ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1121 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 22401 - 22420 จากข้อมูลทั้งหมด 124233 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22401 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการต่าง ๆ (การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงกลาโหม) | นร05 | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และส่วนราชการต่าง ๆ รวมจำนวน ๙ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายนพปฎล สุนทรนนท์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ๒. พลโท นาวิน ดำริกาญจน์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ๓. นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๔. นายพงษ์ศักดิ์ สมใจ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงคมนาคม ๕. นายชวลิต พิชาลัย ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงพลังงาน ๖. นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ๗. นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงแรงงาน ๘. นายปณิธาน จินดาภู ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. กระทรวงอุตสาหกรรม ๙. นายมนตรี บุญพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ ปคร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
||||||||||||||||||||||||
22402 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ 7 (FEALAC FMM7) ณ สาธารณรัฐคอสตาริกา | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ ๗ (7th Foreign Ministers Meeting of the Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC FMM7) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ สาธารณรัฐคอสตาริกา ซึ่งที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส FEALAC ครั้งที่ ๑๖ และผลการประชุมของสถาบันการเงินระหว่างภูมิภาคลาตินอเมริกาและเอเชีย ครั้งที่ ๑ การรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม ได้แก่ เอกสาร Declaration of San Jose ซึ่งระบุสาขาความร่วมมือในกรอบ FEALAC เอกสาร “Guideline for FEALAC Working Process” ซึ่งเป็นข้อเสนอของไทยในการปรับปรุงกระบวนการทำงานของ FEALAC ให้มีประสิทธิภาพและมีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้น และถ้อยแถลงร่วม FEALAC เรื่องเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ รวมทั้งรับทราบการสิ้นสุดวาระการเป็นประเทศผู้ประสานงาน FEALAC ของประเทศไทยและสาธารณรัฐคอสตาริกา และการส่งต่อหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานวาระปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ให้กับสาธารณรัฐเกาหลีและกัวเตมาลา ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับรายงานผลการประชุมดังกล่าวรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (๑) โครงการของไทยและโครงการของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในกรอบ FEALAC (๒) การยกระดับเวที Business Forum ให้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องของ FEALAC และ (๓) การขับเคลื่อน FEALAC ให้มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับโครงการที่น่าสนใจของสาธารณรัฐเกาหลีในการจัดสัมมนาด้านการค้าระหว่างภูมิภาคของประเทศสมาชิก FEALAC ในปี ๒๕๕๙ พร้อมทั้งหารือถึงแนวทางในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา ซึ่งเห็นควรที่ประเทศไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการดังกล่าว และควรพิจารณาเพิ่มเติมความร่วมมือด้านงานวิจัย พัฒนา การส่งเสริมและใช้ประโยชน์จากพืชพลังงานทดแทน ในหัวข้อโครงการของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในอนาคตของคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและการศึกษากับกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีความก้าวหน้าเรื่องการพัฒนาการผลิตพลังงานชีวภาพและการผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22403 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ระบบค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม เพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์) ซึ่งสภาปฏิรูปแห่งชาติมีข้อเสนอปฏิรูป ๔ ประเด็น คือ (๑) ครอบครัว ศูนย์กลางและพื้นฐานในการพัฒนาระบบค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม (๒) ยุทธศาสตร์การสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงและการปรับกระบวนทัศน์เพื่อการเรียนรู้ (๓) มาตรการหล่อหลอม กล่อมเกลา เพื่อสร้างค่านิยมและปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม และ (๔) กลไกขับเคลื่อนวาระการพัฒนาค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรมเพื่อความเป็นพลเมืองที่ดีและมนุษย์ที่สมบูรณ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22404 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) | กก | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปดังกล่าวแล้ว โดยเห็นชอบในหลักการของข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปฯ เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวมีเจตนารมณ์ที่ดีในการปฏิรูปการท่องเที่ยวของประเทศให้มีคุณภาพและยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคชุมชน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานและลดความซ้ำซ้อนในการทำงานและการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศ และมีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดแนวปฏิบัติในการปฏิรูปให้ชัดเจน และการสร้างความเข้าใจร่วมกันกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถปรับแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งและเตรียมความพร้อมของหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถรับภารกิจและขับเคลื่อนไปได้พร้อม ๆ กัน สำหรับประเด็นการปรับโครงสร้างองค์กรภาครัฐนั้น เห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาประเทศในภาพรวมได้ จึงเห็นควรให้มีการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐทั้งระบบในรายละเอียด และพิจารณาทบทวนผลการปฏิรูประบบราชการด้านการท่องเที่ยวที่ผ่านมาด้วย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว) ไปพิจารณาศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐด้านการท่องเที่ยวในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22405 | สรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) | วธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (เรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ....) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงวัฒนธรรมให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้ประชุมร่วมกับผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีผลการพิจารณาสรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการด้านศิลปะวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอยู่แล้วในหลายด้าน เช่น ด้านแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ด้านภาพยนตร์ ด้านการท่องเที่ยวในแหล่งโบราณสถาน โดยภารกิจที่กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการ คือ (๑) การนำทุนทางวัฒนธรรมมาส่งเสริมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และให้บริการทางวัฒนธรรม (๒) การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ (๓) การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ๒. ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งส่วนราชการอื่นที่เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยในหลักการของร่างพระราชบัญญัติสมัชชาศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... แต่มีประเด็นข้อสังเกตเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ เช่น อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติตามร่างมาตรา ๑๖ (๑) อาจซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติตามมาตรา ๑๑ (๑) และด้านเครือข่ายกระทรวงวัฒนธรรมมีสภาวัฒนธรรมในระดับต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาคประชาสังคมและประชาชนดำเนินการด้านวัฒนธรรมอยู่แล้ว และเห็นว่า การจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ควรพิจารณาองค์กรเดิมที่มีอยู่และหากสามารถปรับปรุงกฎหมายได้ก็ควรดำเนินการปรับปรุง โดยมิต้องมีการจัดตั้งองค์กรให้ซ้ำซ้อนกัน
|
||||||||||||||||||||||||
22406 | กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด One Young World Summit 2015 | มท | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด One Young World Summit 2015 ของกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจาก ๑๙๕ ประเทศ และ ๑ เขตเศรษฐกิจ จำนวนประมาณ ๑,๓๐๐ คน จากทั่วโลกที่มีอายุ ๑๘-๓๐ ปี ได้ใช้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านต่าง ๆ กับเยาวชนจากทั่วโลกและพัฒนาศักยภาพของตนในเรื่องการแสดงออกถึงความสนใจ และความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนเวทีระดับโลก รวมถึงการนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาของเยาวชนที่สะท้อนออกมาของแต่ละประเทศ โดยหัวข้อในการประชุมจะเน้นในเรื่องการศึกษา (Education) สิ่งแวดล้อม (Environment) ธุรกิจในระดับสากล (Global Business) สิทธิมนุษยชน (Human Rights) สันติภาพและความปลอดภัย (Peace & Security) ภาวะผู้นำและการปกครอง (Leadership & Government) สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเช่นเดียวกับเยาวชนนานาชาติอื่น ๆ และเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยซึ่งจะเป็นผลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นในการลงทุน ความพร้อมของเมืองและของประเทศไทยในด้านต่าง ๆ โดยใช้งบประมาณโครงการดำเนินงานในส่วนของกรุงเทพมหานคร เป็นเงิน ๑๐๕,๖๕๐,๘๐๐ บาท และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการจัดประชุมดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22407 | สาธารณรัฐออสเตรียขออนุมัติการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรีย ประจำจังหวัดภูเก็ต (กระทรวงการต่างประเทศ) (นางวนิดา หงษ์หยก) | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวนิดา หงษ์หยก เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐออสเตรียประจำจังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต สืบแทน ร้อยโท ภูมิศักดิ์ หงษ์หยก ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22408 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจร้านเกม และอินเทอร์เน็ต | ปช | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจร้านเกมส์และอินเทอร์เน็ต ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ได้แก่ (๑) การบังคับใช้กฎหมาย (๒) การมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ (๓) พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๑ (๔) การดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ และ (๕) การปรับปรุงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ทันต่อสถานการณ์ ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมเป็นไปได้ของข้อเสนอแนะดังกล่าว และให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22409 | ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 [เรื่อง แผนปฏิรูปการกีฬา ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสภาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | กก | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ [เรื่อง แผนปฏิรูปการกีฬา ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติสภาการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยเห็นชอบในหลักการของข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปฯ ตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอ และมีประเด็นความเห็นข้อเสนอแนะแนวทางปฏิรูปและพัฒนา ได้แก่ (๑) ปฏิรูปโครงสร้างทางการกีฬา (๒) ปฏิรูปการบริหารจัดการด้านการกีฬา (๓) ปฏิรูปด้านกฎหมายกีฬา และ (๔) ปฏิรูปด้านการพัฒนาการกีฬา และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งผลการพิจารณาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมของคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22410 | ข้อเสนอโครงการการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมไทย - จีน ด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล | ทส | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอโครงการการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมไทย-จีน ด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศทางทะเล เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนความร่วมมือทางทะเลอาเซียน-จีน ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการดำเนินงานของโครงการวิจัยร่วมระหว่างไทยและจีน ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางทะเลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและทบวงกิจการทางมหาสมุทรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของการปฏิบัติงานวิจัยของประเทศไทย ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการวิจัยร่วมไทย-จีนฯ เรือสำรวจวิจัย เครื่องมือและอุปกรณ์ในการวิจัย รวมทั้งงบประมาณในการดำเนินงานวิจัยร่วม ซึ่งจะส่งผลให้มีการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยของประเทศไทยและสามารถขยายผลการวิจัยไปสู่ภูมิภาคอาเซียนได้ โดยมีกำหนดเวลาดำเนินโครงการ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
22411 | การจัดทำและการนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายในประเทศภายใต้กลไก Universal Periodic Review รอบที่ 2 | กต | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบกรอบเวลา โครงร่างของรายงาน และแผนการจัดทำและนำเสนอรายงานภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ซึ่งรวมถึงการจัดการหารือกลุ่มย่อยเกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชนรายประเด็น และการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานในทุกภูมิภาค ๑.๒ รับทราบการเพิ่มบุคคลและหน่วยงานในคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานประเทศและติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสหประชาชาติ ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้แก่ กรมกิจการสตรีและครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมกิจการผู้สูงอายุ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และการเพิ่มบุคคลและหน่วยงานในคณะกรรมการกำกับดูแลการจัดทำรายงานฯ ประกอบด้วย ดร. เสรี นนทสูติ ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้การจัดทำรายงานมีความครอบคลุมสมบูรณ์ และการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้รับและคำมั่นเป็นไปอย่างครบถ้วน ๒. มอบหมายให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามข้อเสนอแนะที่ไทยได้รับและคำมั่นโดยสมัครใจจากการนำเสนอรายงานในรอบที่ ๑ รวมถึงผลักดันการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และเร่งดำเนินการติดตามแก้ไขประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประชาคมระหว่างประเทศให้ความสนใจ โดยรายงานให้กระทรวงการต่างประเทศทราบในโอกาสแรก เพื่อนำไปประกอบการยกร่างรายงานประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า การนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนภายในประเทศภายใต้กลไก UPR รอบที่ ๒ ควรมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนา หรือผลักดันให้มีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย รวมถึงควรให้ความสำคัญกับการเปิดรับข้อมูลจากภาคประชาชนหรือภาคประชาสังคมต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลที่จะใช้ถ่วงดุลกับข้อมูลที่นำเสนอจากภาครัฐเพื่อให้สะท้อนถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย รวมทั้งมีการเผยแพร่และนำเสนอผลการทบทวนรายงานฯ เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนและหน่วยงานได้รับทราบ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และกระบวนการทบทวน/จัดทำรายงานฯ อย่างชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22412 | การทบทวนปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด | กค | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เรื่อง การทบทวน ปรับปรุง มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ในการจำหน่ายอุปกรณ์อากาศยานหรือจ้างซ่อมอากาศยานและอุปกรณ์ จากเดิมเป็น ดังนี้ “อนุมัติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประสงค์จะซื้อหรือจ้างบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด เกี่ยวกับพัสดุอุปกรณ์อากาศยานหรือการซ่อมอากาศยานและอุปกรณ์ให้ดำเนินการซื้อหรือจ้างซ่อมได้ โดยวิธีกรณีพิเศษ หรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีวิธีการทำนองเดียวกัน ตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุที่หน่วยงานนั้น ๆ ถือปฏิบัติ โดยให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการซื้อหรือจ้างดังกล่าวดำเนินการต่อรองราคาให้อยู่ในวงเงินที่เหมาะสม ทั้งนี้ ให้บริษัทฯ ดำเนินการจ้างซ่อมอีกทอดหนึ่งได้เฉพาะงานที่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการได้เองเท่านั้น และให้บริษัทฯ คำนึงถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยเรียนรู้วิทยาการด้านการซ่อมอากาศยานให้มากขึ้น รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ด้วย เพื่อลดอัตราการจ้างช่วง และเป็นการลดอัตราสูญเสียเงินตราต่างประเทศต่อไป และให้บริษัทฯ จัดทำบัญชีต้นทุนการใช้พื้นที่ในการประกอบกิจการและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เช่น บุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ เป็นต้น ทั้งในส่วนของบริษัทฯ และ/หรือในส่วนที่บริษัทฯ ใช้ร่วมกับกองทัพอากาศ ตามมาตรฐานด้านการบัญชีที่บริษัทฯ ถือปฏิบัติให้ถูกต้องชัดเจนด้วย” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรให้มีการประเมินผลประกอบการและการดำเนินการของบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อเห็นว่า บริษัทฯ สามารถที่จะดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งแล้ว ก็สมควรที่คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจจะพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษแก่บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
22413 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 11(ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2557 - 31สิงหาคม 2558) | นร | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๑๑ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗-๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ซึ่งมีผลงานสำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น โครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยผ่านกลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนร้องทุกข์ โดยศูนย์ดำรงธรรม ๒. การปฏิรูปประเทศ ในห้วงเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรีได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอเพื่อการปฏิรูป ได้แก่ รายงานผลการพิจารณาคำร้องเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายอันเกี่ยวเนื่องกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี ๒๕๕๓ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล การนำเสนอพื้นที่อนุรักษ์ในทะเลอันดามันเป็นเขตมรดกโลก การปรับโครงสร้างอำนาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. .... กลไกและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟอย่างเสรี (ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ สำหรับบ้านและอาคาร) การปฏิรูประบบงบประมาณ ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแผนปฏิรูปการเข้าสู่อำนาจ/ระบบพรรคการเมือง ๓. การบริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่สำคัญ ได้แก่ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำของสังคม การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน การบริหารเศรษฐกิจ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรมสนับสนุนการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาของประเทศ การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||
22414 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ว่าด้วยการทำไม้หวงห้าม | ทส | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ว่าด้วยการทำไม้หวงห้าม ซึ่งเป็นการกำหนดให้เพิ่มแบบคำขอทำไม้หวงห้ามที่มิได้ขึ้นอยู่ในป่า และแบบอนุญาตทำไม้หวงห้ามที่มิได้ขึ้นอยู่ในป่า เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๖/๒๕๕๗ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22415 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอจดทะเบียนชาวไร่อ้อยต้องเป็นผู้ซึ่งปลูกอ้อยในท้องที่ที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนด และให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลต้องประกาศให้มีการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยทุกปี ปีละกี่ครั้งก็ได้ตามที่เห็นควร รวมทั้งแก้ไขให้บัตรประจำตัวชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยมีอายุคราวละห้าปี และกำหนดให้บัตรประจำตัวชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยที่ออกตามระเบียบเดิมยังคงมีผลบังคับใช้อยู่จนกว่าบัตรดังกล่าวจะหมดอายุ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเผยแพร่ข้อมูลและสร้างความเข้าใจให้กับผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอจดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องอันจะนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของร่างระเบียบคณะกรรมการฯ ฉบับนี้ ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22416 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 120 ปี กรมยุทธศึกษาทหารบก พ.ศ. .... | กค | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๒๐ ปี กรมยุทธศึกษาทหารบก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๒๐ ปี กรมยุทธศึกษาทหารบก ชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท หนึ่งชนิด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อทำหน้าที่จัดการศึกษาของนักเรียนนายทหารบก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22417 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาของสาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
22418 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา 109 พ.ศ. .... | มท | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา ๑๐๙ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงคันนายาว เขตคันนายาว แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี และแขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามอินทรา ๑๐๙ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจและเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรุงเทพมหานครประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน และจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางมาใช้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
22419 | รายงานสรุปผลการรับฟังข้อพิจารณาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) | พณ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสรุปผลการรับฟังข้อพิจารณาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยกับหลักการในการปฏิรูปกฎหมายแข่งขันทางการค้า และร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. .... ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่มีข้อสังเกตในประเด็น (๑) การกำหนดให้รัฐวิสาหกิจอยู่ใต้ภายใต้บังคับของกฎหมาย และ (๒) ความเป็นอิสระในการบังคับใช้กฎหมายและความมีประสิทธิภาพในการใช้กฎหมาย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งรายงานสรุปผลการรับฟังข้อพิจารณาและข้อเสนอแนะดังกล่าวตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเสนอสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และแจ้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วมคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
22420 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏ อุดรธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 10/11/2558 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์และสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ เพิ่มขึ้น และแก้ไขมาตรา ๓ จากเดิม สาขาวิชาศิลปะ เปลี่ยนเป็นสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์การกำหนดชื่อปริญญา พ.ศ. ๒๕๔๙ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....