ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1724 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 34461 - 34480 จากข้อมูลทั้งหมด 124013 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
34461 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พร้อมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการคำนวณสูตรบำนาญ โดยขอให้รัฐบาลพิจารณาและเร่งเสนอกฎหมาย เพื่อปรับปรุงทั้งเรื่องสูตรการคำนวณเงินบำนาญ เพื่อความเป็นธรรมแก่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รวมทั้งปรับปรุงการบริหารงานกองทุนฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นสำคัญ ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ๒. ให้นำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในการประกาศราชกิจจานุเบกษา แล้วแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34462 | การให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย | ปช | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๐ เรื่อง การให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย โดยเร่งรัดกระบวนการให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ มิต้องรอให้ร่างพระราชบัญญัติ รวม ๓ ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. ๒๕๓๕ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับก่อน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ โดยระบุข้อสงวน (reservation) ไว้ในสัตยาบันสารว่า “In accordance with Paragraph 3 of Article 66 of the convention, Thailand dose not consider itself bound by Paragraph 2 of the same Article” มิต้องรอให้ร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับ มีผลใช้บังคับก่อน |
|||||||||||||||||||||
34463 | รายงานการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2553 | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยมีกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายภิมุข สิมะโรจน์) เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
๑. การดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๑.๑ ปัญหาเหมืองสังกะสีในจังหวัดกาญจนบุรีปล่อยน้ำเสีย ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการแก้ไขอย่างไร ๑.๒ จากการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติซึ่งมีมติที่ประชุมในการปรับประเภทกิจการรุนแรงจาก ๑๘ ประเภท เป็น ๑๑ ประเภท และมีหนังสือเวียนแจ้งว่าคณะกรรมการ ๔ ฝ่ายขอข้อมูลในการประชุมพิจารณาใหม่นั้น การขอข้อมูลดังกล่าวมีเหตุผลในการนำไปใช้อย่างไร ซึ่งองค์กรดังกล่าวไม่ใช่องค์กรของรัฐและไม่มีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน และข้อมูลดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการฯ แล้วจึงไม่เหมาะสมที่จะให้ข้อมูล ๒. สถานการณ์ค่าเงินบาทไทย : ปัญหาและผลกระทบ ๒.๑ ควรมีการส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีความสามารถซื้อเทคโนโลยีแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศ การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยนำเม็ดเงินออกมา และธนาคารแห่งประเทศไทยควรนำวิกฤตจากประเทศต่าง ๆ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศบราซิล มาศึกษาว่ามีการปรับตัวอย่างไรเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาวิธีการปรับตัว ๒.๒ กรณีผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัวในระยะยาว จะมีผลกระทบในราคาพืชผลการเกษตรและเรื่องการประกันราคาหรือไม่ ๒.๓ ให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีค่าเงินบาทแข็งตัวเป็นพิเศษทั้งภาคเกษตรและผู้ประกอบการ ๒.๔ การคาดคะเนของค่าเงินบาทในอนาคต หากเกิดสถานการณ์นโยบายทางการเงินผ่อนคลายของสหรัฐอเมริกาอีกครั้งจะมีผลกระทบหรือไม่ และธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินการอย่างไร ๓. การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ๓.๑ ควรมีการรณรงค์ลดการใช้และลดการสูญเสียพลังงาน และการปรับตัวเพื่อเตรียมการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ๓.๒ ควรมีการจัดเตรียมงบประมาณสำหรับการป้องกันการสูญเสียกับสภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของวิกฤติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงควรมีการจัดทำวิจัยระดับชาติเรื่องดังกล่าวให้ตรงกับทุกหน่วยงานเพื่อเป็นหลักการเดียวกันในการพิจารณาของบประมาณต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34464 | การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๙๒๔.๒๗๕๙ ล้านบาท โดยใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งโดยตรงต่อไป ๒. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งเสนอการทบทวนประเด็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง (คปอล.) ครั้งที่ ๓/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ มีความเห็นว่า การเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นการดำเนินการเฉพาะกรณีงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง จำนวน ๑,๔๓๙.๔๘๓๕ ล้านบาท สำหรับในกรณีที่จะมีการพิจารณางบประมาณในการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อ ๆ ไปนั้น เห็นว่าการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของโครงการ/กิจกรรมจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือน หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ แต่ไม่เกินสิ้นปีงบประมาณนั้น ๆ
|
|||||||||||||||||||||
34465 | ขออนุมัติการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลง (Protocol to Amend the Agreement) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านประมง ระหว่างไทย - นอร์เวย์ | กษ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้จัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลง (Protocol to Amend the Agreement) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการด้านประมง ระหว่างสำนักงานความร่วมมือในการพัฒนาแห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ และกรมประมงแห่งราชอาณาจักรไทย ๒. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนาม หากมีการแก้ไขร่างพิธีสารในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการต่างประเทศ ๓. อนุมัติให้อธิบดีกรมประมงเป็นผู้ลงนามพิธีสารฯ ๔. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้อธิบดีกรมประมงในการลงนามพิธีสารฯ
|
|||||||||||||||||||||
34466 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... | ทส | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและ
ชายฝั่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การอนุรักษ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งให้ประชาชนและชุมชนในท้องที่ได้มีส่วนร่วม ในการบำรุงรักษา การอนุรักษ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างสมดุลและยั่งยืน ที่สำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34467 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ. .... | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงสาธารณ
สุข สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ ๑. ผลการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ. .... เกี่ยวกับการกำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิได้รับเงินชดเชยเป็นค่าพาหนะเดินทางโดยให้สำนักงานเลขา ธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาวางหลักเกณฑ์ควบคุมการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าน้ำมันเชื้อ เพลิงให้เหมาะสมคล่องตัวยังมีความชัดเจนไม่เพียงพอในการสร้างความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกันระหว่างสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ในพื้นที่ต่าง จังหวัดมีระยะทาง และระยะเวลาการเดินทางที่แตกต่างกัน รวมทั้งความหลากหลายของวิธีการเดินทาง จึงควร พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์วิธีการเบิกจ่ายให้ชัดเจน เช่น ควรให้เบิกค่าพาหนะเดินทางได้เฉพาะการเดินทางมา ประชุมสภาผู้แทนราษฎร การประชุมวุฒิสภา และรัฐสภา เท่านั้น หรือให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางใน ลักษณะเหมาะจ่าย เป็นต้น ๒. การกำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลในระหว่าง ดำรงตำแหน่ง ควรมีความชัดเจนและเหมาะสมในเรื่องการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ๓. การกำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุม ควรกำหนดให้อนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร อนุกรรมาธิการวุฒิ สภา อนุกรรมาธิการรัฐสภา และอนุกรรมาธิการร่วมกันของทั้ง ๒ สภาได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะที่มา ประชุมในอัตราครั้งละ ๘๐๐ บาท แต่ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกินสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง |
|||||||||||||||||||||
34468 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 10 ธันวาคม 2553 | กค | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. อนุมัติแล้ว จำนวน ๔๒,๗๐๓ โครงการ วงเงิน ๓๔๙,๙๖๐.๔๔ ล้านบาท ๒. การจัดสรร ๒.๑ รอจัดสรร จำนวน ๑,๓๙๓ โครงการ วงเงิน ๑๗,๒๑๖.๗๑ ล้านบาท ๒.๒ จัดสรรแล้ว จำนวน ๔๑,๓๑๐ โครงการ วงเงิน ๓๓๒,๗๔๓.๗๒ ล้านบาท ๓. การจัดซื้อจัดจ้าง ๓.๑ ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ จำนวน ๓,๔๔๘ โครงการ วงเงิน ๑๙,๑๒๒.๐๑ ล้านบาท ๓.๑.๑ ยังไม่เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๘๕๙ โครงการ วงเงิน ๑๑,๑๔๖.๒๔ ล้านบาท ๓.๑.๒ เกิน ๑๕ วันทำการ จำนวน ๒,๕๘๙ โครงการ วงเงิน ๗,๙๗๕.๗๗ ล้านบาท ๓.๒ ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน ๓๗,๘๖๒ โครงการ วงเงิน ๓๑๓,๖๒๑.๗๑ ล้านบาท ๓.๓ มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน ๓๗,๘๖๒ โครงการ วงเงิน ๓๐๕,๓๑๐.๕๙ ล้านบาท ๔. การดำเนินการ ๔.๑ ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน ๑,๙๖๓ โครงการ วงเงิน ๕๕,๗๐๒.๐๙ ล้านบาท ๔.๒ เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) ๓๑,๖๙๒ โครงการ วงเงิน ๒๐๘,๐๗๗.๓๗ ล้านบาท ๔.๓ เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน ๔,๒๐๗ โครงการ วงเงิน ๔๑,๕๓๑.๑๓ ล้านบาท ๔.๔ เบิกจ่ายทั้งหมด (๔.๒+๔.๓) จำนวน ๓๕,๘๙๙ โครงการ วงเงิน ๒๔๙,๖๐๘.๕๐ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
34469 | ร่างพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวกับการปรับบัญชีเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ และบัญชีค่าตอบแทนของประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๙ ฉบับ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่ง ชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป เว้นแต่ร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ ๑.๗ ในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้มีผลใช้บังคับ เมื่อได้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในครั้งต่อไป และร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ ๑.๘ ให้รับความเห็นของสำนัก งานการตรวจเงินแผ่นดิน เกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราเงินเดือนของประธานกรรมการ และกรรมการขององค์กร อิสระตามรัฐธรรมนูญ ควรพิจารณาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการ ต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และ นักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๕ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๖ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการอัยการ พ.ศ. .... ๑.๗ ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๘ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญ ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และประธานกรรมการและกรรมการ ตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. .... ๑.๙ ร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของตุลาการศาลปกครอง พ.ศ. .... ๒. อนุมัติหลักการบัญชีค่าตอบแทนของประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตาม ที่คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติเสนอ ๓. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาในหลักการให้การปรับอัตราเงินเดือนและเงิน ประจำตำแหน่งของข้าราชการการเมือง ท้ายพระราชกฤษฎีกาข้อ ๑.๑ มีผลใช้บังคับพร้อมกับสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร เว้นแต่ไม่อาจดำเนินการได้ ก็ให้พิจารณาดำเนินการไปตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. กรณีร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวมทั้งร่างพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำ ตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาตินำร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ ๑.๑ (บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการตำรวจ) และร่างพระราชกฤษฎีกาตามข้อ ๑.๔ ไปพิจารณาทบทวนความสอด คล้องกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง |
|||||||||||||||||||||
34470 | การพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2554 | รง | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ ๕) ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จำนวน ๗๖ จังหวัด รวมกรุงเทพมหานคร โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้กระทรวงแรงงานส่งประกาศฉบับดังกล่าวไปสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34471 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการผลิต ขาย นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณ พ.ศ. .... | สธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการผลิต ขาย นำหรือสั่งเข้า มาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๒๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ ๑.๒ เพิ่มเติมหลักฐานประกอบการขออนุญาตผลิต ๑.๓ เพิ่มเติมข้อปฏิบัติของผู้รับอนุญาตผลิต ๑.๔ เพิ่มเติมข้อปฏิบัติของผู้รับอนุญาต นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ๑.๕ เพิ่มเติมหน้าที่ของผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการของสถานที่ผลิต ๑.๖ กำหนดให้ใบอนุญาตผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๒๕)ฯ ใช้ได้ต่อไปจนกว่าใบอนุญาตนั้นจะสิ้นอายุ ๑.๗ กำหนดให้ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณซึ่งได้รับอนุญาตก่อนกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ดำเนิน การตามข้อ ๕ วรรคสอง ข้อ ๖ (๘) และ (๑๐) ภายในห้าปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำในร่างข้อ ๔ และร่างข้อ ๑๗ ให้สอดคล้องกับถ้อยคำตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34472 | โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัย ปี 2553 (ธนคารอิสลามแห่งประเทศไทย) | กค | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและวาตภัยปี ๒๕๕๓ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) โดยวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อใช้ปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือน อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ และ/หรือเป็นทุนหมุนเวียน โดยมีวงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นสินเชื่อระยะสั้น (Short-term Credit Facility) และระยะยาว (Long-term Credit Facility) ระยะเวลาการให้สินเชื่อไม่เกิน ๕ ปี อัตรากำไรหรือค่าธรรมเนียมคงที่ร้อยละ ๐.๕๐ ต่อเดือนตลอดอายุสัญญา แต่ไม่เกิน ๕ ปี และไม่มีหลักประกัน (Clean Cerdit Facility) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34473 | แผนกลยุทธ์แห่งชาติว่าด้วยการพัฒนางานสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2555 - 2559 | วช | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้มีการพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ตามแผนกลยุทธ์แห่งชาติว่าด้วยการ พัฒนางานสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๙ ซึ่งมีกรอบทิศทางการดำเนินงานที่ต่อเนื่องจากแผน กลยุทธ์แห่งชาติฯ พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔ โดยมีสาระสำคัญครอบคลุมการพัฒนาการเลี้ยงและใช้สัตว์ เพื่องานทาง วิทยาศาสตร์ที่เป็นระบบสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนางานวิจัย การทดสอบการผลิต ชีววัตถุทั้งด้านการแพทย์ การเกษตร และการพัฒนาอุตสาหกรรมยา สมุนไพร อาหารและวัคซีน ๑.๒ แต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ โดยมีนาย สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อ พัฒนางานเลี้ยงสัตว์และใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการฯ รับ ผิดชอบกำกับดูแลการพัฒนางานตามแผนกลยุทธศาสตร์แห่งชาติฯ และพิจารณาแผนพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์ฯ ของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ข้อเสนอแนะแก่สำนักงบประมาณในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปีแก่หน่วย งานต่าง ๆ ที่เสนอแผนพัฒนางานฯ และเสนอขอตั้งงบประมาณ และติดตามประเมินผลการพัฒนางานฯ ของหน่วย งานต่าง ๆ โดยมีสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยา ศาสตร์เป็นหน่วยงานดำเนินการ ๑.๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำกรอบกลยุทธ์แห่งชาตินี้ ผนวกเข้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่อ งานทางวิทยาศาสตร์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการเชื่อม โยงข้อมูลเข้ากับโครงข่ายเชื่อมโยงระบบสารสนเทศภาครัฐ Government Information Network : GIN และจัดทำ มาตรฐานข้อมูลภายใต้กรอบมาตรฐาน TH e-GIF (Government Interoperability Framework) ของกระทรวงเทค โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าด้วยกัน การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมประชา ชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ ประเทศไทยมีศักยภาพในระดับภูมิภาค และเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับความต้องการทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคด้วย การมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนปฏิบัติการที่สามารถเชื่อมโยงกัน อย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงศักยภาพและความพร้อมด้านงบประมาณและทรัพยากรที่มีอยู่ของหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง การยกระดับขีดความสามารถของสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์ เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ให้เป็นหน่วยงานบริการพิเศษหรือองค์การมหาชน เพื่อรองรับภารกิจที่หลากหลายใน อนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
34474 | การขายที่ดินราชพัสดุให้กับสหกรณ์การเช่าที่ดินคลองโยง จำกัด จังหวัดนครปฐม | กค | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอนกรรมสิทธิ์ขายที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นฐ. ๑๑๓ โฉนดเลขที่ ๙๑๑๒ ตำบลคลองโยง อำเภอนครชัยศรี และ นฐ. ๑๑๔ โฉนดเลขที่ ๙๓๙๕ ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตามเนื้อที่ที่ระบุในโฉนดให้กับสหกรณ์การเช่าที่ดินคลองโยง จำกัด จังหวัดนครปฐม ในราคา ๖,๙๐๘,๕๐๐ บาท โดยสหกรณ์การเช่าที่ดินคลองโยง จำกัด จังหวัดนครปฐม จะต้องยึดถือตามหลักเกณฑ์ระเบียบและข้อบังคับในการห้ามมิให้นำไปจำหน่ายจ่ายโอนให้แก่บุคคลอื่นเว้นแต่เป็นการโอนให้แก่ทายาทหรือผู้มีสิทธิรับมรดกของสมาชิกเพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพอย่างแท้จริงและรักษาไว้ซึ่งสมบัติของแผ่นดินต่อไป พร้อมทั้งเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุดังกล่าว ตลอดจนอากรแสตมป์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดแทนกระทรวงการคลังทั้งสิ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
34475 | สรุปรายงานการบริหารจัดการบริเวณพื้นที่จัดงานพิธีถวายพระพรชัยมงคลและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 ในส่วนกลาง | วธ | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอสรุปรายงานการบริหารจัดการบริเวณพื้นที่จัดงานพิธีถวายพระพรชัยมงคลและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ในส่วนกลาง โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการก่อสร้างเต้นท์ โดยได้ส่งมอบพื้นที่ให้ทุกหน่วยงาน เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และก่อสร้างเวทีกลางพร้อมทั้งเวทีถวายพระพร โดยได้ส่งมอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ซึ่งทุกกระทรวง รวมทั้งกรุงเทพมหานครที่ได้เข้าไปดำเนินการจัดนิทรรศการในเต้นท์ โดยได้ประสานกับกระทรวงวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ส่วนรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และอื่น ๆ ที่เข้าร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด การไฟฟ้านครหลวง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย) เป็นต้น สำหรับการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมจากต่างประเทศ มีมิตรประเทศตอบรับจัดส่งคณะนักแสดง จำนวน ๙ ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ อินเดีย ศรีลังกา ตุรกี สวิสเซอร์แลนด์ สโลวาเกีย บัลแกเรีย รัสเซีย และโปแลนด์ ส่วนการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย ได้จัดให้มีความหลากหลายทั้งคณะนักแสดงพื้นบ้าน นักดนตรีจากสถาบันอุดมศึกษา ศิลปินอาชีพ ศิลปินร่วมสมัย นักร้องลูกทุ่ง ลูกกรุง ลิเก โขน และนักร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
34476 | การเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล | มท | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การเพิ่มค่าคอบแทนให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ดังนี้
๑. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ รวมถึงผลกระทบทางอ้อมที่จะต้องมีการปรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ และบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ด้วย ว่าจะมีผลกระทบต่องบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลที่จะใช้ในการดำเนินการโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในท้องถิ่นหรือไม่ เพียงใด แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๒. ส่วนระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินค่าตอบแทน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่กระทรวงมหาดไทยส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรอผลการพิจารณาตามข้อ ๑ ก่อนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
34477 | ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งข้าราชการการเมือง และกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีขอลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสรวิศ ขุนจันทร์ และนายสรวงสรรค์ จามรจันทร์) | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งนายสรวิศ ขุนจันทร์ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) แทนนายสรวงสรรค์ จามรจันทร์ ที่ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว และให้แต่งตั้งนายสรวงสรรค์ จามรจันทร์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. กรณีตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๓) เป็นต้นไป ส่วนกรณีตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ได้รับแต่งตั้งลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้ามได้ดำเนินการให้เรียบร้อย
|
|||||||||||||||||||||
34478 | รายงานผลการเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) | นร | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการเยือนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ระหว่างวันที่ ๖ - ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ ตามคำเชิญของกระทรวงรถไฟจีน (MOR) และ International Union of Railways (UIC) เพื่อเข้าร่วมประชุม “7th World Congress on High Speed Rails” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การก่อสร้าง และพัฒนากิจการรถไฟ ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือและหุ้นส่วนความร่วมมือในแวดวงกิจการรถไฟ รวมทั้งเข้าพบปะหารือกับบุคคลสำคัญ ๆ อาทิ นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และนายหลิว จื้อจุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟจีน เป็นต้น โดยประเด็นหารือ ได้แก่ เรื่องสถานที่ในการก่อสร้างสะพานไทย - ลาว ความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างไทยกับจีน การก่อสร้างทางรถไฟจากหนองคายไปยังปาดังเบซาร์ และความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนการเยี่ยมเยือนพบปะกันระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ไทย - จีน เพื่อปูทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ๒. เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประสานความร่วมมือในการดำเนินการเกี่ยวกับการก่อสร้างสะพานไทย - ลาว และความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างไทย - จีน ขึ้น โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เห็นสมควรร่วมเป็นกรรมการ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
34479 | โครงการอาสาสมัครที่ปรึกษาทางการเงินครัวเรือน (หมอหนี้) | กค | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการและแนวทางการดำเนินการโครงการอาสาสมัครที่ปรึกษาทางการเงินครัวเรือน (หมอหนี้) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรอาสาสมัครในการทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและให้คำ ปรึกษาแนะนำแก่ประชาชนในระบบเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มเกษตรกร และคนยากจน ให้มีความรู้ ความเข้าใจใน การวางแผนจัดการทางการเงินของครอบครัว สามารถเข้าถึงและใช้บริการสถาบันการเงินในระบบมากขึ้น เพื่อ หลีกเลี่ยงปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการออม และการใช้ชีวิตบนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงซึ่งจะช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังขอตกลงในรายละเอียดของค่าใช้จ่ายและแหล่งเงินงบประมาณที่เหมาะสม ในการดำเนินโครงการฯ กับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการฯ ควรพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การปรับแผนการใช้งบประมาณของกระทรวง การคลัง หรือขอความร่วมมือให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจจัดงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการฯ เป็นการเฉพาะ ซึ่งหากผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจจึงควรพิจารณางบประมาณปกติสมทบในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ต่อไป และควรให้ ความสำคัญกับคุณภาพของอาสาสมัครโดยกำหนดคุณสมบัติให้เหมาะสม และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวอย่าง เคร่งครัด โดยมีการประเมินผลการทำงานของอาสาสมัครอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังไม่ให้อาสาสมัครเรียกรับ ผลประโยชน์จากผู้กู้เงินด้วย รวมทั้งข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครง การด้วย |
|||||||||||||||||||||
34480 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย - มาเลเซีย ครั้งที่ 26 | กห | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ ๒๖ เพื่อใช้
เป็นกรอบการประชุมและกรอบการเจรจากับคณะกรรมการระดับสูงไทย-มาเลเซีย (ฝ่ายมาเลเซีย) โดยดำเนินการ ตามกรอบการประชุมเพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ในกรอบของ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-มาเลเซีย และกลไกอื่น ๆ ภายใต้กรอบนี้ ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ |
.....