค ๙. นายภูวดิท ปรีชานนท์ ผู้แทนองค์การเอกชนซี่งประกอบการในภูมิภาค ๑๐. นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ผู้แทนองค์การเอกชนซึ่งประกอบการในส่วนกลาง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10393 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน สมัยพิเศษ เกี่ยวกับผลกระทบของโควิด - 19 ต่อแรงงานและการจ้างงาน ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference) และการขอความเห็นชอบรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมระดับรัฐมนตรีเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบของโควิด - 19 ต่อแรงงานและการจ้างงาน (เรื่องเพื่อพิจารณา) | รง | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียน สมัยพิเศษ เกี่ยวกับผลกระทบของโควิค-๑๙ ต่อแรงงานและการจ้างงาน ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference) เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น ๕ กระทรวงแรงงาน และเห็นชอบในการรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมระดับรัฐมนตรีเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบของโควิด-๑๙ ต่อแรงงานและการจ้างงาน โดยสาระสำคัญของการประชุมฯ ได้มีการนำเสนอความพยายามของอาเซียนในการรับมือกับผลกระทบของโควิด-๑๙ การแลกเปลี่ยนนโยบายและมาตรการรองรับผลกระทบของโควิด-๑๙ ชองประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งการรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมระดับรัฐมนตรีเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบของโควิด-๑๙ ต่อแรงงานและการจ้างงาน ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนในการจัดให้มีการสนับสนุนความเป็นอยู่และสุขภาพของแรงงานทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานกลุ่มเสี่ยง การจัดหาค่าตอบแทนอย่างเหมาะสมให้แก่แรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ และสิทธิที่จะเข้าถึงการช่วยเหลือทางสังคมหรือสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากภาครัฐ การอำนวยความสะดวกให้แรงงานที่ติดเชื้อโควิด-๑๙ ให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขที่จำเป็น และการส่งเสริมการสื่อสารสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เพื่อให้เกิดการรายงานความคืบหน้าของนโยบายและมาตรการของภาครัฐต่อแรงงานและการจ้างงานในการตอบสนองต่อโรคระบาด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. สำหรับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เห็นควรให้กระทรวงแรงงานปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ไปดำเนินการก่อน ส่วนปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10394 | การจัดทำข้อตกลงการบริหารจัดการกองทุน UN COVID - 19 Response and Recovery Multi - Partner Trust Fund (UN COVID - 19 MPTF) | กต | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการจัดทำข้อตกลงการบริหารจัดการกองทุน UN COVID-19 Response and Recovery Multi-Partner Trust Fund (UN COVID-19 MPTF) และอนุมัติให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เป็นผู้ลงนามข้อตกลงฯ ของฝ่ายไทย โดยร่างข้อตกลงฯ จัดทำขึ้นระหว่างไทยในฐานะผู้บริจาคและโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) ภายใต้องค์การสหประชาชาติซึ่งเป็นองค์การระหว่างประเทศในฐานะตัวแทนบริหารจัดการกองทุนฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดจำนวนเงินบริจาค การจัดสรรเงิน และการใช้เงินของกองทุนฯ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขซึ่งจะใช้บังคับกับองค์การภายใต้องค์การสหประชาชาติที่เป็นผู้รับเงินและตัวแทนบริหารจัดการ โดยไม่มีการกำหนดพันธกรณีใด ๆ สำหรับผู้บริจาค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างข้อตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10395 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ 6 | นร10 | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ ๖ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก ๑๔๖ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๙๙ ของส่วนราชการทั้งหมด (๑๔๗ ส่วนราชการ) ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Work From Home) ส่วนราชการร้อยละ ๘๙ (๑๓๐ ส่วนราชการ) มีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ และส่วนราชการร้อยละ ๔๑ (๖๐ ส่วนราชการ) กำหนดให้มีจำนวนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป (ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมี ๖๓ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๔๓) โดยในจำนวนนี้มีส่วนราชการร้อยละ ๑๖ (๒๓ ส่วนราชการ) มอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (เท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา) โดยมีการมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้านในหลายรูปแบบ เช่น ปฏิบัติงานที่บ้านสลับกับการมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของส่วนราชการ วันเว้นวัน สัปดาห์ละ ๑ วัน สัปดาห์ละ ๒ วัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนราชการร้อยละ ๑๐ (๑๖ ส่วนราชการ) มีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมี ๑๔ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๙) ๑.๒ การเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ มีส่วนราชการกำหนดให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเมื่อจำเป็นต้องปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ ส่วนใหญ่ร้อยละ ๔๖ กำหนดการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเป็น ๓ ช่วงเวลา คือ เวลา ๐๗.๓๐-๑๕.๓๐ น. เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. และเวลา ๐๙.๓๐-๑๗.๓๐ น. และส่วนราชการร้อยละ ๑๔ ไม่ได้กำหนดให้มีการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงาน ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๙ มิถุนายน ๒๕๖๓) ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและลักษณะงานขององค์กร รวมทั้งให้นำมาตรการเหลื่อมเวลาในการปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งไปดำเนินการให้เกิดผลอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรด้วย นั้น ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการเหลื่อมเวลาการทำงานของหน่วยงานให้สอดคล้องกับการเหลื่อมเวลาของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีกำหนดการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ๓. ให้สำนักงาน ก.พ. ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10396 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๔๕ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง และมีรัฐวิสาหกิจ ๑๐ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑-๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๔๙๐ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๔๐,๖๖๖ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๕ ๑.๒ การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ มีรัฐวิสาหกิจ ๓๔ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น. เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๑-๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๙ มิถุนายน ๒๕๖๓) ให้ทุกรัฐวิสาหกิจพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและลักษณะงานขององค์กร รวมทั้งให้นำมาตรการเหลื่อมเวลาในการปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งไปดำเนินการให้เกิดผลอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรด้วย นั้น ให้ทุกรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการเหลื่อมเวลาการทำงานของหน่วยงานให้สอดคล้องกับการเหลื่อมเวลาของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีกำหนดการเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10397 | การเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคม 2563 | นร04 | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมีบัญชาเห็นชอบให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งตรงกับวันหยุดราชการในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๓ รวม ๒ วัน ดังนี้
๑. วันอังคารที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เป็นวันหยุดชดเชยวันอาสาฬหบูชา จึงให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีไปเป็นวันพุธที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ๒. วันอังคารที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีไปเป็นวันพุธที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10398 | การจัดทำข้อมูลผลงานของรัฐบาล | นร05 | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการเผยแพร่และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่สาธารณชนเกี่ยวกับผลงานของรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติมอบหมายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลผลการปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์ หรือประโยชน์ที่ประชาชนได้รับที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไปเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10399 | ร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563)] | สผ | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. .... ต่อรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10400 | ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563)] | นร | 23/06/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
.....