ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1201 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 24001 - 24020 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24001 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองพลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนหนองพลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24002 | แผนการจัดการกากอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2558 - 2562 | อก | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแผนการจัดการกากอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ สำหรับเป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมของประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมในประเทศเข้าสู่ระบบการจัดการกากอุตสาหกรรม โดยดำเนินการแจ้งการขนส่งกากอุตสาหกรรมออกไปบำบัด/กำจัด/รีไซเคิล ยังโรงงานผู้รับดำเนินการที่ได้รับอนุญาต เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละอย่างน้อย ๑๒,๐๐๐ โรงงาน เป็นระยะเวลา ๕ ปี สำหรับกากอุตสาหกรรมอันตราย และกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและตามหลักวิชาการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา ๕ ปี เป็นปริมาณปีละ ๑.๔๗๓ ล้านตัน และ ๘.๐๑ ล้านตัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือแก่กระทรวงอุตสาหกรรม และช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารแผนการจัดการกากอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน และทำให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรกำหนดเป้าหมายของแผนที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงผลงานของการจัดการกากอุตสาหกรรม และควรมีมาตรการจัดการตั้งแต่ต้นทางโดยอาศัยแนวคิดขยะเหลือศูนย์ (Zero waste management) ด้วยการสร้างกลไกการจัดการกากอุตสาหกรรม หรือซากผลิตภัณฑ์จากกระบวนการผลิต ลดปริมาณการเกิดกากอุตสาหกรรมตั้งแต่โรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรม การกำหนดมาตรฐานคุณภาพวัสดุรีไซเคิล โดยให้ความสำคัญต่อสัดส่วนการใช้วัสดุรีไซเคิล (Recycled content) และสัดส่วนวัสดุที่จะสามารถนำมารีไซเคิลได้จริง (Recyclable content) รวมทั้งการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการแปรรูปและการควบคุมคุณภาพวัสดุให้สามารถนำกลับมาใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าและลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นในแต่ละอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เห็นควรกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะนำเข้าสู่ระบบ และระยะเวลาในการดำเนินการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ตลอดจนกำหนดเพดานอัตราค่าบำบัด/กำจัดของเสียอันตราย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการและปรับกรอบระยะเวลาของแผนดังกล่าวให้สอดคล้องกับระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ (เรื่อง ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี) แล้วแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามแผนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
24003 | ความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก และปีดินสากล ปี 2558 (ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม 2558) | กษ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรมวันดินโลก และปีดินสากล ปี ๒๕๕๘ (ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๕๘) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญพระราชดำรัสหัวข้อ “Healthy Soils for a Healthy Life” และภาพข่าวพระราชกรณียกิจของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา เสด็จแทนพระองค์ไปทรงร่วมงานเฉลิมฉลองวันดินโลก และปีดินสากล ๒๕๕๘ ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ต่อสาธารณชน ๒. กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการประชุม International Soil Conference ในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ ๓. กราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานถ้วยรางวัลในการประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษระดับอุดมศึกษา หัวข้อ “Healthy Soils for a Healthy Life” และการประกวดภาพยนตร์สารคดีสั้น หัวข้อ “พลังแห่งแผ่นดิน” เพื่อพระราชทานแก่ผู้ชนะเลิศการประกวด ในวันเปิดการประชุม International Soil Conference ๔. การดำเนินงานตามปฏิทินกิจกรรมงานปีดินสากล ๔.๑ จัดการอบรมหมอดินอาสาระดับนานาชาติร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) หลักสูตร “Training of Master Trainers and Farmer Leaders for Climate Friendly Agriculture : CFA” ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ มีนาคม ๒๕๕๘ ให้แก่ผู้นำเกษตรกรจาก ๖ ประเทศในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง จำนวน ๖๐ คน ณ กรมพัฒนาที่ดิน ๔.๒ เตรียมการจัดประชุมวิชาการระดับชาติ หัวข้อการพัฒนาที่ดิน ปี ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ เมษายน ๒๕๕๘ ณ โรงแรมพลูแมน จังหวัดขอนแก่น ๔.๓ กิจกรรมที่จัดเป็นประจำทุกเดือน ได้แก่ การบรรยายพิเศษเกี่ยวกับความสำคัญและการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรดิน และการเปิดให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ดิน ๔.๔ แผนกิจกรรมปีดินสากลที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ได้แก่ การจัดสัปดาห์ดินสากล วันที่ ๒๐-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ที่กรุงเทพฯ การรับสมัครประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ หัวข้อ “Healthy Soils for a Healthy Life” ในระดับอุดมศึกษา การประกวดภาพยนตร์สารคดีสั้น หัวข้อ “พลังแห่งแผ่นดิน” และการจัดประชุมระหว่างประเทศ International Soil Conference : Sustainable Uses of Soil in Harmony with Food Security ที่จังหวัดเพชรบุรี วันที่ ๑๘-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ขณะนี้ได้รับการอนุมัติหลักการจัดประชุม และส่งหนังสือเชิญผู้แทนจากหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมประชุมแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
24004 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายทรงพล สมศรี) | กษ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายทรงพล สมศรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตพืช (นักวิชาการเกษตรทรงคุณวุฒิ) กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24005 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร10 | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้ ๑.๑ การพิจารณาปรังปรุงบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงและอัตราเงินเดือนขั้นต่ำชั่วคราวของข้าราชการ โดยที่กฎหมายได้กำหนดให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการข้าราชการแต่ละประเภท จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ รับไปดำเนินการ ๑.๒ การพิจารณาทบทวนบัญชีเงินเดือนและค่าตอบแทนของข้าราชการประเภทต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำนักงาน ก.พ. อยู่ระหว่างการจัดทำข้อเสนอการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายค่าตอบแทนภาครัฐเพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรดังกล่าว โดยการจัดทำข้อเสนอดังกล่าวจะต้องคำนึงถึงบทบัญญัติมาตรา ๒๘๔ (๖) ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๑.๓ การเยียวยาให้ข้าราชการทหารและข้าราชการตำรวจได้รับเงินเดือนตามชั้นยศและตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถดำเนินการได้โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการทหารและข้าราชการตำรวจ จัดทำข้อเสนอต่อองค์กรกลางบริหารงานบุคคลและคณะรัฐมนตรี เมื่อร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับแล้ว ๒. มอบให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และผลการดำเนินการตามข้อสังเกตที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. แจ้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24006 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง พ.ศ. .... [ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง พ.ศ. ....] | สว | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง พ.ศ. .... พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการค้างาช้าง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป สำหรับผลการดำเนินการตามข้อสังเกต กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดมาตรการเพื่อเป็นการคุ้มครองช้าง แก้ไขปัญหาการนำช้างป่ามาสวมทะเบียนเป็นช้างตามกฎหมายว่าด้วยสัตว์พาหนะ และเห็นว่าการเพิ่มบทกำหนดโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าให้มีบทลงโทษสูงขึ้นให้เหมาะสมกับการกระทำความผิด ควรให้มีกฎหมายส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าใช้แทนกฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ส่วนการคุ้มครองช้างที่เป็นสัตว์พาหนะ กระทรวงมหาดไทยได้มีการดำเนินการจัดทำรหัสพันธุกรรมของช้างแต่ละเชือก แต่เนื่องจากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมช้างของสถาบันคชบาลแห่งชาติไม่ครอบคลุมช้างสัตว์พาหนะทุกเชือก ทำให้ไม่สามารถควบคุมการนำช้างป่ามาสวมตั๋วรูปพรรณได้ จึงควรให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมของช้างตามทะเบียนสัตว์พาหนะเพื่อนำมาบันทึกในตั๋วรูปพรรณช้างแบบใหม่ และจัดทำเครื่องหมายโดยฝังไมโครชิฟให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน ส่วนกรณีการค้างาช้าง ได้ดำเนินการเพื่อให้มีอนุบัญญัติต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้มีการควบคุมการค้างาช้าง และการมีงาช้างไว้ในครอบครอง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. มอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมของชาติตามทะเบียนสัตว์พาหนะ เพื่อนำมาบันทึกในตั๋วรูปพรรณช้างแบบใหม่ และจัดทำเครื่องหมายโดยฝังไมโครชิพให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน
|
||||||||||||||||||||||||
24007 | ผลการดำเนินงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในกรอบความร่วมมือกลุ่มหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสากล | ยธ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ในกรอบความร่วมมือกลุ่มหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสากล ซึ่งประเทศไทย โดยสำนักงาน ปปง. ได้มีบทบาทเป็นประเทศผู้สนับสนุน (Sponsor) ประเทศอื่นที่ขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสากล จำนวน ๖ ประเทศ มีผลการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
๑. สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ (ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สนับสนุนร่วมกับมาเลเซีย) โดยในการประชุมประจำปี ครั้งที่ ๒๑ ณ เมืองซันซิตี้ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ในปี ๒๕๕๖ ได้มีมติรับรองหน่วยข่าวกรองทางการเงินบังกลาเทศเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ๒. ประเทศบรูไนดารุสซาลาม (ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สนับสนุนร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี) โดยในการประชุมประจำปี ครั้งที่ ๒๒ ณ กรุงลิม่า สาธารณรัฐเปรู ในปี ๒๕๕๗ ได้มีมติรับรองหน่วยข่าวกรองทางการเงินบรูไนเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ๓. ราชอาณาจักรกัมพูชา (ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สนับสนุนร่วมกับไต้หวัน) โดยในการประชุมคณะทำงานส่งเสริมสมาชิกและคณะทำงานด้านกฎหมายได้มีมติเห็นชอบในหลักการและให้นำเสนอต่อที่ประชุมประจำปี ครั้งที่ ๒๓ ณ เมืองบริดจ์ทาวน์ ประเทศบาร์เบโดส ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ เพื่อพิจารณารับรองข่าวกรองทางการเงินกัมพูชาต่อไป ๔. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล (ประเทศไทยเป็นผู้สนับสนุนร่วมกับไต้หวัน) ที่ประชุมมอบหมายให้ผู้แทนประเทศไทยและไต้หวันเข้าไปประเมินความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง (Re-conduct on-site visit) และหากปรากฏว่าเนปาลสามารถพัฒนาระบบสารสนเทศของหน่วยข่าวกรองทางการเงินของเนปาลให้ได้ตามมาตรฐานแล้ว ก็จะพิจารณารับเนปาลเข้าเป็นสมาชิกในการประชุมประจำปี ครั้งที่ ๒๓ ณ เมืองบริดจ์ทาวน์ ประเทศบาร์เบโดส ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ต่อไป ๕. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สนับสนุนร่วมกับอินโดนีเซีย) โดยประเทศไทยได้แถลงในที่ประชุมว่า หน่วยข่าวกรองทางการเงินของลาวยังขาดความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน จึงพิจารณาให้สถานะการสมัครของลาวยังคงเป็นแบบระยะยาว (Long Term Candidate) ๖. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (ประเทศไทยเป็นประเทศผู้สนับสนุนร่วมกับประเทศญี่ปุ่น) ณ ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลความคืบหน้า จึงพิจารณาให้สถานะการสมัครของเมียนมายังคงเป็นแบบระยะยาว (Long Term Candidate)
|
||||||||||||||||||||||||
24008 | รายงานผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาล Bangla New Year 1422 ประจำปี 2558 | วธ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองเทศกาล Bangla New Year 1422 ประจำปี ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘ ณ กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะได้เข้าร่วมงานเทศกาล Bangla New Year Welcome Festival ณ สวนสาธารณะ Ramna Botomul โดยได้เข้าร่วมขบวนแห่หน้ากาก New Year good luck mask procession ณ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธากา เทศกาล Bangla New Year ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวบังกลาเทศ โดยชาวบังกลาเทศหลายพันคนจะออกมาร่วมเดินขบวนแห่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ บนท้องถนนเต็มไปด้วยสีสันจากเครื่องแต่งกายและหน้ากากที่สวมใส่โดยผู้ร่วมงาน พร้อมกับความสวยงามของขบวนรถแห่ในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งได้เข้าร่วมงานแสดงทางวัฒนธรรม Bangla New Year Cultural Programme ณ สถาบัน Shilpakala Academy ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมบังกลาเทศได้จัดการแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ และได้จัดชุดการแสดงพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการขับร้องเพลง “ต้นไม้ของพ่อ” เป็นภาษาไทย โดยนักร้องที่มีชื่อเสียงของบังกลาเทศ ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้หารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมบังกลาเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำข้อตกลงเฉพาะด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมทั้งสองประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว (ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรม การศึกษาและวิทยาศาสตร์ระหว่างสองประเทศ พ.ศ. ๒๕๒๒) ในเบื้องต้นจะมีความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณคดี พิพิธภัณฑ์ นิทรรศการผลงานศิลปะร่วมสมัย ภาพยนตร์ จิตรกรรม ประติมากรรม ดนตรี ศาสนา และการแสดงพื้นบ้านที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมทั้งสองประเทศได้เน้นย้ำความร่วมมือในรูปแบบของการเปิดประตูทางวัฒนธรรมระหว่างกันและส่งเสริมการเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันให้ยั่งยืน ๓. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและคณะได้ศึกษาดูงาน ณ พิพิธภัณฑ์ Bangabhadhu Memorial Museum โดยมีผู้อำนวยการสำนักหอจดหมายเหตุและหอสมุดแห่งชาติให้การต้อนรับ ซึ่งระหว่างการเยี่ยมชมมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันเกี่ยวกับการจัดเก็บรักษาหนังสือและเอกสารที่มีคุณค่าหายากและถือเป็นมรดกทรัพย์สินทางปัญญาของชาติ ตลอดจนการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย ต่อจากนั้นได้เดินทางเข้าเยี่ยมวัดพุทธ Kamalapur Dharmarajka Buddhist Shongo โดยวัดแห่งนี้ได้ให้การศึกษาสงเคราะห์แก่เด็กยากจนและมีหอพักให้อยู่อาศัย โดยไม่กีดกันเรื่องการนับถือศาสนา โดยทางวัดให้การศึกษาจนถึงระดับมัธยมปลาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเห็นว่าประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา จึงควรให้การช่วยเหลือสนับสนุน ซึ่งจะได้มอบหมายให้กรมการศาสนาประสานความร่วมมือกับทางคณะสงฆ์ไทยในบังกลาเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24009 | รายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น รวม 3 เรื่อง (การยกฐานะเทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยาและแนวทางการแก้ไข พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ และกรณีให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลโดยตำแหน่ง พร้อมทั้งข้อสังเกต) | สว | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น พร้อมข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ได้แก่ เรื่อง การยกฐานะเทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เรื่อง ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยาและแนวทางการแก้ไข และกรณีให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลโดยตำแหน่ง รวม ๓ เรื่อง มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น การจัดระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา และลักษณะการปกครองท้องที่ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับรายงานของคณะกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการในเรื่องใดได้หรือไม่ประการใดก่อน โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24010 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนล้อมแรด จังหวัดลำปาง พ.ศ. .... | มท | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนล้อมแรด จังหวัดลำปาง พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลแม่ถอด ตำบลล้อมแรด ตำบลแม่ปะ และตำบลเถินบุรี อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
24011 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ 27 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2558) | สผ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการ จำนวน ๒๔ คณะ และคณะอนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วันที่ ๒๗ เมษายน-๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘) ตามที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
24012 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจำนองเรือและบุริมสิทธิทางทะเล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจำนองเรือและบุริมสิทธิทางทะเล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ดังนี้ ๑.๑ เนื่องจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้แก้ไขเพิ่มเติมคำว่า "เรือที่อยู่ระหว่างการต่อสร้าง" เป็น "เรือที่อยู่ระหว่างการต่อ" ดังนั้น จึงควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลด้วย ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการให้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญัติการจำนองเรือและบุริมสิทธิทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยมีวัตถุประสงค์บังคับใช้กับเรือขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสขึ้นไปที่เดินด้วยเครื่องจักรกลไม่ว่าจะใช้กำลังอื่นด้วยหรือไม่ก็ตาม และเป็นเรือที่มีลักษณะสำหรับใช้ในทะเลตามกฎข้อบังคับการตรวจเรือที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทยแต่ในปัจจุบันเรือไทยที่ใช้ในแม่น้ำขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสขึ้นไปที่อยู่ระหว่างการต่อ ไม่สามารถนำมาจำนองได้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุกริจเรือไทยที่ใช้ในแม่น้ำ จึงควรมีการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เรือประเภทอื่นที่อยู่ระหว่างการต่อสามารถนำมาจำนองได้เช่นเดียวกับเรือเดินทะเลตามร่างพระราชบัญญัตินี้ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แก้ไขเป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. มอบให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ตามข้อ ๑.๒ ไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อนแล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24013 | ขออนุมัติชะลอโครงการจัดตั้งศูนย์รังสีโปรตอนบำบัดและขอโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ | ศธ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอขอแก้ไขข้อความในหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๒.๒/๕๘๕ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๘ หน้า ๒ บรรทัดที่ ๙ จาก “โครงการงานก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ส่วนขยายเพิ่มเติม การให้บริการทางการแพทย์ (อาคาร ๘๐๐ เตียง)” เป็น “โครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ส่วนขยายเพิ่มเติมการให้บริการทางการแพทย์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร” ๒. อนุมัติชะลอโครงการจัดตั้งศูนย์รังสีโปรตอนบำบัด และเห็นชอบโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน ๒ รายการ ประกอบด้วย รายการโครงการจัดตั้งศูนย์รังสีโปรตอนบำบัด และรายการเครื่องมือรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสีโปรตอน วงเงินงบประมาณรวม ๓๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไปเป็นรายการใหม่ ๓ รายการ ประกอบด้วย ค่าครุภัณฑ์ทางการแพทย์และครุภัณฑ์อื่น ๆ ค่าใช้จ่ายในการออกแบบภูมิสถาปัตย์ และค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ผลกระทบและสิ่งแวดล้อม วงเงินงบประมาณรวม ๓๓๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้ขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนของระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
24014 | ขออนุมัติดำเนินโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย | คค | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมถึงบริหารและประกอบการ โดยใช้งบประมาณลงทุนรวม ๑,๘๖๔.๑๙ ล้านบาท ๑.๒ อนุมัติกรอบอัตราค่าภาระขั้นต่ำ-ขั้นสูง ได้แก่ ๑.๒.๑ อัตราค่าภาระขั้นต่ำ ๑,๕๔๕ บาท ประกอบด้วย อัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าในอัตราขั้นต่ำ ๗๑๕ บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ และอัตราค่าธรรมเนียมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าระหว่างท่าในอัตราขั้นต่ำ ๘๓๐ บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ ๑.๒.๒ อัตราค่าภาระขั้นสูง ๓,๑๘๐ บาท ประกอบด้วย อัตราค่าภาระยกขนตู้สินค้าในอัตราขั้นสูง ๒,๐๑๐ บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ และอัตราค่าธรรมเนียมเคลื่อนย้ายตู้สินค้าระหว่างท่าในอัตราขั้นสูง ๑,๑๗๐ บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ โดยใช้อัตราค่าภาระขั้นต่ำที่กำหนด (๑,๕๔๕ บาทต่อตู้สินค้าทุกขนาดและทุกสถานภาพ) เป็นอัตราค่าภาระเมื่อเริ่มดำเนินการ และให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยสามารถปรับลดอัตราค่าภาระในการให้บริการลงได้ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของอัตราค่าภาระขั้นต่ำที่กำหนด ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ที่เห็นควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของขนาดตู้สินค้าและอัตราค่าภาระในการให้บริการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเห็นควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และเห็นควรให้ความสำคัญรายงานจากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินโครงการหรือที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยบริเวณโดยรอบพื้นที่โครงการ สำหรับกรณีการจ้างเหมาเอกชนเพื่อให้บริการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าที่อาจเข้าข่ายการจ้างเอกชนดำเนินการในรูปแบบ PPP-Gross Cost ให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลังในฐานะผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
24015 | รายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช. ประจำปี 2556 | กสทช | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) รายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำปี ๒๕๕๖ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับภารกิจและโครงการที่สำคัญในรอบปีที่ กสทช. ได้ดำเนินการเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อาทิ การจัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับบริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz การคุ้มครองผู้ใช้บริการในช่วงที่คลื่นความถี่ตามสัญญาสัมปทานหมดอายุคลื่นความถี่ 1800 MHz และการเปลี่ยนระบบรับส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินเป็นระบบดิจิตอล และการประมูลคลื่นความถี่ดิจิตอลทีวี ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ และผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของ กสทช. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และสำนักงาน กสทช. รวมทั้งการรายงานสภาพตลาดและการแข่งขันในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม การบริหารงบประมาณประจำปี ๒๕๕๖ แผนงาน โครงการ และแผนงบประมาณประจำปี ๒๕๕๗ ตลอดจนปัญหา อุปสรรค และความท้าทายในการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมในปีที่ผ่านมา
|
||||||||||||||||||||||||
24016 | ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... | ยธ | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๒๒ และแก้ไขเพิ่มเติมกระบวนการคุมประพฤติให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นของกรมคุมประพฤติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องระบุให้พนักงานคุมประพฤติเป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ เนื่องจากมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือนไว้แล้ว ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24017 | ขอนำส่งรายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช. ประจำปี 2557 | กสทช | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับภารกิจสำคัญในรอบปีที่ กสทช. ได้ดำเนินการซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชน อาทิ การสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล การเตรียมการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz และ 1800 MHz การคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม การดำเนินกิจกรรมระหว่างประเทศด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม และความสัมพันธ์กับรัฐบาลและรัฐสภา รวมถึงผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของ กสทช. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับสภาพตลาดและการแข่งขันในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม และแนวโน้มอุตสาหกรรมกระจายเสียง อุตสาหกรรมโทรทัศน์ และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปี ๒๕๕๘ การบริหารงบประมาณ ประจำปี ๒๕๕๗ แผนงาน/โครงการ และแผนงบประมาณประจำปี ๒๕๕๘ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคในการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่มีความสำคัญต่อประชาชนในปีที่ผ่านมา
|
||||||||||||||||||||||||
24018 | ร่างพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ บางประการ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรงให้มีความชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ และเพื่อให้มีหลักประกันว่าผู้บริโภคจะได้รับความคุ้มครองหากผู้บริโภคได้รับความเสียหายอันเกิดจากการที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา โดยให้พิจารณาถึงความเชื่อมโยงกับการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์ด้วย ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
24019 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - อิหร่าน | คค | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-อิหร่าน และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและอิหร่าน โดยบันทึกความเข้าใจฯ เป็นเอกสารที่แสดงความเข้าใจร่วมกันระหว่างไทยกับอิหร่านในการปรับปรุงสิทธิการบินในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การกำหนดสายการบิน ความจุความถี่ เส้นทางบิน การใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน และสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ ๕ ส่วนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของทั้งสองฝ่ายมีสาระเป็นการยืนยันการแก้ไขความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการขนส่งทางอากาศฯ ที่ได้มีการหารือกันตามบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๒. มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบสาระสำคัญ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการเจรจาเพื่อเปิดเส้นทางการบินที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ในลักษณะการแลกเปลี่ยนกันกับประเทศต่าง ๆ ทั้งเที่ยวบินปกติ เที่ยวบินพิเศษ เที่ยวบินเช่าเหมาลำ และเที่ยวบินขนส่งสินค้า เป็นต้น โดยเฉพาะกับสาธารณรัฐฟิจิเป็นลำดับแรกด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
24020 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น | คค | 26/05/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกความร่วมมือด้านระบบรางระหว่างกระทรวงคมนาคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Memorandum of Cooperation between the Ministry of Transport of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism of Japan on Railway Sector) มีสาระสำคัญเป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในการพัฒนาระบบรางในประเทศไทย เช่น การพัฒนารถไฟความเร็วสูง การพัฒนาเส้นทางรถไฟ การให้บริการขนส่งทางราง ความช่วยเหลือทางวิชาการ เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความร่วมมือฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญก่อนการลงนามและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ให้กระทรวงคมนาคมสามารถดำเนินการได้โดยประสานกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามดังกล่าว ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาเปรียบเทียบความเหมาะสมของรูปแบบการลงทุนภายใต้กรอบความร่วมมือฯ และให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบุคลากรของไทยอย่างเป็นระบบ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ในการดำเนินการตามบันทึกความร่วมมือฯ หากจะต้องมีข้อผูกพันเกี่ยวกับการกำหนดเส้นทางรถไฟสายต่าง ๆ และการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่มีข้อผูกพันที่เข้าข่ายต้องดำเนินการตามมาตรา ๒๓ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เช่น การดำเนินการตามขั้นตอนหรือวิธีการตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์โดยตราเป็นกฎหมาย เป็นต้น ให้กระทรวงคมนาคมนำบันทึกความร่วมมือฯ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติเกี่ยวกับหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ต่อไปด้วย ๔. ให้กระทรวงคมนาคมนำเรื่องกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการต่าง ๆ หลักในการร่วมลงทุน และความร่วมมือระหว่างกันไปร่วมหารือในการเจรจาในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุน ๕. ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตามแนวเขตเส้นทางรถไฟ โดยคำนึงถึงการจัดเป็นพื้นที่สำหรับประกอบอาชีพของประชาชนผู้มีรายได้น้อยด้วย เช่น การสร้างตลาด ร้านค้า ทั้งนี้ การดำเนินการต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้วย |
.....