ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 60 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 1181 - 1200 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1181 | รายงานการดำเนินงานตามแผนการเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยของโรงพยาบาลที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมใน 9 หัวข้อ | สธ | 11/10/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานตามแผนการเตรียมรับสถานการณ์อุทกภัยของโรงพยาบาลที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมใน ๙ หัวข้อ กรณี : โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การป้องกันสถานที่/ตรวจตรา/ซ่อมเสริมความแข็งแรงของแนวป้องกัน โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้เริ่มการป้องกันน้ำท่วมก่อนหน้าประมาณสองเดือน โดยขั้นแรกทำเขื่อนสามด้านรอบโรงพยาบาลสูงประมาณหนึ่งเมตรเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำได้ แต่เนื่องจากช่วงนี้มีน้ำขึ้นลงทำให้ทราบว่าเวลาน้ำท่วมเขื่อนที่โรงพยาบาลสร้างไว้มีจุดรั่วที่ใดบ้าง จึงได้เสริมกำแพงกระสอบทรายเป็นระยะมาตลอด และจากการติดตามข้อมูลอย่างละเอียดทำให้โรงพยาบาลคาดการณ์ได้ว่าสภาวการณ์ครั้งนี้ใหญ่กว่าที่คิดและเกิดรวดเร็ว ทำให้ต้องเร่งเสริมเขื่อนให้แข็งแรงและสูงกว่าเดิม โดยขอกำลังเสริมจากทหาร จ้างคนเพิ่มจากคนที่มีอยู่ และขอความร่วมมือขอเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากเทศบาลมาเสริม ๔ เครื่องรวมกับของที่มีอยู่ ประกอบกับทางโรงพยาบาลได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ช การช่าง ที่กำลังทำการก่อสร้างรถไฟฟ้ายกระดับสายสีม่วงมาตั้ง Barrier ปูนตลอดแนวเขื่อนให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการทะลายของเขื่อนเมื่อระดับน้ำสูงขึ้น นอกจากนี้ โรงพยาบาลมีแผนรับสถานการณ์ไว้สามระดับ โดยระดับสูงสุดคือ น้ำท่วมชั้นล่างของโรงพยาบาลทั้งหมดโดยที่โรงพยาบาลยังอยู่ได้ในการดูแลผู้ป่วยที่ไม่ป่วยหนัก ส่วนผู้ป่วยหนักต้องย้ายไปที่โรงพยาบาลคู่ช่วยเหลือ (BUDDY) คือ โรงพยาบาลบำราศนราดูร โดยการย้ายจะเกิดขึ้นก่อนภาวะวิกฤตโดยการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ๒. การสำรองทรัพยากร/เวชภัณฑ์ที่สำคัญจำเป็น/ออกซิเจน/ไฟฟ้า/อาหาร/น้ำดื่ม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้สำรองทรัพยากร อาหาร น้ำดื่ม ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มใช้ได้ ๗ วัน เวชภัณฑ์เพียงพอและยังผลิตเพื่อสนับสนุนให้กระทรวงและโรงพยาบาลอื่นทางภาคกลาง รวมทั้งเช่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากบริษัทเอกชนให้พอที่จะผลิตไฟฟ้าสำหรับหออภิบาลผู้ป่วยหนักรวม หรือ ICU ที่มีอยู่ทั้งหมดของโรงพยาบาล ๓. การบริการในสถานที่/ที่จำเป็น/ย้ายจากชั้น ๑ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้ามีแผนย้ายห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน หรือ ER หอผู้ป่วยชั้นล่างโดยมีการซ้อมไว้ก่อนล่วงหน้า มีการกำหนดผู้รับผิดชอบที่แน่นอน การนัดและจ่ายยาล่วงหน้านานขึ้นจนพ้นภาวะน้ำท่วม ๔. การบริการนอกสถานที่/ประสานความช่วยเหลือ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้ให้บริการนอกสถานที่โดยออกหน่วยดูแลผู้ป่วยพิการ โรคเรื้อรัง โดยมีบัญชีรายชื่อ ที่อยู่ และรายละเอียดการมารับยาครั้งสุดท้าย และวัดนัดของแพทย์ สำหรับการรักษาผู้ป่วยนอก หรือ OPD ได้เลือกจุดที่สูงและประชาชนสามารถเดินทางมาได้ ๕. การส่งต่อ/เคลื่อนย้ายผู้ป่วย/ผู้ป่วยหนัก/ผู้ป่วยกึ่งหนัก มีโรงพยาบาล BUDDY ที่เหมาะสม ซึ่งทางโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้จัดทีมแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลไปดูแลผู้ป่วยที่ส่งไป ไม่ปล่อยให้เป็นภาระของโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วย และมีระบบอำนวยความสะดวกสำหรับเจ้าหน้าที่ ได้แก่ ที่อยู่ อาหาร และยานพาหนะที่รับ - ส่งเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปอยู่เวร ๖. เตรียมเส้นทางหลัก/สำรอง และ ๗. เตรียมยานพาหนะ รถ/รถยกสูง หรือเตรียมสถานที่รองรับเฮลิคอปเตอร์ ได้กำหนดเส้นทางสายหลักทางถนนที่ไม่ถูกน้ำท่วมโดยติดต่อประสานรถ GMC ของทหาร กรมพลาธิการไว้ล่วงหน้า และยังมีเส้นทางทางเรือโดยโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้เซ็นเอกสารบันทึกข้อตกลงและความเข้าใจ (MOU) กับกรมเจ้าท่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และเครือข่ายศูนย์วารีในการให้เรือเข้ามาขนถ่ายผู้ป่วยได้ตลอดเวลา สำหรับทางเฮลิคอปเตอร์ได้ประสานกับ สพฉ. สำรวจความเป็นไปได้ในการใช้ลานจอดบนชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล ๘. การจัดตั้งศูนย์อพยพ/ศูนย์ช่วยเหลือ ได้กำหนดศูนย์อพยพและโรงพยาบาลสนามไว้ที่หอประชุมของโรงพยาบาลบำราศนราดูร ส่วนทางจังหวัดได้กำหนดศูนย์อพยพไว้ตามที่ต่าง ๆ ตามอำเภอทุกอำเภอของจังหวัดนนทบุรี ๙. การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม มีทีมแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลและโรงพยาบาลที่ไม่ประสบภัยมาช่วยเหลือ โดยกำหนดแผนการให้ความช่วยเหลือล่วงหน้า
|
||||||||||||||||||||||||
| 1182 | รายงานประจำปี 2553 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ | 04/10/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เสนอรายงานประจำปี ๒๕๕๓ ของ สวรส. ที่ สวรส. จัดทำขึ้นและได้นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ สวรส. ครั้งที่ ๒/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๔ เรียบร้อยแล้ว โดยรายงานดังกล่าว ประกอบด้วย
๑. บทสรุปผลการดำเนินงาน ๒. ภูมิหลังและข้อมูลพื้นฐาน ๓. ผลการปฏิบัติงาน ซึ่งจำแนกได้ดังต่อไปนี้ ๓.๑ การทบทวนและปรับปรุงยุทธศาสตร์สถาบัน ๓.๒ การขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ สวรส. ปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ ๓.๓ ผลการดำเนินงานของเครือสถาบัน ๓.๔ ผลการดำเนินงานอื่น ๆ ๔. รายงานทางการเงิน โดยแสดงงบดุล งบรายได้ค่าใช้จ่าย และงบกระแสเงินสด
|
||||||||||||||||||||||||
| 1183 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 | สธ | 04/10/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติมว่า นายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทย ตามมาตรา ๑๓ (๖) แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีหนังสือแจ้งขอถอนตัวจากการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวแล้ว ๒. อนุมัติแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๕ ตามมาตรา ๑๓ (๖) มาตรา ๔๘ (๙) โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยยกเว้นกรณีนายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี ซึ่งขอถอนตัวจากการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทยในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติม และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้มีการสรรหาและพิจารณาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดโดยเร็ว ส่วนกรณีนายสมใจ โตศุกลวรรณ ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาขาอื่นในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1184 | ขอยกเลิกและขอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | สธ | 04/10/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายเจษฎา โชคดำรงสุข ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๒. นายทวีเกียรติ บุญยไพศาลเจริญ ดำรงตำแหน่งผุ้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๓. นายธงชัย ซึงถาวร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๔. นายธวัชชัย กมลธรรม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๕. นาวาอากาศตรี บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ๖. นายประดิษฐ์ วินิจจะกูล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
| 1185 | แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข | สธ | 27/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1186 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | สธ | 27/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน ๙ ราย ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหารระดับสูง กรมควบคุมโรค ๒.นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหารระดับสูง กรมสุขภาพจิต ๓. นายอภิชัย มงคล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข ๔. นางวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหารระดับสูง กรมการแพทย์ ๕. นายสุพรรณ ศรีธรรมมา ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับสูง กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ๖. นายนิทัศน์ รายยวา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข ๗. นายโสภณ เมฆธน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข ๘. นายสมชัย นิจพานิช ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร) ประเภทบริหาร ระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวง สาธารณสุข ๙. นายบุญชัย สมบูรณ์สุข ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร) ประเภทบริหารระดับสูง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
|
||||||||||||||||||||||||
| 1187 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 20/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. คงคณะกรรมการ จำนวน ๑๑ คณะ เพื่อปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่เดิมต่อไป ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ๑.๒ คณะกรรมการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ๑.๓ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ๑.๔ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๑.๕ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๑.๖ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๑.๗ คณะกรรมการจัดทำตำรายาของประเทศไทย ๑.๘ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ๑.๙ คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๑.๑๐ คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ๑.๑๑ คณะอนุกรรมการพิจารณาพื้นที่พิเศษสำหรับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ๒. ปรับปรุงองค์ประกอบบางส่วน จำนวน ๑ คณะ เพื่อปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่เดิมต่อไปคือ คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ ๓. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน ๑ คณะ คือ คณะกรรมการโภชนาการ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1188 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย | สธ | 20/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาตรวจสอบความเสียหายที่ชัดเจน สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูความเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมอย่างยั่งยืน และเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) เพื่อพิจารณาแนวทางในการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวมก่อนที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1189 | การแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมที่มี ซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ไปใช้ในการผลิตยาเสพติด | สธ | 20/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการยา ครั้งที่ ๓/๒๕๕๔ และครั้งที่ ๔/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ และวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ไปใช้ในการผลิตยาเสพติด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยที่ประชุมคณะกรรมการยาได้มีมาตรการดำเนินการ ดังนี้
๑. ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่ ๔๐ ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ จัดให้ยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็นส่วนประกอบในรูปแบบยาเม็ดแคปซูล และยาน้ำ ยกเว้นสูตรผสมที่มีพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นส่วนประกอบ เป็นยาควบคุมพิเศษ ๒. มีมาตรการควบคุมการจำหน่ายยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็นส่วนประกอบในรูปแบบยาเม็ด แคปซูล และยาน้ำ ยกเว้นสูตรผสมที่มีพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นส่วนประกอบ เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลของเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเท่านั้น และควบคุมปริมาณการจำหน่ายให้สถานพยาบาลของเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนได้ไม่เกิน ๕,๐๐๐ เม็ด ต่อแห่งต่อเดือน
|
||||||||||||||||||||||||
| 1190 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๔ ราย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ กันยายน ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. นายปิยะ อังกินันทน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๓. นายธวัชชัย สุทธิบงกช ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๔.นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
| 1191 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 13/09/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางจรุงศรี โกสินทรเสนีย์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านทันตกรรม กลุ่มงานทันตกรรม กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔ ๒. นางสาวดารณี หมู่ขจรพันธ์ ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข (นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
| 1192 | รายงานการดำเนินการบริหารสถานการณ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย และโรค มือ เท้า ปาก | สธ | 30/08/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานการดำเนินการบริหารสถานการณ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย และโรค มือ เท้า ปาก (Hand, foot and mouth disease) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การดำเนินการบริหารสถานการณ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย มีดังนี้ ๑.๑.๑ ให้สถานบริการดำเนินการ ๔ แผน คือ แผนป้องกันโรงพยาบาล แผนสำรองทรัพยากร แผนส่งต่อผู้ป่วย และแผนการปรับระบบบริการหากเกิดน้ำท่วม ๑.๑.๒ การสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง ยอดสะสม ยาชุดช่วยผู้ประสบภัย ๓๑๐,๕๐๐ ชุด ยาตำราหลวง ๒๐,๐๐๐ ชุด และยาแก้น้ำกัดเท้า จำนวน ๔๓,๐๐๐ ชุด เซรุ่มแก้พิษงู (งูเห่า ๑๐๐ หลอด งูแมวเซา ๑๐๐ หลอด งูเขียวหางไหม้ ๑๐๐ หลอด) ๑.๑.๓ การติดตามเฝ้าระวังในพื้นที่เห็นว่าควรแจ้งเตือนภัยสถานบริการสาธารณสุข ในระยะนี้โดยการโทรศัพท์ประสานกับสถานบริการสาธารณสุขของจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงโดยตรง และการออกหนังสือแจ้งเวียนให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ระดับน้ำสูงขึ้นและป้องกันสถานบริการ หากมีแผนอยู่แล้วให้ทบทวนแผนป้องกันโรงพยาบาลให้พร้อมนำมาใช้งานและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ๑.๑.๔ การเผยแพร่แนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยของโรงพยาบาลที่เคยประสบปัญหาและได้จัดทำแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน ๑.๒ รายงานสถานการณ์โรค มือ เท้า ปาก (Hand, foot and mouth disease) โดยสรุปขณะนี้โรค มือ เท้า ปาก ซึ่งเป็นโรคติดต่อในเด็กเล็ก กำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย คาดว่าปีนี้จะมีเด็กป่วยและเสียชีวิตมากกว่าปีก่อน ๆ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ประสานสั่งการ เร่งรัด การป้องกันและควบคุมโรคทั่วประเทศ โดยขอความร่วมมือจากหน่วยราชการและหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงศึกษาธิการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำลังติดตามสถานการณ์เพื่อประสานสนับสนุนการป้องกันและควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขขอการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีในการมอบหมายกำชับ ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือและสนับสนุนการป้องกันและควบคุม เพื่อลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรค มือ เท้า ปาก ของเด็กในประเทศไทย ให้ได้ผลดีที่สุด ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ประชาชนและผู้ป่วยในพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งได้ติดตามและเฝ้าระวังโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และอาการปวดศรีษะ โดยเฉพาะโรค มือ เท้า ปาก ซึ่งได้ติดตามและเฝ้าระวังโรคนี้เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ๓. เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการติดตามและเฝ้าระวังโรคต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ประชาชนและผู้ป่วยในพื้นที่ประสบอุทกภัยต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1193 | รายงานการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย | สธ | 25/08/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย ของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข กรณีอุทกภัย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ๑.๑ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จำนวนรวม ๒๔๗ ครั้ง รวมจำนวนผู้รับบริการสะสม ๕๑,๗๙๖ ราย โรคที่พบ ๕ อันดับแรก ได้แก่ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง และบาดแผลจากอุบัติเหตุ ยังไม่พบการระบาดของโรค ๑.๒ การให้บริการด้านสุขภาพจิต รวมสะสม ๑,๓๓๗ ราย พบว่ามีความเครียดสูง ๑๒๕ ราย มีภาวะซึมเศร้า ๒๕๔ ราย มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ๖๑ ราย ต้องติดตามดูแลพิเศษ ๑๐๖ ราย ๒. การสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข ๒.๑ ให้โรงพยาบาลลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสักเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัย และพร้อมดำเนินการ ๔ แผน คือ แผนป้องกันไม่ให้น้ำท่วมโรงพยาบาล เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง แผนสำรองทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้บริการผู้ป่วย แผนส่งต่อผู้ป่วยมีอาการหนัก และแผนการปรับบริการหากเกิดน้ำท่วมในโรงพยาบาล ให้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำ และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมของสถานบริการสาธารณสุขในจังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสัก ๒.๒ สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง ยอดสะสม ยาชุดช่วยผู้ประสบภัย ๒๙๗,๕๐๐ ชุด ยาตำราหลวง ๑๐,๐๐๐ ชุด ยาแก้น้ำกัดเท้า ๒๐,๐๐๐ ชุด เซรุ่มแก้พิษงู (งูเห่า ๑๐๐ หลอด งูแมวเซา ๑๐๐ หลอด งูเขียวหางไหม้ ๑๐๐ หลอด) สำหรับส่วนกลางขณะนี้มีสำรองชุดช่วยผู้ประสบภัยเพิ่มเติม ๕๐๐,๐๐๐ ชุด วัสดุ ยาแก้น้ำกัดเท้า ๑๐๐,๐๐๐ หลอด เชียงใหม่ พิษณุโลก อุดรธานี และหาดใหญ่ สำรองแห่งละ ๓๐,๐๐๐ ชุด สำรองเซรุ่มแก้พิษงู ๗ ชนิด (งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้ งูกะปะ และงูทับสมิงครา) จำนวน ๓,๕๐๐ ชุด สำรองวัสดุ และเคมีภัณฑ์สำหรับการฟื้นฟูสภาพและสิ่งแวดล้อมให้กับศูนย์อนามัยและสำนักงานควบคุมโรค ๑๒ เขต ๑๔ รายการ ๒.๓ การติดตามเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เห็นว่าควรแจ้งเตือนสถานบริการสาธารณสุข ในระยะนี้ ดังนี้ ๒.๓.๑ แม่น้ำปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ย่านหลี่ อำเภอศรีมหาโพธิ์ ได้แก่ รพ.สต.บ้านทาม รพ.สต.ท่าตูม (ท่วมทุกปี) รพ.สต.สัมพันธ์ รพ.สต.เมืองกล่าว รพ.สต.นาแขม รพ.สต.บางกุ้ง อำเภอเมือง ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ รพ.สต.บางบริบูรณ์ รพ.สต.หาดสะแก รพ.สต.บางเดชะ รพ.สต.วัดโบสถ์ (ท่วมทุกปี) รพ.สต.บ้านสร้าง ๒.๓.๒ แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดปทุมธานี อำเภอเมือง ได้แก่ รพ.สต.บ้านฉาง รพ.สต.บ้านกระแชง รพ.สต.บางกระดี่ ความเสี่ยงสูง (มีที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำ/คลองสายหลัก/นอกคันกั้นน้ำ) อำเภอสามโคก ได้แก่ รพ.สต.บ้านงิ้ว รพ.สต.บางเตย ม.๙ รพ.สต.บางเตย ม.๑ รพ.สต.บางกระบือ รพ.สต.บางกระดี่ รพ.สต.สามโคก รพ.สต.บางคูวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) สามโคก และ รพ.สต.บางคูวัด ๑ โดยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ระดับน้ำสูงขึ้นและป้องกันสถานบริการ หากมีแผนอยู่แล้วให้ทบทวนแผนป้องกันโรงพยาบาลให้พร้อมนำมาใช้งานและเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
|
||||||||||||||||||||||||
| 1194 | รายงานสถานการณ์และผลการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านสาธารณสุข (ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 ถึง 16 สิงหาคม 2554) | สธ | 16/08/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโซนร้อน “นกเตน” (NOCK TEN) และผลการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. สถานการณ์ทั่วไป มีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเกิดอุทกภัย รวม ๓๑ จังหวัด จำแนกเป็น ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน แพร่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พะเยา พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย นครพนม อุบลราชธานี เลย มุกดาหาร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ภาคกลาง ได้แก่ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก และภาคใต้ บางส่วน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย รวมจำนวน ๓๑ ราย สูญหาย ๑ ราย ๒. สถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น ๒๒ แห่ง เป็นโรงพยาบาลทั่วไป ๓ แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ๑๙ แห่ง ขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้ทั้งหมด ๓. การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จำนวนรวม ๑๓๓ ครั้ง ได่แก่ โรงพยาบาลในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมจำนวนผู้รับบริการประมาณ ๒๗,๘๖๓ ราย โรคที่พบ คือ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด โรคผิวหนัง ปวดกล้ามเนื้อ และบาดแผลจากอุบัติเหตุ ยังไม่พบการระบาดของโรค สำหรับการให้บริการประเมินปัญหาสุขภาพจิต พบราษฎรมีความเครียดสูง ๗๙ ราย มีภาวะซึมเศร้า ๑๕๙ ราย มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ๔๑ ราย ซึ่งต้องติดตามดูแลพิเศษ ๗๕ ราย นอกจากนี้ ได้สั่งการ ๑๓ จังหวัด ๑๒๔ โรงพยาบาลลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักเฝ้าระวังอุทกภัยและพร้อมดำเนินการ ๔ แผนคือ แผนป้องกันไม่ให้น้ำท่วมโรงพยาบาลเพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง แผนสำรองทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้บริการผู้ป่วย แผนส่งต่อผู้ป่วยมีอาการหนัก และแผนการปรับบริการหากเกิดน้ำท่วมในโรงพยาบาล ให้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำ และสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ตลอดจนสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง ๔. การเฝ้าระวังพื้นที่ ได้แก่ การเตือนภัยให้เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมขนย้ายของสู่ที่สูงในจังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา การติดตามเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดซึ่งพบว่ายังไม่มีโรคระบาดในทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดทีมสุขภาพจิตติดตามในรายที่เสี่ยงหรือได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
|
||||||||||||||||||||||||
| 1195 | แต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (นายพงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข) | สธ | 28/06/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เป็นวาระที่สอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔) เห็นชอบเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1196 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (นายวิทิต อรรถเวชกุล) | สธ | 14/06/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายวิทิต อรรถเวชกุล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ต่อเนื่องไปจากวาระการดำรงตำแหน่งเดิม ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ส่วนการกำหนดอัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาต่อไป ตามนัยมาตรา ๑๘๑ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง สรุปผลและแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร) ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากว่า การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมไม่เข้าข่ายต้องเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นชอบก่อน ตามมาตรา ๑๘๑ (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นด้วยว่า ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๐๙ บัญญัติให้คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมเป็นผู้แต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี การแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมจึงเป็นอำนาจของคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย กรณีนี้จึงมิใช่การดำเนินการอันเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติมาตรา ๑๘๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด
|
||||||||||||||||||||||||
| 1197 | ขออนุมัติข้าราชการไปปฏิบัติงานชั่วคราว ณ องค์การอนามัยโลก เป็นกรณีพิเศษ (นางวลัยพร พัชรนฤมล) | สธ | 07/06/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ให้ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข (นางวลัยพร พัชรนฤมล) ลาไปปฏิบัติงาน ณ องค์การอนามัยโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยยกเว้นระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๙ หมวดที่ ๒ ประเภทการลา ในส่วนที่ ๘ ว่าด้วยการลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ในส่วนของการไม่ได้รับเงินเดือนจากทางราชการ แล้วให้ได้รับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ในการปฏิบัติงานจากงบประมาณโครงการจัดประชุมวิชาการนานาชาติประจำปี รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ๑.๒ อนุมัติการจ่ายค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ไปปฏิบัติงานของบุคคลตามข้อ ๑.๑ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังได้เคยเห็นชอบ ซึ่งประกอบด้วย ค่าตอบแทนรายเดือน ค่าขนย้าย ค่าที่พัก ค่าประกันสุขภาพ และค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ไป - กลับ ทั้งนี้ ให้ปรับตามอัตราค่าตอบแทนตามอัตราใหม่ขององค์การอนามัยโลกในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๓ อัตราแลกเปลี่ยนในส่วนของค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ตามข้อ ๑.๒ ให้ถืออัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ได้แลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศกับธนาคาร (อัตราขายของธนาคาร) ก่อนออกเดินทางเป็นอัตราเดียวในการคำนวณค่าแลกเปลี่ยนตลอดระยะเวลาปฏิบัติงาน ๒. ยกเว้นในส่วนของค่าประกันสุขภาพ ซึ่งใช้อัตราเหมาจ่ายเช่นเดียวกับกรณีค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนรัฐบาลที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้น ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. คือ ให้ได้รับในอัตรา ๒,๐๕๐ ฟรังก์สวิสต่อปี (หรือ ๑๗๐.๘๓ ฟรังก์สวิสต่อเดือน) ซึ่งเป็นอัตราค่าประกันสุขภาพเหมาจ่ายสำหรับนักเรียนระดับปริญญาตรี - เอก ที่ศึกษาอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน |
||||||||||||||||||||||||
| 1198 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (นายทรงยศ ชัยชนะ และนายดนุพงษ์ สาเขตร์) | สธ | 31/05/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทรงยศ ชัยชนะ ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ ๒. นายดนุพงษ์ สาเขตร์ ดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ (ด้านแผนยุทธศาสตร์สาธารณสุข) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๔
|
||||||||||||||||||||||||
| 1199 | ความคืบหน้าการดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ : ยุทธศาสตร์ยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม : เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสุขภาพของผู้ป่วย | สธ | 31/05/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ : ยุทธศาสตร์ยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม : เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสุขภาพของผู้ป่วย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๓ ได้มีมติเห็นชอบร่างนโยบายแห่งชาติด้านยาและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ โดยผนวกกาดำเนินการตามมติในข้อ ๒ ไว้ในยุทธศาสตร์ด้านที่ ๒ การใช้ยาอย่างสมเหตุผล ยุทธศาสตร์ย่อยที่ ๗ การส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ เห็นชอบนโยบายดังกล่าวแล้ว ๒. ที่ประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๔ ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม เพื่อทำหน้าที่ตามมติคณะรัฐมนตรีและกลยุทธ์ในยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ และให้คณะทำงานฯ เสนอความคืบหน้าการดำเนินงานต่อคณะอนุกรรมการฯ ในการประชุมครั้งต่อไป ๓. คณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริยธรรมผู้สั่งใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรมได้จัดทำแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมจริธรรมผู้สั่งใช้ยาและยุติการส่งเสริมการขายยาที่ขาดจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๕๔ และพัฒนาร่างเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการส่งเสริมการขายยา เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์กลางของประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการให้ความเห็นต่อร่างเกณฑ์จริยธรรมฯ ดังกล่าว ซึ่งกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ |
||||||||||||||||||||||||
| 1200 | ขอให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | สธ | 31/05/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแก้ไขสรุปผลการรายงานการประชุมและข้อความในหนังสือยืนยันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง โครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ดังนี้ ๑.๑ ข้อ ๑ ให้แก้ไขเป็น ดังนี้ “อนุมัติอัตราข้าราชการเพิ่มใหม่ จำนวน ๑,๙๗๗ อัตรา เพื่อรองรับการบรรจุนักศึกษาตามโครงการผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด ๑.๒ ข้อ ๒ ให้แก้ไขเป็น ดังนี้ “อนุมัติอัตราข้าราชการเพิ่มใหม่สำหรับบรรจุนักเรียนทุนรัฐบาล (แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร) ที่สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๒,๒๐๐ อัตรา” ๑.๓ ข้อ ๕ ให้แก้ไขเป็น ดังนี้ “อนุมัติอัตราข้าราชการเพิ่มใหม่สำหรับบรรจุพยาบาลวิชาชีพที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจ้างไว้เป็นลูกจ้างชั่วคราวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๖๖๙ อัตรา” ๒. เห็นชอบให้แก้ไขชื่อเรื่องตามหนังสือกระทรวงสาธารณสุข ด่วนที่สุด ที่ สธ ๐๒๐๑.๐๓๒/๑๗๒๕ ลงวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔ จากเดิม “ขอให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี ...” เป็น “ขอให้แก้ไขข้อความที่คลาดเคลื่อนในหนังสือยืนยันมติคณะรัฐมนตรี ...” และตัดข้อความตามหนังสือกระทรวงสาธารณสุข หน้า ๒ ที่มีข้อความว่า “ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอคณะรัฐมนตรีแก้ไขมติดังกล่าว” ออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
.....
