ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1883 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37641 - 37660 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37641 | แต่งตั้งข้าราชการ (จำนวน 5 ราย 1. นายปราโมทย์ วิทยาสุขฯ) | อก | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง อุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ 1. นายปราโมทย์ วิทยาสุข ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม 2. นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 3. นายประพัฒน์ วนาพิทักษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม 4. นายสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ 5. นางสุทธินีย์ พู่ผกา ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||
37642 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์) (นางวัชรี วิมุกตายน) | พณ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางวัชรี วิมุกตายน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงาน
ปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37643 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง และนายวินัย กสิรักษ์) | กค | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 2 คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (27 ตุลาคม 2552) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการ แทนนายจรัลธาดา กรรณสูต 2. นายวินัย กสิรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นกรรม การ แทนนายศุภชัย บานพับทอง
|
||||||||||||||||||||||||
37644 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นางปัจฉิมา ธนสันติ) | พณ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางปัจฉิมา ธนสันติ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37645 | แต่งตั้งข้าราชการ (จำนวน 5 ราย 1. นายสุพรรณ ศรีธรรมมาฯ) | สธ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 5 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวง สาธารณสุขเสนอ ดังนี้ 1. นายสุพรรณ ศรีธรรมมา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข 2. นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข 3. นายจักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข 4. นายบุญชัย สมบูรณ์สุข ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข 5. นายโสภณ เมฆธน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
37646 | ความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2552 | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรม
การประสานการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร เสนอดังนี้ 1. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2552 2. รับทราบกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานโครงการ ฯ โดยให้ถือเป็นเพียงมาตรการในการเร่งรัดการ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยยึดหลักการว่า เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจควรต้องได้รับสิทธิ เข้าร่วมในโครงการ ฯ ตรงตามข้อเท็จจริงของการเพาะปลูก 3. เห็นชอบระบบการตรวจสอบพื้นที่การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ดังนี้ 3.1 ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุพื้นที่ระดับตำบลที่มีความผิดปกติสูงเกินกว่าร้อยละ 20 ส่ง ให้คณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้ ฯ ทราบและดำเนินการ 3.2 ให้คณะอนุกรรมการติดตาม ฯ แจ้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิต ผลการเกษตรระดับจังหวัด และคณะทำงานฯ ระดับอำเภอและตำบลดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนเกษตรกร และทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2552 3.3 ให้คณะทำงานระดับอำเภอและตำบลตรวจสอบพื้นที่และรับรองข้อมูลทะเบียน ฯ และแจ้งผลการ ตรวจสอบให้คณะกรรมการ ฯ ระดับจังหวัดทราบภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้ดำเนินการจากคณะ อนุกรรมการติดตาม ฯ 3.4 ให้คณะกรรมการ ฯ ระดับจังหวัดพิจารณาให้ความช่วยเหลือ และแจ้งผลไปยังคณะอนุกรรมการ ติดตาม ฯ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใน 5 วันทำการ เพื่อให้ ธ.ก.ส. ดำเนิน การในกรณีที่พบความผิดปกติ คือ กรณีที่ได้มีการจ่ายเงินชดเชยไปแล้ว ให้มีการติดตามและประเมินความเสียหาย ที่เกิดขึ้น และให้ ธ.ก.ส. พิจารณาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป และกรณีที่ยังไม่ได้จ่ายเงินชดเชย ให้ชะลอ การจ่ายเงินชดเชยไว้ 3.5 กรณีคณะอนุกรรมการติดตาม ฯ ดำเนินการสุ่มตรวจสอบพื้นที่และข้อมูลเกษตรกร และทะเบียน การปลูกพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีความผิดปกติ ให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต/สถานีพัฒนาที่ดิน สนับสนุนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการติดตาม ฯ ในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ที่ จะทำการตรวจสอบ
|
||||||||||||||||||||||||
37647 | ทบทวนผลผลิตต่อไร่ระดับจังหวัดของข้าวเปลือกนาปี จำแนกตามพันธุ์ในพื้นที่ ในเขตและนอกเขตชลประทาน ปีเพาะปลูก 2552/53 | กษ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ผลผลิตต่อไร่ระดับจังหวัดของข้าวเปลือกนาปีจำแนก
ตามพันธุ์ในพื้นที่ในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ปีเพาะปลูก 2552/53 ในโครงการประกันรายได้ข้าว เปลือกนาปี ปี 2552/53 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37648 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. รับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2552 ซึ่งพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี จำนวน 5 ฉบับ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 2 ครั้งที่ 21 และครั้งที่ 22 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2552 และวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลา คม 2552 2. เห็นชอบให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามสรุปผลการประชุม ฯ ก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37649 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม
2552 ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภา ผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37650 | ร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม
2552 และเห็นชอบให้แก้ไขร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... หมวด 1 ร่างมาตรา 6 ให้เพิ่ม "ปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา" เป็นกรรมการในคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ และหมวด 2 ร่างมาตรา 19 ให้เพิ่มเติมข้อความว่า "โดยความ เห็นชอบของกระทรวงการคลัง" ตามสรุปผลการประชุม ฯ ก่อนเสนอร่างพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่อง ด่วนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37651 | ร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ พิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า "โรงงาน" และ "ประกอบกิจการโรงงาน" เพื่อให้สามารถขยายขอบเขต การบังคับใช้กฎหมายครอบคลุมถึงโรงงานที่ประกอบกิจการต่าง ๆ ทั้งหมด 2. แก้ไขให้โรงงานจำพวกที่ 2 ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการต้องแจ้ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการ และขั้นตอนการแจ้งการประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 2 3. กำหนดมาตรการกรณีผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 ไม่แก้ไขการแจ้งให้ถูกต้อง หรือครบถ้วน ตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้ถือว่าการแจ้งและใบรับแจ้งเป็นอันสิ้นผล 4. แก้ไขหลักเกณฑ์การควบคุมดูแลการประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 2 กรณีผู้ประกอบกิจการโรง งานโอน ให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือขยายโรงงาน และกรณีผู้ประกอบกิจการโรงงานตายหรือศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความ สามารถเพื่อกำหนดกระบวนการและขั้นตอนให้ชัดเจน รวมทั้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ รับโอนผู้เช่า ผู้เช่าซื้อ หรือผู้ซื้อโรงงาน ทายาทหรือผู้อนุบาลที่เข้ามาประกอบกิจการโรงงานต่อจากผู้ประกอบกิจ การโรงงานจำพวกที่ 2 เดิม 5. เพิ่มบทกำหนดโทษแก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการโรงงานในส่วนที่ขยาย และทด ลองเดินเครื่องจักรโรงงานในส่วนที่ขยายโดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ
|
||||||||||||||||||||||||
37652 | โครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล | กษ | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการการให้ความช่วยเหลือจัดหาน้ำมันพิเศษให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งรายย่อยในราคา ต่ำกว่าน้ำมันดีเซล B5 ลิตรละ 2 บาท ในปริมาณน้ำมันทั้งสิ้น 12 ล้านลิตร เป็นระยะเวลา 12 เดือน นับตั้งแต่วัน ที่เริ่มมีการจำหน่ายน้ำมันในโครงการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ประธานกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เกี่ยวกับราคาน้ำมันที่จำหน่ายให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง กุ้งดังกล่าว อาจจะเกิดความเหลื่อมล้ำกับกลุ่มประมงชายฝั่ง ซึ่งได้รับการช่วยเหลือผ่านการจำหน่ายน้ำมันในราคาต่ำ กว่าราคาน้ำมันดีเซลไม่น้อยกว่า 2 บาทต่อลิตร ภายใต้โครงการจำหน่ายน้ำมันในเขตทะเลอาณาเขตให้ชาวประมง ชายฝั่ง ซึ่งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 ให้ขยายโครงการออกไปอีก 6 เดือน (ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม-14 พฤศจิกายน 2552) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางและมาตรการ ในการกำกับดูแลตรวจสอบการดำเนินงาน การจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนการตรวจสอบการนำไปใช้ผิดวัตถุ ประสงค์ ไปพิจารณาด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล ในวงเงิน 24 ล้านบาท นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือ เกษตรกร (คชก.) เพื่อขอใช้จ่ายจากเงินทุนหมุนเวียน คชก. วงเงิน 600 ล้านบาท ที่ได้อนุมัติไว้สำหรับการดำเนิน โครงการรวบรวมผลผลิตกุ้งด้วยระบบ Contract Farming ของสหกรณ์ต่อไป 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินโครงการรวบรวมผลผลิตกุ้งด้วยระบบ Contract Farming ของ สหกรณ์ ตามที่ คชก. ได้มีมติอนุมัติไว้แล้ว ให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว |
||||||||||||||||||||||||
37653 | รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ และรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการคณะต่างๆ ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | นร | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และ รายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) คณะต่าง ๆ ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งผลการประเมินตนเองในภาพรวมของคณะกรรมการ ฯ รายคณะ อยู่ในเกณฑ์ระดับดี เยี่ยม รวมทั้งเห็นชอบกับข้อเสนอของ ค.ต.ป. ที่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดทำ แผนการตรวจสอบและประเมินผลด้านต่าง ๆ และการดำเนินการตามแผน การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ รายงานการเงิน และการสอบทานกรณีพิเศษ ตามที่เลขาธิการ ก.พ.ร. กรรมการและเลขานุการ ค.ต.ป. เสนอ 2. มอบให้ ค.ต.ป. ส่วนราชการที่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามข้อเสนอของ ค.ต.ป. รับความเห็นของ กระทรวงการคลังในประเด็นข้อเสนอของ ค.ต.ป. ที่กำหนดให้ส่วนราชการและจังหวัดมอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานด้าน บัญชี การเงินของส่วนราชการและจังหวัดที่ผ่านการอบรมด้านบัญชีของระบบ GFMIS ต้องปฏิบัติงานตามที่ได้อบรม มาเป็นระยะเวลา 2 ปี จะโยกย้ายเปลี่ยนแปลงได้ต่อเมื่อสามารถถ่ายทอดความรู้ด้านบัญชีของระบบ GFMIS ให้กับ บุคลากรเพื่อนร่วมงานที่ได้มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่แทน โดยหัวหน้าส่วนราชการและจังหวัดกำกับดูแลอย่างใกล้ ชิด ควรกำหนดให้ส่วนราชการและจังหวัดส่งเสริมให้ข้าราชการทุกคนที่ต้องรับผิดชอบปฏิบัติงานด้านบัญชี การเงิน ได้มีโอกาสรับการอบรมจากกรมบัญชีกลางอย่างสม่ำเสมอโดยทั่วถึงหรือสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการจัดฝึก อบรมภายในส่วนราชการเองด้วย และข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานด้านบัญชี การเงินอย่าง ใกล้ชิด นั้น เนื่องจากงบการเงินจังหวัดที่จัดทำขึ้นจนถึงปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นงบการเงินจังหวัดที่แยกแสดง ตามพื้นที่ โดยรวบรวมงบทดลองของส่วนราชการทุกแห่งในพื้นที่ของจังหวัด และมิได้มีการปรับปรุงรายการซ้ำซ้อน ระหว่างงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบการเงินจังหวัดที่จะจัดทำขึ้นมี 2 แบบ คือ งบการเงินจังหวัดที่ แยกแสดงตามพื้นที่ (ผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดทำคือ สำนักงานคลังจังหวัด) และงบการเงินจังหวัดในฐานะเจ้าของ งบประมาณจังหวัดซึ่งจะแสดงฐานะการเงิน รายได้ ค่าใช้จ่าย จัดทำรายการทางบัญชีที่เกิดจากการใช้งบประมาณ รายจ่ายของจังหวัดของส่วนราชการและของหน่วยงานภายในจังหวัด ซึ่งมิได้มีการปรับปรุงรายการซ้ำซ้อนระหว่าง หน่วยงาน (ผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดทำคือ สำนักงานจังหวัด) รวมทั้งรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรายงานความก้าวหน้า การดำเนินงานตามข้อเสนอแนะทุก 6 เดือน จะเป็นการรายงานซ้ำซ้อนกับรายงานผลการตรวจสอบและประเมิน ผลภาคราชการที่ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง ต้องจัดทำทุก ๆ 6 เดือน จึงสมควรมอบหมายให้ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง เป็นผู้ติดตาม และรายงานผลการปรับปรุงการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะดังกล่าวต่อ ค.ต.ป. ตามแนวปฏิบัติที่ได้ กำหนดไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
37654 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กค | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดตั้งกองทุน การออมแห่งชาติ เพื่อเป็นช่องทางการออมขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองให้ได้รับผลประโยชน์ใน รูปบำนาญ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้ คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ที่เห็นควรจัดทำระบบบำเหน็จบำนาญของประเทศในภาพรวมเพื่อเป็น กรอบในการจัดระบบโครงข่ายคุ้มครองทางสังคม (Social Safety Net) ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม และให้ มีการรวมเงินจากกองทุน (Scheme) ต่าง ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกันเข้าด้วยกันเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน สามารถ บริหารจัดการกองทุน ฯ และประมาณการภาระทางการคลังในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทบทวน หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกองทุน ฯ ที่จะประกาศในกฎกระทรวงให้มีความรอบคอบและเหมาะสมทั้งการจ่าย เงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นแรงจูงใจการเข้าเป็นสมาชิก นอกจากนี้ ควรมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายการ ลงทุนของกองทุน การที่รัฐต้องชดเชยให้แก่กองทุนเมื่อกองทุนได้รับความเสียหายจากการลงทุนหรือภาระการ รับประกันโดยรัฐบาล รวมทั้งควรกำหนดให้ชัดเจนถึงกระบวนการและขั้นตอนการให้รัฐบาลสมทบเงินเข้ากอง ทุน ฯ ตลอดจนการตั้งทุนประเดิมควรระบุเงินและระยะเวลาที่จะขอรับการจัดสรรงบประมาณให้ชัดเจน และ ที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเพิ่มเติมว่า ตามร่างมาตรา 30 ที่บัญญัติให้ในกรณีกองทุนการออมแห่งชาติ ได้รับความเสียหายจากการลงทุนหรือได้รับผลประโยชน์น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภทสิบสอง เดือน ให้รัฐบาลดำเนินการจัดสรรเงินจากงบประมาณประจำปีเพื่อชดเชยให้แก่กองทุนนั้น อาจเป็นการสร้าง ภาระงบประมาณให้แก่รัฐบาล ประกอบกับตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการในเรื่องกอง ทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการก็มิได้มีบทบัญญัติในลักษณะเช่นนี้ หากกระทรวงการคลังประสงค์จะกำหนด ก็ สมควรที่จะดำเนินการตราเป็นอนุบัญญัติจะยืดหยุ่นและจะเหมาะสมกว่า ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
37655 | ร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... | มท | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มี หน่วยงานปฏิบัติงานหลักเพื่อดำเนินการบูรณาการเกี่ยวกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาค ใต้ให้เป็นระบบ มีเอกภาพและประสิทธิภาพทั้งในเรื่องนโยบาย ยุทธศาสตร์ การบังคับบัญชา และการปฏิบัติ อันจะ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว 2. ให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขเพิ่มเติมตามที่เสนอเฉพาะประเด็นร่างมาตรา 3 นิยามคำว่า "จังหวัดชาย แดนภาคใต้" ให้ครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสตูล และจังหวัด สงขลา และร่างมาตรา 7 เพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ส่วนโครงสร้างอื่น ๆ ให้เป็นไปตามร่างของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาต่อไป พร้อมทั้งส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณาไปในคราวเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||
37656 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. .... (การกระจายการถือครองที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน) | นร | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยร่างระเบียบฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดนิยามคำว่า “โฉนดชุมชน” หมายความว่า สิทธิร่วมกันของชุมชนในการบริหารจัดการ การครอบครองที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ดินเพื่อสร้างความมั่นคงในการถือครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของชุมชน และเป็นการรักษาพื้นที่เกษตรในการผลิตพืชอาหารเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร โดยการเลือกรูปแบบการผลิตที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและระบบภูมินิเวศ รวมทั้งการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุล ๑.๒ กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการประสานงานและจัดโฉนดชุมชน” เรียกโดยย่อว่า “ปจช.” และกำหนดอำนาจหน้าที่ของ ปจช. เช่น เสนอนโยบาย แผนงานและงบประมาณในการดำเนินงานโฉนดชุมชนต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดเป็นมติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ ๑.๓ กำหนดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ และให้มีอำนาจหน้าที่ประสานนโยบายการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการดำเนินงานโฉนดชุมชนให้สำเร็จเป็นไปตามกฎหมาย กฎ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และติดตามประเมินผล และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ๑.๔ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ๑.๕ กำหนดให้ในกรณีที่มีการกระทำผิดเงื่อนไขที่ให้ไว้ของชุมชนที่ได้รับสิทธิให้หน่วยงานของรัฐโดยความเห็นชอบของ ปจช. มีอำนาจยกเลิกโฉนดชุมชนได้ ๑.๖ กำหนดให้มีพื้นที่นำร่องในการดำเนินงานโฉนดชุมชนจำนวนไม่น้อยกว่าสามสิบพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ๒. ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการกำหนดให้พื้นที่ใดดำเนินการให้มีโฉนดชุมชนแล้ว ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสั่งการให้เป็นไปตามกฎหมาย อาจใช้ได้เฉพาะที่ดินของรัฐบางประเภท ส่วนที่ดินของรัฐที่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้เป็นการเฉพาะ จะต้องดำเนินการตามกฎหมายนั้น ๆ เสียก่อน และต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีจึงจะดำเนินการได้ รวมทั้งกรณีผู้บุกรุกเข้าถือครองที่ดินของรัฐก่อนวันที่ระเบียบฯ ใช้บังคับและอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้รับสิทธิตามระเบียบฯ ด้วยหรือไม่ ควรกำหนดให้ชัดเจน และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่มีที่ดินของรัฐพิจารณาให้ชุมชนซึ่งรวมตัวกันอยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามปีก่อนระเบียบฯ ใช้บังคับมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐร่วมกันภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด นั้น อาจจะไม่สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ที่เห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและกำกับนโยบายบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน (กอ.ชตจ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ เกี่ยวกับการรับรองสิทธิในที่ดินต้องเป็นการถือครองทำประโยชน์สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ที่เห็นชอบการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าไม้ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๔๕ สำหรับที่ราชพัสดุส่วนผู้บุกรุกเข้าถือครองที่ดินของรัฐภายหลังวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๖ จะไม่ได้รับสิทธิใด ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลและจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ ส่วนอัตรากำลังให้ปรับเกลี่ยจากบุคลากรภายในของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และให้เบิกจ่ายจากงบประมาณเพื่อการนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
37657 | เสนอของบประมาณโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานอัยการสูงสุดตามแผนแม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2552 - 2555 และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2552 - 2555 | อส | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานอัยการสูงสุดตามแผน แม่บทการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2552-2555 และแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศกระบวนการยุติ ธรรม พ.ศ. 2552-2555 โดยวัตถุประสงค์ของโครงการ ฯ เพื่อปรับปรุงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและ โปรแกรมสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์ให้มีสมรรถนะสามารถเชื่อมต่อและรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงปลอดภัย และโดยที่โครงการ ฯ มีวงงบประมาณ เกิน 100 ล้านบาท จึงให้สำนักงานอัยการสูงสุดส่งโครงการนี้ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (คณะกรรมการคอมพิวเตอร์ภาครัฐ) พิจารณา ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2547 (เรื่อง หลัก เกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐ) ต่อไป และให้สำน้กงานอัยการสูงสุดร้บความเห็น ของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติที่ให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดทำกรอบระยะเวลาดำเนินงานและรายละเอียดกิจกรรมโครงการให้ชัดเจนเพื่อ ให้การจัดสรรและเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และควรพิจารณาระบบการบริหารจัดการใน การแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งผู้รับและผู้ส่งหรือภายในหน่วยงานตนเองและระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ไว้เป็นระบบที่กำหนดให้ชัดเจนเหมือนเป็นแผนการดำเนินงาน รวมทั้งควรกำหนดแผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map) ในการแสดงความเชื่อมโยงของระบบบริหารจัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบครบวงจรทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวให้เห็นแนวทางการบริหารจัดการระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลในกระบวนการยุติธรรม สามารถมองเห็น เหตุและผลในการพัฒนาแนวทางของการพัฒนาระบบการบริหารจัดการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งเครือข่ายการ บริหารจัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลในกระบวนการยุติธรรมทั้งภายในหน่วยตนเองและระหว่างหน่วยงานที่เป็นเครือ ข่าย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. ส่วนงบประมาณสำหรับดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงาน อัยการสูงสุด จำนวน 285,034,100 บาท เนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 สำนักงานอัยการสูงสุดมิได้เสนอ ขอรับการจัดสรรงบประมาณโครงการดังกล่าวไว้ จึงให้สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
37658 | ร่างพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติ
ยาสูบ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37659 | การเตรียมการจัดทำงบประมาณและการกำหนดปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 | นร | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเตรียมความพร้อมและการกำหนดปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2554 เพื่อให้กระทรวง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นใช้เป็นแนวทางประกอบการวาง แผนเตรียมการดำเนินงานให้สอดคล้องกับกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37660 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 14/2552 | นร | 20/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและ
เลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) เสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการ รศก. ครั้งที่ 14/2552 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2552 ซึ่งได้ พิจารณาเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ สถานการณ์เบิกจ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2552 ของส่วนราชการและรัฐ วิสาหกิจ การควบคุมจราจรทางอากาศกรณีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดให้บริการ เต็มรูปแบบ (Fully Commercial Operate) และการพัฒนาระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 2. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการ รศก. ดังนี้ 2.1 มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมศึกษาความเหมาะสมของทางเลือกในการพัฒนาท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีความชัดเจนในเรื่องความปลอดภัยในการควบคุมการจราจรในการทำ การบินขึ้น-ลง ของอากาศยานทั้งสองแห่ง โดยศึกษา 3 ทางเลือก ได้แก่ 2.1.1 กรณีเปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองให้บริการเที่ยวบินเช่นในปัจจุบันและเร่งการลงทุนใน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อให้เพียงพอกับปริมาณการจราจรในอนาคต 2.1.2 กรณีเปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารประมาณ 10 ล้านคน/ ปี ที่จะช่วยชะลอการลงทุนเพิ่มเติมในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเปิดบริการเที่ยวบินภายในประเทศที่ไม่มีการ ต่อเครื่องบิน (Non-connecting Flight) หรือสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carriers) หรือเที่ยวบินระหว่าง ประเทศภายในภูมิภาค 2.1.3 กรณีที่ท่าอากาศยานดอนเมืองยกเลิกการบริการเที่ยวบินแบบประจำทั้งหมด พร้อมทั้ง พัฒนากิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ และเร่งการลงทุนเพิ่มเติมในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับปริมาณผู้โดย สารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60-65 ล้านคน/ปี 2.2 มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารวิเคราะห์ความเสี่ยงและประเมินผล กระทบจากการเปิดประมูลใบอนุญาตในการประกอบกิจการโทรคมนาคม (โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3) ที่จะเกิดขึ้น ต่อ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท. โทรคมนาคม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป รวมทั้งมอบหมายให้ ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการ รศก. จัดส่งข้อสังเกตของคณะกรรมการ รศก. ให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนา คม (กทช.) เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประมูล ดังนี้ 2.2.1 ความชัดเจนในภาพรวมของการพัฒนาโครงข่าย 3G รวมทั้งสภาพการแข่งขันที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ 3G ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการและการ พัฒนาประเทศในภาพรวม 2.2.2 ควรกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลที่เหมาะสมและเป็นธรรมทั้งในกรณีที่ผู้เข้า ร่วมประมูลจะลงทุนพัฒนาโครงข่ายและกรณีการเช่าใช้โครงการ 2.2.3 ควรกำหนดเงื่อนไขการใช้ทรัพย์สิน โดยจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของทรัพย์สิน ก่อน 2.2.4 คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลไม่ควรขัดต่อกฎหมาย และควรพิจารณาในประเด็นที่อาจ ส่งผลต่อความมั่นคงด้วย
|
.....