ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1208 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24141 - 24160 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24141 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) (นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส) | นร05 | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักบริหารสูง) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันขอลาออกจากราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24142 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) (นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์) | ทก | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24143 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงพลังงาน) (นายสุชาลี สุมามาลย์) | พน | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสุชาลี สุมามาลย์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24144 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (รองศาสตราจารย์สรนิต ศิลธรรม) | ศธ | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการบรรจุกลับ รองศาสตราจารย์สรนิต ศิลธรรม พนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24145 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข) (นายสุเทพ วัชรปิยานันทน์ และ นายวันชัย สัตยาวุฒิพงศ์) | สธ | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสุเทพ วัชรปิยานันทน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายวันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
24146 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม) (จำนวน 3 ราย 1. นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง ฯลฯ) | อก | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายศักดา พันธ์กล้า ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายมาณพ ชิวธนาสุนทร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
24147 | ขออนุมัติเปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ | กต | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเขตกงสุลครอบคลุม ๙ จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ ๒. แต่งตั้งนายกอง ซาน ลวีน (Mr. Kong San Lwin) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ณ จังหวัดเชียงใหม่
|
||||||||||||||||||||||||
24148 | การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. (นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม) | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24149 | การมอบเงินช่วยเหลือแก่สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล | นร04 | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการมอบเงินช่วยเหลือแก่สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. ยอดเงินบริจาคบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ณ วันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ มีจำนวน ๑๕๐ ล้านบาทเศษ (ประมาณ ๔.๕๔๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ๒. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่า ในระยะแรกนี้รัฐบาลเนปาลมีภารกิจมากมายซึ่งอาจจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงอาจพิจารณาบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านทางองค์การสหประชาชาติและหน่วยงานอื่น โดย (๑) มอบให้รัฐบาลเนปาล จำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (๒) International Flach Appeal for Nepal ของ United Nations Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UN OCHA) จำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ (๓) องค์การอนามัยโลก (WHO) จำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ (๔) UNICEF จำนวน ๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งสิ้น ๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ๑๓๒ ล้านบาท ซึ่งจะเหลือยอดเงินประมาณ ๑๗ ล้านบาท ๓. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมการเรื่องการจัดสรรเงินบริจาค และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานผู้แทนเข้ารับมอบเงินบริจาคจากนายกรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24150 | โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา | มท | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการดำเนินงานตามกรอบระยะเวลา (Time Frame) การดำเนินการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะมีการลงนามในสัญญาจ้างภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ และใช้เวลาก่อสร้างรวม ๑๘ เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๕๙ จนถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ โดยวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในลักษณะเป็นสะพานยกสูงเหนือระดับน้ำท่วมสูงสุด โดยใช้เป็นเส้นทางสัญจรรองรับการเดินทางด้วยจักรยาน (Bike Lane) การชมทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา การพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย และการจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพและนันทนาการ รวมทั้งการมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมเจ้าท่า สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมที่ดิน กรมทางหลวงชนบท กรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายละเอียดการออกแบบและก่อสร้างเพื่อกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินงาน โดยจัดทำเป็นแผนการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และกรอบวงเงินที่จะใช้ในแต่ละระยะ ซึ่งในระยะแรกให้สามารถดำเนินการได้ภายใน ๑ ปี และให้คำนึงว่าการจัดทำโครงการดังกล่าวเป็นโครงการอเนกประสงค์เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรรองรับการเดินทางด้วยจักรยาน (Bike Lane) เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องออกแบบเพื่อรองรับการสัญจรของรถประเภทอื่น รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่สำหรับการชมทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา การพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย และการจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพ และนันทนาการ ทั้งนี้ ให้ออกแบบพื้นที่บริเวณสถานที่สำคัญ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นต้น เพื่อการท่องเที่ยวและเป็นพื้นที่รองรับการจัดงานต่าง ๆ ด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๓. ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการโครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาโครงการอื่น เช่น สะพานปลากรุงเทพ อู่เรือกรุงเทพ ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกับโครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้เกิดประโยชน์สูงสุด |
||||||||||||||||||||||||
24151 | การจัดทำปฏิญญาระดับรัฐมนตรีในการประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 11 (The eleventh session of the United Nations Forum on Forests : UNFF11) | ทส | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการต่อเอกสาร Non-Paper on Possible Elements for Inclusion in the Ministerial Declaration of UNFF11 และเอกสาร Non-Paper on Possible Elements for Inclusion in the UNFF11 Resolution on the IAF Beyond 2015 ของการประชุม United Nations Forums on Forests สมัยที่ ๑๑ โดยร่างเอกสารทั้ง ๒ ฉบับ เป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่การยืนยันความสำคัญในด้านต่าง ๆ ของป่าไม้ รวมถึงความก้าวหน้าและความท้าทายของการดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้อตกลงต่าง ๆ ด้านการป่าไม้ระหว่างประเทศ และเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของตราสารที่ไม่ผูกพันทางกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ทุกชนิด และเป้าหมายระดับสากลเกี่ยวกับป่าไม้ ซึ่งจะนำไปสู่การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ๒. เห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์สำหรับหัวหน้าคณะผู้แทนไทย (Statement by Head of Delegation, Thailand at the High Levels Segment of the Eleventh Session of the United Nations Forum on Forests) ซึ่งกล่าวถึงการแบ่งปันประสบการณ์ในการจัดการที่ดี (Best Practice) ผ่านยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในการจัดการป่าไม้ที่จะนำไปสู่ความยั่งยืน เช่น การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ การน้อมนำแนวทางพระราชดำริของราชวงศ์ไทยมาใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการทำลายป่าและลดความเสื่อมโทรมของป่า การสนับสนุนแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือในระดับนานาชาติ เพื่อการตรวจติดตาม การประเมินผล และการรายงานสถานการณ์ด้านป่าไม้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดการป่าไม้ในระดับนานาชาติ (IAF) ๓. มอบหมายให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุม United Nations Forums on Forests สมัยที่ ๑๑ เป็นผู้พิจารณาให้การรับรองปฏิญญาระดับรัฐมนตรี (Ministerial Declaration) และร่างข้อมติ International Arrangement on Forest (IAF) Beyond 2015 ของการประชุม United Nations Forums on Forests สมัยที่ ๑๑ ๔. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขถ้อยคำของเอกสาร Non-Paper ทั้ง ๒ ฉบับ และร่างแถลงการณ์สำหรับหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ หรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
||||||||||||||||||||||||
24152 | ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก (East - West Economic Corridor : EWEC) ครั้งที่ 3 | กต | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor : EWEC) ครั้งที่ ๓ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) การแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมกันส่งเสริมความเชื่อมโยงและการอำนวยความสะดวกการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างเมียนมา-ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม ตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (๒) ความคืบหน้าในการดำเนินการที่ผ่านมา (๓) ความท้าทายสำหรับการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ที่ยังคงอยู่ และ (๔) แนวทางในการดำเนินการต่อไป ๑.๒ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรอาศัยการเจรจาผ่านช่องทางการทูตนี้เพื่อการโน้มน้าวหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว เล็งเห็นความสำคัญในการเสนอเพิ่มถนนหมายเลข ๘ และหมายเลข ๑๒ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รวมอยู่ในความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Cross Border Transport Agreement : CBTA) เป็นลำดับแรก ก่อนการประชุมคณะกรรมการอำนวยความสะดวกการขนส่งระดับชาติในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ (GMS National Transport Facilitation Committee : GMS NTFC) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
24153 | การกำหนดวันคล้ายวันสรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกำหนดให้วันที่ ๙ มิถุนายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และกำหนดให้มีการวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ เชิงสะพานพระราม ๘ เป็นประจำทุกปี ๒. มอบหมายกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานจัดทำสื่อวีดิทัศน์และหนังสือเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเผยแพร่ในโอกาสที่รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เป็นวันรัฐพิธี โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ
|
||||||||||||||||||||||||
24154 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) กำกับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการดำเนินโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง (การช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่แล้งซ้ำซากตำบลละ ๑ ล้านบาท) และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการด้วย ๒. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ๒.๑ โดยที่ปัจจุบันมีการนำคดีขององค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมหลังวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ไปฟ้องหน่วยงานของรัฐต่อศาลเป็นจำนวนมาก จึงให้ทุกกระทรวงดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีในคดีที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน โดยเฉพาะคดีที่เกิดขึ้นหลังวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ๒.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์สร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจการค้าปลีกหรือค้าส่ง และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนโยบายหรือมาตรการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายย่อยแบบดั้งเดิม (โชห่วย) ให้มีศักยภาพให้เข้มแข็งและดำรงอยู่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปรับปรุงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของอุทยานแห่งชาติ เช่น ค่าผ่านเข้าอุทยาน ค่าที่พักค้างแรม เป็นต้น ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ๓.๒ ให้ทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต ตรวจสอบ และรับรองมาตรฐานต่าง ๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมสรรพสามิต กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รายงานผลการออกใบอนุญาตและผลการปฏิบัติงานให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก ๓ เดือน โดยระบุข้อมูลระยะเวลาที่ใช้ในการออกใบอนุญาต ตรวจสอบ หรือรับรองมาตรฐานแต่ละรายให้ชัดเจน ๓.๓ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดการดำเนินการวางแผนและมาตรการรองรับปัญหากลุ่มผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ทั้งระบบ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งจัดหาพื้นที่ควบคุมให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการพำนักในระหว่างรอการส่งกลับประเทศต้นทางด้วย ๓.๔ ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒) รวมทั้งพิจารณาแนวทางหรือมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นต่อไป ๓.๕ ให้สำนักงบประมาณสร้างการรับรู้แก่ส่วนราชการและประชาชนเพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกำหนดราคากลางของทางราชการที่ปัจจุบันมีการกำหนดราคากลางตามพื้นที่ ไม่ได้กำหนดราคากลางเดียวกันสำหรับใช้ทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติและมีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ๓.๖ ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กรมอุตุนิยมวิทยา) และกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศโดยเฉพาะพายุฤดูร้อนที่ในช่วงนี้เกิดขึ้นในหลายจังหวัด พร้อมทั้งให้มีการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือนของประชาชนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
24155 | แนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี (ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการเสนอเรื่องงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี) | นร05 | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการเสนอเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณว่า ในการขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อคณะรัฐมนตรี ให้ส่วนราชการเสนอเรื่องให้สำนักงบประมาณดำเนินการเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาก่อน ๒. ให้ส่วนราชการที่จะเสนอเรื่องขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวข้างต้น และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าวก่อนเสนอเรื่องต่อรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลให้ความเห็นชอบเพื่อสั่งการให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี ๓. ให้ส่วนราชการที่จะเสนอเรื่องขออนุมัติงบประมาณหรือเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจถามความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และนำความเห็นของหน่วยงานข้างต้นเสนอมาพร้อมกับเรื่องดังกล่าว เพื่อให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลพิจารณาสั่งการให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||
24156 | การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า รัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑๕.๐๐-๑๙.๓๐ น. โดยมีเส้นทางเริ่มต้นจากลานพระบรมรูปทรงม้าถึงกรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสมัครใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในจังหวัดต่าง ๆ ให้เป็นไปโดยความสมัครใจและความพร้อมของแต่ละจังหวัด ๒. มอบให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดกิจกรรมอย่างสมพระเกียรติและประชาสัมพันธ์ให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน รวมทั้งประชาชนรับทราบเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว รวมทั้งเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
24157 | สรุผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และ
๑. ให้เสนอพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ ของบริการขนส่งทางอากาศ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ๒. ให้กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กลับไปพิจารณาทบทวนร่วมกันเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและให้มีความสอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล สั่ง ณ วันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ โดยให้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) และรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ด้วย แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24158 | พิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ 8 ของบริการขนส่งทางอากาศภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และให้เสนอพิธีสารเพื่ออนุวัติข้อผูกพันชุดที่ ๘ ของบริการขนส่งทางอากาศภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||
24159 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 16 - 17 เมษายน 2558) | สผ | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ จำนวน ๒๔ คณะ และคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๗-๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ และวันที่ ๑๖-๑๗ เมษายน ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24160 | กระบวนการแก้ไขปัญหาการขอทานครบวงจร | พม | 12/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รายงานเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาการขอทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการด้านการคุ้มครองช่วยเหลือขอทานภายหลังการจัดระเบียบการแก้ไขปัญหาการขอทานครบวงจรแบบยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินการภายใต้แนวทางการดำเนินงาน ๓ ด้าน (3P) ประกอบด้วย ด้านนโยบาย (Policy) ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ (Protection) และด้านการป้องกัน (Prevention) เช่น การผลักดันพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน การประชาสัมพันธ์และรณรงค์ในเรื่องต่าง ๆ การส่งเสริมเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวัง เป็นต้น ๑.๒ การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขอทานเพื่อเป็นหน่วยรับแจ้งเหตุและประสานงานเพื่อจัดระเบียบขอทานตลอด ๒๔ ชั่วโมง สำรวจ คัดกรอง และช่วยเหลือ รวมทั้งรวบรวมข้อมูลสถิติ นโยบาย มาตรการ และแนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการขอทานและคนไร้ที่พึ่ง โดยจากสถิติการจัดระเบียบขอทานช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า จำนวนขอทานลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มขอทานต่างด้าว ๑.๓ การจัดตั้งทีมปฏิบัติการในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ คัดกรอง โดยกรณีที่เข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์จะประสานส่งต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือตำรวจ ส่วนกรณีที่ไม่เข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์จะประสานส่งต่อสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเพื่อวิเคราะห์ปัญหารายบุคคลโดยทีมสหวิชาชีพ จัดทำแผนฟื้นฟูรายบุคคล และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูในรูปแบบต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและพัฒนาเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติให้ตระหนักในคุณค่าของตนเองและพัฒนาทักษะอาชีพตามความสมัครใจ ๑.๔ การดำเนินการแก้ไขปัญหานำร่องในพื้นที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรีโมเดล) ประกอบด้วย การปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านอาชีพ การเตรียมความพร้อมบุคลากร และประเมินคัดกรองผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อฟื้นฟูพัฒนา และฝึกอาชีพ การจัดตั้ง “กองทุนเพื่อพัฒนาคนไร้ที่พึ่ง คนขอทาน” สนับสนุนการพัฒนาฟื้นฟูและเป็นทุนประกอบอาชีพ และการบริหารจัดการสินค้า ผลิตภัณฑ์ รายรับ รายจ่าย และเงินทุนหมุนเวียน โดยจะขยายผลสู่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ๑๑ แห่ง ทั่วประเทศ รวมทั้งมีกองทุนเพื่อพัฒนาคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานสำหรับเป็นทุนสนับสนุนให้กับผู้เข้าร่วมโครงการนำไปประกอบอาชีพ ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมสามารถเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการได้ทั้งในรูปแบบการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน สิ่งของ รวมทั้งการรับซื้อผลผลิต การจ้างงาน การอบรมให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ และในระยะต่อไปจะดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในสังคมได้รับรู้และตระหนักถึงปัญหาการขอทาน พร้อมทั้งสร้างค่านิยมตามแนวคิดการให้ทานอย่างถูกวิธีและลดวิถีการขอทาน ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรองรับบุคคลไร้ที่พึ่ง ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประชาสัมพันธ์และชี้แจงทำความเข้าใจกับสาธารณชนให้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการขอทานว่าเป็นการเชื่อมโยงถึงการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อไป ๓. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเร่งรัดการกำหนดมาตรการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและการสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำแนวลำคลองและทางระบายน้ำ และจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน นั้น ให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณานำแนวทางการจัดที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนตามโครงการบ้านมั่นคง ณ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี มาเป็นแนวทางในการดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปด้วย
|
.....