ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1892 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37821 - 37840 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37821 | คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ (ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553) (ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 145 วรรคหนึ่ง (1) เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตราขึ้นโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 167 วรรคหนึ่ง หรือไม่) | ศร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งที่ 33/2552
ลงวันที่ 30 กันยายน 2552 ไม่รับคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ตราขึ้นโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย มาตรา 167 วรรคหนึ่ง หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นว่า ในชั้นการแปรญัตติเพิ่ม เติมงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของคณะกรรมาธิการ ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ไม่ได้ นำเสนอรายละเอียดของแผนงานและโครงการในแต่ละรายการของการใช้จ่ายงบประมาณตามที่คณะรัฐมนตรีได้มี ให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ เสนอขอเพิ่มเติมงบประมาณผ่านสำนักงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อทดแทนงบประมาณที่ คณะกรรมาธิการได้ปรับลดลงไปกว่า 22,000,000,000 บาท ให้ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 167 วรรคหนึ่ง และเห็นว่า มาตรการดังกล่าวใช้ในการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณเท่านั้น มิได้ใช้บังคับการขอแปรญญัติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ฯ ตามคำร้อง แต่อย่างใด กรณีตามคำร้องจึงไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 167 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐ ธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัย
|
|||||||||||||||||||||
37822 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (จำนวน 3 ราย 1. นายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดาฯ) | กต | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรง
ตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตาม ที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1. นายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง สำนัก งานปลัดกระทรวง 2. นายกาญจน์ ชีรานนท์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี 3. นายสมชัย จรณะสมบูรณ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
|
|||||||||||||||||||||
37823 | การแต่งตั้งรองเลขาธิการ ก.พ. (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางบุษบา กรัยวิเชียร) | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางบุษบา กรัยวิเชียร ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน
ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2552 ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||
37824 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน ประเภทบริหารระดับสูง (ราชบัณฑิตยสถาน) (นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ) | รถ | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวกนกวลี ชูชัยยะ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่ราชบัณฑิตยสถานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
37825 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงแรงงาน) (จำนวน 5 ราย 1. นายไพรัช ลำยองฯ) | รง | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง แรงงานเสนอ ดังนี้ 1. นายไพรัช ลำยอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายอาทิตย์ อิสโม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง 3. นางสุจิตรา บุญชู ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง 4. นายชลชนะ สุริยนาคางกูร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง 5. นายพูลศักดิ์ เศรษฐนันท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||
37826 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 13/2552 | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) ครั้งที่ 13/2552
วันที่ 30 กันยายน 2552 และเห็นชอบมติคณะกรรมการ รศก. ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ รศก. เสนอ ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 67 ทั้งในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดย มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางโดยเร็ว และให้หา รือข้อกฎหมายและแนวทางการดำเนินการกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป โดยในระหว่างการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการออกใบอนุญาตใหม่จนกว่าจะมีผล การตัดสินของศาลปกครองกลาง และให้ประสานโดยด่วนกับศาลปกครองกลางเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทาง และวิธีปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งศาลต่อไป และให้กระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบโครงการของผู้ประกอบการ ทั้งหมดที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว และประเมินผลกระทบจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง แล้วให้นำเสนอคณะ กรรมการ รศก. ต่อไป 2. ที่ประชุมมีมติมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ทบ ทวนภารกิจและองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมนิเวศน์ และนำเสนอคณะกรรมการ รศก. พิจารณาต่อไป รวมทั้งดำเนินการศึกษาทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เชื่อมโยง กับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ และนำเสนอคณะกรรมการ รศก. ภายใน 3 เดือน โดยให้นำเสนอกรอบการศึกษา ให้คณะกรรมการ รศก. ภายใน 1 เดือน 3. ที่ประชุมมีมติรับทราบกรอบการศึกษาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศ ยานดอนเมืองโดยให้นำความเห็นเพิ่มเติมในส่วนของการพิจารณาเปรียบเทียบความเหมาะสมทางด้านเทคนิคและ กายภาพในการพัฒนาท่าอากาศยานภายใต้แนวคิดระบบ 2 ท่าอากาศยาน หรือระบบท่าอากาศยานเดียว โดย คำนึงถึงการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานของท่าอากาศยานดอนเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้นำเสนอผล การศึกษาเบื้องต้นให้คณะกรรมการ รศก. พิจารณาภายใน 90 วัน 4. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ บรรจุเรื่องการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและการพัฒนา ด้านโทรคมนาคมในวาระการประชุมคณะกรรมการ รศก. ในครั้งต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
37827 | การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 16 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT-GT) | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเล เซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) ใน 6 สาขา ประกอบด้วย (1) การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง (2) การค้าและการลงทุน (3) การท่องเที่ยว (4) ผลิตภัณฑ์และบริการ ฮาลาล (5) พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ (6) เกษตร อุตสาหกรรมการเกษตรและสิ่งแวดล้อม และเห็นชอบให้คณะ ผู้แทนไทยผลักดันแนวทางการดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือดังกล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ อาวุโส IMT-GT ครั้งที่ 16 ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวที่เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2552 2. เห็นชอบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส IMT-GT ครั้งที่ 16 3. เห็นชอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) รัฐมนตรีประจำแผนงาน IMT-GT เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรี IMT-GT ครั้งที่ 16 4. มอบหมายรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายปรเมธี วิมลศิริ) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส IMT-GT ครั้งที่ 16
|
|||||||||||||||||||||
37828 | ผลกระทบจากพายุ "กิสนา" | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานผลกระทบจากพายุ
"กิสนา" ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคม 2552 มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 20 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 3 หลัง เสียหายบางส่วน 100 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 105,155 ครัวเรือน ถนน สะพาน ท่อระบายน้ำเสียหาย 569 แห่ง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ 133,253 ไร่ ทั้งนี้ กระทรวง มหาดไทยได้ใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในส่วนที่อยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการ จังหวัดช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว |
|||||||||||||||||||||
37829 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม
2552 ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2552 และครั้งที่ 15 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2552 |
|||||||||||||||||||||
37830 | อุบัติเหตุรถไฟตกรางที่สถานีเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ | นร | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรายงานว่ารถไฟขบวนรถด่วน ตรัง-กรุง เทพเกิดอุบัติเหตุตกรางก่อนเข้าสถานีเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 04.42 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม 2552 รวม 12 โบกี้ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 88 ราย ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วย เหลือผู้บาดเจ็บและเก็บกู้ซากโบกี้รถไฟตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุแล้วเสร็จ เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 6 ตุลาคม 2552 ขณะนี้เดินรถได้ตามปกติแล้ว และรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า การรถไฟแห่งประเทศ ไทย (รฟท.) จะมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 80,000 บาท และมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลด้วย และในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่ากระทรวงมหาดไทยได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรายละ 5,000 บาท ผู้เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท และให้ทาง จังหวัดช่วยจัดงานศพด้วย 2. ให้ รฟท. กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับประสิทธิภาพของพนักงานขับรถไฟ เพื่อ สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก โดยปรับโครงสร้าง รฟท. ให้ มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับ บาดเจ็บควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นตามความเดือดร้อนที่แท้จริงโดยยึดหลักมนุษยธรรม
|
|||||||||||||||||||||
37831 | ขออนุมัติข้าราชการไปปฏิบัติงานชั่วคราวที่องค์การอนามัยโลกเป็นกรณีพิเศษ | สธ | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติเป็นกรณีพิเศษให้ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข (นายภูษิต ประคองสาย) ลาไปปฏิบัติงาน ณ องค์การอนามัยโลก โดยยกเว้นระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535 ข้อ 36 ประเภท 1(2) ในส่วน ของการไม่รับเงินเดือน แล้วให้ได้รับเงินค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ในการปฏิบัติงานจากงบประมาณโครงการ ประชุมวิชาการนานาชาติ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล รวมทั้งอนุมัติการจ่ายค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์สำหรับ ผู้ไปปฏิบัติงาน ณ องค์การอนามัยโลก ดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยในส่วนของการจ่ายค่าตอบ แทนและสิทธิประโยชน์ดังกล่าว โดยให้ตัดค่าประกันสุขภาพ (จำนวน 1,237.50 ฟรังก์สวิส) ออก ตามความเห็น ของกระทรวงการคลัง 2. ให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงระเบียบหลักเกณฑ์ การรับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ณ องค์การระหว่างประเทศ จากงบประมาณแผ่นดินให้ ชัดเจน เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2552 (เรื่อง ขออนุมัติข้าราชการไปปฏิบัติงานชั่วคราวที่องค์การอนามัยโลกเป็นกรณีพิเศษ) ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||
37832 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | กก | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ 1.1 ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันเกินกว่า 1 ปีงบประมาณ รายการเช่ารถยนต์ เช่าอาคารและอุปกรณ์สำนักงานของสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ ก่อนได้ รับเงินประจำงวดตามที่เสนอได้ 1.2 สำหรับกรณีการเช่ารถยนต์ เช่าอาคารและอุปกรณ์ของสำนักงาน ททท. ในประเทศ ซึ่งเป็นการ ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณแล้ว เห็นสมควรให้ดำเนินการจัดหาพัสดุ (การเช่ารถยนต์ การเช่าอาคารสำนักงาน และการเช่าอุปกรณ์) ไว้ล่วงหน้า และสามารถลงนามในสัญญาเมื่อพระ ราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีผลบังคับ และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา 23 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ ฯ แล้ว โดยให้ มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และเป็นไป ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ฯ ข้อ 13 และหนังสือเวียนคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ด่วนที่สุด ที่ กค(กวพ.) 0408.4/ว 351 ลงวันที่ 9 กันยายน 2548 2. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการ คลังที่เห็นควรติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในประเทศและต่างประเทศให้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
37833 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 8 ราย 1. นางชูจิรา กองแก้วฯ) | ยธ | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 8 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง ยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
37834 | ขออนุมัติใช้อัตราว่างจากผลการเกษียณอายุมาจัดสรรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ | นร | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ใช้อัตราข้าราชการตำรวจที่ว่างจากผลการเกษียณอายุเมื่อสิ้นปีงบประมาณ
พ.ศ. 2551 ในส่วนที่ต้องยุบเลิกร้อยละ 50 (จำนวน 810 อัตรา) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 เรื่อง ยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2551) มาจัดสรรคืนให้สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติได้ทั้งหมดตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเมื่อวันที่ 31 สิงหา คม 2552 ตามที่รองเลขาธิการ ก.พ. (นางเบญจวรรณ สร่างนิทร) กรรมการและเลขานุการร่วมคณะกรรมการ กำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเสนอ |
|||||||||||||||||||||
37835 | ขอความเห็นชอบในการรับรองร่างผลการประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมมรกต ครั้งที่ 2 | กต | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงของประธานการประชุมระดับรัฐมนตรีประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 และ ร่างแถลงข่าวร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมมรกต ครั้งที่ 2 และอนุมัติ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุง แก้ไขเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการ ได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ 2. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ 2.1 ร่างถ้อยแถลงของประธาน ฯ ในระยะต่อไปควรที่กำหนดแนวทางการนำผลการประชุมดังกล่าว สู่การปฏิบัติงานเป็นรูปธรรม และจัดลำดับความสำคัญของแผนงานโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่ปรากฎใน ร่างถ้อยแถลงของประธาน ฯ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อความเป็นหุ้นส่วนระหว่างลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นให้มี ความชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 2.2 ร่างแถลงข่าวร่วม ฯ ในข้อที่ 2 ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือในสาขา ท่องเที่ยว ส่วนการขยายความร่วมมือในสาขาอื่น เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการส่งเสริมการค้าในเขต พื้นที่ชายแดนของ 3 ประเทศ ตามที่ระบุในข้อ 3 ควรต้องสอดคล้องกับความร่วมมือหลักดังกล่าวและพิจารณามิให้ เป็นการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนกับกรอบความร่วมมืออื่น ๆ รวมทั้งในข้อ 6 ไม่ควรเจาะจงความร่วมมือจากประเทศผู้ ร่วมพัฒนา (Development partners) เฉพาะประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออก แต่ควรเพิ่มความร่วมมือจากองค์กรผู้ ให้ (Donor agencies) ต่อแผนปฏิบัติการภายใต้กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมมรกต
|
|||||||||||||||||||||
37836 | ขออนุมัติใช้เงินและโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเหลือจ่ายปี พ.ศ. 2552 | ตช | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2552 รายการค่าเช่ายานพาหนะเพื่อใช้ในภารกิจรักษาความปลอดภัยและภารกิจป้องกันและ ปราบปรามอาชญากรรมของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 107 คัน จำนวน 34,119,919.28 บาท ไปตั้งจ่าย ในแผนงาน ผลผลิต และกิจกรรมเดียวกัน งบดำเนินงาน สำหรับเป็นค่าเช่ายานพาหนะเพื่อใช้ในภารกิจรักษา ความปลอดภัย และภารกิจงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมของหน่วยต่าง ๆ จำนวน 107 คัน ตามสัญญา เช่ารถยนต์ เลขที่ บต. 1/2547 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2546 ให้กับผู้ให้เช่ารายเดิม ซึ่งคณะกรรมการว่าด้วยการ พัสดุ (กวพ.) ได้อนุมัติผ่อนผันการไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายด้วยแล้ว โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษา ยน 2551 (เรื่อง ขอปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง การเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ) |
|||||||||||||||||||||
37837 | (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2552 - 2555) | ศธ | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2552-2555) มีสาระสำคัญเพื่อมุ่งจัดการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาชาติ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและพัฒนาพื้นที่ โดยยึดแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ "เข้า ใจ เข้าถึง พัฒนา" ตลอดจนหลักคุณธรรมนำความรู้ การมีส่วนร่วมของชุมชนและองค์กรศาสนา เพื่อสร้างสันติสุขและ เสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม สอดคล้องกับวิถีชีวิต และเชื่อมโยงสู่ประชาคม อาเซียนและประชาคมโลก ภายในปี พ.ศ. 2555 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกกระทรวงศึกษาธิการนำ (ร่าง) แผน ฯ ไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาประสานการนำแผนสู่การปฏิบัติ ติดตาม ประเมินผล และรายงานต่อคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และตามที่รัฐมนตรีว่า การกระทรวงศึกษาธิการเสนอขอเพิ่มมาตรการในส่วนยุทธศาสตร์และมาตรการเร่งด่วน ดังนี้ "ข้อที่ 5. ปรับระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ 5.1 ให้มีการบริหารจัดการศึกษาอย่างบูรณาการเพื่อให้มีเอกภาพ ให้มีคณะกรรมการบริหาร การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้บริหารระดับสูงเป็นประธาน ฯ มีอำนาจสั่งการ รับผิดชอบทั้งด้านบริหาร งานบุคคล บริหารงบประมาณ บริหารวิชาการ และบริหารทั่วไป เพื่อให้สามารถประสานการดำเนินงานในการขับ เคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐและกระทรวง ตลอดจนกำกับ ติดตามการพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุตามเป้าหมาย" 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานสภา ความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยมาใช้ ส่งเสริมการศึกษาให้กระจายอย่างทั่วถึง สร้างโอกาสและ พัฒนากระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ สร้างเครือข่ายเยาวชนกับการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เกิดการประสาน และใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอน การให้ความสำคัญกับมาตรการส่งเสริมการศึกษา เพื่อความมั่นคง โดยเฉพาะการสร้างความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากนักศึกษาไทยมุสลิมในต่างประเทศ และปัญญา ชนในพื้นที่เพื่อเป็นฐานเครือข่ายในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่น ตลอดจนการให้ความสำคัญเร่งด่วน กับการสร้างโอกาสทางการศึกษากับกลุ่มเด็กกำพร้าทั้งที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความ ไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การกำหนดกลยุทธ์และแนวทางพัฒนาการศึกษาในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจนสอด คล้องกับศักยภาพของพื้นที่ รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพเพื่อกำกับการ ดำเนินงานตามแผนดังกล่าวให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถประเมินผลได้อย่างเป็นรูป ธรรม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
37838 | การเตรียมการรองรับสถานการณ์อุทกภัย | นร | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นต้น เร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนักและอุทกภัย อันเนื่องมาจากพายุไต้ฝุ่น "กิสนา" ซึ่งคาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยประมาณวันที่ 30 กันยายน 2552 เพื่อให้สามารถป้องกันปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และ ทันเหตุการณ์ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
37839 | ขอให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการขอยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี | ยธ | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
1. ยกเว้นให้สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จำนวน 46 แห่ง ดำเนินการจัดหาอาหารให้แก่เด็ก และเยาวชนในความรับผิดชอบตามวิธีการเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเด็กและเยาวชน ในความรับผิดชอบที่สมควรจะดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 เรื่อง การจัดซื้อและการ ชำระราคาค่าอาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหารให้แก่นักโทษ ผู้ต้องขัง รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่ อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ติดตามประเมินผลและกำหนดการดำเนินการและการจัดการเรื่องการจัดหานมสดจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนม แห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ให้แก่เด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้ง 46 แห่ง และสถาน พินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแห่งอื่นตามเหตุผลและความจำเป็นตามสภาพปัญหาในพื้นที่ของสถานพินิจและคุ้ม ครองเด็กและเยาวชนแต่ละแห่ง 2. ยกเว้นให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการจัดหาอาหาร เครื่องบริโภค และวัสดุเพื่อการหุงหาอาหารให้แก่นัก โทษและผู้ต้องขังในเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขังต่าง ๆ (ยกเว้นข้าวสาร 5% และข้าวสารเหนียว) ตามวิธี การเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นเวลา 3 เดือน นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2552 และในระหว่างระยะ เวลาดังกล่าว ให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกันทดลองดำเนิน การให้เรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานกักขังต่าง ๆ จัดซื้อผลไม้จากเกษตรกรในพื้นที่ของแต่ละแห่ง โดยตรงเป็นโครง การนำร่องใน 4 ภาค ๆ ละ 2 จังหวัด และจังหวัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 1 จังหวัด โดยให้สำนักงานปลัด กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และกรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกันพิจารณากำหนดจังหวัดในโครงการนำร่องของ ภาคต่าง ๆ และของจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งกำหนดรูปแบบและวิธีดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว |
|||||||||||||||||||||
37840 | การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง | พม | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้การช่วยเหลือผู้ประสบความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องรวม 5 ราย เป็นเงิน 160,000 บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการให้ความช่วยเหลือจาก วงเงินที่ได้รับการอนุมัติไว้แล้ว (จำนวน 56,000,000 บาท) 2. เห็นชอบการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายที่ยังตกค้างที่ยังไม่มาติดต่อขอความช่วยเหลือ และมีความ เดือดร้อนต้องการรับความช่วยเหลือจากทางราชการหรือผู้ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยให้กระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใช้ระเบียบปฏิบัติของหน่วยงานที่มีอยู่ในการให้ความช่วยเหลือต่อไป |
.....