ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 51 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 1001 - 1020 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1001 | ยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2557 - 2559 | สธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๙ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ต่อไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยทิศทางยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย ๒ ทิศทาง ดังนี้ ๑.๑ ทิศทางยุทธศาสตร์ “นวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลง” ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์ คือ ๑.๑.๑ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ เร่งรัดขยายการดำเนินงานป้องกันที่รอบด้าน ด้วยชุดบริการที่ได้มาตรฐานบนฐานของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและมีความละเอียดอ่อนเรื่องเพศวิถี ให้ครอบคลุมประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงและคาดว่าจะมีจำนวนการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่มากที่สุด ๑.๑.๒ ยุทธศาสตร์ที่ ๒ เร่งรัดขยายการดำเนินงานให้การปกป้องทางสังคมและปรับเปลี่ยนสภาวะแวดล้อมทางกฎหมายที่มีความสำคัญต่อการป้องกันและการดูแลรักษา ๑.๑.๓ ยุทธศาสตร์ที่ ๓ เพิ่มความร่วมรับผิดชอบและเป็นเจ้าของร่วมในระดับประเทศ จังหวัด และท้องถิ่น ในการขยายการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ของประเทศ ๑.๑.๔ ยุทธศาสตร์ที่ ๔ พัฒนาระบบข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในทุกระดับ ๑.๒ ทิศทางยุทธศาสตร์ “การผสมผสานและบูรณาการให้มาตรการและแผนงานปัจจุบันมีคุณภาพ เข้มข้น และมีความยั่งยืน” ประกอบด้วย ๑ ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ยกระดับคุณภาพมาตรการและแผนงานที่มีอยู่เดิมให้เข้มข้นและบูรณาการ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบประสานการทำงานสื่อสารสาธารณะเรื่องเอดส์ ที่ทำหน้าที่จัดการความรู้ ส่งต่อประเด็นการสื่อสารให้มีความต่อเนื่องอย่างมีเอกภาพ การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์โดยพัฒนาระบบสารสนเทศสุขภาพแห่งชาติ (National Health Information System : NHIS) เพื่อบูรณาการข้อมูลและสารสนเทศสุขภาพด้านการรักษา ป้องกัน ควบคุมโรคและการบริหารจัดการโดยรวมของประเทศ การให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเด็กนักเรียน วัยรุ่น และนักศึกษาอย่างมุ่งผลสัมฤทธิ์ในเรื่องการเข้าถึงข้อมูลสิทธิและบริการ การรับบริการป้องกัน และกำหนดเป็นแนวทางหลักที่ตอบสนองยุทธศาสตร์ประเทศโดยเฉพาะการสนับสนุนแนวทางการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิตในส่วนการส่งเสริมป้องกันของกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ ๑๕-๒๔ ปี รวมทั้งให้ความสำคัญกับการสื่อสารเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ปลอดภัย และการตรวจหาเชื้อเอชไอวีในกลุ่มประชากรทั่วไปที่นอกเหนือจากกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพของตนเอง และลดโอกาสในการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีให้กับผู้อื่น โดยให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพมีบทบาทหน้าที่ในการจัดงบประมาณตั้งต้นหรือสมทบเพื่อสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพในประชากรทุกวัยตามนโยบายสุขภาพแห่งชาติ และมีการรณรงค์ในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1002 | ปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวันว่าด้วยโรคไม่ติดต่อในอาเซียน | สธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวันว่าด้วยโรคไม่ติดต่อในอาเซียน (Bandar Seri Begawan Declaration on Noncommunicable Diseases in ASEAN) ซึ่งจะมีการรับรองโดยผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๓ (23rd ASEAN Summit) ในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม โดยปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านโรคไม่ติดต่อในภูมิภาคอาเซียน เช่น การลดปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคไม่ติดต่อ การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารร่วมกับภาคเอกชนเพื่อให้มีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ การคัดกรองผู้ที่เสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อให้มีความสะดวกในการค้นหาในระยะแรกและการป้องกันโรคในระดับปฐมภูมิ เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำหรือประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญ ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ๒. อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองในปฏิญญาฯ ดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1003 | แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัย และค่าบริการทางการแพทย์ (เพิ่มเติม) (จำนวน 3 ราย 1. พลเอก สหชาติ พิพิธกุล ฯลฯ) | สธ | 08/10/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัย และค่าบริการทางการแพทย์ (เพิ่มเติม) จำนวน ๓ ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๘ ตุลาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. พลเอก สหชาติ พิพิธกุล ๒. นายแพทย์สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ ๓. ศาสตราจารย์วิษณุ ธรรมลิขิตกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1004 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... | สธ | 24/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอได้ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1005 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายแสวง ฤกษ์จรัล และนายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์) | สธ | 24/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๒ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายแสวง ฤกษ์จรัล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1006 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 4 ราย 1. นายรัฐวุฒิ สุขมี ฯลฯ) | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายรัฐวุฒิ สุขมี ๒. นายธีรพล โตพันธานนท์ ๓. นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ๔. นายสุขุม กาญจนพิมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1007 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายวิโรจน์ หมั่นคติธรรม) | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิโรจน์ หมั่นคติธรรม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานการรักษา กลุ่มบริการเฉพาะทาง สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1008 | การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับเปรู | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งสาธารณรัฐเปรูและกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทย (Memorandum of Understanding on Cooperation in the Matter of Health Between the Ministry of Health of the Republic of Peru and the Ministry of Public Health of the Kingdom of Thailand) โดยบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือในด้านดูแลสุขภาพ เช่น การสาธารณสุขมูลฐาน การส่งเสริมสุขภาพ อนามัยสิ่งแวดล้อม การควบคุมและป้องกันโรค โดยเฉพาะโรคเอชไอวี เอดส์ และในด้านระบบสาธารณสุข รวมถึงการประกันสุขภาพ การลงทะเบียนสาธารณสุข การควบคุมและการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ความร่วมมือทางวิชาการ ทางวิทยาศาสตร์ และทางเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนข้อมูล และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐ สถาบันการแพทย์ และสถาบันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งร่วมมือทำการวิจัยและพัฒนาแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค ผลิตภัณฑ์แบคทีเรียและชีววัตถุ ผลิตภัณฑ์ทางแบคทีเรีย วัคซีน นวัตกรรมด้านสุขภาพและเทคโนโลยี ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) และกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรแก้ไขบันทึกความเข้าใจฯ คู่ฉบับภาษาอังกฤษ ในวรรคสุดท้าย บรรทัดที่ ๒ จากคำว่า “the English texts” เป็น “the English text” รวมทั้งปรับแก้เพิ่มเติมข้อความบางประการในบันทึกความเข้าใจฯ คู่ฉบับภาษาอังกฤษ และคู่ฉบับภาษาไทย นอกจากนี้ คู่ฉบับของฝ่ายไทย ทั้งภาษาไทย ภาษาสเปน และภาษาอังกฤษ ควรพิจารณาปรับแก้ให้ชื่อของฝ่ายไทยขึ้นก่อนในชื่อความตกลง วรรคอารัมภบท ภาษา และช่องลงนาม ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1009 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (Memorandum of Understanding on Health Cooperation between the Government of the Kingdom of Thailand and The Government of the Republic of the Union of Myanmar) เพื่อเป็นกรอบการทำงานด้านสาธารณสุขระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในสาขาความร่วมมือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนความร่วมมือด้านสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนของทั้งสองประเทศ อาทิ การส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนาระบบการบริการสุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวและประชากรข้ามพรมแดน การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่ การป้องกันและควบคุมอาหารที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ยา ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์ยา และเครื่องสำอาง เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ผู้ลงนามเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ แทนคณะรัฐมนตรีได้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามด้วยตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1010 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 พ.ศ. .... | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) เสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้พนักงานและลูกจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. .... ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) และความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับร่างมาตรา ๕ ที่กำหนดขอบเขตสิทธิรับบริการสาธารณสุขของพนักงานส่วนท้องถิ่นและบุคคลในครอบครัวให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาจไม่สอดคล้องกับมาตรา ๙ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ที่ให้กำหนดเฉพาะบุคคลหรือหน่วยงานที่สามารถใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น และการเร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้มีสิทธิตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ รวมทั้งการเร่งบูรณาการระบบจัดส่งข้อมูลระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสถานพยาบาลให้มีความพร้อมในการดำเนินการก่อนการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับประเด็นอภิปรายและความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1011 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายพูลสวัสดิ์ สมบูรณ์ปัญญา) | สธ | 17/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายพูลสวัสดิ์ สมบูรณ์ปัญญา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าวและไม่ก่อนวันที่สำนักงาน ก.พ. ได้รับคำขอประเมินพร้อมเอกสารประกอบการประเมินครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1012 | ร่างฉบับปรับปรุงกฎบัตรของเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย ตะวันออก - กรอบความร่วมมือและร่างปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 3 | สธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
๑. เห็นชอบร่างฉบับปรับปรุงกฎบัตรของเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก-กรอบความร่วมมือ (Draft Revised Charter of the Regional Forum on Environment and Health Southeast and East Asian Countries-Framework for Cooperation) และร่างปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Draft Kulalumpur Declaration on Environment and Health) ก่อนที่จะให้การรับรองร่างกฎบัตรฯ และปฏิญญาฯ โดยไม่มีการลงนามในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๙-๑๐ กันยายน ๒๕๕๖ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยร่างฉบับปรับปรุงกฎบัตรฯ และร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ ร่างฉบับปรับปรุงกฎบัตรฯ มีสาระสำคัญในการยึดถือแนวคิดหลักตามกรอบการดำเนินงานระดับโลกที่สำคัญ เช่น แผนปฏิบัติการ ๒๑ จากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ (ค.ศ. ๑๙๙๒) เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติ และเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ RIO+20 ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ (ค.ศ. ๒๐๑๒) ที่ตระหนักว่า สิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุและคนยากจน โดยมีวิสัยทัศน์ คือ สุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา และมีเป้าหมายเพื่อสร้างเวทีความร่วมมือสำหรับการดำเนินงานในระดับภูมิภาคในการเสริมสร้างและปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพัฒนาที่ยั่งยืน ๑.๒ ร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกที่จะร่วมมือเพื่อแลกเปลี่ยนตัวอย่างการดำเนินงานที่ดีและเทคโนโลยีต่าง ๆ ในภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในระดับประเทศ โดยมีข้อเรียกร้องให้โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environmental Program : UNEP) และองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งการพัฒนาและการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมระดับประเทศ หรือแผนงานเทียบเท่า และเห็นด้วยที่จะร่วมพัฒนาและปฏิบัติตามกลไกต่าง ๆ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เห็นชอบกับการจัดตั้งเครือข่ายความรู้ของเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาค ตกลงใจร่วมกันที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความร่วมมือในรูปแบบพหุภาคี ทวิภาคี ภายในภูมิภาคและนานาประเทศ และตกลงว่าจะพบกันอีกครั้งในอีก ๓ ปีข้างหน้า ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทน พิจารณาให้การรับรองกฎบัตรฯ และปฏิญญาฯ โดยให้สามารถปรับเปลี่ยนถ้อยคำได้ตามความเหมาะสม |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1013 | รายงานความก้าวหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา | สธ | 10/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความก้าวหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. ราคากลางของยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ๑.๑ ให้หน่วยงานของรัฐใช้ราคากลางตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑.๒ หากไม่มีราคากลางตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ให้ใช้ราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๑.๓ หากไม่มีราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ให้ใช้ราคาตลาดโดยสืบราคาจากท้องตลาด รวมทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ๒. ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ๒.๑ ให้หน่วยงานของรัฐใช้ราคากลางตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๒ หากไม่มีราคากลางตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ให้ใช้ราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๒.๓ หากไม่มีราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ให้ใช้ราคาตลาดโดยสืบราคาจากท้องตลาด รวมทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ๓. ราคากลางของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ๓.๑ ให้หน่วยงานของรัฐใช้ราคามาตรฐานของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ทั้งทางเอกสารหรือทางเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (http://dmsic.moph.go.th) ๓.๒ หากไม่มีราคามาตรฐานของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ให้ใช้ราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๓.๓ หากไม่มีราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ให้ใช้ราคาตลาดโดยสืบราคาจากท้องตลาด รวมทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1014 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายทวี ตั้งเสรี) | สธ | 03/09/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายทวี ตั้งเสรี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจิตเวช) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1015 | ขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน | สธ | 27/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒ (ฝ่ายสังคมและกฎหมาย) เสนอ ดังนี้
๑. เห็นสมควรปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๔๘ (เรื่อง การขอรับการสนับสนุนโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน) โดยให้ขยายกำหนดเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการกระจายแพทย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน จากเดิมสิ้นสุดในปี ๒๕๕๖ เป็นสิ้นสุดในปี ๒๕๖๐ โดยใช้กรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว เพื่อรับนักเรียนเข้าศึกษาในโครงการฯ ให้ได้ครบตามเป้าหมาย จำนวน ๓,๒๓๒ ทุน ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีกลไกการประสานงานการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ อย่างเข้มข้น และควรมีแนวทางการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของการศึกษาระดับขั้นพื้นฐานตั้งแต่ประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนระดับอำเภอ เพื่อให้นักเรียนมีศักยภาพมากพอที่จะสอบแข่งขันให้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของสถาบันฝ่ายผลิตแพทย์ รวมทั้งควรมีแผนรองรับการบรรจุนักเรียนแพทย์ที่จบการศึกษาและวางระบบบริหารจัดการอัตรากำลังให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระบบบริหารกำลังคนด้านสุขภาพ และควรมีการประเมินผลการดำเนินการที่ผ่านมาและปรับปรุงเพื่อให้สามารถดำเนินตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เห็นควรปรับปรุงกระบวนการคัดสรรนักเรียน ตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีบทบาทร่วมกันดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด จัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถศึกษาได้จนจบหลักสูตร ตลอดจนให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อพัฒนามาตรการการรักษาบุคลากรทางการแพทย์โครงการฯ ให้มีประสิทธิภาพ โดยจัดสรรค่าตอบแทน สวัสดิการ และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพให้ชัดเจน เพื่อดึงดูดบุคลากรกลุ่มนี้ไว้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
| 1016 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (นายสุวัช เซียศิริวัฒนา) | สธ | 27/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายสุวัช เซียศิริวัฒนา ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ส่วนค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้างและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๖)
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1017 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 10 ราย 1. นายนิทัศน์ รายยวา ฯลฯ) | สธ | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย โดยลำดับที่ ๑-๖ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และลำดับที่ ๗-๑๐ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายนิทัศน์ รายยวา ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายทรงยศ ชัยชนะ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอนามัย ๔. นายเจษฎา โชคดำรงสุข ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสุขภาพจิต ๕. นายวชิระ เพ็งจันทร์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายโสภณ เมฆธน ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมควบคุมโรค ๗. นายสุพรรณ ศรีธรรมมา ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมการแพทย์ ๘. นายอำนวย กาจีนะ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายอภิชัย มงคล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๑๐. นายธวัชชัย กมลธรรม ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1018 | แต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (นายสมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล) | สธ | 13/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายสมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1019 | รายงานความก้าวหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา | สธ | 06/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบความคืบหน้าการกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ หลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ๑.๑.๑ ให้หน่วยงานของรัฐใช้ราคามาตรฐานของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ทั้งทางเอกสารหรือทางเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (http://dmsic.moph.go.th) ๑.๑.๒ หากไม่มีราคามาตรฐานของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ ให้ใช้ราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๑.๑.๓ หากไม่มีราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ให้ใช้ราคาตลาดโดยสืบราคาจากท้องตลาด รวมทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ๑.๒ หลักเกณฑ์ราคากลางของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ๑.๒.๑ ให้หน่วยงานของรัฐใช้ราคามาตรฐานของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ทั้งทางเอกสารหรือทางเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (http://dmsic.moph.go.th) ๑.๒.๒ หากไม่มีราคามาตรฐานของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นและเผยแพร่ ให้ใช้ราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๑.๒.๓ หากไม่มีราคาที่หน่วยงานเคยซื้อครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ให้ใช้ราคาตลาดโดยสืบราคาจากท้องตลาด รวมทั้งจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งเวียนหลักเกณฑ์ราคากลางของเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐทราบและถือปฏิบัติ ส่วนหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามนัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ ทั้งนี้ หากผลการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญไปจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวนี้ ก็ให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งเวียนหลักเกณฑ์ราคากลางของยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐทราบและถือปฏิบัติ โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ (เรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์ แนวทางและวิธีปฏิบัติในการเปิดเผยราคากลางของทางราชการ) และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
| 1020 | ขอขยายเวลาแผนพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2548 (2005) ในช่วงปี พ.ศ. 2551 - 2555 | สธ | 30/07/2556 | ||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ขยายเวลาของแผนพัฒนางานด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒๐๐๕) ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๕ ออกไปจนถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑.๒ เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดทำแผนกิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะหลักตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒๐๐๕) ประจำปี พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสม ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการประเมินความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายเมื่อครบกำหนดเวลาเพื่อแจ้งต่อองค์การอนามัยโลก การให้ความสำคัญกับแผนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการตามแผนพัฒนางานด้านกฎอนามัยฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนอื่น ๆ ที่ได้พัฒนาออกมาแล้ว อาทิ แผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ (๒๕๕๖-๒๕๕๙) แผนรับมือภาวะฉุกเฉินความปลอดภัยอาหารของประเทศไทย ปี ๒๕๕๕ เป็นต้น การพัฒนาความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่จำเป็นระหว่างประเทศเพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบรองรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ การประเมินความต้องการบุคลากร ทรัพยากร ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของแต่ละระดับ การจัดลำดับความสำคัญของเขตพื้นที่ที่ต้องเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการกำหนดตัวชี้วัดในแต่ละแผนงานกิจกรรม ปรับปรุงบทบาทของผู้ประสานงานในแต่ละด้านให้มีหน้าที่ควบคุม ติดตาม กำกับความก้าวหน้าในการดำเนินงาน มีการสื่อสารข้อมูลต่อสาธารณะ และการจัดให้มีกระบวนการรายงานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
.....
