ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1520 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 30381 - 30400 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
30381 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) (นายสุรพล ศรีเสาวชาติ) | คค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุรพล ศรีเสาวชาติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและออกแบบ) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30382 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขายทอดตลาด พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อปรับปรุงเกี่ยวกับการประกาศขายทอดตลาด การกำหนดราคาทรัพย์ในการขายทอดตลาด และการถอนทรัพย์ออกจากการขายทอดตลาด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30383 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมศักดิ์ จังตระกุล ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30384 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | ศธ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดเกณฑ์และเงื่อนไขประกอบเกณฑ์การประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒. กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความประสงค์จะจัดการอาชีวศึกษายื่นคำขอต่อสำนักงานล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามร้อยวันก่อนวันเริ่มต้นปีการศึกษาที่จะทำการสอน ๓. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการเพื่อการประเมินเพื่อทำหน้าที่ประเมินความพร้อมในการจัดการอาชีวศึกษาและแจ้งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ ๔. กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จัดการอาชีวศึกษาอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้จัดการอาชีวศึกษานั้นต่อไปโดยไม่ต้องประเมินอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||
30385 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางสาวเบญจพร ปัญญายง) | สธ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางสาวเบญจพร ปัญญายง ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๓ ๒. นางสมรัก ชูวานิชวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
|
|||||||||||||||||||||||||||
30386 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนครพนม กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... | ศธ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนครพนม กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนครพนม กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. ปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยนครพนม กระทรวงศึกษาธิการ เสียใหม่ โดยแก้ไขชื่อ “วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครพนม” เป็น “คณะเกษตรและเทคโนโลยี” และแก้ไขชื่อ “วิทยาลัยเทคนิคนครพนม” เป็น “คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”
|
|||||||||||||||||||||||||||
30387 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนไมตรีจิตและถนนคลองเก้า พ.ศ. .... | นร | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนไมตรีจิตและถนนคลองเก้า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนไมตรีจิตและถนนคลองเก้า ในท้องที่แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา และแขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30388 | มาตรการภาษีเพื่อการสนับสนุนการประกอบกิจการของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) | กค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อการสนับสนุนการประกอบกิจการของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โดยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการของศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ซึ่งได้กระทำตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ เป็นต้นไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30389 | ขออนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทางการเมืองทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวง การต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา | กต | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำและให้ความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทางการเมืองทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา (Memorandum of Understanding between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of External Affairs of the Democratic Socialist Republic of Sri Lanka on Bilateral Political Consultations) มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยกับศรีลังกาสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อคิดเห็นในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี ประเด็นภูมิภาค และระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่ใกล้ชิดขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้มีการประชุมหารือทางการเมืองในระดับปลัดกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทน รวมทั้งการหารือเกี่ยวกับพัฒนาการของความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันในระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ หากมีการแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำของบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ โดยถ้อยคำดังกล่าวสอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของประเทศไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างบันทึกความเข้าใจฯ หน้า ๒ ข้อที่ ๓ จาก “...การลงทุน วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือ...” เห็นควรเพิ่มคำว่า “นวัตกรรม” เป็น “...การลงทุน วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ความร่วมมือ...” ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30390 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลน้ำริด ตำบลงิ้วงาม ตำบลผาจุก ตำบลบ้านด่าน ตำบลท่าเสา ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลท่าอิฐ ตำบลป่าเซ่า ตำบลบ้านเกาะ ตำบลหาดกรวด อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล ตำบลทุ่งยั้ง ตำบลด่านแม่คำมัน ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล ตำบลข่อยสูง ตำบลวังแดง ตำบลบ้านแก่ง ตำบลหาดสองแคว ตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน ตำบลท่าสัก ตำบลไร่อ้อย ตำบลคอรุม ตำบลนายาง ตำบลบ้านหม้อ ตำบลท่ามะเฟือง ตำบลนาอิน ตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลดงคู่ อำเภอศรีสัชนาลัย ตำบลนครเดิฐ ตำบลน้ำขุม ตำบลศรีนคร ตำบลคลองมะพลับ อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย และตำบลตลุกเทียม ตำบลศรีภิรมย์ ตำบลดงประคำ ตำบลวงฆ้อง ตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | กษ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลน้ำริด ตำบลงิ้วงาม ตำบลผาจุก ตำบลบ้านด่าน ตำบลท่าเสา ตำบลคุ้งตะเภา ตำบลท่าอิฐ ตำบลป่าเซ่า ตำบลบ้านเกาะ ตำบลหาดกรวด อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยจุมพล ตำบลทุ่งยั้ง ตำบลด่านแม่คำมัน ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล ตำบลข่อยสูง ตำบลวังแดง ตำบลบ้านแก่ง ตำบลหาดสองแคว ตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน ตำบลท่าสัก ตำบลไร่อ้อย ตำบลคอรุม ตำบลนายาง ตำบลบ้านหม้อ ตำบลท่ามะเฟือง ตำบลนาอิน ตำบลพญาแมน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลดงคู่ อำเภอศรีสัชนาลัย ตำบลนครเดิฐ ตำบลน้ำขุม ตำบลศรีนคร ตำบลคลองมะพลับ อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย และตำบลตลุกเทียม ตำบลศรีภิรมย์ ตำบลดงประคำ ตำบลวงฆ้อง ตำบลมะต้อง อำเภอพรหมพิราม ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... เพื่อก่อสร้างเขื่อนทดน้ำ ระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำพร้อมอาคารประกอบตามโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
30391 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง | กค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเกี่ยวกับการเสนอแนะนโยบายและมาตรการ ตรวจสอบ และติดตามการกระทำความผิดเกี่ยวกับธุรกิจการเงินนอกระบบ และเป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องปรามการกระทำความผิดอันเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจการเงิน ๑.๒ กำหนดให้มีสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน (สพช.) ในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ๑.๓ กำหนดอำนาจหน้าที่ของ สพช. ๑.๔ ยกเลิก (๗) ของข้อ ๑๓ แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ๒.๑ ยกเลิก (๘) ของข้อ ๒ แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๒ กำหนดให้มีกลุ่มงานด้านวิชาการ ขึ้นตรงต่อปลัดกระทรวงการคลัง และกำหนดอำนาจหน้าที่ของกลุ่มงานด้านวิชาการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30392 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิทธิทางการศึกษาของเด็กจากการใช้ระบบการวัดและประเมินผลมาตรฐานการจัดการศึกษาในระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) | สว | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิทธิทางการศึกษาของเด็กจากการใช้ระบบการวัดและประเมินผลมาตรฐานการจัดการศึกษาในระบบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (A-NET) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) พร้อมข้อเสนอแนะกับผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอในประเด็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาที่เอื้อให้เกิดผลกระทบต่อการละเมิดสิทธิทางการศึกษาจากระบบทดสอบทางการศึกษาขั้นสูง (A-NET) และการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปัญหาและผลกระทบจากเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา หรือระบบกลาง (Admissions) และระบบรับตรง รวมทั้งข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายทางการศึกษาในประเด็นการทบทวนการใช้เกณฑ์ระบบแอดมิชชั่น (Admissions) ความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการทางการศึกษาของเยาวชนไทยในอนาคต การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย การปรับปรุงคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียน รวมทั้งทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดการ ปรับปรุงโครงสร้างความเป็นอิสระของแต่ละมหาวิทยาลัยและระบบราชการของกระทรวง กรมหรือเทียบเท่าควบคุมและกำกับดูแลการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30393 | การจัดทำความตกลงโครงการพัฒนาว่าด้วยการฟื้นฟูศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในประเทศไทยและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ระหว่างองค์การยูเนสโกกับรัฐบาลไทย | ศธ | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. การจัดทำและลงนามร่างความตกลงโครงการพัฒนาว่าด้วยการฟื้นฟูศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในประเทศไทยและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ระหว่างองค์การยูเนสโกกับรัฐบาลไทย โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดรายละเอียดของโครงการพัฒนาว่าด้วยการฟื้นฟูศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในประเทศไทยและการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินสนับสนุนผ่านยูเนสโก จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ โดยกำหนดพันธกรณีของรัฐบาลไทยและยูเนสโกเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฟื้นฟูความเสียหาย และจัดหาสื่อการเรียนการสอนที่จำเป็น รวมถึงอุปกรณ์การเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนที่เกิดจากภัยน้ำท่วมในประเทศไทย ส่งเสริมความเข้มแข็งของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภายหลังประสบภัยพิบัติ และเสริมสร้างสมรรถนะของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนให้มีความรู้เกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมและเขตพื้นที่เสี่ยงภัยของประเทศไทย ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างความตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงศึกษาธิการหารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในความตกลงฯ ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้แก่ผู้ลงนาม
|
|||||||||||||||||||||||||||
30394 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. .... | กค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับกรณี ดังนี้
๑. ใบขนสินค้าขาเข้าหรือใบขนสินค้าขาออกสำหรับของที่ขนย้ายหรือโอนระหว่างผู้ประกอบการภายในประเทศที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรภายในประเทศ ๒. ใบขนสินค้าที่นำของออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร เขตประกอบการเสรี โดยผู้มีสิทธิได้รับยกเว้นอากรตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ภาค ๔ หรือกฎหมายอื่น ๓. ใบขนสินค้าขาเข้าที่นำของซึ่งผลิต ผสม ประกอบ หรือบรรจุ ตามมาตรา ๑๙ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พุทธศักราช ๒๔๘๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๔๓ จำหน่ายให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับยกเว้นอากรตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ภาค ๔ หรือกฎหมายอื่น
|
|||||||||||||||||||||||||||
30395 | การซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการตรวจรับงานโครงการขุดลอกคูคลอง | กค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการดำเนินงานกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการตรวจรับงานโครงการขุดลอกคูคลองตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนการบริหารการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (กบภ.) ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลาง (คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการตรวจรับงานเพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ซึ่งกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ พิจารณาเห็นว่า ส่วนราชการที่รับผิดชอบโครงการขุดลอกคูคลอง ควรมีการซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานการตรวจรับงานของโครงการขุดลอกคูคลอง ดังนี้ ๑.๑.๑ ก่อนการขุดลอก ขอให้ดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบสถานที่ดำเนินการ เช่น สภาพภูมิประเทศและความลึกของท้องน้ำ ค่าระดับท้องคลอง เป็นต้น ๑.๑.๒ ประมาณการปริมาณดินก่อนขุดลอก รวมถึงแบบรูปรายการละเอียดของงานในแต่ละงาน โครงการ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตรงตามมาตรฐานของงานของแต่ละส่วนราชการ เพื่อประกอบการจัดจ้าง ๑.๑.๓ ตรวจสอบปริมาณดินหลังขุดลอก โดยตรวจสอบปริมาณงานดินที่ขุดได้ และเปรียบเทียบกับปริมาณงานที่กำหนดไว้ในรายการ หรือสัญญา ตามวิธีการที่เป็นมาตรฐานที่ส่วนราชการกำหนด โดยที่ผู้รับผิดชอบลงนาม ตรวจสอบ ก่อนการดำเนินงานระหว่างการดำเนินงาน และเมื่อดำเนินงานแล้วเสร็จ เพื่อประโยชน์ในการตรวจรับงานและการเบิกจ่ายเงิน ๑.๑.๔ ขอให้มีการถ่ายรูปสถานที่ก่อสร้างการดำเนินงาน ระหว่างการดำเนินงาน และเมื่อดำเนินงานแล้วเสร็จ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและจัดทำรายงานการตรวจรับงานเสนอต่อหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งนี้ หากส่วนราชการใดไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวได้ อาจขอความร่วมมือจากส่วนราชการอื่นที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญในเรื่องดังกล่าวได้ ๑.๒ เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยนำหลักเกณฑ์และมาตรฐานการตรวจรับงานโครงการขุดลอกคูคลอง ไปใช้บังคับกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อถือปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ๒. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบเกี่ยวกับการดำเนินโครงการขุดลอกคูคลอง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30396 | รายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ | นร | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานะความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ วงเงิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นเงิน ๑๑๙,๘๑๓.๙๗๖ ล้านบาท มีแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายสะสม ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๔ ถึงพฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๗๙,๗๔๖.๙๘๘ ล้านบาท ๒. สถานะการเบิกจ่าย จำแนกออกเป็น ๒ ลักษณะ ดังนี้ ๒.๑ มิติส่วนราชการ (Function) ผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ จากระบบ GFMIS เป็นเงิน ๖๐,๓๙๖.๕๔๗ ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพิ่มขึ้น ๒,๘๘๘.๕๗๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕.๐๒ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจลงนามในสัญญาหรือดำเนินการเองแล้ว เป็นเงิน ๙๗,๔๖๗.๒๐๒ ล้านบาท (ร้อยละ ๘๑.๓๕ ของวงเงินจัดสรร) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน ๒,๘๖๗.๔๔๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓.๐๓ ๒.๒ มิติพื้นที่ (Area) จำแนกตามจังหวัดที่ดำเนินการ ผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ จากระบบรายงานแผน/ผลการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย สำนักงบประมาณ จำนวน ๗๔ จังหวัด เป็นเงิน ๔๕,๘๒๑.๑๔๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๔๖ ๓. การส่งคืนเงินงบประมาณ ส่วนราชการแจ้งอย่างเป็นทางการส่งคืนเงินงบประมาณเหลือจ่ายและเงินงบประมาณของโครงการ/รายการ ซึ่งยังมิได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกาศประกวดราคา หรือกรณีงานดำเนินการเองที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติงานภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๕ จำนวน ๒๖ หน่วยงาน รวมเป็นเงิน ๔,๔๙๕.๙๘๑ ล้านบาท สำนักงบประมาณจะดำเนินการดึงเงินประจำงวดกลับคืนตามจำนวนดังกล่าวในระบบ GFMIS ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
30397 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนเมษายน 2555 | อก | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม เดือนเมษายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม การผลิตคาดว่าจะชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับโรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่บางส่วนได้มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้นในไทย และต้องการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการจำหน่ายในประเทศคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่เสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับนักเรียน คาดว่าจะมีการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ในส่วนของปัจจัยเสี่ยงของการส่งออกของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในตลาดส่งออกหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่ยังไม่มีเสถียรภาพ ๒. อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ภาวะอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้นตามความต้องการใช้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะขยายตัวได้อีก ตลอดไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๕๕๕ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติ รวมทั้งจะมีการก่อสร้างโครงข่ายระบบขนส่งสู่ชานเมือง สำหรับการส่งออกคาดว่ายังขยายตัวได้ดี เนื่องจากตลาดส่งออกหลักยังมีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในกิจกรรมการก่อสร้าง เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||
30398 | การติดตามประเมินผลโครงการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยและโครงการป้องกันปัญหาอุทกภัยต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ | นร | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้หน่วยงานส่วนกลางดำเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจากการติดตามประเมินผลโครงการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยและโครงการป้องกันปัญหาอุทกภัยต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. หน่วยงานส่วนกลางที่ได้รับอนุมัติงบประมาณและมีโครงการดำเนินการในพื้นที่ ควรจะต้องแจ้งข้อมูลให้จังหวัดทราบ เพื่อให้จังหวัดสามารถช่วยประสานงาน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย ๒. ควรใช้ระบบสารสนเทศในการสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดและส่วนกลาง โดยมีการประสานกับผู้ดูแลระบบ PMOCFLOOD เพื่อปรับปรุงระบบให้ทุกจังหวัดสามารถรับทราบข้อมูลทุกโครงการที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดได้ ๓. การประเมินผลดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ ต้องพิจารณาถึงความยั่งยืนของผลประโยชน์ที่ประชาชนในพื้นที่จะได้รับ และควรมีการชี้แจงต่อประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบ และเกิดความตระหนักในการร่วมดูแลรักษาพื้นที่ที่มีการปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว หรือสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามโครงการ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และเป็นการป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
|
|||||||||||||||||||||||||||
30399 | ขออนุมัติลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในเมียนมาร์ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ | กต | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในเมียนมาร์ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีดังนี้ ๑.๑.๑ การเสริมสร้างขีดความสามารถ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรและหน่วยงานของเมียนมาร์ในรูปแบบทุนการศึกษา หลักสูตรการฝึกอบรม การศึกษาดูงาน และกิจกรรมในลักษณะแผนงานในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาการเกษตร การศึกษา สาธารณสุข อุตสาหกรรมการบริการ การพัฒนาสังคม การบริหารรัฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติและภัยพิบัติ ๑.๑.๒ การเตรียมความพร้อมเป็นประธานอาเซียนของเมียนมาร์ในปี ๒๕๕๗ เพื่อส่งเสริมและแลกเปลี่ยนการใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในการจัดประชุมระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของเมียนมาร์ในปี ๒๕๕๗ โดยจัดหลักสูตรการฝึกอบรมแก่บุคลากรเมียนมาร์ และสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นในการจัดประชุม เช่น การจัดตั้งศูนย์ข่าวในเมียนมาร์ ๑.๑.๓ การปฏิรูปเศรษฐกิจและการพัฒนาทางเลือก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมียนมาร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน โดยผ่านความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน การพัฒนาระบบธนาคารกลางและการกำกับและตรวจสอบระบบธนาคาร การพัฒนาตลาดทุนและตลาดหลักทรัพย์ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวชายแดน การจัดตั้งศูนย์แรกรับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และโครงการความร่วมมือไทย - เมียนมาร์ด้านการพัฒนาทางเลือกเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ๑.๑.๔ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับเมียนมาร์ และกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมียนมาร์ ผ่านการให้ความช่วยเหลือเพื่อการศึกษาความเหมาะสมโครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างถนน ๓ ฝ่ายไทย - เมียนมาร์ - อินเดีย ช่วงมอญยอ (Monywa) - ยาจี (Yagyi) - กาเลวะ (Kalewa) ในรัฐสะกาย โครงการพัฒนาถนนจากด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ - เมืองมอต่อง - เมืองตะนาวศรี - เมืองมะริด ในภาคตะนาวศรี และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ ๒ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า ๑.๑.๕ กลไกความร่วมมือ มีทั้งระดับรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ๑.๑.๖ รูปแบบความร่วมมือ ภายใต้กรอบความร่วมมือรูปแบบรัฐต่อรัฐทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ สถาบันทางการเงิน และวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการและติดตามความร่วมมือข้างต้น โดยสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งขั้นตอนภายในของทั้งสองประเทศ ๑.๑.๗ รูปแบบด้านการเงิน สำหรับการจัดการด้านการเงินของความร่วมมือในระดับรัฐบาล ทั้งสองจะหารือและตกลงกันแยกต่างหาก ๑.๒ อนุมัติให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นที่ต้องแก้ไขปรับปรุงบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเพิ่มเติมถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเพิ่มเติมความร่วมมือเพื่อใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ได้พัฒนาแล้วให้เต็มศักยภาพ รวมถึงการสนับสนุนกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและเมียนมาร์ประสานการดำเนินงานกันอย่างใกล้ชิด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
30400 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมเจ้าท่า พ.ศ. .... | คค | 29/05/2555 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมเจ้าท่า พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี พ.ศ. ๒๕๔๙ ดังนี้
๑. กำหนดให้เปลี่ยนชื่อ “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” เป็น “กรมเจ้าท่า” ๒. กำหนดให้แก้ไขความในข้อ ๔ (๑) (ก) กระบังหมวก และข้อ ๔ (๒) หมวกแก๊ปทรงอ่อนสีกรมท่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระดับชั้นของข้าราชการ ดังนี้ ๒.๑ ระดับ ๖ ถึงระดับ ๘ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ และระดับชำนาญการพิเศษ และตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น ๒.๒ ระดับ ๙ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญและระดับทรงคุณวุฒิ และตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง และตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้นและระดับสูง ๒.๓ เปลี่ยนอักษรหน้าหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีกรมท่าในข้อ ๔ (๒) จาก “กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี” ตัวอักษรสูง ๑ เซนติเมตร เป็น “กรมเจ้าท่า” ตัวอักษรสูง ๑.๕ เซนติเมตร ๓. กำหนดให้เปลี่ยนตราประจำส่วนราชการที่ปรากฏบนหัวเข็มขัดตามข้อ ๙ (๑) เป็นตราประจำส่วนราชการใหม่ คือ หัวเข็มขัดเป็นรูปวงกลมรูปไข่ ภายในมีรูปสมออยู่ภายใต้พระมหามงกุฎ ด้านซ้ายมีช่อราชพฤกษ์ ด้านขวามีช่อพุทธรักษา ใต้ขอบล่างมีอักษรว่า “กรมเจ้าท่า” โค้งตามแนวรูปวงกลมรูปไข่ ๔. กำหนดให้แก้ไขข้อความในข้อ ๑๗ เกี่ยวกับระดับชั้นของข้าราชการ ดังนี้ ๔.๑ ระดับ ๑๐ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ และตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ๔.๒ ระดับ ๙ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับทักษะพิเศษ ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง และตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น ๔.๓ ระดับ ๘ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ และตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น ๔.๔ ระดับ ๗ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ๔.๕ ระดับ ๕ และระดับ ๖ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ๔.๖ ระดับ ๓ และระดับ ๔ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ๔.๗ ระดับ ๒ แก้ไขเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน และยกเลิกความในข้อ ๑๗ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับ ๑ ออก ๕ กำหนดให้เพิ่มเติมข้อยกเว้นให้สิทธิผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงแก้ไขลักษณะ ชนิด ประเภทของเครื่องแบบพิเศษของข้าราชการกรมเจ้าท่า ให้คงใช้เครื่องหมายแสดงระดับและตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ในกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี พ.ศ. ๒๕๔๙ ไปจนกว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือเกษียณอายุราชการ แล้วแต่กรณี คือ ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับ ๓ และระดับ ๔ หรือข้าราชการประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับ ๘ หรือข้าราชการตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับ ๕
|
.....