ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 514 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 10261 - 10280 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
10261 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี) | นร13 | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10262 | มาตรการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) และการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว | นร05 | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอมาตรการของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โรคโควิด 19) และการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว รวมทั้งสิ้น ๕๓ มาตรการ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการด้านการสาธารณสุข ๓ มาตรการ ๑.๒ มาตรการด้านการคลัง ๓๘ มาตรการ ๑.๒.๑ มาตรการเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ๑๑ มาตรการ ๑.๒.๒ มาตรการเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต/ภาษีมูลค่าเพิ่ม/ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ๕ มาตรการ ๑.๒.๓ มาตรการเกี่ยวกับอากรและค่าธรรมเนียม ๗ มาตรการ ๑.๒.๔ มาตรการเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ๔ มาตรการ ๑.๒.๕ มาตรการด้านการคลังอื่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยทั่วไป การเกษตร และคนพิการ ๖ มาตรการ ๑.๓ มาตรการด้านการเงิน ๗ มาตรการ ๑.๔ มาตรการด้านคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าว ๓ มาตรการ ๑.๕ มาตรการด้านอื่น ๆ ๒ มาตรการ ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการกำหนดเงื่อนไขภายใต้มาตรการ รวมทั้งให้พิจารณาปรับปรุงมาตรการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป แล้วแจ้งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันศุกร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10263 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย | คค | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ ๓๘๐,๐๐๐ บาท ตามมติคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๘/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไปแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และให้นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ลาออกจากการเป็นพนักงานของรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10264 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางเสาวณีย์ แสงสุพรรณ) | นร11 | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเสาวณีย์ แสงสุพรรณ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10265 | โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า | ทส | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10266 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ฉบับที่ ..) | ตช | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10267 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวศิลักษณ์ ปั้นน่วม) | นร07 | 21/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10268 | ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ตช. | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนชื่อกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ๙๐๔
ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ เนื่องจากได้รับมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกด้านยุทธวิธีเฉพาะทาง
โดยได้แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ
และเปลี่ยนชื่อส่วนราชการภายในระดับกองกำกับการ ในกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ
จากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ เป็นกองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นว่า
การแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นการดำเนินการใด ๆ
ของรัฐที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ตามมาตรา
๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
จึงต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย
และเห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยถือปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒
และ/หรือระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10269 | รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ 9 | นร10 | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ ๙ ณ วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก ๑๔๗ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๙๙ ของส่วนราชการทั้งหมด (๑๔๘ ส่วนราชการ) ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (Work From Home) ส่วนราชการร้อยละ ๗๖ (๑๑๑ ส่วนราชการ) มีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ และส่วนราชการร้อยละ ๒๙ (๔๓ ส่วนราชการ) กำหนดให้มีจำนวนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งร้อยละ ๕๐ ขึ้นไป (ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมี ๕๔ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๓๗) โดยในจำนวนนี้มีส่วนราชการร้อยละ ๑๓ (๑๙ ส่วนราชการ) มอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมี ๒๑ ส่วนราชการ คิดเป็นร้อยละ ๑๔) โดยมีการมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้านในหลายรูปแบบ เช่น ปฏิบัติงานที่บ้านสลับกับการมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของส่วนราชการ วันเว้นวัน สัปดาห์ละ ๑ วัน สัปดาห์ละ ๒ วัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เป็นต้น ๒. การเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ มีส่วนราชการกำหนดให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเมื่อจำเป็นต้องปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ ส่วนใหญ่ร้อยละ ๔๔ กำหนดการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเป็น ๓ ช่วงเวลา คือ เวลา ๐๗.๓๐-๑๕.๓๐ น. เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. และเวลา ๐๙.๓๐-๑๗.๓๐ น. และส่วนราชการร้อยละ ๑๒ (๑๗ ส่วนราชการ) กำหนดให้เหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานมากกว่า ๓ ช่วงเวลา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10270 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 เรื่อง แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียนของการไฟฟ้านครหลวง | มท. | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๘ เรื่อง
แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน
ของการไฟฟ้านครหลวง พื้นที่ดำเนินการกลุ่มที่ ๓
(พื้นที่เปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับหน่วยงานสาธารณูปโภคอื่น)
จำนวน ๕ เส้นทาง ได้แก่ (๑) เส้นทางสุขุมวิท (ฝั่งจังหวัดสมุทรปราการ
ช่วงสถานีย่อยบางปิ้ง-ถนนเทศบาลบางปู ๗๗) (๒) เส้นทางถนนเพชรบุรี [ซอยสุขุมวิท ๖๓ (เอกมัย)-ถนนรามคำแหง]
และถนนรามคำแหง (ถนนเพชรบุรี-ถนนศรีนครินทร์ ช่วงถนนเพชรบุรี-ถนนพระราม ๙) (๓)
เส้นทางถนนอรุณอัมรินทร์ (เชิงสะพานพระราม ๘-ถนนประชาธิปก) (๔)
เส้นทางถนนบรมราชชนนี (ถนนจรัญสนิทวงศ์-ถนนอรุณอัมรินทร์) และ (๕)
เส้นทางถนนพรานนก (ถนนจรัญสนิทวงศ์-ถนนอรุณอัมรินทร์)
โดยอยู่ในกรอบวงเงินลงทุนเดิม ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง)
รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน และสำนักงบประมาณ เช่น
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ดำเนินการ
และควรมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคและเมืองในการที่จะออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบถนนและทางเท้า
เพื่อให้สามารถรองรับการนำระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ลงใต้ดินในอนาคตด้วย เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
๒.
ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง)
หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการบูรณาการการดำเนินการนำสายไฟฟ้าลงดินและการติดตั้งสายสื่อสารและโทรคมนาคมเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินการรื้อผิวถนนหรือทางเท้าซ้ำหลายครั้งและเป็นการประหยัดงบประมาณในการก่อสร้าง
และให้คำนึงถึงผลกระทบต่อความปลอดภัยและการคมนาคมของประชาชนในบริเวณพื้นที่ดำเนินการดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10271 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 | กษ | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน โดยที่ประชุมฯ ได้พิจารณาประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การกำหนดราคาปาล์มน้ำมัน น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ๑ ลิตร ตลอดห่วงโซ่การผลิต แนวทางขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มระดับจังหวัด รวมทั้งมาตรการด้านพลังงาน เช่น การใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไฟฟ้า และการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10272 | รายงานผลสัมฤิทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ | กค | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) จำนวน ๕๕ แห่ง ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ ๒๙ มิถุนายน-๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด) รัฐวิสาหกิจ ๒๔ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง โดยมีรัฐวิสาหกิจ ๓๑ แห่ง ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว เพิ่มขึ้น ๑๕ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓) ทั้งนี้ จากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด จำนวน ๒๗๒,๕๕๘ คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน ๑๘,๔๕๕ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๗ ๒. การปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสากิจ (การปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา) มีรัฐวิสาหกิจ ๒๖ แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีรัฐวิสาหกิจยกเลิกนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาเพิ่มขึ้น ๖ แห่ง จากสัปดาห์ก่อนหน้า (ช่วงระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓) โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานเหลื่อมเวลาตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.-๑๐.๓๐ น.
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10273 | รายงานผลการดำเนินการตามแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง ปี 2562 (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2562) | มท | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปี ๒๕๖๒ (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ๒๕๖๒) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินการตามแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ๒๕๖๒) มีแผนงาน/โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ระยะทาง ๑๖๗ กิโลเมตร จำนวน ๓ แผนงาน ประกอบด้วย (๑) แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๖ (ฉบับปรับปรุง) รวมระยะทาง ๒๕.๒ กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ ๑๗.๒ กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จ ปี ๒๕๖๓ (๒) แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน รัชดาภิเษก รวมระยะทาง ๒๒.๕ กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จ ปี ๒๕๖๔ และ (๓) แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน รวมระยะทาง ๑๒๗.๓ กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จ ปี ๒๕๖๔ ๒. การเบิกจ่ายงบประมาณ ณ เดือนธันวาคม ๒๕๖๒ ได้มีการเบิกจ่ายเงินรวม ๑,๗๗๓.๖๑๕ ล้านบาท จากเป้าหมายการเบิกจ่ายในปี ๒๕๖๒ จำนวน ๒,๕๑๙.๗๔๔ ล้านบาท ๓. แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป กฟน. ได้พิจารณาพื้นที่ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มเติม โดยได้นำเสนอแผนการดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ฉบับปฏิบัติการเร่งรัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการแล้ว เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ รวมระยะทาง ๒๐.๕ กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๖ ประกอบด้วย พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงถนนรัตนาธิเบศร์ ช่วงถนนราชพฤกษ์ถึงถนนกาญจนาภิเษก และช่วงถนนกรุงเทพ-นนทบุรีถึงถนนติวานนท์ และพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถนนสุขุมวิท ช่วงซอยสุขุมวิท ๘๑-ซอยแบริ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10274 | ขอความเห็นชอบร่างเอกสารที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน - จีน สมัยพิเศษว่าด้วยโควิด - 19 | คค | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-จีน ว่าด้วยการเสริมสร้างการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ราบรื่นเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 และการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเอกสารที่รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะร่วมกันรับรองโดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมรัฐมนตรีขนส่งอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ว่าด้วยโควิด-19 (ASEAN and China Transport Ministers’ Special Meeting on COVID-19) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยระบบการประชุมทางไกล มีสาระสำคัญเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการร่วมมือกันระหว่างอาเซียนและจีนในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์อย่างยั่งยืนและเป็นหนึ่งเดียวกันในการเสริสร้างความแข็งแกร่งต่อการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก เช่น การดำเนินมาตรการอย่างแข็งขันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า การขนส่งวัสดุและสินค้าที่จำเป็น รวมทั้งการอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในการเข้า ออก และผ่านแดน ของวัสดุและสินค้า โดยหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ซึ่งไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10275 | ร่างปฎิญญาระดับรัฐมนตรีของการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (High-Level Political Forum on Sustainable Development : HLPF) ประจำปี ค.ศ. 2020 | กต | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีของการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (High-Level Political Forum on Sustainable Development : HLPF) ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๐ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือเอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่จะร่วมกันดำเนินการเพื่อบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ และตอบสนองและฟื้นฟูจากวิกฤติโควิด-๑๙ ในระดับโลก โดยยึดมั่นในความร่วมมือระหว่างประเทศและระบบพหุภาคี โดยครอบคลุมประเด็นด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง ๓ มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น การขจัดความยากจน การเสริมสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ การเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลก การเสริมสร้างสันติภาพ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคน ระบบสาธารณสุขและการคุ้มครองทางสังคม ความมั่นคงทางอาหาร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน การฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การดำเนินการตามวาระปฏิบัติการแอดดิสอาบาบา (Addis Ababa Action Agenda) การสร้างขีดความสามารถด้านสถิติ การใช้ประโยชน์จากรายงานผลการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ ระดับชาติ โดยสมัครใจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เป็นต้น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10276 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่หนด (ฉบับที่..) พ.ศ. .... | คค | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ และทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน ตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๑ นาฬิกา ของวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ถึงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งประชาสัมพันธ์การยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางในช่วงวันหยุดราชการดังกล่าว พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10277 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563) | นร | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) แจ้งขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามที่ ๑๘๘ เรื่อง การเตรียมรับมือโรคโควิด 19 ระบาด รอบสอง ในวันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ เนื่องจากติดภารกิจ ซี่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว จึงได้ลงมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓ และให้ประสานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเลื่อนการตอบกระทู้ถามดังกล่าวต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10278 | การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้า ในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) | กค | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) ทั้งจำนวน วงเงินกู้ จำนวน ๑,๔๕๘,๒๔๘,๐๐๐ บาท ๑.๒ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖ รวมระยะเวลา ๓ ปี รวมวงเงินที่จะขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณทั้งสิ้นเท่ากับ ๗๒๙,๑๒๔,๐๐๐ บาท ๑.๓ มอบหมายให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ดำเนินการกู้เงิน จำนวน ๗๒๙,๑๒๔,๐๐๐ ล้านบาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด ๑.๔ กรณีเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ตามจำนวนที่ชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย เพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อน และเมื่อสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป ๒. ในส่วนของภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ และปีต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) พิจารณานำเงินสะสมเหลือจ่ายจากการดำเนินโครงการอื่นมาดำเนินการเป็นลำดับแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้รวมถึงกรณีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10279 | ขอเปลี่ยนแปลงรายการเครื่องเฮลิคอปเตอร์ (จำนวนที่นั่งไม่น้อยกว่า 14 ที่นั่ง) ขนาด 2 เครื่องยนต์ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 1 ลำ ไปเป็นเครื่องบินขนาดกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 1 ลำ เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจการทำฝนหลวง | กษ | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จากรายการเครื่องเฮลิคอปเตอร์ (จำนวนที่นั่งไม่น้อยกว่า ๑๔ ที่นั่ง) ขนาด ๒ เครื่องยนต์ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ๑ ลำ เป็นรายการเครื่องบินขนาดกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑ ลำ เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจการทำฝนหลวง ภายในวงเงิน ๕๖๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามผลการจัดซื้อเครื่องบินขนาดกลาง ที่ได้จัดซื้อในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายแล้ว จำนวน ๗๔,๒๕๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๔๙๓,๒๕๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-พ.ศ. ๒๕๖๕ รวมทั้งพิจารณายกเว้นไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง การปรับปรุงแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณและมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง กรณีเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปีแรกต่ำกว่าร้อยละ ๒๐ ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10280 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 14/07/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสามารถจัดซื้อที่ดินและนำมาจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|