ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1145 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 22881 - 22900 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22881 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... | สธ | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมดำเนินการจัดให้มีการพิจารณาถึงความเสถียรของสารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอาง และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามบทบัญญัติต่าง ๆ เกี่ยวกับ “สารสำคัญ” มีตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียอยู่ในคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง มีการแจ้งกฎหมายพร้อมคำชี้แจงถึงผู้ประกอบการทุกราย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางหนังสือเวียนและการเผยแพร่ทางสื่ออินเทอร์เน็ต รวมทั้งได้พัฒนาระบบการจดแจ้งให้สามารถเพิ่มการอำนวยความสะดวกต่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าเพื่อขายมาตลอด และปัจจุบันกำลังดำเนินการพัฒนาระบบการจดแจ้งให้เป็นแบบจดแจ้งอัตโนมัติทั้งหมด นอกจากนี้ ร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. .... ยังมีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้ผู้ประกอบการสามารถผลิตเครื่องสำอางตามมาตรฐานของประเทศคู่ค้าได้ มีการจัดระบบการจดแจ้งสำหรับการส่งออก และขั้นตอนการพิจารณาออกคำสั่งหรือข้อกำหนดใด ๆ ของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ถือปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติราชการปกครอง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานได้ตามสมควร และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22882 | รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย (เรื่อง สิทธิในการจัดการที่ดินและป่า กรณีประชาชนร้องเรียนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐอ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 64/2557 และฉบับที่ 66/2557 ก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน) | สม | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและรายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิในการจัดการที่ดินและป่า กรณีประชาชนร้องเรียนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ของรัฐอ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๖๔/๒๕๕๗ และ ฉบับที่ ๖๖/๒๕๕๗ ก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางในการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายโดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22883 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับข้อสังเกตดังกล่าว ไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยคณะกรรมาธิการฯ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติฯ เกี่ยวกับการออกกฎ ก.ตร. อื่นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งและโยกย้ายผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ดังนี้
๑. การกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในกฎ ก.ตร. ควรมีวาระการดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่าสองปี เพื่อให้มีวาระการดำรงตำแหน่งที่ต่อเนื่อง ๒. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.ตร. ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งและโยกย้ายผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยควรกำหนดหลักเกณฑ์ให้ในระหว่างวาระแรกของการดำรงตำแหน่ง ห้ามมิให้แต่งตั้งหรือโยกย้ายผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือในระดับเดียวกันก็ตาม เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น เช่น ผู้บัญชากากรโรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวได้ หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจมีหลักประกันในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||
22884 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการอุทธรณ์ฎีกา) | นร07 | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมการอุทธรณ์ฎีกา) ที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยสำนักงบประมาณเห็นว่าการอำนวยความสะดวก และสนับสนุนการปฏิบัติงานในกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรมให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และมีประสิทธิภาพ เห็นสมควรสนับสนุนให้มีการจัดหาครุภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานตามขั้นตอนของการพิจารณาคดีอย่างเครื่องบันทึกภาพและเสียง ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และเพื่อให้การจัดหาครุภัณฑ์ระบบบันทึกภาพและเสียงมีประสิทธิภาพและเหมาะสมสำหรับใช้ในการปฏิบัติราชการของศาลยุติธรรม เห็นสมควรที่สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาความเหมาะสมของระยะเวลาดำเนินงาน และจัดลำดับความสำคัญในการจัดหาครุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้งาน สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในโอกาสแรกนั้น ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาดำเนินการก่อน และขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22885 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ. 2503 | กห | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ. ๒๕๐๓ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร พ.ศ. ๒๕๐๓ เพื่อกำหนดคุณสมบัติเกี่ยวกับอายุของบุคคลผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการฝึกวิชาทหาร ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22886 | รายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เรื่อง สิทธิในการจัดการที่ดิน กรณีปัญหาเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อความมั่นคงชายแดน ไทย - กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ | สม | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอเรื่อง รายงานผลการพิจารณาคำร้องที่มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เรื่อง สิทธิในการจัดการที่ดิน กรณีปัญหาเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อความมั่นคงชายแดน ไทย-กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอในการจัดทำประมวลข้อเท็จจริงของสภาพปัญหาที่ดินของประชาชนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และทบทวนนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารจัดการพื้นที่บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ด้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22887 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างภายใต้โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี (แผนระยะที่ 2) จังหวัดจันทบุรี จำนวน 2 สัญญา | กษ | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน รายการจ้างก่อสร้างขุดคลองผันน้ำ สถานีสูบน้ำ และประตูระบายน้ำ พร้อมอาคารประกอบ สัญญาที่ ๑ จากวงเงินค่างานตามสัญญา ๙๗๒,๕๓๓,๙๓๑.๕๐ บาท เป็นวงเงิน ๑,๐๕๗,๘๔๐,๐๘๘.๕๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๘ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๙ ๑.๒ เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน รายการจ้างก่อสร้างขุดคลองผันน้ำ สถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น สัญญาที่ ๒ จากวงเงินค่างานตามสัญญา ๙๖๘,๙๗๔,๙๖๘.๔๑ บาท เป็นวงเงิน ๑,๐๘๒,๙๗๐,๓๕๘.๐๐ บาท และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ จากเดิมปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๘ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๙ ๒. สำหรับวงเงินงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากสัญญาดังกล่าว จำนวน ๘๕,๓๐๖,๑๕๗ บาท และจำนวน ๑๑๓,๙๙๕,๓๘๙.๕๙ บาท ตามลำดับ นั้น เห็นควรให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งสำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||
22888 | การกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในอัตราร้อยละ ๐.๑๘ ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนและการคำนวณเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นอำนาจของคณะกรรมการกองทุนที่จะประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามมาตรา ๑๕ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงไม่อาจกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้ในร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และสมควรนำไปกำหนดเป็นประกาศอีกฉบับหนึ่ง และในกรณีที่มีการเพิ่มทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เห็นควรพิจารณาใช้เงินจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นลำดับแรกเพื่อลดภาระงบประมาณในภาพรวมของประเทศและเพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22889 | ขอความเห็นชอบให้รัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมและฝึกอบรมร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ | วท | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอบรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและฝึกอบรมในประเทศไทย จำนวน ๒ รายการ และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะได้ดำเนินการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแจ้งให้คณะผู้แทนถาวรไทยประจำกรุงเวียนนาทราบ และแจ้งทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ตามแนวทางปฏิบัติต่อไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้
๑. การประชุม IAEA/RCA Final Review Meeting of RAS/1/014 ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน-๔ ธันวาคม ๒๕๕๘ ๒. การฝึกอบรม Regional Training Course on Clinical Application of Advanced Hybrid Imaging Techniques in Oncology ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๗-๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ |
|||||||||||||||||||||
22890 | คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 31/2558 เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง และคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2558 เรื่อง การแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม | สลธ.คสช. | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๑/๒๕๕๘ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ลงวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๘ โดยให้ นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นพิเศษเฉพาะราย ๒. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๒/๒๕๕๘ เรื่อง การแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ลงวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๘ โดยให้ นางสาลินี วังตาล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยให้มีวาระอยู่ในตำแหน่งสองปีตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ
|
|||||||||||||||||||||
22891 | รายงานผลการดำเนินการตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น รวม 3 เรื่อง (การยกฐานะเทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยาและแนวทางการแก้ไข พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ และกรณีให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับ ตำบลโดยตำแหน่ง พร้อมทั้งข้อสังเกต) | มท | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น รวม ๓ เรื่อง (การยกฐานะเทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยาและแนวทางการแก้ไข พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ และกรณีให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลโดยตำแหน่ง พร้อมทั้งข้อสังเกต ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ดังนี้
๑. ความเห็นของกระทรวงมหาดไทย ๑.๑ การยกฐานะเทศบาลนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๓ มกราคม ๒๕๕๘) ซึ่งเห็นว่าหลักการของร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการนครแม่สอด พ.ศ. .... ยังไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล จึงได้ลงมติให้ชะลอการดำเนินการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ๑.๒ ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยา และแนวทางการแก้ไข เห็นควรรอให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และแนวทางการปฏิรูปแล้วเสร็จ ๑.๓ กรณีการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลโดยตำแหน่ง เห็นควรให้เสนอแนวทางในการส่งเสริมบทบาทของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และกำหนดมาตรการในการตรวจสอบการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปพร้อมกัน สำหรับข้อเสนอให้มีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านปีละครั้ง เห็นว่าจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับอำเภอมากขึ้น ดังนั้น การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน อย่างน้อยทุกห้าปีจึงมีความเหมาะสมแล้ว ๒. ความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๒.๑ การยกฐานะเทศบาลแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เห็นควรทบทวนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากมีลักษณะเช่นเดียวกับเมืองพัทยา จึงควรศึกษาปัญหาที่เกิดจากเมืองพัทยามาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม ๒.๒ ปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานของเมืองพัทยา และแนวทางการแก้ไข เห็นควรแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันเหตุการณ์ ๒.๓ กรณีศึกษาให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลโดยตำแหน่ง ควรมุ่งเน้นส่งเสริมความร่วมมือ ประสานงานและทำงานระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับตำบลมากกว่าที่จะกำหนดให้เป็นสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตำแหน่ง
|
|||||||||||||||||||||
22892 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2557 | กค | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นการรายงานภาพรวมธุรกิจประกันของไทยรอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๕๗ และผลการดำเนินการตามกรอบแผนพัฒนาประกันภัย ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๗) ตามมาตรการหลัก ๔ ประการ ของแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ ๒ ประกอบด้วย มาตรการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเข้าถึงระบบประกันภัย มาตรการเสริมสร้างเสถียรภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน มาตรการพัฒนาการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย และมาตรการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการประกันภัย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22893 | ขออนุมัติกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน และขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2555 - 2557 กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน (โครงการยกระดับงานประชาสัมพันธ์เพื่อรองรับภารกิจสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล โครงการพัฒนาเมืองและอื่น ๆ รวม 16 รายการ) | นร04 | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการ ดังนี้
๑. ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังในการขอกันเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้เบิกเหลื่อมปี กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ๑ รายการ งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายโครงการยกระดับงานประชาสัมพันธ์เพื่อรองรับภารกิจสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล สำหรับดำเนินงานด้านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ ได้แก่ จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชนและรายการโทรทัศน์ “The Insider” เป็นเงิน ๑๑,๓๖๐,๐๐๐ บาท ตามข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ในส่วนของการขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ๑๕ รายการ เป็นเงิน ๒๒๑,๒๙๙,๒๘๙ บาท ให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ (เรื่อง รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบกลางและเงินงบประมาณเหลือจ่าย) |
|||||||||||||||||||||
22894 | รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส 2 ปี 2558 และภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม 2558 | อก | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๘ และภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาส ๒ ปี ๒๕๕๘ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ ๒ ของปี ๒๕๕๘ อยู่ที่ระดับ ๑๕๓.๑ ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา (๑๗๑.๙) ร้อยละ ๑๐.๙ และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี ๒๕๕๗ (๑๖๕.๗) ร้อยละ ๗.๖ อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี ๒๕๕๗ ได้แก่ Hard Disk Drive โทรทัศน์สี ยานยนต์ เครื่องประดับเพชรพลอย ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เป็นต้น ๒. ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๘ ลดลงร้อยละ ๕.๓ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อุตสาหกรรมสำคัญที่ลดลง อาทิ Hard disk drive (HDD) โทรทัศน์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์กลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังจากติดลบติดต่อกัน ๓ เดือน การเปิดปิดโรงงาน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ จำนวน ๔๑๐ ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ร้อยละ ๒๓.๕ มียอดเงินลงทุนรวมและจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ ๔๗.๗ และ ๓๐.๕ ตามลำดับ และโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการ จำนวน ๒๒๘ ราย น้อยกว่าเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ร้อยละ ๙.๕๒ การนำเข้าของภาคอุตสาหกรรม ในส่วนของการนำเข้าเครื่องมือกลและอุตสาหกรรม และเครื่องจักรกล มีมูลค่า ๑,๐๕๒.๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ ๑๗.๔ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และการใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสาหกรรมการผลิต มีปริมาณทั้งหมด ๑๐,๓๐๙.๕ ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ลดลงเล็กน้อยจากเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ร้อยละ ๐.๐๒
|
|||||||||||||||||||||
22895 | รายงานผลการประชุมการนำยุทธศาสตร์ต้นแบบและมาตรการทางปฏิบัติของสหประชาชาติว่าด้วย การขจัดความรุนแรงต่อเด็กในสาขาการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาไปสู่การปฏิบัติ | ยธ | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการประชุมการนำยุทธศาสตร์ต้นแบบและมาตรการทางปฏิบัติของสหประชาชาติว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อเด็กในสาขาการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสำนักกิจการในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันจัดประชุมฯ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพมหานคร โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นองค์ประธานและร่วมการประชุม วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจเจตนารมณ์ยุทธศาสตร์ต้นแบบฯ ให้ชัดเจน สร้างความตระหนักรู้และร่วมกันแสวงหามาตรการเชิงปฏิบัติว่าด้วยการยุติความรุนแรงต่อเด็กในสาขาป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่เหมาะสมในการนำยุทธศาสตร์ต้นแบบฯ มาปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|||||||||||||||||||||
22896 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย [เรื่อง การปฏิรูประบบเกษตรพันธสัญญาให้เป็นธรรม ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม (ฉบับที่..) พ.ศ. ....] | สผ | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การปฏิรูประบบเกษตรพันธสัญญาให้เป็นธรรม ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ เกี่ยวกับการให้มีกฎหมายว่าด้วยเกษตรพันธสัญญาโดยตรง รวมทั้งมีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่พัฒนาและส่งเสริมระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อแก้ปัญหาสำคัญทั้งในเรื่องความไม่เท่าเทียมด้านข้อมูลรหว่างเกษตรกรและบริษัท ความไม่เท่าเทียมในการรับความเสี่ยง ความไม่เท่าเทียมในการแบ่งปันผลประโยชน์ ความไม่เท่าเทียมทางด้านการบังคับใช้กฎหมาย และปัญหาเกษตรกรขาดศักยภาพ ทั้งด้านความเข้าใจสัญญา ความสามารถในการผลิต การบริหารจัดการ การบริหารความเสี่ยง รวมทั้งขาดการรวมกลุ่ม ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา สร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการและต่อระบบ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22897 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 39 | ทส | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๓๙ ระหว่างวันที่ ๒๘ มิถุนายน-๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งมีประเด็นสำคัญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทย ๓ เรื่อง ได้แก่ (๑) การรับรองอนุสรณ์สถานแหล่งต่าง ๆ และภูมิทัศน์ของเชียงใหม่ นครหลวงของล้านนา (Monument, Sites and Cultural Landscape of Chiang Mai, Capital of Lanna) ไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) (๒) การรับรองรายงานสถานภาพการอนุรักษ์พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และ (๓) ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงเอกสารสำหรับการขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการมรดกโลกฯ โดยการหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินงานตามข้อมติคณะกรรมการมรดกโลกและแผนการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อน (Road Map) พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลเป็นรูปธรรม ๑.๓ มอบหมายให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามพันธกรณีอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นควรพิจารณาอนุญาตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศเข้าศึกษาวิจัยเพื่อนำมาประกอบการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมเพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นมรดกโลกต่อไป รวมทั้งพิจารณากันเขตแผนงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านแหล่งน้ำในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานออกจากแผนที่แนบท้ายการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกกลุ่มป่าแก่งกระจานก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ ๔๐ เพื่อให้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานยังคงความเป็นธรรมชาติ และความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22898 | ผลการประชุมระหว่างประเทศ ครั้งที่ 3 ว่าด้วยการระดมทุนเพื่อการพัฒนา (Third International Conference on Financing for Development) | กต | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๓ ว่าด้วยการระดมทุนเพื่อการพัฒนา (Third International Conference on Financing for Development : 3rd FfD) ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องดำเนินการตามตารางติดตามผลการประชุมดังกล่าว โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ (๑) กรอบการดำเนินการระดับโลกในการระดมทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (๒) สาขาของการปฏิบัติ ได้แก่ แหล่งเงินทุนภาครัฐภายในประเทศ การประกอบธุรกิจและการระดมทุนภาคเอกชนภายในประเทศและระหว่างประเทศ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศในฐานะตัวขับเคลื่อนการพัฒนา หนี้และการบริหารจัดการหนี้อย่างยั่งยืน การแก้ไขประเด็นเกี่ยวกับระบบ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการสร้างศักยภาพ และ (๓) การกำหนดแนวทางการติดตามและวัดผลการดำเนินการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้หน่วยงานประสานควรต้องชี้ประเด็นประโยชน์และจุดแข็งของกรอบการดำเนินการนี้ให้ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานที่ดำเนินการสามารถเข้าใจจุดประสงค์ได้ตรงกัน ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22899 | รายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2558) | ทส | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการดำเนินการตามประเด็นเรื่องสำคัญตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติและข้อสั่งการของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๕๘) สรุปได้ ดังนี้
๑. เรื่องที่เป็นหลักการหรือเรื่องทั่วไป ๑.๑ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้จัดทำแผนปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ รวมทั้งติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณ โดยมีผลการเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสที่ ๑-๓ (ตุลาคม ๒๕๕๗-มิถุนายน ๒๕๕๘) จำนวน ๒๐,๗๒๗.๓๘ ล้านบาท ๑.๒ การเจรจาหรือจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ได้รับผิดชอบเกี่ยวกับการประชุมระหว่างประเทศ จำนวน ๕ ครั้ง และรับผิดชอบการเจรจา/จัดทำความตกลง/บันทึกความเข้าใจ จำนวน ๓ รายการ ๑.๓ การจัดทำโครงการต่าง ๆ ของส่วนราชการ ได้ดำเนินการตามระเบียบเกี่ยวกับการพัสดุที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและโปร่งใส และได้ทำมาตรการการป้องกันและลดโอกาสการทุจริตและประพฤติมิชอบตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ๑.๔ การแต่งตั้งคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ได้แจ้งรัฐวิสาหกิจในสังกัดถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีเวลาเพียงพอที่จะช่วยพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเคร่งครัด ๒. เรื่องหรือโครงการที่สำคัญเร่งด่วน ๒.๑ การจัดทำแผนงานการเจรจาหรือจัดทำความตกลงฯ ล่วงหน้า ๖ เดือน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ มีแผนงานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติ จำนวน ๑๓ เรื่อง ๒.๒ การปรับโครงสร้างและการบริหารจัดการด้านพลังงาน ได้จัดทำบันทึกความตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง การนำร่องการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel : RDF) และต่อยอดสู่การผลิตพลังงานทดแทน ๒.๓ การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศ ได้ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการตื้นเขินและเสื่อมสภาพของแหล่งน้ำพื้นที่ชุ่มน้ำให้คืนสู่ความสมบูรณ์ บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาน้ำท่วม ๒.๔ การจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ได้ส่งมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมเนื้อที่ ๑๕,๒๐๘ ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวนรวม ๒,๖๑๒ ราย ๒.๕ การจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสีย ได้ดำเนินโครงการบริหารระบบบำบัดน้ำเสีย จัดทำคู่มือประมวลหลักการปฏิบัติ (Code of Practice : COP) ดำเนินโครงการสร้างวินัยของคนในชาติมุ่งการจัดการที่ยั่งยืนตาม Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย และจัดทำโครงการการประเมินการรับรู้ของประชาชน ๒.๖ การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ได้ประสานการดำเนินงานร่วมกับศูนย์บริการร่วม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการให้บริการประชาชนเกี่ยวกับการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน และประสานส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒.๗ การรวบรวมกฎหมาย ระเบียบที่ล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนและจัดลำดับความสำคัญของร่างกฎหมาย มีการเสนอกฎหมาย รวมจำนวน ๒๐ ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติ ๑๘ ฉบับ และร่างพระราชกฤษฎีกา ๒ ฉบับ
|
|||||||||||||||||||||
22900 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 30/09/2558 | ||||||||||||||||||
|
.....