ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1891 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37801 - 37820 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37801 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับวัตถุอันตราย พ.ศ. .... | อก | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับวัตถุอันตราย พ.ศ. .... มีสาระ
สำคัญคือ ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบสำคัญการขึ้นทะเบียนใหม่ โดยแบ่งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแต่ ละประเภทออกเป็น 4 ระดับ ตามขนาดการประกอบการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
37802 | ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง | ยธ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบตามที่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง โดยสรุปดังนี้ 1.1 ควบุคมการขยายสาขาของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ให้หยุดหรือชะลอการขยายสาขา โดยพิจารณา เรื่องท้องที่ จำนวน และเวลาเปิด/ปิดห้างค้าปลีกสมัยใหม่ 1.2 ควรมีกฎหมายควบคุมการขายสินค้าราคาต่ำกว่าทุนและบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่และกฎหมาย อื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ 1.3 การใช้มาตรการทางภาษีโดยให้ห้างค้าปลีกสมัยใหม่แต่ละสาขายื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในท้องถิ่นที่สาขาของห้างค้าปลีกสมัยใหม่นั้นตั้งอยู่โดยไม่ให้ยื่นชำระภาษีรวมกันที่สำนักงานใหญ่ 1.4 ควรให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ทั้งผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งแบบดั้งเดิม ผู้ ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ผู้ผลิตเข้ามามีส่วนร่วมในการยกร่างกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้า ปลีกหรือค้าส่ง รวมทั้งให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามามีบทบาทเพื่อการประสานงานอย่างบูรณาการ 1.5 ให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการตัดสินใจ หรือพิจารณาอนุญาตให้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัย ใหม่ในท้องถิ่นของตนเอง 1.6 ให้รัฐเข้ามามีบทบาทกำกับดูแลการค้าให้เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง 1.7 พิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม พฤติกรรมผู้บริโภค ธรรมาภิบาลและ ความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบธุรกิจ (Corporate Social Responsibility : CSR) ประกอบการอนุญาต ให้ประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งสมัยใหม่ 1.8 ให้รัฐให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการประกอบธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม โดยให้ความช่วย เหลือสนับสนุนด้านเงินทุน ความรู้และเทคโนโลยี 2. ให้ส่งความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ฯ พร้อมทั้งความเห็นของสำนักงานคณะกรรม การคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาด ไทย และกระทรวงวัฒนธรรม ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปประกอบในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชการ บัญญัติประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. .... ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อ ไป |
||||||||||||||||||
37803 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง และตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | คค | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้อง
ที่ตำบลในเมือง และตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขต ที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง และตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบทตามโครงการผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
37804 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ พ.ศ. .... | ศธ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับ
สาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ พ.ศ. .... ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. กำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชานิติศาสตร์ สาขา วิชานิเทศศาสตร์ สาขาวิชาบัญชี สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาศิลปศาสตร์ และสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ 2. กำหนดครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย ครุยประจำตำแหน่งและเครื่องหมายประกอบครุยประจำ ตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดีและคณาจารย์มหาวิทยาลัย 3. กำหนดสีประจำมหาวิทยาลัยและสีประจำสาขาวิชา 4. กำหนดเข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัย
|
||||||||||||||||||
37805 | ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในการขอรับสนับสนุนงบประมาณงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | สธ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 994,413 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยงานและสถานพยาบาลต่าง ๆ ในการรักษาพยาบาล แก่นักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจชาวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และใช้ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาแทน ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-5 ธันวาคม 2551 ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
||||||||||||||||||
37806 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางพัชรินทร์ จันทร์จำรัสแสง) | สธ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางพัชรินทร์ จันทร์จำรัสแสง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้าน
เวชกรรม สาขาตจวิทยา กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศและสนับสนุนวิชาการ กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันโรค ผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วน สมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||
37807 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประธานกรรมการพิจารณาชี้ขาดการ
ยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอผลการประชุมพิจารณาตัดสินชี้ขาดการ ดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กับเอกชน และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วย งานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ด้วยกันเอง รวม 44 เรื่อง แยกเป็น การดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของ รัฐ และรัฐวิสาหกิจ กับเอกชน จำนวน 22 เรื่อง และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาห กิจ จำนวน 22 เรื่อง
|
||||||||||||||||||
37808 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การมีส่วนร่วมของประชาชน" | สสป | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง "การมีส่วนร่วมของประชาชน" และรับทราบตามที่สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะดัง กล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ สรุปได้ดังนี้ 1. เร่งรัดและผลักดันให้มีพระราชบัญญัติการมีส่วนร่วมของประชาชน พ.ศ. .... 2. สนับสนุนให้องค์กรที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันเป็นศูนย์รวมในการเผยแพร่ให้ความรู้ และกระตุ้นให้เกิด กระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในสังคมไทย 3. กำหนดระยะเวลาในการออกกฎหมายให้แน่ชัด โดยกฎหมายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นต้องเป็นไป ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเคร่งครัด 4. ให้ประชาชนมีบทบาทในกระบวนการบัญญัติกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายที่ครอบคลุมใน เรื่องที่เกี่ยวกับทรัพยากร การจัดสรรคลื่นความถี่วิทยุ โทรคมนาคม การจัดการชลประทาน และเก็บข้อมูลจาก ประชาชนที่ถูกผลกระทบก่อนที่จะเสนอร่างกฎหมายในเรื่องดังกล่าว 5. ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมยอมรับกฏกติกาของสังคม หากมีปัญหาในการบังคับใช้รัฐธรรม นูญ ให้ใช้วิธีการออกเสียงประชามติ ไม่ยอมรับการล้มล้างรัฐธรรมนูญ 6. ปรับท่าทีเพื่อส่งเสริมให้การใช้สิทธิ หน้าที่ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาประเทศ เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ต้งไว้ 7. เสริมสร้างให้เกิดความสมานฉันท์ ความเป็นปึกแผ่น และความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน โดยการ ให้วัดและโรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการสร้างความสามัคคี ให้ผู้นำทางศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน ครู และหมอพื้น บ้าน เป็นต้น เป็นกลไกในการเชื่อมประสานความสามัคคี และจัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบ การณ์กันอย่างเท่าเทียม 8 ยกระดับความรู้ความเข้าใจต่อประเด็นสิทธิ หน้าที่ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา ประเทศ โดยรัฐรับเป็นเจ้าภาพในการดำเนินงานรวมทั้งสนับสนุนให้มีบรรยากาศเอื้อต่อการเป็นสังคมแห่งการ เรียนรู้ 9. ส่งเสริมให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระที่เอื้อให้ประชาชนได้เข้ามามีสิทธิ หน้าที่ และมี ส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง 10. กำหนดแนวนโยบายการพัฒนาแบบล่างขึ้นบน (Bottom up) 11. ยกระดับให้ประชาชนกินดี อยู่ดี เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประชาชนได้ตระหนักถึงหน้าที่ที่พึงมีต่อ สังคม
|
||||||||||||||||||
37809 | การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 | นร | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่
208/2552 ลงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธานกรรมการ และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกับ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดรูปแบบ แนวทางการจัด งาน และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ฯ รวมทั้งพิจารณามอบหมายภารกิจตามแผนงาน โครงการ และกิจกรรมให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ
|
||||||||||||||||||
37810 | สรุปผลการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมของบ้านพักเด็กและครอบครัวทั่วประเทศและการให้คำปรึกษาและตอบคำถามผ่านสายด่วน 1300 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 10 - 16 กันยายน 2552 | พม | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอสรุปผลการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมของบ้านพักเด็กและครอบครัวทั่วประเทศ และการให้คำปรึกษาและตอบคำถามผ่านสายด่วน 1300 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 10-16 กันยายน 2552
|
||||||||||||||||||
37811 | ผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกอย่างไม่เป็นทางการ | พณ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกอย่างไม่
เป็นทางการ (Re-Energising Doha-A Commitment to Development) ระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน 2552 ณ กรุง นิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยที่ประชุมได้เห็นชอบให้ทุกประเทศแสดงความมุ่งมั่นที่จะสรุปผลการเจรจารอบโดฮาใน ปี 2010 และเน้นการเป็นรอบที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนา (development round) โดยประเด็นที่มีความสำคัญ ต่อประเทศพัฒนาน้อยที่สุดจะต้องมีแผนการทำงานที่เร็วกว่าเรื่องอื่น ๆ เพื่อให้สามารถสรุปได้เร็วที่สุด และมอบ หมายให้หัวหน้าคณะเจรจาหรือเจ้าหน้าที่อาวุโสเริ่มต้นการเจรจาที่เจนีวาโดยเร็วเพื่อกำหนดแผนงานการเจรจาใน ประเด็นที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ร่วมกับประธานกลุ่มเจรจาต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้การเจรจาใช้ร่างเอก สารที่มีอยู่ล่าสุดคือ เดือนธันวาคม 2008 เป็นพื้นฐานในการเจรจาและการเจรจาจะเป็นการเจรจาระบบพหุภาคี เป็นหลัก
|
||||||||||||||||||
37812 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณี ที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและ ร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
37813 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 และสายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 และสายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดย เร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุม วิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรม การตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
37814 | รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายปินาก รัญชัน จักรวรรติ (Mr. Pinak Ranjan Chakravarty)] | กต | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายปินาก รัญชัน จักรวรรติ (Mr. Pinak Ranjan Chakravarty) ให้ดำรง
ตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนางสาว วิชยา ละตา เรฑฑี (Miss Vijaya Latha Reddy) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงการต่าง ประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
37815 | รัฐบาลสาธารณรัฐปานามาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอีเซาโร รามอน โมรา บอร์เรโร (Mr. Isauro Ramon Mora Borrero)] | กต | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอีเซาโร รามอน โมรา บอร์เรโร (Mr. Isauro Ramon Mora Borrero)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐปานามาประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทน นายดาวิด กวาร์เดีย บาเลรา (Mr. David Guardia Varela) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวง การต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
37816 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันทุนการศึกษาต่อโครงการพัฒนาบุคลากรด้านระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์ | กษ | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการผูกพันโครงการพัฒนาบุคลากรด้านระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์ ระยะเวลา
6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-พ.ศ. 2559) จำนวน 5 หลักสูตร รวม 25 ราย สำหรับค่าลงทะเบียนในแต่ละปี การศึกษา ให้กรมปศุสัตว์ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นปี ๆ ไป ตามความเหมาะสมและจำเป็นที่เบิกจ่าย จริงตามจำนวนเงินค่าลงทะเบียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำหนด และจำนวนผู้ได้รับทุนในแต่ละปีการศึกษา ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อน ไขการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญไปศึกษาเพิ่มเติม ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัยในประเทศ ตามความ เห็นของสำนักงาน ก.พ. ด้วย |
||||||||||||||||||
37817 | พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับปะการังเทียม | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับปะการังเทียมซึ่งทรงขอให้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประสานงานเพื่อจัดสร้างพื้นที่ปะการังเทียมเพิ่ม 2. รายงานผลการดำเนินการจัดกิจกรรมวางปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา ภายใต้โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลไทย ตามแนวพระราชดำรัสของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2552 บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ตำบลท่า บานา อำเภอเมือง โดยวางในทะเลห่างจากชายฝั่ง 5 กิโลเมตร บริเวณตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัด ปัตตานี จำนวน 175 แท่ง ซึ่งจะวางทั้งหมด จำนวน 2,135 แท่ง
|
||||||||||||||||||
37818 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 | ทส | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 8 (The 8th Meeting of Sub-Regional Ministerial Steering Committee on Transboundary Haze Pollution : The 8th MSC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหา คม 2552 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยสาระสำคัญของการประชุม MSC ครั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็น ชอบให้มีการห้ามการเผาในที่โล่งทุกประเภทในพื้นที่เสี่ยง (fire-prone area) และการระงับการอนุญาตให้ดำเนิน กิจกรรมการเผา จนกว่าจะพ้นช่วงหน้าแล้งของปี พ.ศ. 2552 กับเห็นชอบการเพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายและ มาตรการเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการควบคุมการเกิดไฟ และรับทราบมติคณะทำงานด้านไฟป่า และหมอกควันสำหรับอนุภูมิภาคแม่โขง (TWG-Mekong) ที่มีมติเห็นชอบให้มีการกำหนดเป้าหมายการลดจำนวน จุดความร้อนสะสม (Cumulative Hotspot Count) ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดผลสำเร็จ ของการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไฟและหมอกควันในอนุภูมิภาคแม่โขง นอกจากนี้ ที่ประชุม MSC เห็นชอบ ต่อข้อเสนอของสาธารณรัฐสิงคโปร์ในการเป็นเจ้าภาพจัดเวทีสาธารณะ Ministerial Steering Committee (MSC) Forum on Prevention and Mitigation of Land and Forest Fires ในวันที่ 28 ตุลาคม 2552 ต่อเนื่องกับการ ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และประสาน ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาปัญหาไฟบนดิน/ไฟป่าและมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน รวมทั้งเห็นชอบ กำหนดจัดการประชุม MSC ครั้งที่ 9 ในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2553 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ทั้งนี้ ที่ประชุม MSC ขอให้ TWG ติดตามสถานการณ์ไฟและหมอกควันอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัด การประชุม MSC เป็นวาระด่วน ก็สามารถเสนอแนะเพื่อให้ MSC พิจารณากำหนดวันประชุมได้
|
||||||||||||||||||
37819 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) | นร | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการอำนวย
การกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2552 โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์ อุทกภัย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคม 2552 ที่เกิดจากไต้ฝุ่นพายุ "กิสนา" และการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีบทบาทและภารกิจในแต่ละ ยุทธศาสตร์ได้ติดตามสถานการณ์จัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนและรายงาน ให้ที่ประชุมรับทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป รวมทั้งสำรวจความเสียหาย และเสนอแผน/โครงการมายัง คชอ. ภายในวัน ที่ 31 ตุลาคม 2552 เพื่อมอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ และงบประมาณการช่วย เหลือผู้ประสบอุทกภัยรับไปพิจารณากลั่นกรองตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา แผนงาน/โครงการ/งบประมาณการให้ความช่วยเหลือ อาทิ เป็นเหตุการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2552 เป็นต้นมา เป็นการให้ความช่วยเหลือความเดือดร้อนที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เป็นการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม (ไม่เป็นการปรับปรุงเพื่อจัดหาใหม่ในลักษณะการเพิ่มประสิทธิภาพ) และระยะเวลาดำเนินการควรแล้วเสร็จภายใน 30 กันยายน 2553 เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและ การช่วยเหลือโดยรายงานให้ คชอ. ทราบ ทุก 7 วัน จนสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
|
||||||||||||||||||
37820 | ผลการเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ระหว่างวันที่ 4 - 5 กรกฎาคม 2552) | กต | 06/10/2552 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอผลการเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการ
ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2552 ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเยือนรัฐ กาตาร์ครั้งนี้เพื่อพบปะหารือกับบุคคลต่าง ๆ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้มีความคืบหน้าต่อไป ดังนี้ 1. การพบปะหารือกับเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ โดยเจ้าผู้ครองรัฐได้รับสั่งถามเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และทรงฝากความระลึกถึงและปรารถนาดีไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย พร้อมกัน นี้เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ทรงเห็นว่าไทยและกาตาร์ควรที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้นโดยเฉพาะด้านการ เกษตรกรรม โดยทรงยินดีและพร้อมสนับสนุนให้มีการขยายการลงทุนระหว่างกัน และพร้อมพิจารณาข้อเสนอโครง การที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และตรงไปตรงมาเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย 2. การพบปะหารือกับรัฐมนตรีแห่งรัฐด้านกิจการต่างประเทศ ซึ่งผลการหารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศของไทยแจ้งว่า ไทยมีความกระตือรือร้นที่จะขยายการค้าข้าว และสินค้าเกษตรอื่น ๆ และยืนยันว่า ไทยพร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดกาตาร์ และตลาดในตะวันออกกลาง ส่วนฝ่ายกาตาร์ได้เร่งรัดให้มีการ ลงนามความตกลงต่าง ๆ ที่คั่งค้างอยู่ อาทิ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูง (HJC) ความตกลงเพื่อยกเว้นการจัดเก็บภาษีซ้อนไทย-กาตาร์ และความตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงานไทยในกาตาร์ โดย เชื่อมั่นว่า ความตกลงเหล่านี้จะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้หา รือเกี่ยวกับการติดตามเงินค้างชำระให้ภาคเอกชนไทยจากการดำเนินโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในกาตาร์ ซึ่งฝ่ายกา ตาร์รับจะเร่งรัดติดตามผลให้ต่อไป 3. การพบปะหารือกับผู้บริหารของ Qatar Investment Authority (QIA) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารเงินลงทุน Sovereign Wealth Fund ของกาตาร์ โดยผู้บริหาร QIA แจ้งว่ามีความประสงค์จะลงทุนด้านอุตสาหกรรมอาหารใน ประเทศไทย แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และสิทธิการถือ ครองที่ดินของชาวต่างชาติ รวมทั้งไม่มั่นใจนโยบายส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ต่อข้อกังวลดังกล่าวรัฐมนตรีว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทยรับที่จะเร่งรัดให้มีการลงนามความตกลงเพื่อยกเว้นการจัดเก็บภาษีซ้อน พร้อม ทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือเกี่ยวกับข้อจำกัดของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของ คนต่างด้าว พ.ศ. 2542 4. การพบปะกับนักธุรกิจไทยที่ดำเนินธุรกิจในกาตาร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคการก่อสร้าง โดยนักธุรกิจ ไทยได้ขอให้หยิบยกปัญหาเกี่ยวกับความยุ่งยากซ้ำซ้อนในการนำคนงานไปทำงาน ในโครงการของคนไทยในต่าง ประเทศกับกระทรวงแรงงาน และติดตามเงินค้างชำระค่าจ้างจากฝ่ายกาตาร์ด้วย
|
.....