ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2556 | นร11 | 21/01/2556 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ ๒. เห็นชอบตามมติที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคครั้งที่ ๑/๒๕๕๖ ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามมติที่ประชุม รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๒.๑ ข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบัน (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ๒.๑.๑ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงมหาดไทยเป็นแกนกลางในการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนของการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ แม่สอด จังหวัดตาก เช่น ปัญหารถบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักเกิน ปัญหาโครงสร้างที่ชำรุด เป็นต้น และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานบูรณาการหลักร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาในภาพรวม โดยนำข้อเสนอการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จังหวัดตาก เข้ามาพิจารณาในคณะกรรมการดังกล่าว และนำความเห็นที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาด้วย รวมทั้งให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษาและเตรียมความพร้อมหากมีการยกระดับจุดผ่อนปรนภูดู่ขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร และให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานดังกล่าว ๒.๑.๒ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒ (พิษณุโลก-หล่มสัก) จาก ๒ ช่องจราจร เป็น ๔ ช่องจราจรให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปพิจารณาทบทวนโครงการศึกษาและพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางภาคเหนือตอนล่างและสี่แยกอินโดจีน โดยให้ศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงจุดพื้นที่ตั้งของศูนย์กลางที่มีความเหมาะสมในการเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางและพื้นที่โดยรอบ ๒.๑.๓ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปศึกษาและจัดทำรายละเอียดโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งแผนงาน/โครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ๑ และเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๔ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับไปพิจารณาในรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็น Medical Excellence Centre/Medical Tourism โดยจัดลำดับความสำคัญในส่วนที่มีความจำเป็นและสอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ๒.๑.๕ รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามมติการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าดังกล่าวตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ฝ่ายเลขานุการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ มารายงานให้ที่ประชุมทราบเป็นระยะ ๒.๒ เรื่องอื่น ๆ ที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย/คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สถาบันเสนอ ๒.๒.๑ การยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงแรงงานรับไปดำเนินการพัฒนาบุคลากรในภาคการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ๒๕๕๖ ให้เสร็จทันก่อนฤดูกาลการท่องเที่ยวปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ๒ ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณารายละเอียดของโครงการและสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวให้เพิ่มสูงขึ้น ๒.๒.๒ มาตรการเร่งด่วนเพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดตั้งกลไกเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ตั้งแต่การกำหนดนโยบาย การจัดหาวัตถุดิบที่เหมาะสม การกำหนดมาตรการส่งเสริม ตลอดจนพิจารณาเลือกจังหวัดต้นแบบที่มีความเหมาะสมตามลักษณะการจัดเขตพื้นที่ ๒.๒.๓ ความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ (ระบบราง) ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ด้านระบบรางของประเทศในภาพรวมให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๒.๒.๔ ความคืบหน้าการส่งเสริมการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาด่านชายแดนให้สอดคล้องกับประเทศไทย และนำเข้าบูรณาการในคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๒.๒.๕ บทบาทภาคเอกชนในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ ไปสู่การปฏิบัติ ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาร่วมกับภาคเอกชนทั้ง ๕ สถาบัน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานในการขับเคลื่อนประเด็นการพัฒนาที่ได้มีข้อสรุปร่วมกันในการประชุมเชิงปฏิบัติการภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ให้เป็นรูปธรรม และประสานกับกลไกการขับเคลื่อนที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการอยู่แล้ว โดยจัดลำดับความสำคัญของประเด็นการพัฒนาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ๒.๒.๖ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. .... (ผลกระทบตามประกาศ Financial Action Task Force : FATF) ที่ประชุมมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอว่า รัฐบาลได้พิจารณาผ่านร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว และรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๖ ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคบใช้ทันกำหนดการประชุมของกลุ่มความร่วมมือต่อต้านในการฟอกเงินเอเชีย-แปซิฟิก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่มีกำหนดการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส
|
.....