ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1204 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24061 - 24080 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24061 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก 1 ปี จำนวน 9 ฉบับ) | มท | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก ๑ ปี จำนวน ๙ ฉบับ) เนื่องจากจะหมดอายุการใช้บังคับในระหว่างเดือนกันยายน-ธันวาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองชัยนาท พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพิษณุโลก พ.ศ. ๒๕๕๓ ๓. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. ๒๕๔๘ ๔. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะแตน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๕. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว พ.ศ. ๒๕๔๗ ๖. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๒ ๗. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสุโขทัย พ.ศ. ๒๕๕๒ ๘. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ ๙. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองท่าโขลง-คลองหลวง-รังสิต จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. ๒๕๕๒ |
||||||||||||||||||||||||
24062 | ร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิด ประสิทธิผล พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.พ.อ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24063 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาการจัดการ เพิ่มขึ้น ในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24064 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบจำแนกตำแหน่งใหม่ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24065 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย - ลาว | คค | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีคมนาคมไทย-ลาว เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘ ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมการประชุม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางถนนระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม ทั้งสองฝ่ายตกลงเห็นชอบให้ประชุมหารือสามฝ่าย โดยฝ่ายไทยเสนอให้จัดทำร่างความตกลงการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมร่วมสามฝ่าย บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน สำหรับการขนส่งสินค้าภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ไทย-ลาว-เวียดนาม ฝ่ายลาวได้เสนอให้ผู้ประกอบการไทยมาลงทุนจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการลาว รวมทั้งฝ่ายลาวเสนอให้รถขนส่งสินค้าของลาวสามารถขนส่งสินค้าผ่านแดนที่ท่าเรือของไทยได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นระเบียบของกรมศุลกากร ฝ่ายไทยจึงรับที่จะไปประสานงานกับกรมศุลกากรต่อไป ๑.๒ การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ไทย-ลาว ฝ่ายลาวได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสร็จแล้ว ส่วนฝ่ายไทยอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดและจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณเดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ประเด็นการเชื่อมเส้นทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน ขนาดทาง ๑.๔๓๕ เมตร ทั้งสองฝ่ายเสนอให้มีการหารือร่วมกัน สำหรับการกำหนดจุดที่เหมาะสมสำหรับก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรอยู่ในแนวขนานกับสะพานเดิมค่อนลงมาทางทิศใต้ห่างจากจุดเดิม ๑๐-๓๐ เมตร และกำหนดผู้รับผิดชอบในการดำเนินการศึกษาและออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างต่อไป ในส่วนของการก่อสร้างทางรถไฟช่วงท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ สปป.ลาว ประสงค์จะขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์จากเดิมที่ก่อสร้างทางรถไฟขนาด ๑.๐ เมตร ต่อจากท่านาแล้งไปเวียงจันทน์ เป็น การศึกษาความเป็นไปได้ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทาง ๑.๔๓๕ เมตร ระหว่างเวียงจันทน์-หนองคาย สำหรับการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟในเส้นทางอุบลราชธานี-ช่องเม็ก ฝ่ายลาวแจ้งว่ามีผลการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นแล้ว และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อความสมบูรณ์ของจุดเชื่อมต่อบริเวณช่องเม็กต่อไป ๑.๓ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฝ่ายลาวขอให้สนับสนุนการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ (Feasibility Study and Detailed Design) สำหรับเส้นทางหมายเลข ๑๒ (ท่าแขก-ยมมะราด-ลังคัง-น้ำพาว) ซึ่งมีระยะทางรวมประมาณ ๑๕๗ กิโลเมตร โดยขอรับการสนับสนุนจากไทยในช่วงยมมะราด-ลังคัง ระยะทางประมาณ ๗๔ กิโลเมตร และขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงบริเวณบ้านเชียงแมนข้ามมายังตัวเมืองหลวงพระบาง รวมทั้งขอให้ฝ่ายไทยประสานกับสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (NEAD) ผลักดันโครงการที่ฝ่ายลาวขอรับความช่วยเหลือสำหรับการปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานปากเซและสะหวันนะเขต และโครงการศึกษาสำรวจและออกแบบการปรับปรุงระบบน้ำประปา ซึ่งฝ่ายไทยรับที่จะไปหารือกับ NEDA ต่อไป ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ข้อตกลงในการสร้างความร่วมมือในหลายประเด็นยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และ/หรืออยู่ระหว่างการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมระหว่างหน่วยงานของไทยและลาวเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำรายละเอียดข้อตกลงต่าง ๆ ในอนาคต จึงเห็นควรให้กระทรวงคมนาคมเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามผลการประชุมเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
24066 | รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางแมรี โจ เอ. แบร์นาร์โด - อารากน (Mrs. Mary Jo A. Bernardo - Aragon)] | กต | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางแมรี โจ เอ. แบร์นาร์โด-อารากน (Mrs. Mary Jo A. Bernardo-Aragon) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนางจอสลิน เอส. บาทูน-การ์เซีย (Mrs. Jocelyn S. Batoon-Garcia) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24067 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | สผ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษากฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สรุปได้ว่า ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ทั้ง ๑๐ ฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการและผ่านความเห็นชอบ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา นั้น ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อการรอนสิทธิหรือคุกคามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในการสื่อสารและรับรู้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งโครงสร้าง สถานะและบทบาทอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการคลื่นความถี่อันเป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะและความเป็นอิสระขององค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาเพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดบทบัญญัติของร่างกฎหมายทั้ง ๑๐ ฉบับ เพื่อใช้เป็นข้อมูลและแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการในการปฏิรูปด้านการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเพื่อกำหนดมาตรการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารและรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนไม่ให้ถูกริดรอนหรือถูกละเมิด ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ๒. มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24068 | การเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ | รง | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการเดินทางไปศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศ ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ ของกระทรวงแรงงาน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การเดินทางไปร่วมสัมมนา Combating pirate and Modern-Day Slavery In Thailand ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ ๒-๘ มีนาคม ๒๕๕๘ ของนายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของประเทศไทยต่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง ๒. การเดินทางไปราชการ ณ ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ของพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อร่วมหารือกับเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ และหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ ตรวจเยี่ยมสำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ และเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์ ๓. การประชุมคณะประศาสน์การ สมัยที่ ๓๒๓ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘ ของนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการบริหารและกำหนดยุทธศาสตร์ด้านแรงงานในเวทีระดับโลก และแสดงข้อเสนอแนะเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของไทยในเวทีโลก ๔. การเดินทางไปราชการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ของพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ เพื่อพบปะหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น เยี่ยมชมการดำเนินกิจการของบริษัทญี่ปุ่นที่ทันสมัย และเยี่ยมเยียน สอบถามปัญหาต่าง ๆ ของผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคของไทย
|
||||||||||||||||||||||||
24069 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ [นายชิงยะ อาโอกิ (Mr. Shinya Aoki)] | กต | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายชิงยะ อาโอกิ (Mr. Shinya Aoki) ให้ดำรงตำแหน่งกลสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ สืบแทนนายอะกิฮิโกะ ฟุจิอิ (Mr. Akihiko Fujii) ซึ่งครบวาระประจำการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24070 | รัฐบาลสาธารณรัฐแกมเบียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางฟาตู มัส โจบ (Mrs. Fatou Mas Jobe)] | กต | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางฟาตู มัส โจบ (Mrs. Fatou Mas Jobe) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแกมเบียประจำประเทศไทยคนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24071 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาของสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24072 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (บทบัญญัติว่าด้วยการจำนองอากาศยาน) | คค | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (บทบัญญัติว่าด้วยการจำนองอากาศยาน) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24073 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ และกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาเทคโนโลยีและสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24074 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการให้ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับย้อนหลังเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการนำร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ต่อไป และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ อย่างเคร่งครัด โดยกำชับให้มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใด เมื่ออนุมัติหลักสูตรสาขาวิชาใดแล้วจะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในสาขาวิชานั้นเสียก่อน แล้วจึงจะเปิดทำการสอนในสาขาวิชานั้นได้
|
||||||||||||||||||||||||
24075 | ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง สาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ | รง | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง สาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สาขาอาชีพช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ ในสาขาช่างไฟฟ้าตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติเป็นสาขาอาชีพ ตำแหน่งงาน หรือลักษณะงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือต้องใช้ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24076 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... | กษ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหนองตรุด ตำบลนาโต๊ะหมิง และตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ในการก่อสร้างระบบระบายน้ำและอาคารประกอบ ตามโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง จังหวัดตรัง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24077 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กห | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. กรณีการกำหนดกรอบการปฏิบัติเพื่อให้มีแนวทางในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันตามร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา ๑๐ แก้ไขลักษณะ ๒ การควบคุมเมื่อกฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับแล้ว จะได้ดำเนินการออกหนังสือคำชี้แจง อธิบาย ซักซ้อมความเข้าใจเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจและปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ๒. กรณีการควบคุมผู้ต้องขังหญิงโดยเฉพาะหญิงที่มีครรภ์ และผู้ต้องขังที่ต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น เรือนจำทหารได้สร้างหรือดัดแปลงที่ควบคุมให้มีความเหมาะสมแยกออกเป็นสัดส่วนภายใต้ข้อจำกัดของอาคารเรือนขังของแต่ละเรือนจำแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
24078 | รายงานผลการเดินทางไปราชการเพื่อลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | วธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางไปราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม-๖ เมษายน ๒๕๕๘ ตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การลงนามในแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ โดยแผนปฏิบัติดังกล่าวมีสาระสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการเยือนและจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกันทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยทั้งในด้านการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ทัศนศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ สถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ โบราณคดี วรรณกรรม พุทธศาสนา รวมทั้งขยายความร่วมมือในด้านใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น โบราณคดีใต้น้ำ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น ๒. การหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและชื่นชมความยินดีในความสัมพันธ์ฉันมิตรของทั้งสองประเทศ ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี และความใกล้ชิดในทุกระดับ รวมทั้งได้หารือแนวทางการการส่งเสริมความร่วมมือทางวัฒนธรรมไทย-จีนภายใต้แผนปฏิบัติการฯ โดยเฉพาะการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้หารือกับรองผู้ว่าการมณฑลไหหลำเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมไทย-จีน ๓. การรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ และในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดขึ้น ณ โรงละครพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ ๕-๖ เมษายน ๒๕๕๘ ๔. การศึกษาดูงานสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม อาทิ โรงถ่ายทำภาพยนตร์ Feng Xiaogang มณฑลไหหลำ หอสมุดมณฑลไหหลำ และพิพิธภัณฑ์มณฑลไหหลำ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
24079 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับเพศ) | ยธ | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับเพศ) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกระทำชำเรา การคุกคามทางเพศ สิ่งอันลามก และอัตราโทษปรับในลักษณะ ๙ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานศาลยุติธรรม อาทิ ความซ้ำซ้อนของกฎหมาย กรณีการกำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศตามร่างมาตรา ๒๘๕/๓ มีความซ้ำซ้อนกับมาตรา ๓๙๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ได้บัญญัติครอบคลุมความผิดเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก) เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการในการแก้ไขความผิดเกี่ยวกับการค้าหรือทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งลามกตามมาตรา ๒๘๗ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่ด้วย จึงต้องพิจารณาความซ้ำซ้อนและความสอดคล้องกันของการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับสิ่งอันลามกตามร่างพระราชบัญญัตินี้กับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ๒. มอบให้กระทรวงยุติธรรมไปพิจารณาการขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้งระบบ โดยพิจารณาประเภทความผิดและระยะเวลาการรับโทษที่เหมาะสมในการขอพระราชทานอภัยโทษ เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดมีโอกาสก่ออาชญากรรมขึ้นอีกในสังคม |
||||||||||||||||||||||||
24080 | ร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. .... | ทส | 19/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้มีกฎหมายว่าด้วยการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณากรณีที่ร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่ใช้บังคับกับการจัดการต่าง ๆ เช่น สิ่งปฏิกูล วัสดุ มูลฝอยติดเชื้อ ของเสียจากสารกัมมันตรังสี ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ จึงอาจทำให้พระราชบัญญัติฉบับนี้บังคับใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับการกำหนดสถานที่ตั้งของศูนย์รับคืนซากผลิตภัณฑ์และโรงงานที่ให้บริการจัดการซากผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมและปลอดภัยแก่ประชาชน การกำหนดให้อาคารของศูนย์รับคืนซากฯ และโรงงาน มีระบบป้องกันการปล่อยสารที่เป็นอันตรายกับประชาชนและสภาพแวดล้อม การกำหนดกรอบการนำเงินค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บให้กรมสรรพสามิตหรือกรมศุลกากรไปใช้เฉพาะการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเท่านั้น และหากมีเงินเหลือจ่ายให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน การกำหนดนิยามความหมายของคำสำคัญเพิ่มเติม เช่น อัตราค่าธรรมเนียม ผลิตภัณฑ์ แผนความรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ และศูนย์ข้อมูลซากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อผู้นำไปปฏิบัติ รวมทั้งเพิ่มเติมผู้แทนจากกรมสรรพสามิตและผู้แทนจากกรมศุลกากรเป็นกรรมการในคณะกรรมการจัดการซากผลิตภัณฑ์ และเพิ่มเติมบทบาทของกลุ่มผู้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนความรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตหรือจำหน่าย จากเดิมที่กำหนดเฉพาะกลุ่มผู้ผลิต ให้ครอบคลุมรวมถึงกลุ่มผู้จัดจำหน่าย เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ตลอดจนปรับปรุงเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์และการจัดการเงินรายได้ของกองทุนสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๓. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลซากผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการภายในกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๒ (เรื่อง ข้อสังเกตของ ก.พ. เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไว้ในกฎหมาย) แล้วแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป |
.....