ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1378 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 27541 - 27560 จากข้อมูลทั้งหมด 124229 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27541 | สรุปรายงานผลการดำเนินงาน "พูดจาหาทางออกประเทศไทย 108 เวที" | นร | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานผลการดำเนินการจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” ๑๐๘ เวที ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖-๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ตามที่คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ลักษณะปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว ได้แก่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ความเข้าใจประชาธิปไตยที่แตกต่าง โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกรณีปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว มาจากการทุจริตคอร์รัปชัน การกระจายอำนาจของรัฐไม่มีประสิทธิภาพ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม (การแบ่งชนชั้น) ยาเสพติด ไม่ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจ ปากท้อง ความเป็นอยู่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ (คนรวย คนจน) การมีระบบอุปถัมภ์และความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษา สำหรับข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขความขัดแย้ง กรณีปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาว ต้องแก้ไขการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง กระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง การกระจายความเจริญไปสู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปแบบ ร่วมสร้างจิตสำนึกในหน้าที่ของตนเอง เปิดโอกาสให้มีการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตย ๒. ลักษณะปัญหาเฉพาะหน้า ได้แก่ ปัญหาความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรม สังคมขาดองค์ความรู้ในการจัดการความขัดแย้งและสันติวิธี ความขัดแย้งแบบเดิมพันสูง ตุลาการภิวัฒน์ การแทรกแซงองค์กรอิสระ การกล่าวอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง การรัฐประหาร และบทบาทของทหารในการจัดการความขัดแย้ง และการขยายตัวของสื่อการเมืองและสื่อบุคคล (สื่อเลือกข้าง) โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง กรณีปัญหาเฉพาะหน้า มาจากความขัดแย้งทางการเมืองและนักการเมือง การใช้อำนาจของรัฐที่ไม่เป็นธรรม ความแตกแยกทางความคิด การใช้ความรุนแรง ความไม่เป็นธรรมของกฎหมาย การไม่จัดการความขัดแย้ง/ปล่อยให้ความขัดแย้งบานปลาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การกล่าวอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ การรัฐประหารการแทรกแซงองค์กรอิสระ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย และการทำหน้าที่ของศาล สำหรับข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง กรณีเฉพาะหน้า ต้องแก้ไขโดยไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้กำลังในการตัดสินปัญหา งดการชุมนุม หยุดการเคลื่อนไหวปลุกระดมทางการเมือง ส่งเสริมให้มีกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีของคนในชาตินักการเมืองเจรจาร่วมกันเพื่อหาทางออก ส่งเสริมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี เมตตาและปรารถนาดีต่อกัน จัดเวทีหรือช่องทางให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น แก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและรับผิดชอบต่อการนำเสนอที่ผิดพลาด และการบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
27542 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 7 ราย 1. นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ฯลฯ) | กษ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมประมง ๒. นายวิมล จันทรโรทัย ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางจิราวรรณ แย้มประยูร ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายอนันต์ ลิลา ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ๕. นายอภิชาต จงสกุล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมพัฒนาที่ดิน ๖. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมหม่อนไหม ๗. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
|
||||||||||||||||||||||||
27543 | การแต่งตั้งคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 19 (จำนวน 14 คน 1. นายอาทิตย์ อิสโม ฯลฯ) | รง | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ ๑๙ จำนวน ๑๔ คน ประกอบด้วยกรรมการผู้แทนฝ่ายรัฐบาล จำนวน ๔ คน กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และลูกจ้าง ฝ่ายละ ๕ คน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอาทิตย์ อิสโม ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๒. นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๓. นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๔. นายประโยชน์ เพ็ญสุต ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๕. นายสมพงศ์ นครศรี ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๖. นายปัณณพงศ์ อิทธิ์อรรถนนท์ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๗. นายวัลลภ กิ่งชาญศิลป์ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๘. นายอรรถยุทธ ลียะวณิช ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๙. นายสุเทพ ศรีเพียร ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑๐. นายชยรบ ใหญ่สูงเนิน ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑๑. นายประจวบ พิกุล ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑๒. นายสมบัติ น้อยหว้า ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑๓. นายมานะ จุลรัตน์ ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑๔. นายสุรเดช ชูมณี ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง
|
||||||||||||||||||||||||
27544 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ฯลฯ) | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมศุลกากร ๒. นายสุทธิชัย สังขมณี ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสรรพากร ๓. นายสาธิต รังคสิริ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
27545 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ | วท | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายทวีศักดิ์ กออนันตกูล เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นวาระที่สอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27546 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (นายสุวัช เซียศิริวัฒนา) | สธ | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายสุวัช เซียศิริวัฒนา ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ส่วนค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖)
|
||||||||||||||||||||||||
27547 | การแต่งตั้งและถอดถอนประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง | มท | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง จำนวน ๕ คน ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวงแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน ๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. ให้นายศุภชัย จงศิริ นายโชคชัย เดชอมรธัญ นายชาย พานิชพรพันธุ์ พลเอก อธิชาติ เจริญยิ่ง และนายประเสริฐ เกษมโกเมศ ออกจากตำแหน่งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง ๒. แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวงแทนในตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้ ๒.๑ นายสมัย อนุวัตรเกษม ประธานกรรมการ ๒.๒ นายสมิทธิ ดารากร ณ อยุธยา กรรมการอื่น ๒.๓ นายสงวน ตรีเจริญวิวัฒน์ กรรมการอื่น ๒.๔ นายเอกราช ช่างเหลา กรรมการอื่น
|
||||||||||||||||||||||||
27548 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๓ (สมัยสามัญทั่วไป) วันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ และครั้งที่ ๔ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ และครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ ๒. ให้มีการถ่ายทอดการประชุมร่วมกันของรัฐสภาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ วรรคสอง มาตรา ๑๑๗ มาตรา ๑๑๘ มาตรา ๑๒๐ และมาตรา ๒๔๑ วรรคหนึ่ง และยกเลิกมาตรา ๑๑๓ และมาตรา ๑๑๔) ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว (ค้างการพิจารณาในร่างมาตรา ๓) ตั้งแต่วันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ จนกว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
|
||||||||||||||||||||||||
27549 | การแก้ไขปัญหาราคายางพารา | นร04 | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) รายงานว่า ได้มีเกษตรกรที่อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของราคายางพารา และได้มีการปิดเส้นทางการจราจรบริเวณแยกควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และได้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนเกษตรกรแล้ว ซึ่งบางกลุ่มเข้าใจและยอมรับแนวทางแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบของ กนย. แต่ยังมีบางกลุ่มซึ่งไม่ยอมรับข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ๒. เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหายางพาราบรรลุผลสำเร็จอย่างยั่งยืน จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) นำแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราตามผลการพิจารณาของ กนย. เสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๑ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ยึดแนวทางการแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบของกฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการชุมนุมของเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนและการบริการด้านสาธารณะ รวมทั้งให้คำชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของภาครัฐอย่างทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
27550 | การประชุมคณะรัฐมนตรี (วันอังคารที่ 3 กันยายน 2556) | นร | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปราชการต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างวันที่ ๒-๓ กันยายน ๒๕๕๖ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล) และรองนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ร่วมเดินทางไปด้วย ดังนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๖ รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) จะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน ทั้งนี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี)
|
||||||||||||||||||||||||
27551 | ผลสรุปจากการประชุมหารือแลกเปลี่ยนและให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย พัฒนาประชาธิปไตยและประเทศร่วมกัน | นร04 | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีรายงานว่าได้เข้าร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนและให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอทางออกประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ นักวิชาการ ตัวแทนภาคเอกชนและประชาชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกคนจะได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ร่วมกัน รวมทั้งการสะท้อนปัญหาต่าง ๆ เพื่อร่วมกันหาทางออกประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจนของประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพ กลไกการดำเนินงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันภายใต้มาตรฐานที่เป็นสากล และเป็นที่ยอมรับ และประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งจะมีการนำผลการศึกษาของทุกสถาบันที่ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการหาทางออกประเทศไทยไว้แล้ว มาประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ได้เสนอแนวทางศึกษาการปฏิรูปประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น ๓ ด้าน ได้แก่ การปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยให้ประชาชนและกลุ่มองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมทุกระดับในการพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในแต่ละด้าน และนำมาเชื่อมโยงและบูรณาการร่วมกันเพื่อให้สามารถวางกรอบยุทธศาสตร์ที่นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งได้ขอให้อดีตนายกรัฐมนตรี (นายบรรหาร ศิลปอาชา) เป็นผู้เชื่อมโยงประสานงานกับทุกฝ่ายในการศึกษาการขับเคลื่อนการดำเนินงานปฏิรูปทั้ง ๓ ด้าน ดังกล่าวต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
27552 | ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร09 | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
27553 | ผลการเยือนสาธารณรัฐทาจิกิสถานและสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน | นร04 | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีรายงานผลการเยือนสาธารณรัฐทาจิกิสถานและสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเยือนสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ได้มีการลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/หนังสือเดินทางพิเศษ และได้เข้าร่วมประชุม High-Level International Conference on Water Cooperation ซึ่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับสหประชาชาติ (UN) โดยในการประชุมได้พิจารณาในภาพรวมของการบริหารจัดการน้ำ นับตั้งแต่การจัดการภัยพิบัติน้ำท่วม น้ำแล้ง การจัดการให้มีแหล่งน้ำสะอาด การเข้าถึงแหล่งน้ำโดยเท่าเทียมกัน และการจัดสรรทรัพยากรน้ำ เนื่องจากสาธารณรัฐทาจิกิสถานเป็นประเทศที่อยู่ต้นน้ำ จึงจำเป็นต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการจัดสรรทรัพยากรน้ำอย่างเป็นธรรมและเสมอภาคเพื่อให้มีระบบเชื่อมโยงไปยังประเทศอื่น ๆ ในระดับภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยสามารถนำแนวทางดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการน้ำในประเทศให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น และนำไปสู่ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป ๒. การเยือนสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประสานความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และส่งเสริมความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) ไทย-ปากีสถาน และได้มีการลงนามเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการค้าไทย-ปากีสถาน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ปากีสถานในลักษณะการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง รวมทั้งได้หารือกับนายกรัฐมนตรีปากีสถานในประเด็นความร่วมมือทวิภาคีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับรัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
|
||||||||||||||||||||||||
27554 | ร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุรา พ.ศ. .... | กค | 27/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. ๒๔๙๓ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสุราเพื่อกำหนดวิธีการจัดเก็บภาษีสุราให้เหมาะสม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. สำหรับการออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุราในจำนวนเท่าใด ให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงหลักความเป็นธรรมในการรับภาระภาษีดังกล่าว และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในภาพรวม รวมถึงการจูงใจในการให้ผู้บริโภคลดหรือเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ การเสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ให้ประสานกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อให้พระราชกำหนดและกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับอย่างมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||
27555 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย 1. นายอภิชาติ จีระวุฒิ ฯลฯ) | ศธ | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. แต่งตั้งนางสุทธศรี วงษ์สมาน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. แต่งตั้งนายอภิชาติ จีระวุฒิ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. รับโอนและแต่งตั้งนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรง ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||
27556 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร04 | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญทั่วไป) วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ๒. ให้มีการถ่ายทอดการประชุมร่วมกันของรัฐสภาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ วรรคสอง มาตรา ๑๑๗ มาตรา ๑๑๘ มาตรา ๑๒๐ และมาตรา ๒๔๑ วรรคหนึ่ง และยกเลิกมาตรา ๑๑๓ และมาตรา ๑๑๔) ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ตั้งแต่วันอังคารที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ จนกว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จ
|
||||||||||||||||||||||||
27557 | การให้ความช่วยเหลือคนไทยจากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ | นร04 | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเสนอการให้ความช่วยเหลือคนไทยจากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมือง ณ กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนรวมทั้งนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์แจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทย โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือในกรณีต่าง ๆ เช่น กรณีที่นักศึกษาจะกลับมาศึกษาต่อในประเทศไทย หรือกลับไปศึกษาต่อที่สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ การช่วยเหลือค่าครองชีพและที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่ขาดแคลนในระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งการเดินทางกลับเมื่อสถานการณ์ในสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์คลี่คลายและสงบลงแล้วอย่างใกล้ชิดและทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
27558 | การดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 ตามโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซล ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน ๓,๑๘๓ คัน เพื่อนำมาทดแทนรถโดยสารเดิมที่ใช้น้ำมันดีเซลขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การจัดซื้อรถโดยสาร NGV จำนวน ๓,๑๘๓ คัน ขสมก. จะดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี แบ่งการประมูลเป็น ๘ กลุ่ม โดยจะแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR) ร่างเอกสารการประกวดราคาและนำเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ ขสมก. และกรมบัญชีกลาง เพื่อให้สาธารณชนเสนอแนะ วิจารณ์ให้ความเห็น รวมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และคณะกรรมการตรวจรับ ๒. การจัดระบบเส้นทางเดินรถ และการปรับอัตราค่าโดยสาร กระทรวงคมนาคมได้แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อศึกษากำหนดแนวทางการพัฒนาระบบรถโดยสารประจำทางโดยภาพรวมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจัยแวดล้อมการคมนาคมขนส่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาดำเนินงานจัดทำรายงานข้อสรุปผลการศึกษาวิเคราะห์ในเบื้องตันของคณะทำงานดังกล่าว นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำโครงการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม โดยมีขอบเขตเนื้องานบางส่วนครอบคลุมถึงประเด็นการจัดทำนโยบายและแผนการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วโดยสาร การจัดเก็บค่าโดยสารในปัจจุบันสำหรับระบบขนส่งมวลชนและระบบขนส่งทางบกในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การกำหนดอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะและการเชื่อมต่อ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสรุปผลการศึกษาการจัดระบบเส้นทางเดินรถและการปรับอัตราค่าโดยสารได้ประมาณเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ ๓. การใช้พลังงานทางเลือก ขสมก. เห็นว่าก๊าซธรรมชาติมีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถโดยสารที่จัดหาใหม่ เนื่องจากรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติมีจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในหลายประเทศ และมีใช้ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก การซ่อมบำรุงรักษาจึงสามารถหาผู้ซ่อมบำรุงรถโดยสารได้ไม่ยาก ทำให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและการซ่อมบำรุงรักษาต่ำกว่าการใช้รถโดยสารที่ใช้พลังงานทางเลือกอื่น การใช้รถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติจึงมีความเหมาะสมทั้งในด้านต้นทุนการจัดหา ต้นทุนการเดินรถโดยสาร รวมทั้งสภาพแวดล้อม
|
||||||||||||||||||||||||
27559 | รายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. 2555 | นร12 | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายงานการพัฒนาระบบราชการไทย ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป โดยสาระสำคัญของรายงานฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาระบบราชการไทยตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. ๒๕๕๑-พ.ศ. ๒๕๕๕) บรรลุเป้าหมายในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนใหญ่มีผลการดำเนินการสูงกว่าค่าเป้าหมาย เช่น ประชาชนมีความพึงพอใจในระบบราชการ ร้อยละ ๘๒.๖๕ ส่วนราชการมีการปรับปรุงรูปแบบหรือวิธีการทำงาน ร้อยละ ๘๙.๕๐ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐยังไม่สามารถบรรลุตามค่าเป้าหมายการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ในการบริการประชาชน ดังนั้น ควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้บริการประชาชน ผ่านรูปแบบของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามาใช้ให้บริการประชาชนมากขึ้น ๒. ความก้าวหน้าของการพัฒนาระบบราชการไทย ๒.๑ ผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการจากการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ การปฏิบัติราชการของกระทรวง กรม จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา และองค์การมหาชน มีผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองฯ ที่สูงกว่าค่าเป้าหมาย โดยส่วนราชการมีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมค่อนข้างสูงซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมาย ในส่วนของจังหวัดในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน สถาบันอุดมศึกษาในภาพรวมมีผลคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเป้าหมาย รวมทั้งองค์การมหาชนในภาพรวมการปฏิบัติงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ๒.๒ การผลักดันการพัฒนาระบบราชการไทย ในรอบปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ๒.๒.๑ การสนับสนุนให้มีการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน การมอบรางวัลระดับชาติให้แก่หน่วยงานที่มีนวัตกรรมหรือมีพัฒนาการในการบริการประชาชน และสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการให้บริการ (e-Services) พร้อมทั้งเผยแพร่ผลงานการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ๒.๒.๒ การปรับรูปแบบการทำงานให้มีลักษณะเชิงบูรณาการ และเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ปรับกลยุทธ์การบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ การพัฒนาและส่งเสริมให้มีการแข่งขันในการจัดบริการสาธารณะและการเปิดให้องค์กรในภาคส่วนอื่นเสนอตัวเข้ามาให้บริการของรัฐ การส่งเสริมการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม และความร่วมมือการทำงานในลักษณะเครือข่าย รวมทั้งปรับปรุงระบบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการให้เกิดการบูรณาการการทำงานระหว่างกระทรวง ๒.๒.๓ การปรับปรุงบทบาท ภารกิจ และโครงสร้างของส่วนราชการ เพื่อเปิดให้ภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความพร้อมเข้ามาจัดบริการสาธารณะแทนภาครัฐ การพัฒนาเสริมสร้างขีดสมรรถนะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระบบราชการ ทั้งกลุ่มผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Chief Change Officer : CCO) กลุ่มพัฒนาระบบบริหารของกระทรวงและกรม และนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกการบริหารองค์การมหาชน เพื่อให้องค์การมหาชนมีแนวทางในการปฏิบัติงานตามคำรับรองการปฏิบัติงานตามกรอบการประเมินผลที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับองค์การมหาชนสู่สาธารณะ นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมผลักดันให้ภาครัฐมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน และการรับมือกับสภาวะวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้การปฏิบัติงานของภาครัฐสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุดหยุดลง ๒.๒.๔ การสร้างระบบการกำกับดูแลตนเองที่ดี เกิดความโปร่งใส มั่นใจ และสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งทำให้บุคลากรปฏิบัติงานอย่างมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อประชาชน และต่อสังคมโดยรวม ทั้งการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การสร้างการกำกับดูแลองค์การที่ดีของส่วนราชการ การจัดทำแผนการส่งเสริมและพัฒนาธรรมาภิบาลในภาคราชการเพื่อการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมระบบการตรวจสอบที่ให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับจากหน่วยงานผ่านทางคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ |
||||||||||||||||||||||||
27560 | สรุปผลการดำเนินงานเรื่อง ผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | อก | 20/08/2556 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแนวทางความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีในการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนและอุตสาหกรรมผลิตอะไหล่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ประเทศไทยควรผลิตพลังงานทดแทนที่มีวัตถุดิบในประเทศมากเพื่อทดแทนน้ำมันและลดการพึ่งพา รวมทั้งเพิ่มความต้องการใช้พลังงานทดแทนในประเทศ เช่น การนำพลังงานทดแทนมาแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถไฟฟ้าสาธารณะหรือรถไฟฟ้าส่วนบุคคล การพัฒนาหรือแปรรูปเป็นพลังงานชนิดใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือในภาคครัวเรือน ๑.๒ กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันลดอุปสรรคที่ไม่เอื้อต่อการสนับสนุนพลังงานทดแทนในประเทศลงและปรับปรุงนโยบาย/กฎระเบียบเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อนักลงทุน ๑.๓ ควรมีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนและการผลิตอะไหล่ เพื่อหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับประเทศไทยและตรงกับความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงวิจัยเพื่อหาพลังงานทดแทนชนิดใหม่ ๆ หรือหาเทคโนโลยีในการพัฒนาวัสดุศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรมการผลิตอะไหล่ รวมทั้งเพิ่มการให้สิทธิประโยชน์เป็นกรณีพิเศษในรูปแบบที่เหมาะสมแก่นักลงทุนที่เข้ามาร่วมทำวิจัยหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ผลิตในประเทศโดยยอมรับเงื่อนไขของไทยอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพผู้ผลิตของไทยให้ได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้ ควรมีการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกันเพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง ๒ ฝ่าย ๑.๔ ควรให้การส่งเสริมโดยให้สิทธิประโยชน์เป็นกรณีพิเศษแก่นักลงทุนต่างประเทศตามสัดส่วนมูลค่าการใช้วัตถุดิบ/ชิ้นส่วนในประเทศที่พัฒนาจนได้มาตรฐานสากลแล้ว เพื่อสร้างบรรยากาศในการลงทุนและจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจใช้วัตถุดิบ/ชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มขึ้น และเพื่อลดข้ออ้างทางการค้าที่ประเทศที่มีวัฒนธรรมชาตินิยมมักนำมาอ้าง รวมทั้งควรส่งเสริมและให้โอกาสแก่นักลงทุนจากต่างประเทศเท่าเทียมกันทุกประเทศ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เห็นควรระมัดระวังการกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์ที่อาจขัดต่อพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก อาทิ การกำหนดเงื่อนไขส่งเสริมการลงทุน/การรับสิทธิประโยชน์ที่เชื่อมโยงกับการกำหนดสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content Requirement) หรือการเลือกปฏิบัติระหว่างสินค้าที่ผลิตในประเทศกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ หรือการเลือกปฏิบัติต่อสินค้าที่นำเข้าจากแหล่งประเทศต่าง ๆ ส่วนประเด็นปัญหาอุปสรรคจากกฎระเบียบของรัฐ ปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการลงทุน หากภาครัฐลดกฎระเบียบหรือลดขั้นตอนต่าง ๆ หรือกระชับขั้นตอนบางส่วนที่เป็นอุปสรรคลง อาจเป็นสาเหตุให้ประเทศคู่ค้าอื่นของไทยมองว่าประเทศไทยใช้ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมาเอื้ออำนวยประโยชน์ทางการค้าและอาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้า จึงควรเลือกการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยจากสาธารณรัฐเกาหลีมาใช้ประโยชน์มากกว่า นอกจากนี้ การลงทุนผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ อะไหล่ ชิ้นส่วนยานยนต์ ควรมีความร่วมมือในการพัฒนาหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพภายในประเทศและการรับรองผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....