ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1209 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 24161 - 24180 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24161 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Irrigation Forum ครั้งที่ 2 และการประชุม International Executive Council Meeting ครั้งที่ 67 ในปี พ.ศ. 2559 | กษ | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ ๒ (The 2nd World Irrigation Forum) และการประชุมมนตรีฝ่ายบริหารประเทศ ครั้งที่ ๖๗ (The 67th IEC Meeting) ระหว่างวันที่ ๖-๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ๑.๒ งบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับเตรียมการจัดประชุมและดำเนินการจัดประชุมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๐ จำนวน ๕๘,๕๑๕,๔๔๐ บาท ๑.๓ แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดการประชุมชลประทานโลก ครั้งที่ ๒ และการประชุมมนตรีฝ่ายบริหารระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๖๗ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ (The 2nd World Irrigation Forum and The 67th IEC Meeting) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับเตรียมการประชุมและดำเนินการจัดประชุมในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้กรมชลประทานดำเนินการภายในกรอบวงเงิน จำนวน ๕๘,๕๑๕,๔๔๐ บาท โดยเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดประชุมหรือการเข้าร่วมประชุมทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศจะต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สารัตถะเชิงรุกในทุกมิติ และประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ เพื่อมิให้สูญเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอประเด็นต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และการบริหารจัดการเพื่อใช้ประโยชน์แหล่งน้ำร่วมกันในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งผลงานการบริหารจัดการน้ำของไทยในช่วง ๖๐ ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24162 | การเข้าเป็นภาคีความตกลงว่าด้วยไม้เขตร้อนระหว่างประเทศ ค.ศ. 2006 | ทส | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงว่าด้วยไม้เขตร้อนระหว่างประเทศ ค.ศ. ๒๐๐๖ (International Tropical Timber Agreement 2006 : ITTA 2006) และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ๑.๒ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงว่าด้วยไม้เขตร้อนระหว่างประเทศ ค.ศ. ๒๐๐๖ (ITTA 2006) ต่อไป ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าสมาชิกรายปี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบเงินอุดหนุน รายการค่าสมาชิกองค์การไม้เขตร้อนระหว่างประเทศ จำนวน ๑,๙๕๓,๖๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้กรมป่าไม้เสนอขอตั้งงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการไปประชุมในคณะมนตรีองค์การไม้เขตร้อนระหว่างประเทศควรต้องมีการจัดเตรียมประเด็นท่าทีของไทยในการเจรจา กำหนดวัตถุประสงค์และประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับ รวมทั้งผลกระทบในการดำเนินการของไทย โดยที่ประเทศไทยไม่เสียเปรียบหรือประเทศอื่นได้เปรียบ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยมักจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการไปเจรจาเนื่องจากไม่มีข้อมูลและไม่ได้มุ่งผลเป็นรูปธรรม ไปประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24163 | การเพิ่มวงเงินบริจาคโดยสมัครใจให้แก่องค์การเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) | พม | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบเพิ่มจำนวนเงินบริจาคโดยสมัครใจรายปีให้แก่องค์การเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) จำนวนเงินปีละ ๒๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ เป็นต้นไป เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของสตรีและการพัฒนาศักยภาพของสตรีซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ในการดำเนินงานต่อไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ไว้แล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24164 | ร่างรายงานการอนุวัติอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ฉบับที่ 6 - 7 (ฉบับรวม) (พ.ศ. 2546 - 2553) | พม | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างรายงานการอนุวัติอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women : CEDAW) ฉบับที่ ๖-๗ (ฉบับรวม) (พ.ศ. ๒๕๔๖-๒๕๕๓) ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติได้มีมติเห็นชอบแล้วในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ โดยร่างรายงานฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรายงานความก้าวหน้า และข้อท้าทายในภาพรวมในการดำเนินการตาม CEDAW ได้แก่ มาตรการ นโยบายเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี การประกันสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน มาตรการพิเศษชั่วคราว บทบาทและเจตคติทางเพศ การค้าหญิงและการแสวงหาประโยชน์จากผู้หญิง การเมืองและราชการ การเป็นผู้แทนและการมีส่วนร่วมในระดับนานาชาติ การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสัญชาติ การรายงานเกี่ยวกับการศึกษา การจ้างงาน สุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม สตรีในชนบท ความเสมอภาคทางกฎหมาย และสิทธิเกี่ยวกับการสมรสและครอบครัว ๑.๒ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดส่งรายงานฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อเสนอต่อสหประชาชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เร่งรัดจัดทำรายงานฉบับต่อไปให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ปรับปรุงข้อมูลในรายงานดังกล่าวให้ชัดเจน ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันเพื่อเสนอต่อสหประชาชาติต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24165 | การดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | คค | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ โดยได้มีการประชุมร่วมกัน ๓ ครั้ง และได้ข้อสรุปที่ต้องดำเนินการต่อไปในแต่ละประเด็น คือ การแบ่งช่วงดำเนินการ รูปแบบความร่วมมือ ขอบเขตการดำเนินงานของแต่ละฝ่าย และแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยกับคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Memorandum of Cooperation) โดยเห็นชอบในหลักการ เช่น ฝ่ายไทยจะรับผิดชอบการเวนคืนที่ดินและการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และฝ่ายจีนจะรับผิดชอบด้านการศึกษา (สำรวจและออกแบบ) ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวในสัดส่วนของแต่ละฝ่ายไปพลางก่อน โดยค่าใช้จ่ายนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวงเงินลงทุนของโครงการ และทั้งสองฝ่ายจะร่วมดำเนินการสำรวจและออกแบบโครงการรถไฟ เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ เป็นต้น และทั้งสองฝ่ายกำหนดที่จะประชุมครั้งที่ ๔ ณ เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๖-๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ๒. เห็นชอบในหลักการร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยกับคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Memorandum of Cooperation) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงนามในบันทึกความร่วมมือฯ ๓. เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ๔. ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณซึ่งจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามกำลังเงินของประเทศต่อไป ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ๕. ในขั้นตอนการดำเนินการของฝ่ายไทยที่รับผิดชอบในการเวนคืนที่ดิน หากจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนหรือวิธีการตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์โดยตราเป็นกฎหมาย นั้น ให้กระทรวงคมนาคมนำบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมของไทยกับคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Memorandum of Cooperation) และ/หรือเอกสารบันทึกความร่วมมืออื่นที่เกี่ยวข้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญต่อไป ๖. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรกำหนดให้มีการเพิ่มข้อความการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของไทยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในประเด็นการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินโครงการ รูปแบบการลงทุน การจัดหาแหล่งเงิน และการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ และเร่งจัดทำรายงานการศึกษาความเหมาะสมของโครงการตลอดแนวเส้นทางโดยให้ความสำคัญกับการกำหนดรูปแบบการให้บริการ การกำหนดมาตรฐานทางเทคนิคและวงเงินลงทุนของโครงการ แผนธุรกิจการให้บริการโครงการ รูปแบบทางเลือกในการลงทุน ความพร้อมของบุคลากรในการบริหารจัดการระบบรถไฟขนาดทางมาตรฐาน ตลอดจนผลกระทบต่อฐานะการเงิน และเร่งพิจารณาเสนอแนวทางการบริหารจัดการระบบรางของประเทศทั้งระบบให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา รวมทั้งการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารจัดการระบบราง เพื่อให้การกำหนดหน่วยงานเจ้าของโครงการ (ฝ่ายไทย) ในการบริหารกิจการรถไฟขนาดทางมาตรฐานมีความชัดเจนและสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมของรัฐบาลไทย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24166 | การบริหารโครงการลงทุนภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | กค | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้เกินกรอบระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ โดยให้สัตยาบันการดำเนินการและเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒ สำหรับโครงการเพิ่มทุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระยะที่ ๒ ของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ได้ดำเนินการไปแล้ว วงเงิน ๑๑๖.๐๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ๑.๑.๑ การเบิกจ่ายเงินให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระยะที่ ๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๒ ที่ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ วงเงิน ๗๓.๖๐ ล้านบาท ๑.๑.๒ การเบิกจ่ายเงินให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระยะที่ ๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ ที่ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงิน ๔๒.๔๐ ล้านบาท ๑.๒ การจัดสรรเงินสำรองจ่าย จำนวน ๓ หน่วยงาน วงเงิน ๑๙,๐๒๘,๐๒๔.๖๗ บาท ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๕ รายการ วงเงิน ๑,๐๖๕,๓๕๓.๐๐ บาท กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน ๓ รายการ วงเงิน ๒,๙๕๐,๖๗๑.๖๗ บาท และมหาวิทยาลัยนเรศวร กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน ๑ รายการ วงเงิน ๑๕,๐๑๒,๐๐๐.๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงการคลัง สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่เห็นควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และหากมีเงินเหลือ ก็ให้เร่งนำเงินส่งคืนบัญชีแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ต่อไป และให้เร่งรัดดำเนินโครงการและเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งการดำเนินการทุกขั้นตอน การปฏิบัติจะต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24167 | การปรับแผนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ ของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง | กค | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๑.๑ อนุมัติในหลักการในการปรับแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับการดำเนินงานของโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตภายในกรอบวงเงินงบประมาณ ๑๕,๙๕๒.๙๖ ล้านบาท ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไว้แล้ว โดยมีข้อสังเกต ดังนี้ ๑.๑.๑ เนื่องจากแผนการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยของพนักงานมีวงเงินการดำเนินการที่เปลี่ยนแปลงไปจากวงเงินที่ได้รับอนุมัติไว้เดิมค่อนข้างสูง แม้จะเป็นการเพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงานแต่ควรพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม ไม่เป็นภาระต่อค่าใช้จ่ายของโรงงานยาสูบฯ ในระยะยาว โดยอาจดำเนินการจัดสวัสดิการรถรับส่งพนักงานตามจุดแวะรับเส้นทางหลัก และอาจมีสวัสดิการจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือสวัสดิการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับพนักงานเพื่อซื้อบ้านบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ควรมีมาตรการในการกำกับดูแลการเข้าพักอาศัยให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดสวัสดิการและเกิดประโยชน์กับพนักงานที่มีความจำเป็น ๑.๑.๒ จากการทบทวนกระบวนการจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ โดยการนำเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมมาซ่อมแซมหรือปรับปรุงใหม่มาใช้มากขึ้นและลดค่าใช้จ่ายการจัดหาเครื่องจักรใหม่ลง ทำให้ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมในอนาคต โรงงานยาสูบฯ ควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวด้วย ๑.๑.๓ การนำเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมมาใช้มากขึ้นและการจัดหาเครื่องจักรใหม่ทำให้ต้องมีระยะเวลาในการขนย้าย จัดหา และติดตั้งเครื่องจักร โรงงานยาสูบฯ ควรพิจารณาดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยมีค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดเพื่อมิให้กระทบต่อการผลิตบุหรี่และแผนงานการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ ๑.๒ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีนโยบายให้นำหลักการโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เรื่อง “ข้อตกลงคุณธรรม” มาจัดทำเพื่อสกัดกั้นการทุจริตคอร์รัปชันโครงการของรัฐ จึงเห็นสมควรนำนโยบายดังกล่าวมาใช้ในการจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตบุหรี่ของโรงงานยาสูบฯ ในส่วนที่เหมาะสมและสามารถดำเนินการได้ และไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นสมควร ๒. ในกรณีที่จะลงทุนก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้แก่พนักงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการย้ายสถานที่ทำการเป็นกรณีเร่งด่วน ให้กระทรวงการคลัง (โรงงานยาสูบ) พิจารณาทบทวนการก่อสร้างในลักษณะที่พอเพียง ประหยัด และคุ้มค่าในระยะยาว ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เกี่ยวกับการเพิ่มสวัสดิการที่พักอาศัยให้พนักงาน รวมถึงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้บริหาร หัวหน้างาน และพนักงานที่ไปปฏิบัติงานไม่ประจำด้วย ควรดำเนินการเท่าที่จำเป็นและคำนึงถึงความประหยัดและคุ้มค่าที่โรงงานยาสูบจะได้รับ ตลอดจนมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการเพื่อให้การจัดการสวัสดิการในภาพรวมมีความเป็นธรรมและยั่งยืนอย่างแท้จริง และเห็นควรเร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่และการคืนพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถส่งคืนพื้นที่โรงงานในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวตามแนวนโยบายรัฐบาลต่อไป รวมทั้งเร่งรัดและกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24168 | ขอความเห็นชอบการปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานประจำรถ และปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานประจำรถโดยสารไม่ประจำทางของบริษัท ขนส่ง จำกัด | คค | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้บริษัท ขนส่ง จำกัด ปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานประจำรถเพิ่มขึ้นอีก ๕ สตางค์ต่อกิโลเมตร และปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานประจำรถโดยสารไม่ประจำทางเพิ่มขึ้นอีก ๒๕ บาทต่อวัน โดยให้มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรพิจารณาแนวทางหรือมาตรการในการเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้การปรับเพิ่มอัตราเบี้ยเลี้ยงพนักงานประจำรถและพนักงานประจำรถโดยสารไม่ประจำทางไม่เป็นภาระกับองค์กรและภาครัฐต่อไปในระยะยาว และเร่งจัดทำแผนกลยุทธ์ในการจัดหารายได้ให้เพียงพอกับการดำเนินกิจการ และปรับปรุงมาตรฐานการบริการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งดำเนินการตามแนวทางในการควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ที่ไม่กระทบต่อคุณภาพการให้บริการและการบริหารจัดการมาปฏิบัติใช้ให้เป็นรูปธรรม และให้ผู้บริหารบริษัท ขนส่ง จำกัด กำกับดูแลการดำเนินงานและติดตามประเมินผลให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้บริษัท ขนส่ง จำกัด กำหนดวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานเพื่อใช้ในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน โดยให้วัดผลจากประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและความพึงพอใจของผู้โดยสาร เพื่อเป็นการส่งเสริมพนักงานที่มีประสิทธิภาพและมีจิตใฝ่บริการให้อยู่ในองค์กร |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24169 | โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2558 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนา ปี ๒๕๕๘ ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน ๒๕ โครงการ กรอบวงเงินลงทุนรวม ๗,๗๖๙.๑๐๒ ล้านบาท [ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)] ประกอบด้วย โครงการที่มีแหล่งเงินรองรับการดำเนินโครงการ จำนวน ๗ โครงการ วงเงินลงทุนรวม ๒,๗๖๐.๗๗๑ ล้านบาท และโครงการที่ยังไม่มีแหล่งเงินรองรับและไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๕๘ จำนวน ๑๘ โครงการ วงเงินลงทุนรวม ๕,๐๐๘.๓๓๑ ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ โดยแหล่งเงินและรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำหรับโครงการที่ยังไม่มีแหล่งเงินรองรับให้ กปภ. พิจารณาใช้แหล่งเงินทุนโครงการจากเงินรายได้ของ กปภ. เป็นหลักก่อนหรือใช้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังไม่ต้องค้ำประกันตามความเห็นของประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ให้ กปภ. พิจารณาถึงความคุ้มค่าของการลงทุน จัดลำดับความเร่งด่วนและดำเนินโครงการในกรอบเวลาที่กำหนดอย่างรอบคอบเหมาะสม คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญด้วย ๒. ให้ กปภ. ประสานกับคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในเรื่องการจัดหาแหล่งน้ำดิบสำหรับดำเนินโครงการเพื่อให้พอเพียงต่อความต้องการอุปโภคและบริโภคด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24170 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2562 รายการเช่ารถประจำตำแหน่ง | พน | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ รายการเช่ารถประจำตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จำนวน ๑ คัน ระยะเวลาเช่า ๔ ปี ๖ เดือน (เมษายน ๒๕๕๘-กันยายน ๒๕๖๒) อัตราเช่าไม่เกินเดือนละ ๗๖,๕๐๐ บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ แผนงานพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ผลผลิตบริหารจัดการแผนพลังงาน งบดำเนินงาน รายการค่าจ้างเหมาบริการ (ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์เครือข่ายภูมิภาค) ที่เหลือจ่าย จำนวน ๓๘๒,๕๐๐ บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๓,๖๗๒,๐๐๐ บาท โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้ส่วนราชการกำชับข้าราชการในสังกัดถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. ๒๕๒๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ห้ามผู้ที่เลือกรับเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งสำหรับข้าราชการผู้มีสิทธิได้รถประจำตำแหน่งนำรถส่วนกลางไปใช้ ๓. ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณากำหนดมาตรฐานการใช้รถยนต์ในราชการของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและข้าราชการในแต่ละระดับให้มีความเหมาะสมและเพียงพอกับการปฏิบัติงาน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีทราบด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24171 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น | ตช | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๒๔๐,๙๕๕,๙๖๙ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการพัฒนาอาคารที่พักครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๑๔๑ หลัง วงเงิน ๑๖๒,๘๖๕,๑๘๔ บาท และโครงการพัฒนาห้องส้วมนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน ๑๖๐ หลัง วงเงิน ๗๘,๐๙๐,๗๘๕ บาท โดยให้จัดทำแผนการใช้จ่ายเงินงบกลางและขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยตรงต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24172 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 9 - 13 มีนาคม 2558) | สผ | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๙-๑๓ มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24173 | รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 | ปช | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้ว โดยงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ ประกอบด้วย สินทรัพย์/ส่วนทุน ๒,๘๓๙,๙๘๓,๔๑๑.๗๒ บาท รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ ๖๐,๘๕๘,๙๑๘.๓๘ บาท เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น/(ลดลง) สุทธิ ๖๑,๙๔๓,๖๐๒.๗๒ บาท ๒. ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเร่งรัดการตรวจสอบงบการเงินของหน่วยรับตรวจทุกหน่วยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๗ ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้หน่วยรับตรวจนำเสนอคณะรัฐมนตรีได้โดยเร็วต่อไป สำหรับการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดก่อนหน้า ซึ่งยังค้างดำเนินการ (ถ้ามี) ก็ให้ดำเนินการตรวจสอบในภายหลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24174 | รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปี พ.ศ. 2555 และ พ.ศ. 2556 | ปช | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) รายงานผลการตรวจสอบและผลการปฏิบัติหน้าที่ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับผลงานด้านปราบปรามการทุจริต ด้านป้องกันการทุจริต ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน และภาพรวมผลการประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประเทศเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะตามรายงานฯ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ ดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันของประเทศไทย และการบังคับใช้บทบัญญัติตามกฎหมายการขัดกันแห่งประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ และตามรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จำนวน ๔ เรื่อง ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐) การจัดสรรงบประมาณให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ผลการดำเนินการให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้ และการให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่แสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐต่อกรมสรรพากร นอกเหนือจากบัญชีงบดุลปกติประจำปี เพื่อให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินและการคำนวณภาษีเงินได้ในโครงการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ และผลการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด (คณะกรรมการ ป.ป.จ.)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24175 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 13 (การประชุม ครั้งที่ 48/2558 ถึง ครั้งที่ 58/2558) | นร04 | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑๓ (การประชุมครั้งที่ ๔๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ถึงครั้งที่ ๕๘/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) ซึ่งได้มีการพิจารณายกร่างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา และได้จัดทำจุลสาร “รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปเป็นอย่างไร” ฉบับที่ ๕ เรื่อง “การกระจายอำนาจและการบริหารท้องถิ่น” เพื่อเผยแพร่ข้อมูล กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญและเนื้อหาสารัตถะในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในขณะเดียวกันก็เป็นการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนก่อนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะใช้บังคับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24176 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 14 (การประชุม ครั้งที่ 59/2558 ถึง ครั้งที่ 60/2558) | นร04 | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑๔ (การประชุมครั้งที่ ๕๙/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๘ ถึงครั้งที่ ๖๐/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๘) ซึ่งได้มีการพิจารณายกร่างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24177 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ | สลธ.คสช. | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๕๘ เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ลงวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ และได้นำคำสั่งดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๗๓ ง วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘ แล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24178 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... | มท | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลแม่นาเติง ตำบลเวียงเหนือ ตำบลเวียงใต้ ตำบลแม่ฮี้ และตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24179 | ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง รายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 (PDP 2015) | สว | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง รายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015) เกี่ยวกับข้อเสนอแนะตามแนวทางที่กำหนดไว้ในนโยบายแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015) และข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพิ่มเติม นอกจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015) เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้า และสามารถจัดหาไฟฟ้าในระยะยาวให้เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทยรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพลังงานได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24180 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตที่เกิดจากการอนุญาตให้ราษฎรครอบครองที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน | ปช | 07/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตที่เกิดจากการอนุญาตให้ราษฎรครอบครองที่ดินของรัฐตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ทบทวนกระบวนการจัดที่ดินผืนใหญ่ที่ผ่านมาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวัตถุประสงค์ ๑.๒ ทบทวนนโยบายเรื่องการดำเนินงานโฉนดชุมชนหรือนโยบายเรื่องอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ๑.๓ เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางที่รวบรวมข้อมูลที่ดินของทุกหน่วยงานให้เป็นระบบและมาตรฐานเดียวกัน ๑.๔ ปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ (Reshape) ให้มีแนวเขตเดียว ๑.๕ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดิน ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ๑.๖ ให้เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขและประกาศใหม่เฉพาะเขตที่จะดำเนินการปฏิรูปจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน ๓ ปี ๑.๗ กำหนดให้มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินทั้งหมดให้มีเอกภาพ เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ๑.๘ ควรจัดตั้งองค์การบริหารที่ดินแห่งชาติ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาณาจักร คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑/๒๕๕๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตามองค์ประกอบคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไป
|
.....