ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1376 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 27501 - 27520 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27501 | รายงานสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงมหาดไทย | มท | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงมหาดไทย ดังนี้
๑. น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหลักยึดในการพัฒนาหมู่บ้าน การสร้างความรักความสามัคคี ความสมานฉันท์ของประชาชนในหมู่บ้าน ๒. บริหารจัดการหมู่บ้านอย่างมีเอกภาพ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นแกนหลักการขับเคลื่อน หลอมรวมผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ผู้นำตามธรรมชาติ เพื่อบริหารงานหมู่บ้านในรูปของคณะกรรมการหมู่บ้าน ๓. สร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อการพูดคุย แลกเปลี่ยน รับทราบปัญหา และความต้องการของผู้มีความคิดเห็นแตกต่าง ผู้เสียหาย ผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ลดความหวาดระแวง และตระหนักในคุณค่าของการอยู่ร่วมกัน ภายใต้ความหลากหลายของวิถีชีวิต สังคม วัฒนธรรม ๔. เสริมสร้างความเข้าใจ สร้างความไว้วางใจ ขจัดเงื่อนไขและสาเหตุที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจและหวาดระแวงเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อฟื้นคืนความไว้วางใจ ระหว่างรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ๕. พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน และการเสริมสร้างเครือข่ายงานข่าวภาคประชาชน เพื่อให้หมู่บ้านมีศักยภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อย และสามารถป้องกันตนเองและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๖. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้รับการพัฒนาทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา รวมทั้งการช่วยเหลือกลุ่มด้อยโอกาส ๗. เพิ่มบทบาทของประชาชน ภาคประชาสังคม กลุ่มและองค์กรในหมู่บ้านในการคุ้มครองดูแลทรัพยากรและการป้องกันภัยแทรกซ้อนในหมู่บ้าน ๘. ให้ทุกหน่วยงานเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ๘.๑ หลักการสำคัญในการขับเคลื่อนหมู่บ้านเข้มแข็งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ หลักการปรึกษาหารือแบบใจเปิดกว้าง และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย หลักระบบข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน และมีแผนดำเนินการ หลักคุณธรรม ความยืดหยุ่น และเคารพปกป้องความแตกต่าง หลักการแบ่งความรับผิดชอบเป็นคุ้มบ้าน โซน หลักการใช้ทุนของชุมชนอย่างครอบคลุม ครบถ้วน หลัก กฎ ระเบียบ กติกาที่ชัดเจน และหลักกระบวนการกลุ่มที่เข้มแข็ง และมีเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ๘.๒ เป้าหมายการขับเคลื่อนหมู่บ้านเข้มแข็งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ เกิดความสมานฉันท์ระหว่างประชาชนในหมู่บ้านด้วยกันเอง และประชาชนในหมู่บ้านกับทุกภาคส่วนภายนอกหมู่บ้าน ขจัดความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชนกับรัฐและระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ขจัดอคติและความเกลียดชังระหว่างประชาชนในสังคมพหุวัฒนธรรม เกิดความปลอดภัยและความมั่นใจในอำนาจรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว พัฒนาองค์กรในหมู่บ้านให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สามารถใช้อำนาจหน้าที่ได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งประชาชนในหมู่บ้านมีความสงบสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
|
|||||||||||||||||||||
27502 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนราษฎร์อุทิศกับถนนเลียบวารี พ.ศ. .... | มท | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนราษฎร์อุทิศกับถนนเลียบวารี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างถนนราษฎร์อุทิศกับถนนเลียบวารี ในท้องที่แขวงทรายกองดิน แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี และแขวงคู้ฝั่งเหนือ แขวงโคกแฝด แขวงหนองจอก แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27503 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | กษ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม และตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน การเก็บกักน้ำสำหรับพื้นที่การเกษตร การอุปโภคและบริโภค ตลอดจนการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27504 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27505 | รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2555 | ส.ส.ท | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ๒๕๕๕ ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ประกอบด้วย การประเมินเบื้องต้นประสิทธิภาพประสิทธิผลด้านการบริหารจัดการและการเงิน ด้านรายการ ด้านการทำงานกับภาคประชาสังคม การประเมินการใช้ประโยชน์จากความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากประชาชนและสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ การประเมินประสิทธิภาพของกลไกรับเรื่องร้องเรียน การประเมินการสนับสนุนจากประชาชนและความพึงพอใจของผู้รับชมหรือรับฟังรายการ ตลอดจนรายงานของผู้สอบบัญชี ส.ส.ท. ที่แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ มีสินทรัพย์หมุนเวียน ๒,๕๔๐,๙๑๑,๙๔๘.๕๙ บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ๒,๙๖๘,๐๒๐,๒๔๓.๐๒ บาท รวมเป็นสินทรัพย์ทั้งสิ้น ๕,๕๐๘,๙๓๒,๑๙๑.๖๑ บาท
|
|||||||||||||||||||||
27506 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27507 | ผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ครั้งที่ 5/2556 | นร11 | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานระยะต่อไปของกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติของคณะกรรมการส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กยอ. เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนฯ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ถึง ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖ มีการจำหน่ายกรมธรรม์ ๙๙๒,๑๙๒ ฉบับ โดยมีทุนประกันภัยพิบัติ ๘๕,๕๗๔ ล้านบาท เบี้ยประกันภัย ๖๔๘ ล้านบาท ทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนกองทุนฯ ๕๓,๖๘๒ ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อตามสัดส่วนกองทุนฯ ๔๖๖ ล้านบาท โดยสัดส่วนการรับประกันภัยแบ่งตามกลุ่มผู้เอาประกันภัย พบว่า กลุ่มบ้านและที่อยู่อาศัยมีสัดส่วนของการรับประกันภัยสูงสุดถึงร้อยละ ๙๒ รองลงมาคือ SMEs ร้อยละ ๗ และอุตสาหกรรม ร้อยละ ๑ ส่วนกลุ่มบ้านอยู่อาศัยมีสัดส่วนของทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนกองทุนฯ สูงสุดถึงร้อยละ ๕๘ อุตสาหกรรม ร้อยละ ๒๖ และ SMEs ร้อยละ ๑๖ สำหรับอุตสาหกรรมมีสัดส่วนของเบี้ยประกันภัยต่อตามสัดส่วนกองทุนฯ สูงสุดถึงร้อยละ ๔๔ รองลงมาคือ บ้านและที่อยู่อาศัย ร้อยละ ๓๖ และ SMEs ร้อยละ ๒๐ โดยอัตราการเติบโตของทุนประกันภัยต่อตามสัดส่วนกองทุนฯ เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๕ ๒. แนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไปของกองทุนฯ ได้แก่ การปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับประกันภัยของกองทุนฯ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น พิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับแต่ละกลุ่มลง โดยกองทุนฯ จะพิจารณาให้บริษัทประกันภัยรับประกันภัยไว้เองทั้งหมด หรืออาจให้บางส่วนประกันต่อให้กับกองทุนฯ และปรับบทบาท โดยกองทุนฯ ทำหน้าที่เหมือนบริษัทรับประกันภัยทั่วไป ๓. มอบหมายคณะกรรมการ กยอ. รับไปศึกษาทบทวนบทบาทและแนวทางการดำเนินการของกองทุนฯ ในระยะต่อไปเพิ่มเติม ได้แก่ การลงทุนเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในวงเงิน ๓๔๐,๐๐๐ ล้านบาท เนื่องจากยังไม่เห็นผลในทางปฏิบัติ กองทุนฯ ควรดำเนินการต่อเนื่องระยะหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และเมื่อการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยมีความชัดเจนและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว จึงควรพิจารณาทบทวนบทบาทความจำเป็นของกองทุนฯ ต่อไป นอกจากนี้ ควรมีการศึกษาทบทวนบทบาทและแนวทางการดำเนินงานของกองทุนฯ ในระยะต่อไปอย่างรอบคอบว่าควรจะยกเลิกหรือปรับบทบาทกองทุนฯ ในอนาคต ซึ่งการพิจารณาให้คำนึงถึงผลดี ผลเสีย รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนฯ ของภาครัฐที่มุ่งรักษาความมั่นคงของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้ได้รับความคุ้มครองภัยพิบัติอย่างทั่วถึง ซึ่งต่างจากวัตถุประสงค์ของบริษัทประกันภัยภาคเอกชน
|
|||||||||||||||||||||
27508 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บุคคลเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยให้เป็นไปตามลำดับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ๒. นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
|||||||||||||||||||||
27509 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | รง | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานด้วย ดังนี้
๑. รองนายกรัฐมนตรี (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นางปวีณา หงสกุล)
|
|||||||||||||||||||||
27510 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตดังกล่าวที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีข้อสังเกตว่า โดยที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการที่สำคัญเรื่องหนึ่งคือแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๘ เพื่อกำหนดให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้มีสิทธิที่จะได้รับบำนาญพิเศษเหตุทุพพลภาพได้รับบำนาญพิเศษเพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณามาตรา ๓๖ แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่เป็นบทบัญญัติกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่จะมีสิทธิได้รับบำนาญพิเศษไว้เป็นการเฉพาะให้ต้องเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นซึ่งได้รับอันตรายจนพิการเสียแขนหรือขา หูหนวกทั้งสองข้าง ตาบอดหรือได้รับการป่วยเจ็บ ซึ่งแพทย์ที่ทางราชการรับรองได้ตรวจแล้วและแสดงว่าถึงทุพพลภาพไม่สามารถจะรับราชการต่อไปได้อีก และเหตุนั้นจะต้องเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการปฏิบัติราชการในหน้าที่หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่ โดยมิได้รวมถึงกรณีที่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นนั้นยังคงรับราชการได้ต่อไป แม้จะเป็นผู้ประสบเหตุอันเนื่องมาจากการปฏิบัติราชการในหน้าที่หรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทำการตามหน้าที่เช่นเดียวกัน สมควรที่จะมีการพิจารณาดำเนินการปรับปรุงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นในกรณีดังกล่าวมีสิทธิที่จะได้รับบำเหน็จหรือบำนาญพิเศษเช่นเดียวกันต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
27511 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทวงพาณิชย์ด้วย ดังนี้
๑. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ๒. นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
|
|||||||||||||||||||||
27512 | การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู | นร04 | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ของนายโมอานา การ์กัซ คาโลซิล นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ของกระทรวงการต่างประเทศ และมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยสรุปผลการเยือนได้ ดังนี้
๑. นายกรัฐมนตรีวานูอาตูได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำ และการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการอุทกภัยเมื่อปี ๒๕๕๔ ของรัฐบาลไทย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ของวานูอาตูและกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาที่ประชากรจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด นอกจากนี้ ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความสำคัญของเจตจำนงทางการเมือง การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคด้านน้ำและสุขาภิบาล รวมทั้งการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการวางแผนและแก้ปัญหาด้านน้ำ ๒. นายกรัฐมนตรีวานูอาตูและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐวานูอาตู โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นสักขีพยาน ๓. นายกรัฐมนตรีวานูอาตูและนายกรัฐมนตรีของไทยได้หารือร่วมกันระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยนายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-วานูอาตูในทุกมิติ อาทิ การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน ความร่วมมือทางวิชาการ และความร่วมมือด้านการเกษตร ในส่วนของนายกรัฐมนตรีวานูอาตูเห็นว่า ประเทศไทยเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและโครงสร้างทางเศรษฐกิจของวานูอาตู โดยหวังว่า บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาระหว่างไทยกับวานูอาตูจะเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความรู้ด้านการพัฒนาระหว่างกัน รวมทั้งประสงค์ขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยในการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การจัดประชุมระหว่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่วานูอาตูจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Commonwealth Heads of Government Meeting (CHOGM) ในปี ๒๕๖๐ นอกจากนี้ ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนไทยในการลงสมัครสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๗-๒๐๑๘ และสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๑๗ ๔. กิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างการเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีวานูอาตู ได้แก่ การเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ การพบปะกับภาคเอกชนไทย การศึกษาดูงานเกี่ยวกับการแปรรูปและบรรจุข้าวเพื่อส่งออกของโรงงานบริษัท วรรณภพ จำกัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และการศึกษาดูงานการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism) ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
|
|||||||||||||||||||||
27513 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ให้เป็นเขตโครงการจัดรูปที่ดิน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
27514 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. .... | มท | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอได้ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
27515 | การมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติให้เดินทางไปราชการ และการจัดการประชุมของทางราชการ | นร04 | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติให้เดินทางไปราชการ และการจัดการประชุมของทางราชการ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. การอนุมัติการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร ๑.๑ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองประจำสายงานรองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง และที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีตามสายงานที่กำกับการบริหารราชการเป็นผู้อนุมัติแทนนายกรัฐมนตรี ๑.๒ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองปฏิบัติงานประจำสายงานนายกรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) เป็นผู้อนุมัติแทนนายกรัฐมนตรี ๑.๓ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัติแทนนายกรัฐมนตรี ๒. การรับทราบการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร ๒.๑ มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) เป็นผู้รับทราบการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักรของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนนายกรัฐมนตรี ๒.๒ มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีตามสายงานที่กำกับการบริหาราชการเป็นผู้รับทราบการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแทนนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
27516 | การติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนพฤษภาคม 2556 | นร04 | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการติดตามงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน ประจำเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖ ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ในขณะนั้น ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๘๑/๒๕๕๕ เรื่อง มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาล ลงวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีอาญาที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งในทางการเมือง การให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย) จากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง (พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๓) จำนวน ๒,๒๘๐ ราย และการเยียวยาแก่ผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย มีผู้ได้รับผลกระทบที่ลงทะเบียนไว้แล้ว จำนวน ๑๖,๒๘๖ ราย ๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ๗ แผนงานหลัก ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน จำนวน ๖๖,๘๙๔ หมู่บ้าน/ชุมชน (ร้อยละ ๗๙.๓๓) และการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดโดยการนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาทั้ง ๓ ระบบ จำนวน ๒๓๘,๘๗๔ ราย (ร้อยละ ๗๙.๖๒) และการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้แก่นักเรียน ป.๕ และ ป.๖ จำนวน ๑,๐๔๗,๓๙๙ ราย (ร้อยละ ๖๙.๘๓) ๓. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการ ๕ ประการ คือ การปลูกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ การพัฒนาองค์กร การตรวจสอบเฝ้าระวังเชิงรุก การปราบปรามที่จริงจังและการลงโทษที่เข้มงวด และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๔. ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติได้ดำเนินโครงการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ๘ ลุ่มน้ำ และพื้นที่ลุ่มน้ำอื่น ๆ ๑๗ ลุ่มน้ำ ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน โดยการจัดการน้ำชลประทาน การจัดหาแหล่งน้ำ สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจ และการก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ๑๐ โครงการ การวางแผนจัดสรรน้ำทั่วประเทศในช่วงฤดูแล้งปี ๒๕๕๕/๒๕๕๖ การวางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง การพัฒนาแหล่งน้ำชุมชน การก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน และการปฏิบัติการฝนหลวง ๕. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้บูรณาการในการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การจัดทำโครงการและกิจกรรมตามนโยบายและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ภายใต้วัตถุประสงค์ ๙ ข้อ ได้แก่ การเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกคนในพื้นที่ดำรงชีวิตได้ปกติสุข การขจัดและป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขที่หล่อเลี้ยงและเอื้อต่อการใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย การเสริมสร้างความเข้าใจและฟื้นความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชนและระหว่างประชาชนด้วยกันให้เกิดความร่วมมือในการพร้อมเผชิญปัญหาร่วมกัน ฯลฯ ๖. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ กระทรวงการต่างประเทศรายงานการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและการประชุมทวิภาคีระดับสูงกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในอาเซียนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การประชุมในกรอบอาเซียน การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงและการประชุมทวิภาคีระดับสูงกับประเทศที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และเป็นตลาดใหม่ เป็นต้น ๗. เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดำเนินการเร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งมีสถิติการท่องเที่ยวจากต่างประเทศใน ๒ ไตรมาส เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๑.๒๘ และได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยผ่านทางสื่อโฆษณาต่าง ๆ ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อกลางแจ้ง และสื่อดิจิตอล ประมาณ ๒,๓๒๘ ครั้ง ๘. สนับสนุนการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อการสร้างเอกลักษณ์และการผลิตสินค้าในท้องถิ่น (OTOP และ SMEs) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรมหลายประการ ได้แก่ การจัดงาน OTOP Midyear 2013 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี และการจำหน่ายสินค้า OTOP ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ๙. เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง กระทรวงมหาดไทยได้จัดการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โครงการจัดเวทีการพูดจาหาทางออกประเทศไทย และการสนับสนุนการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย
|
|||||||||||||||||||||
27517 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย | มท | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง (๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. ให้นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก) และแต่งตั้งให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์) ๒. ให้นายสมบัติ รัตโน ออกจากตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก) และแต่งตั้งให้นางสาวเพ็ญชิสา หงษ์อุปถัมภ์ชัย ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์)
|
|||||||||||||||||||||
27518 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ศาสตราจารย์ธเนศวร์ เจริญเมือง ฯ) | ศธ | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. ศาสตราจารย์ธเนศวร์ เจริญเมือง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒. นายมานะ คงวุฒิปัญญา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๓. นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๔. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
|
|||||||||||||||||||||
27519 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับหน่วยข่าวกรองทางการเงินประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | ปง | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงาน ปปง. จัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) เรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับหน่วยข่าวกรองทางการเงินประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวีดยนาม (The State Bank of Vietnam) โดยมีข้อแก้ไขเพียงเล็กน้อย จากหัวข้อบันทึกข้อตกลงให้เปลี่ยนแปลงจาก (CONCERNING CO-OPERATION IN THE EXCHANGE OF FINANCIAL INTELLIGENCE RELATED TO MONEY LAUNDERING) “ความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน” เป็นคำว่า (ON EXCHANGE OF INFORMATION CONCERNING MONEY LAUNDERING) “การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน” ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหัวข้อบันทึกข้อตกลงดังกล่าวไม่กระทบต่อสารัตถะของเนื้อหาแต่ประการใด โดยเนื้อหาของร่างบันทึกข้อตกลงฯ คงเดิมทุกประการ คือ เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมทางการเงินกับคู่ภาคี ๑.๒ ให้เลขาธิการ ปปง. เป็นผู้ลงนาม MOU ฝ่ายไทย ๑.๓ ให้สำนักงาน ปปง. ใช้ดุลยพินิจแก้ไขได้โดยมิต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก หากเป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อยที่ไม่กระทบต่อสารัตถะของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ๒. ให้สำนักงาน ปปง. รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่ขอปรับแก้ร่างถ้อยคำในส่วนลงนาม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
27520 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) | กค | 19/07/2556 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ ๐.๐๐๕ โดยน้ำหนัก ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๔ ในอัตราภาษี ๐.๐๐๕ บาทต่อลิตร ออกไปอีก ๑ เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....