ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1882 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 37621 - 37640 จากข้อมูลทั้งหมด 124241 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
37621 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็น
สาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ให้ยกเลิกความในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาวิชาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็น สาขาประกอบโรคศิลปะ ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 (ยกเลิก มาตรา 11/1) เพื่อไม่ให้เป็นช่องทางให้ผู้ที่มิได้จบปริญญาสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกโดยตรงเข้ามาเพิ่มได้ อีก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
37622 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอัน ซง นัม (Mr. An Song Nam)] | กต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอัน ซง นัม (Mr. An Song Nam) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
วิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนายโอ ยอง ซอน (Mr. O Yong Son) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37623 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางพันทวี พันธุโฆษิต) | สธ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางพันทวี พันธุโฆษิต ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม
สาขากุมารเวช กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลบุรีรัมย์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานปลัด กระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37624 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...." | สสป | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็น
และข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ เรื่อง "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...." และรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการตาม ความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ดังนี้ 1. สำนักงานกองทุนควรมีความเป็นกลาง เข้าถึงง่าย และได้รับการยอมรับจากผู้เสียหาย ซึ่งในเบื้อง ต้นควรกำหนดให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นสำนักงานเลขานุการไปก่อน 2. องค์ประกอบของคณะกรรมการ ควรประกอบด้วยผู้ที่มีผลงานด้านการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องซึ่งต้องไม่มีความขัดกันแห่งผลประโยชน์ และไม่ควรมีผู้แทนจากสภาวิชาชีพ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจสอบสวนและลงโทษผู้ให้บริการร่วมอยู่ด้วย 3. ไม่เบี่ยงเบนเจตนารมณ์ของกฎหมายไปเพื่อการคุ้มครองผู้ให้บริการให้พ้นจากความรับผิดตามกฎ หมายอื่น 4. กำหนดบทเฉพาะกาลในพระราชบัญญัติฉบับนี้ ให้ผู้เสียหาย หรือทายาทของผู้เสียหายที่ฟ้องคดี ของศาลก่อนวันที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ใช้บังคับ มีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินชดเชยได้ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ กฎหมายมีผลใช้บังคับ โดยให้ชะลอการพิจารณาคดีไว้ก่อน
|
||||||||||||||||||||||||
37625 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเศรษฐกิจโลก" | สสป | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและ
ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ เรื่อง "การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเศรษฐกิจโลก" และรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอผลการพิจารณาตามความ เห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ สรุป ได้ดังนี้ 1. การคอร์รัปชันในระบบราชการ โดยลดปัญหาคอร์รัปชันด้วยการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่ เกี่ยวข้องทั้งหมด และสร้างกลไกทดสอบด้านคุณธรรมและจริยธรรมผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจจัดซื้อจัดจ้าง 2. การสร้างความโปร่งใส จริยธรรม และบรรษัทภิบาลในธุรกิจเอกชน โดยเพิ่มโอกาสการบังคับใช้กฎ หมายในตลาดทุน โดยลดระยะเวลาในการนำคดีขึ้นศาล และให้คดีความที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไปขึ้นศาลชำนาญ พิเศษแทนศาลธรรมดา และกระตุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยรักษาสิทธิ์ของตน โดยให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งสนับสนุนโครงการอบรม "อาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้น" เพื่อลดโอกาสการเอาเปรียบของบริษัทจดทะเบียนต่อ ผู้ถือหุ้น และขยายขอบเขตการดำเนินการให้ครอบคลุมผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ทั่วถึง 3. โครงสร้างพื้นฐานที่พอเพียง และกลไกการลงทุนที่เหมาะสม โดยหาช่องทางใช้การขนส่งทางน้ำและ ระบบรางที่มีอยู่ให้มากขึ้น เร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบรางและทางน้ำ เพิ่มบทบาทให้เอกชนมีส่วน ร่วมลงทุนและเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย รวมทั้งแยกงานด้านบริการเดินรถ ขนส่ง ด้านพัฒนา และด้านบำรุงรักษาโครงสร้างขนส่งออกจากกัน และศึกษารูปแบบการปรับโครงสร้างเพิ่มเติม 4. ระบบการเงินและตลาดทุนที่สนับสนุนการออมและการลงทุน ได้แก่ การเพิ่มเงินออมภาคบังคับโดย อนุมัติให้โครงการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) มีผลบังคับใช้อย่างเร่งด่วน และการเพิ่มเงินออม โดยสมัครใจ โดยสร้างระบบการออมระยะยาวให้แรงงานนอกระบบที่อยู่ในภาคการเกษตร สนับสนุนให้ประชาชน ซื้อสลากออกทรัพย์แทนหวยและสลากกินแบ่ง รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์กำกับดูแลความโปร่งใสของบริษัทจัดการกองทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลที่เป็นจริง 5. เสถียรภาพทางด้านการคลัง และมีภาระภาษีอากรที่จูงใจ ได้แก่ การแก้ปัญหาความเสี่ยงที่เกิดจาก โครงสร้างรายจ่ายของรัฐ โดยเร่งรัดกระบวนการออกกฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบทางการคลัง และสร้างความ โปร่งใสของกระบวนการทางการคลัง และการแก้ปัญหาการมีโครงสร้างภาษีที่มีความเสี่ยง โดยเพิ่มเป้าหมายการ จัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากขึ้น พร้อมทั้งเร่งศึกษาหาแนวทาง ในการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเป็นรายได้แก่รัฐ 6. ความรวดเร็วและความเชื่อถือได้ทางกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายที่ทันสมัย โดยให้สังคายากฎ หมายและระเบียบที่มีอยู่ทั้งหมดของประเทศเป็นการเร่งด่วน และเร่งรัดการพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติการแข่ง ขันทางการค้า พ.ศ. 2542 ให้มีผลครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจ ตลอดจส่งเสริมการใช้ระบบยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ให้ กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล 7. คุณภาพแรงงานและการพัฒนาคุณภาพแรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพการผลิต โดยสร้าง ระบบประเมินมาตรฐานแรงงานฝีมือ และสร้างระบบมาตรฐานแรงงานฝีมือและระบบคุณวุฒิอาชีพที่สอดคล้องกัน และเพิ่มงบประมาณในการพัฒนาฝีมือแรงงาน 8. การเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ของไทย โดยแต่งตั้งคณะกรรม การสร้างระบบการวิจัยและพัฒนาของไทยที่มีองค์ประกอบจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีการแบ่งภารกิจที่ชัด เจน และให้มีองค์กรนโยบายการวิจัย ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและหัวหน้าทุกองค์กรในระบบเป็นกรรมการ และ ให้แยกหน่วยงานที่ทำวิจัยและพัฒนาเป็นองค์กรอิสระมีกลไกแลกเปลี่ยนแผนงานและผลการวิจัยและพัฒนา รวม ทั้งจัดตั้งองค์กรบริหารเงินทุนวิจัยที่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง 9. การวางแผนและกลไกการจัดระบบของการกระจายข้อมูลของ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวกับความ สามารถในการแข่งขั้น โดยการจัดทำแผนพัฒนาข้อมูลสารสนเทศระดับชาติ และให้มีองค์กรหลักในการทำหน้าที่ ดูแลการบริหารจัดการข้อมูลระดับชาติ รวมทั้งกำหนดเป็นนโยบายสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลของหน่วยงานราช การให้แก่สาธารณะทราบอย่างทั่วถึง ผ่านช่องทางที่เข้าถึงได้สะดวก 10. บรรยากาศทางการเมืองการปกครองที่มีเสถียรภาพและเอื้ออำนวยการ ได้แก่ การสนับสนุนการ สร้างเยาวชนให้มีวินัยภายใต้วัฒนธรรมที่เป็นประชาธิปไตย จัดตั้งองค์กรอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบความสำนึกรับ ผิดชอบของนักการเมือง รวมทั้งสนับสนุนให้องค์กรอิสระทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกันตรวจสอบนักการเมืองเร่ง ให้สัตยาบัน อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของ United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC)
|
||||||||||||||||||||||||
37626 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรื่อง การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย | สสป | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอความเห็นและ
ข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา เรื่อง การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย และรับทราบตามที่กระทรวง ศึกษาธิการเสนอความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการตามความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษา ฯ สรุปได้ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์เชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาครูผู้สอน 1.1 กำหนดนโยบายดึงดูดผู้มีความสามารถเพื่อเป็นครูผู้สอน ซึ่งควรเป็นวาระแห่งชาติที่เน้นความ สำคัญของการศึกษาของชาติและความจำเป็นที่จะต้องมีครูผู้สอนที่มีความสามารถในระบบการศึกษา 1.2 ตั้งเป้าหมายผลิตครูที่มีความรู้เฉพาะด้านอย่างเร่งด่วนโดยรับผู้จบการศึกษาในแขนงต่าง ๆ ที่ ระบบโรงรียนไม่สามารถรองรับได้ เช่น วิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์ ภาษา ศิลปะ ดนตรี วัฒนธรรม 1.3 ศึกษาวิเคราะห์และออกแบบกระบวนการเรียน การสอน และกระบวนการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่มี ประสิทธิผลสูงกว่าที่เป็นไปในปัจจุบัน รวมถึงการออกแบบเชิงจิตวิทยาการเรียนรู้ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ การใช้ภูมิปัญญาในชีวิตจริง การเปิดโอกาสให้นักเรียนใช้และแสดงความคิดเห็น การลดกระบวนการ เดิมที่ไม่มีประสิทธิภาพ 1.4 ส่งเสริมให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษานอกเหนือจากสถาบันการศึกษา เอกชน โดยใช้หลักการของการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมของภาคเอกชน (Corporate Social Respon sibility : CSR) เป็นหลักการขับเคลื่อน 2. ยุทธศาสตร์เชิงนโยบายในการพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์บนพื้นฐานเนื้อหาเชิงคุณภาพ คุณ ธรรม จริยธรรม ความรู้ และทักษะ 2.1 กำหนดให้มีนโยบายส่งเสริมเยาวชนให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ (Humanization) เพื่อเป็น หลักการสำคัญในการเสริมเข้ากับความสามารถทางวิชาการ เพื่อนำไปสู่การเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม มีปัญญา และมีความสุข ตามหลักการทางการศึกษาที่ว่า "คุณธรรมนำความรู้" 2.2 ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาให้เยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม และความสร้างสรรค์ ปรับปรุง หรือมีมาตรการทดแทนในระบบการสอบซ่อมให้มีประสิทธิภาพ และเสริมระบบด้วยกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และการเรียนรู้สะสมระหว่างภาคเรียน 2.3 ลงทุนและสนับสนุนให้มีการจัดตั้งโรงเรียนและห้องเรียน ที่เน้นความสามารถเฉพาะด้านของ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ 3. มาตรการด้านความเชื่อมโยงและการขับเคลื่อนเชิงระบบ 3.1 ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยศึกษาภาพรวมความจำเป็นและกระบวนการในการส่งเสริม ให้เกิดระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) ของประเทศ 3.2 สร้างกลไกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนการศึกษา และการสร้างบุคลากรท้องถิ่น อย่างมีคุณภาพ โดยวางกรอบแนวทางการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ในระดับชุมชน ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทั้งในระดับกว้างและในระดับลึก
|
||||||||||||||||||||||||
37627 | รายงานสรุปผลการเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา (ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 8 ตุลาคม 2552) | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานสรุปผลการเดินทางไป
เยือนประเทศสหรัฐอเมริกา ของผู้แทนการค้าไทย (นายวัชระ พรรณเชษฐ์) ระหว่างวันที่ 30 กันยายน-8 ตุลาคม 2552 โดยสาระสำคัญของการเยือนสรุปได้ดังนี้ 1. การลงนามในหนังสือบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท ออโต้เทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และสมาคมผู้ ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์และอะไหล่ทดแทนไทยเพื่อสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์จากประเทศไทย 2. การพบหารือร่วมกับผู้อำนวยการประจำสำนักงานผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และผู้อำนวยการฝ่าย ท่องเที่ยวและบันเทิงประจำสำนักงานผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีประเด็นการหารือ ได้แก่ การลงนามร่วมกัน ระหว่างรัฐบาลไทย (กรุงเทพมหานคร) และรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างกันในด้านอุตสาห กรรมยานยนต์ในส่วนของศูนย์การจำหน่ายชิ้นส่วนและศูนย์บริการพลังงานทดแทน รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม อาหาร (ภายใต้โครงการครัวไทยสู่โลก) และการผลักดันให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 3. และการหารือร่วมกับผู้ควบคุมรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยประเด็นการหารือ ได้แก่ นโยบายการให้ความ รู้กับผู้เสียภาษีต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อเสนอแนะธุรกิจที่ไทยควรลงทุนใน รัฐแคลิฟอร์เนีย คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีสะอาด การออกแบบรถยนต์และศูนย์ซ่อม 4. การหารือร่วมกับสภาหอการค้าไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ และสภาหอการค้าคนเอเชียอเมริกัน ประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย ผลการหารือเห็นควรผลึกกำลังของคนเอเชียในรัฐแคลิฟอร์เนียให้เข้มแข็ง เพื่อให้มีอำนาจ ต่อรองกับตลาดสหรัฐ ฯ ในสินค้าทุก ๆ ประเภท โดยเน้นให้มีความร่วมมือกันในระดับภูมิภาค โดยผู้แทนการค้า ไทยได้แนะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทีมไทยแลนด์ และสำนักงานผู้แทนการค้าซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่ประสาน ให้เกิดการค้าการลงทุนและพร้อมทำหน้าที่ในการบุกตลาดสหรัฐ ฯ เช่นเดียวกับ USTR โดยจะดำเนินโครงการ The Power of Thai Global Connection โดยใช้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เป็นโครงการนำร่อง พร้อมทั้งส่ง เสริมการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของศูนย์การค้าส่งอะไหล่รถยนต์และศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ ตลอดจนผลักดันไป สู่ธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
37628 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา
เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2552 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
37629 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 (แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องแบบของข้าราชการพลเรือนหญิงมุสลิม) | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติ เครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ออกตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 71 (พ.ศ. 2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้า ราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 เกี่ยวกับเครื่องแบบปฏิบัติราชการและเครื่องแบบปกติขาวของหญิง มุสลิม ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 2. เห็นชอบในหลักการให้ส่วนราชการต่าง ๆ และหน่วยงานของรัฐดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในส่วน ของเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการพลเรือนหญิงมุสลิมให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลามต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
37630 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครสวรรค์ แทนตำแหน่งที่ว่าง | ลต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้ง
สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครสวรรค์ แทนตำแหน่งที่ว่าง จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ไป พลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงิน 29,818,400 บาท ตามที่จ่ายได้ จริง โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนได้ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
37631 | โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 4 | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่
4 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 35 คน เป็นกรณีพิเศษเป็นการชั่วคราวตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับ ส่วน การดำเนินการพัฒนานักบริหารเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่รุ่นต่อ ๆ ไป เริ่มตั้งแต่รุ่นที่ 5 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ให้ ดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 ตามเดิม
|
||||||||||||||||||||||||
37632 | รัฐบาลสาธารณรัฐนามิเบียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายเกบฮาร์ด เบนยามิน คันดันกา (Mr.Gebhard Benjamin Kandanga)] | กต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเกบฮาร์ด เบนยามิน คันดันกา (Mr. Gebhard Benjamin Kandanga)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐนามิเบียประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทน นายเนวิลล์ เมลวิน แกร์ตเซ (Mr. Neville Melvin Gertze) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามที่กระทรวงการ ต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37633 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุบำบัดรักษา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แห่งที่ 2 | สธ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาก่อหนี้ผูกพันเกินกว่า 1 ปี และมีวงเงินเกิน
กว่า 100 ล้านบาท ในวงเงินทั้งสิ้น 144,963,000 บาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ บำบัดรักษา เป็นอาคาร คสล. 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 9,320 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบอาคาร จำนวน 1 หลัง โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบลงทุนในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สำหรับหน่วยบริการปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 107,000,000 บาท และใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาสมทบ จำนวน 37,963,000 บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
37634 | ความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การลงมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ที่ประชุมร่วมกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 และคณะที่ 2) กรณีการลงมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ว่าจะถือ ได้ว่าการลงมติไม่ให้ความเห็นชอบดังกล่าว ทำให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตกลงไปตามบท บัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 302 วรรคห้า หรือไม่ และหากเป็นอันตกไป จะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่ง ที่ประชุมร่วม ฯ เห็นว่า ประเด็นปัญหาดังกล่าวไม่อยู่ในวิสัยที่คณะกรรมการจะพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อเป็น ที่ยุติได้ แต่ควรแก้ไขปัญหานี้ให้เป็นไปตามกระบวนการโดยองค์กรที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้
|
||||||||||||||||||||||||
37635 | สรุปรายงานผลการเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิด สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ และกระตุ้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน (ระหว่างวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 2552) | กก | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานการเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิด
สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ทำพิธีเปิด ททท. สำนักงานเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ซึ่งมีเขต พื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลหูเป่ย์ มณฑลอานฮุย มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อ เจียง มณฑลเจียงซี และมณฑลหูหนาน และได้หารือกับนักธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงของเมืองกวางโจว Mr. Song Wei ดำรงตำแหน่งเป็น General Manager ของ Group Lingnan แ ละกลุ่มบริษัทนำเที่ยว CGZL ซึ่งเป็นบริษัทท่อง เที่ยวชั้นนำของเมืองกวางโจว ผลการหารือ กลุ่มนักธุรกิจระดับสูงของจีนเสนอแนะการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก เมืองกวางโจวมาประเทศไทย โดยจะส่งนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยปีละ 30,000 คน และช่วงปลายปีจะเพิ่มนักท่อง เที่ยวให้อีกจำนวน 20,000 คน โดยขอให้มีการทำการส่งเสริมการขายร่วมกัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่อง เที่ยวและกีฬาเห็นด้วยในข้อเสนอและมอบหมายให้บริษัท CGZL และ ททท. ไปหารือกันและทำความตกลงร่วมกัน และให้มีรายละเอียดที่สามารถวัดผลได้ในเรื่องของการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เช่น จำนวนการขอวีซ่าของนักท่อง เที่ยวรายชื่อการเดินทางโดยสายการบิน และรายงานของบริษัท เป็นต้น ส่วนงบประมาณให้มีการแชร์ค่าใช้จ่ายคน ละครึ่ง ซึ่ง ททท. ได้เซ็นสัญญากับบริษัท CGZL ในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้ 20,000 คน ใน 4 เดือน ระหว่างเดือนกันยายน 2552 ถึงเดือนธันวาคม 2552 นี้ เป็นโครงการนำร่องดำเนินการในสาธารณรัฐประชาชน จีนและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
|
||||||||||||||||||||||||
37636 | มาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 202 รายการ และบริการ 20 รายการ (ประจำเดือนตุลาคม 2552) | พณ | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 202 รายการ และ
บริการ 20 รายการ ประจำเดือนตุลาคม 2552 โดยได้ปรับเปลี่ยนการจัดระดับความสำคัญของสินค้าเป็นดังนี้ 1. กลุ่ม Sensitive List (SL) กำหนดให้มีสินค้าที่จะต้องติดตามดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ โดยลดจำนวนสิน ค้าในกลุ่มนี้ 2 รายการ และเพิ่มจำนวนสินค้าในกลุ่มนี้ 4 รายการ จากที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2552 เป็น 8 กลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารปรุงสำเร็จ ปุ๋ยเคมี น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล เหล็กเส้น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เหล็กแผ่น (รีดร้อน รีดเย็น และสแตนเลส) และปูนซีเมนต์ และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์ รับส่งโทรสาร 2. กลุ่ม Priority Watch List (PWL) ลดจำนวนสินค้าในกลุ่มนี้ 4 รายการ และเพิ่มจำนวนสินค้าในกลุ่ม นี้ 2 รายการ จากที่กำหนดไว้ในเดือนกันยายน 2552 รวมเป็น 10 รายการ ได้แก่ นมผง นมข้นหวาน ครีมเทียม ข้นหวาน น้ำมันพืช สายไฟฟ้า เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก เหล็กแผ่นเคลือบโครเมียม ก๊าซ LPG หุงต้ม หน้ากากอนามัย และเจลอนามัยล้างมือ และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการซ่อมรถ 3. กลุ่ม Watch List (WL) เป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นปกติ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีปัญหา ทั้งด้านราคาและปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งจะทำการติดตามตามปกติ จำนวน 184 รายการ และบริการ 18 รายการ
|
||||||||||||||||||||||||
37637 | สรุปรายงานการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศภูฏาน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะผู้แทนไทย (ระหว่างวันที่ 9 - 14 กันยายน 2552) | วท | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสรุปรายงานการเดินทางไปราชการ
ณ ประเทศภูฏาน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะผู้แทนไทย เมื่อวันที่ 9-14 กันยายน 2552 เพื่อเข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ครั้งที่ 3 และการประชุมหา รือกับหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อม สรุปได้ดังนี้ 1. การประชุมความร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ครั้งที่ 3 มีประเด็นการหารือ คือ ศูนย์ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ประเทศไทย และ Department of Information Technology (DIT) ตกลงที่จะร่วมกันวิจัยและพัฒนา Dzongkha Text-to-Speech ใน Phase ที่ 2 โดยจะทำให้ Synthesized Speech มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งประเด็นความร่วมมือใหม่ในด้าน Dzongkha-English Speech Translation, Dzongkha OCR และ Open Source Software 2. การประชุมหารือกับหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การประชุมหารือกับรัฐมนตรีช่วยผู้กำกับ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Environment Commission-NEC) ในประเด็นความร่วมมือเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน และการประชุมหารือกับปลัดกระทรวงเกษตรและ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงเกษตร ในประเด็นความร่วมมือเรื่องราแมลงในอนาคต
|
||||||||||||||||||||||||
37638 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายมนัสวี ศรีโสดาพล) | กต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมนัสวี ศรีโสดาพล ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่ง
ประเทศไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา คณะผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
37639 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นายธีรกุล นิยม และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล) | กต | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1. นายธีรกุล นิยม ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น
|
||||||||||||||||||||||||
37640 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอำนวย ปรีมนวงศ์) | กค | 27/10/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอำนวย ปรีมนวงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการ คลังเสนอ
|
.....