ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1201 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 24001 - 24020 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24001 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป สำหรับผลการดำเนินการตามข้อสังเกตฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การกำหนดให้ผู้รับอนุญาตแสดงรายการอัตราค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการ รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ควรพิจารณาลักษณะและรายละเอียดของรายการอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงโดยให้มีมาตรฐาน มีความรอบคอบ ชัดเจนและครอบคลุมก่อนการออกประกาศกำหนด นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไว้เป็นแนวทางในการดำเนินการกำหนดลักษณะและรายละเอียดของรายการอัตราค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการให้มีมาตรฐาน มีความรอบคอบ ชัดเจน ครอบคลุมและเกิดความเป็นธรรม ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า ข้อสังเกตดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายในการพิจารณาออกประกาศตามมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ฯ ๒. กรณีตามที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดหลักการไว้ตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง ที่ว่า “การดำเนินการออกกฎกระทรวง หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ” นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณายกร่างกฎหมายที่ออกตามความในร่างพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. .... เพื่อเร่งรัดการยกร่างกฎหมายที่ออกตามความในพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า การบัญญัติบทเฉพาะกาลในลักษณะดังกล่าวเป็นการกำหนดบทเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองมาใช้บังคับภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการตราพระราชบัญญัติใหม่ ทั้งนี้ ได้กำหนดแบบกฎหมายของการเขียนบทเฉพาะกาล สำหรับใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการร่างกฎหมายไว้แล้ว
|
|||||||||||||||||||||
24002 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | นร05 | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการของส่วนราชการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ (คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งส่วนราชการที่ไดรับมอบหมายจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง แนวทงปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะขององค์กรตามรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับญัตติ รายงาน และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการองสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) แต่ปรากฏว่า ยังมีเรื่องคงค้างการดำเนินการอยู่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหมยังมีเรื่องคงค้าง จำนวน ๑ เรื่อง คือ เรื่อง แจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียน (ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย หรือข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีขอความเป็นธรรมและขอให้ฟ้องคดีแทนผู้เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมและควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24003 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเป็นค่าเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อทดแทน ระบบเดิม 455 แห่ง | มท | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กรมการปกครองดำเนินการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและประจำตัวประชาชน เพื่อทดแทนระบบเดิม ๔๕๕ แห่ง ในวงเงิน ๙๘๘,๗๔๘,๔๘๐ บาท ตามผลประกวดราคา โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ จำนวน ๑๗๔,๑๐๘,๓๐๐ บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๘๑๔,๖๔๐,๑๘๐ บาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัดและดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งในการทำสัญญาควรพิจารณาข้อกำหนดที่ทางราชการได้ประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๒. ระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนควรจะต้องรองรับและสามารถจัดเก็บฐานข้อมูลของประชาชนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร สำมะโนประชากร ทะเบียนเกษตรกร ตลอดจนประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการจัดทำฐานข้อมูลต่าง ๆ ต่อไป |
|||||||||||||||||||||
24004 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 สายสระบุรี - หนองคาย (เขตแดน) ที่บ้านห้วยตะคร้อ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านห้วยตะคร้อ - บ้านบึงขามทะเลสอ และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2068 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (โคกกรวด) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 (โนนไทย) ที่บ้านบึงขามทะเลสอ พ.ศ. .... | คค | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ สายสระบุรี-หนองคาย (เขตแดน) ที่บ้านห้วยตะคร้อ และเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๙๐ สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านห้วยตะคร้อ-บ้านบึงขามทะเลสอ และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๖๘ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ (โคกกรวด)-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๐๕ (โนนไทย) ที่บ้านบึงขามทะเลสอ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจร และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจาณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24005 | ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นแก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย | ศธ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน ๑๓๓,๔๓๙,๐๐๐ บาท ในลักษณะงบเงินอุดหนุนแก่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology : AIT) โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายของนักศึกษาทุนรุ่นปีการศึกษา ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๘ ตามความจำเป็นและเหมาะสมกับสำนักงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการพิจารณาจัดสรรทุนควรพิจารณาสาขาที่ตอบสนองต่อความต้องการของภาคการผลิตและบริการหรือมีความสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ อาทิ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ทางด้านระบบราง และควรจัดทำระบบการติดตามและประเมินผลการจัดสรรทุนที่ผ่านมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้สำเร็จการศึกษามีทักษะองค์ความรู้หรือผลงานวิจัยที่ตรงกับความต้องการและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศในระดับใด เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวเป็นแนวทางในการพิจารณาจัดสรรทุนในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
24006 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า โดยที่เหตุของการได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนกรณีการปฏิบัติการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในต่างประเทศหรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบและสอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ อนึ่ง เพื่อมิให้เจตนารมณ์ของการจะได้รับเหรียญนี้ต้องบิดเบือนไปว่า การปฏิบัติการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในต่างประเทศหรือปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ หรือตรวจเยี่ยมพื้นที่เป็นครั้งคราว รวมทั้งบุคคลอื่นที่อาจเพียงสนับสนุนทางการเงินเหล่านี้จะมีคุณสมบัติได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนได้ ดังนั้น การกำหนดในรายละเอียดของภารกิจ สถานการณ์ พื้นที่ และระยะเวลาการปฏิบัติการที่เหมาะสมให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ซึ่งสามารถตราก่อนมีคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่หรือภายหลังก็ได้ จะทำให้เกิดความชัดเจน และจะได้ตระหนักตามข้อสังเกตนี้ด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24007 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 290 สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านหนองไทร - บ้านหนองบัวศาลา และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 สายปากเกร็ด - นครราชสีมา ที่บ้านหนองไทร และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2310 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 (ไชยมงคล) - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 (หนองเสาเดียว) ที่บ้านภูเขาทอง และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 สายนครราชสีมา - บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 (โชคชัย) ที่บ้านหนองบัวศาลา พ.ศ. .... | คค | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๙๐ สายถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ตอนบ้านหนองไทร-บ้านหนองบัวศาลา และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ สายปากเกร็ด-นครราชสีมา ที่บ้านหนองไทร และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๓๑๐ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๔ (ไชยมงคล)-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๔ (หนองเสาเดียว) ที่บ้านภูเขาทอง และเพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๔ สายนครราชสีมา-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๔ (โชคชัย) ที่บ้านหนองบัวศาลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่น ในท้องทึ่ตำบลไชยมงคล ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา และตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24008 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 23 - 27 มีนาคม 2558) | สผ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๓-๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24009 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา) | สผ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง รายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา) โดยมีประเด็นการปฏิรูป ๔ เรื่อง ได้แก่ (๑) เรื่องทรัพย์สินของวัดหรือของพระสงฆ์ (๒) เรื่องปัญหาของพระสงฆ์ที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธา (๓) เรื่องการทำให้พระธรรมวินัยให้วิปริตและการประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย และ (๔) เรื่องฝ่ายอาณาจักรที่จะต้องเข้าไปสนับสนุนปกป้องคุ้มครองกิจการของฝ่ายศาสนจักร ตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับรายงานผลการพิจารณาศึกษาการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา และข้อเสนอแนะของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาอย่างเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้วสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24010 | มาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต | ปช | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบมาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ข้อเสนอแนะเพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการเพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต เรื่อง “การบูรณาการป้องกันการทุจริตของโครงการภาครัฐ (โดยการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน)” ๑.๑.๑ ข้อเสนอในทางบริหาร สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของแต่ละส่วนราชการนำข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง “การบูรณาการป้องกันการทุจริตของโครงการภาครัฐ (โดยการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน)” ไปเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจสำคัญของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตที่ได้จัดตั้งขึ้นในแต่ละส่วนราชการด้วย ๑.๑.๒ ข้อเสนอในทางกฎหมาย เพื่อให้ข้อกำหนดในข้อเสนอแนะเรื่อง “การบูรณาการป้องกันการทุจริตของโครงการภาครัฐ (โดยการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน)” มีผลและสภาพบังคับทางกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรม เห็นควรนำหลักการในข้อเสนอแนะดังกล่าวเป็นข้อกำหนดส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐดังกล่าวด้วย ๑.๒ มาตรการป้องกันการทุจริตจากการใช้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) เห็นควรยกเว้นมิให้นำการจัดจ้างด้วยวิธีการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ มาใช้ในงานก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่างานก่อสร้างนั้นจะมีลักษณะของงานซับซ้อนหรือมีเทคนิคเฉพาะหรือไม่ก็ตาม ๑.๓ งานศึกษาวิจัย เรื่องโครงการศึกษาประเด็นทางกฎหมายที่เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตที่มีผลกระทบในภาพรวมโดยเฉพาะของเอกชน ๑.๓.๑ ปัญหาการทุจริตเชิงนโยบาย กำหนดมาตรการเสริมเพื่อป้องกันการทุจริตเชิงนโยบาย โดยเฉพาะมาตรการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโดยการประชุมแบบเปิดเผย ๑.๓.๒ ปัญหาการจัดการโครงสร้างขององค์กรจัดซื้อจัดจ้างที่มีโครงสร้างแบบรวมศูนย์อำนาจ เปลี่ยนแปลงการจัดโครงสร้างองค์กรที่ทำหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างจากแบบรวมศูนย์อำนาจ (Centralization) ที่ง่ายต่อการทุจริต เป็นลักษณะการกระจายอำนาจ (Decentralization) ๑.๓.๓ ปัญหาในชั้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๓.๔ ข้อเสนอแนะในมิติของกฎหมาย เห็นสมควรร่างกฎหมายในชั้นพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐโดยเฉพาะ ซึ่งมีเนื้อหาและโครงร่างเช่นเดียวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นต่าง ๆ เพื่อขจัดขัดขวางการกระทำการอันเป็นการทุจริตซึ่งขัดขวางต่อประโยชน์ของราชการและเป้าหมายสูงสุดของการจัดซื้อจัดจ้าง ๑.๓.๕ ข้อเสนอแนะในมิติอื่น ๆ ควรมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทันสมัยและรองรับต่อการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ มีการเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ประกอบการเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนและกระบวนการในการจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนสิทธิ หน้าที่ ข้อห้ามและผลของการฝ่าฝืนต่าง ๆ รวมทั้งมีการจัดทำและเผยแพร่จรรยาบรรณของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และให้กระทรวงการคลังจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้วสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24011 | การแต่งตั้งผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) | กต | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) โดยตำแหน่งจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงแก้ไข ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา เป็นผู้แทนถาวรไทยประจำ ICAO ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
24012 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง เชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... | พศ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ให้แก่กรมทางหลวง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่วัด วัดศรีมิ่งแก้ว ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๐๓๙๕ เนื้อที่ ๙๖ ตารางวา ให้แก่กรมทางหลวงเพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๒๑๑ สายต่อเขตเทศบาลเมืองเชียงรายควบคุม-บรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๘ (ดงมะดะ) ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24013 | ร่างกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 | รง | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการยื่นคำขอ การออกหนังสือรับรอง การขอต่ออายุหนังสือรับรอง และการออกใบแทนหนังสือรับรองการเป็นศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ ตามมาตรา ๒๖/๔ (๒) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการยื่นคำขอ การขอต่ออายุหนังสือรับรอง และการยื่นคำขอเพื่อออกใบแทนขององค์กรอาชีพ หรือหน่วยงานของรัฐที่ประสงค์จะเป็นศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของนายทะเบียนในการออกหนังสือรับรองและการออกใบแทนหนังสือรับรองการเป็นศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมของศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลางและศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถตามมาตรา ๒๖/๔ (๒) ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลางและศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถที่เป็นหน่วยงานของรัฐเก็บค่าธรรมเนียมการประเมินเพื่อออกหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ครั้งละ ๑,๐๐๐ บาท และใบแทนหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ฉบับละ ๑๐๐ บาท ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดแนบท้ายพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๕ |
|||||||||||||||||||||
24014 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการกำหนดราคาของของนำเข้า หรือถิ่นกำเนิดของของที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร หรือตีความพิกัด อัตราศุลกากร เป็นการล่วงหน้า พ.ศ. .... | กค | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการกำหนดราคาของของนำเข้า หรือถิ่นกำเนิดของของที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร หรือตีความพิกัดอัตราศุลกากร เป็นการล่วงหน้า พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ในเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) การกำหนดราคาของของนำเข้า เป็นการล่วงหน้า (๒) การกำหนดถิ่นกำเนิดของของที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นการล่วงหน้า และ (๓) การตีความพิกัดอัตราศุลกากร เป็นการล่วงหน้า ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เกี่ยวกับวันมีผลใช้บังคับของกฎกระทรวงดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักการในการบัญญัติกฎหมาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
24015 | ผลการประชุม Global Conference on Cyberspace 2015 | กต | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุม Global Conference on Cyberspace 2015 ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าวตามตารางติดตามผลการเข้าร่วมประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศจัดทำต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. การพัฒนาการดำเนินการด้านไซเบอร์ของไทย โดยการกำหนดหน่วยงานที่ทำหน้าที่เจ้าภาพหลักเพื่อรับผิดชอบประเด็นด้านไซเบอร์ การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดทำแผนการรับมือเหตุการณ์ทางไซเบอร์แห่งชาติ การจัดตั้งศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดการซักซ้อมการรับมือกับภัยทางไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ และการพิจารณาความเหมาะสมของการเข้าเป็นสมาชิก GFCE ๒. โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย โดยการสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายให้กับประเทศที่สนใจ อาทิ เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ๓. การบริหารจัดการน้ำ โดยให้ความร่วมมือในโครงการบริหารจัดการน้ำระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ ๔. ความสัมพันธ์ไทย-คอซอวอ/เกาหลีใต้ โดยการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างไทย-คอซอวอ/เกาหลีใต้ ๕. ความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย โดยการเดินทางเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียในห้วงเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ และการกระชับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การส่งผู้เชี่ยวชาญไปดูงานที่ออสเตรเลีย ๖. ความสัมพันธ์ไทย-สวิตเซอร์แลนด์ โดยการเชิญให้รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ส่งผู้เชี่ยวชาญมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสัมมนา On the Path to Reform ที่ประเทศไทยในอนาคต ๗. ความสัมพันธ์ไทย-กานา โดยการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างไทย-กานา และการให้ความร่วมมือด้านการเกษตรกับกานา ๘. ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น โดยให้ความร่วมมือระบบรางระหว่างไทย-ญี่ปุ่น การพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยเพิ่มเติม และการผ่อนผันมาตรการตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||
24016 | สรุปผลการจัดเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2558 | วธ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการจัดเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี ๒๕๕๘ ของกระทรวงวัฒนธรรม โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงานสงกรานต์ “สืบสานประเพณีไทย สุขใจไทยทั่วหล้า” เพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม และสืบสานสาระคุณค่าของประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญของไทยให้ยังคงความงดงามและสืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้
๑. การจัดงานสงกรานต์แบบดั้งเดิม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยในส่วนกลางจัดที่วัดสำคัญ จำนวน ๗ วัด ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชมหาวิหาร วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดสุทธาโภชน์ วัดบางกระดี่ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร และวัดเสมียนนารี สำหรับในส่วนภูมิภาคจัดงานที่วัดสำคัญของทุกจังหวัดทั่วประเทศ ๒. การสักการะ ๙ พระพุทธรูปมงคลโบราณ เป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และคลังกลางจังหวัดปทุมธานี จำนวน ๙ องค์ มาประดิษฐานยังศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ ๓. การจัดงาน “สงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้าครองโลก” ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ ณ สยามสแควร์ ๔. การจัดงาน “Water Festival 2015 วิถีชีวิตไทย” ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ ณ บริเวณบนโค้งน้ำเจ้าพระยาใน ๗ พื้นที่หลัก ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ท่ามหาราช ตลาดยอดพิมานริเวอร์วอล์ค และเอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ๕. การรดน้ำขอพรจากศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๘ ณ หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ๖. การจัดงานสงกรานต์เมืองหน้าด่านวัฒนธรรม จำนวน ๔ เมือง ได้แก่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๗. การจัดทำสื่อเพื่อใช้รณรงค์ เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณค่าสาระประเพณีสงกรานต์ของไทย และการจัดทำ E-Card หรือบัตรอวยพร เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนได้ส่งความสุขปีใหม่แบบไทยในวันสงกรานต์
|
|||||||||||||||||||||
24017 | การตั้งงบประมาณด้านการจัดการขยะมูลฝอย ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ | ทส | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการตั้งงบประมาณด้านการจัดการขยะมูลฝอย ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด จำนวน ๙๐ โครงการ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๕,๖๒๐.๓๕๒๑ ล้านบาท จำแนกเป็นงบประมาณแผ่นดิน จำนวน ๕,๑๕๒.๙๓๔๔ ล้านบาท เงินกองทุนสิ่งแวดล้อม จำนวน ๓.๙๐ ล้านบาท และงบท้องถิ่นสมทบ จำนวน ๔๖๓.๕๑๗๗ ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๘ เรื่อง แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ เพิ่มเติม และได้จัดส่งรายละเอียดวงเงินและคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ สำหรับโครงการจัดการขยะมูลฝอย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอขยายระยะเวลาการจัดทำคำของบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้งบประมาณในลักษณะบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ด้านการบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการจัดการขยะมูลฝอย) ให้สำนักงบประมาณ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘ แล้ว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24018 | รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 19 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | กค | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (ASEN Finance Ministers’ Meeting : AFMM) ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย การประชุม AFMM ครั้งที่ ๑๙ และการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางของอาเซียน (ASEAN Central Bank Governors’ Meeting : ACGM) การประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของอาเซียน (ASEN Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting : AFMGM) การประชุม ASEAN Finance Ministers Retreat และการประชุมร่วมกับ ASEAN-US Business Council และ ASEAN-EU Business Council เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการตามแผนการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint : AEC Blueprint) ในช่วงระหว่างปี ๒๕๕๒-ปัจจุบัน ซึ่งสำเร็จตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ ๗๗.๗ โดยการดำเนินการตามเป้าหมายของสาขาการเงินการคลังสำเร็จแล้วร้อยละ ๘๐ และคาดว่าจะบรรลุตามเป้าหมายทั้งหมดได้ภายในสิ้นปีนี้ ๒. ที่ประชุมรับทราบการลงนามในเอกสาร ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑) พิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน รอบที่ ๖ (๒) พิธีสาร ฉบับที่ ๗ ว่าด้วยระบบศุลกากรผ่านแดน (Customs Transit System) ของประเทศสมาชิกอาเซียน และ (๓) กรอบกฎหมายเพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว ของอาเซียน ๓. ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของคณะทำงานของหน่วยงานกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN Capital Markets Forum : ACMF) ผลการประชุมของผู้กำกับดูแลธุรกิจประกันภัยของอาเซียน (ASEAN Insurance Regulators Meeting : AIRM) และข้อคิดเห็นของคณะกรรมการ ASEAN Business Advisory Council (ASEAN-BAC) รวมถึงความร่วมมือด้านการต่อต้านกิจกรรมทางการเงินของผู้ก่อการร้ายและความร่วมมือด้านภาษี ๔. ที่ประชุมรับทราบการดำเนินการของกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (AIF) โดยปัจจุบัน AIF มีเงินกองทุน ๔๘๕.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้กู้ร่วมกับเงินกู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) แก่อินโดนีเซียและเวียดนามไปแล้วรวม ๓ โครงการ รวมเป็นเงิน ๑๖๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกรณีที่ให้ใช้กองทุนฯ เพื่อช่วยค้ำประกันโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทยเห็นว่า ควรพิจารณาบทบาทของกองทุนฯ เพิ่มเติมในการให้การสนับสนุนด้านเงินทุน (Equity) แก่โครงการเพิ่มเติมจากการให้กู้เพียงอย่างเดียว ๕. ที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานเพื่อจัดทำร่างวิสัยทัศน์ (Vision) ของอาเซียนในภาคการเงินการคลังภายหลังปี ๒๕๕๘ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไปภายหลังจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย ๓ เสาหลักคือ การรวมตัวภาคการเงิน (Financial Integration) การเข้าถึงบริการทางการเงินภาคประชาชน (Financial Inclusion) และการกำกับดูแลภาคการเงินให้มีเสถียรภาพ (Financial Stability) ๖. ที่ประชุมเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (AFMM) เป็นการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของอาเซียน (AFMGM) โดยถือว่าการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก
|
|||||||||||||||||||||
24019 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 16 (การประชุม ครั้งที่ 66/2558 ถึง ครั้งที่ 70/2558) | นร05 | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑๖ (สำหรับการประชุมครั้งที่ ๖๖/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ถึงครั้งที่ ๗๐/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๘) พร้อมทั้งจุลสาร “รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปเป็นอย่างไร” ฉบับที่ ๖ เรื่อง “ความเห็นดี ๆ ที่ได้รับฟังมา” ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูล กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ และเนื้อหาสารัตถะในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในขณะเดียวกันก็เป็นการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนก่อนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะใช้บังคับ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
24020 | รายงานข้อมูลการจัดกิจกรรมช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน กระทรวงศึกษาธิการ "MOE Summer Camps 2015" และแหล่งเรียนรู้ (พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้) | ศธ | 28/04/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานข้อมูลการจัดกิจกรรมช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน กระทรวงศึกษาธิการ “MOE Summer Camps 2015” และแหล่งการเรียนรู้ (พิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้) โดยได้จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินการกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนฯ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางเพื่อบูรณาการการใช้ทรัพยากรในการพัฒนานักเรียนนักศึกษาร่วมกันระหว่างการจัดกิจกรรมกับแหล่งเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลเพื่อบูรณาการการดำเนินการได้ สรุปได้ ดังนี้
๑. กิจกรรม รวมทั้งสิ้น ๒๙๙ กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมลักษณะปิด (กิจกรรมที่หน่วยงานผู้จัดได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้เป็นการเฉพาะ) จำนวน ๒๕๗ กิจกรรม กิจกรรมลักษณะเปิด (กิจกรรมที่เปิดรับกลุ่มเป้าหมายทั่วไปตามจำนวนที่กำหนดไว้) จำนวน ๒๙ กิจกรรม และกิจกรรมลักษณะอื่น ๆ จำนวน ๑๓ กิจกรรม ๒. เป้าหมายรวมการให้บริการกิจกรรม จำนวน ๗๒๕,๓๑๘ คน ได้แก่ กิจกรรมลักษณะปิด จำนวน ๘๐,๐๓๓ คน และกิจกรรมลักษณะเปิด จำนวน ๖๔๕,๒๘๕ คน ๓. กิจกรรม แบ่งได้เป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ ๑ ประเภทค่ายฝึกอบรม จำนวน ๕๗ กิจกรรม กลุ่มที่ ๒ ประเภทค่ายพักแรม จำนวน ๖๔ กิจกรรม และกลุ่มที่ ๓ ประเภทค่ายวิชาการ จำนวน ๑๖๕ กิจกรรม ๔. กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ กิจกรรมประเภทจิตอาสาและบำเพ็ญประโยชน์ จำนวน ๑๐ กิจกรรม และกิจกรรมประเภทสร้างรายได้พิเศษให้นักเรียนนักศึกษา จำนวน ๓ กิจกรรม ๕. แหล่งเรียนรู้เป็นหน่วยงานที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จำนวน ๑๒๔ แห่ง แยกเป็นศูนย์การเรียนรู้ จำนวน ๑๑๒ แห่ง และพิพิธภัณฑ์ จำนวน ๑๒ แห่ง
|
.....