ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 58 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 1141 - 1160 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1141 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ตุลาคม 2554 | สธ | 06/03/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๔ (เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕) กรณีการแต่งตั้งนายสมใจ โตศุกลวรรณ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข จากเดิมให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการ เป็นให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๔ ตุลาคม ๒๕๕๔) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1142 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม | สธ | 06/03/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมชุดใหม่ จำนวน ๑๐ คน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ นายณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ประธานกรรมการ ๑.๒ นายไพจิตร์ วราชิต กรรมการ ๑.๓ นางวีรวรรณ แตงแก้ว กรรมการ ๑.๔ นางอัจนา ไวความดี กรรมการ ๑.๕ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการ ๑.๖ นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ กรรมการ ๑.๗ นายพิพัฒน์ ยิ่งเสรี กรรมการ ๑.๘ นายสุพรรณ ศรีธรรมมา กรรมการ ๑.๙ นายเรวัต วิศรุตเวช กรรมการ ๑.๑๐ นายช.นันท์ เพ็ชญไพศิษฏ์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. ยกเว้นนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1143 | มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน | สธ | 06/03/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขจัดทำหนังสือสั่งการ สธ ๐๔๒๒.๑/ว ๘๖ ลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เรื่อง มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน ได้แก่ การดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยจากโรงพยาบาล และการเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในการรองรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังและกลุ่มเสี่ยงโดยเตรียมบุคลากร สถานที่ เวชภัณฑ์ ให้มีความพร้อม ๒. ให้กรมควบคุมโรคดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนในสถานการณ์ปัญหาหมอกควันตามระดับความรุนแรงของค่า PM 10 [ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน (๐.๐๑ มิลลิเมตร)] ที่เกินค่าเกินมาตรฐาน ๑๒๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ๒.๒ ให้คำแนะนำหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือปัญหาหมอกควันตามระดับความรุนแรงของค่า PM 10 ๒.๓ เร่งรัดให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑๐ เชียงใหม่ ประสานกับจังหวัดในการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนอย่างใกล้ชิด ๒.๔ ดำเนินการสนับสนุนหน้ากาก จำนวน ๒๕๐,๐๐๐ ชิ้น โดยเน้นให้กับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พร้อมทั้งกระตุ้นให้หน่วยงานในพื้นที่ (อปท.) ดำเนินการจัดหาเพิ่มให้กับประชาชน รวมทั้งให้ประชาชนทำหน้ากากใช้เอง ๒.๕ ทำหนังสือสั่งการเลขที่ สธ ๐๔๒๒.๑/ว ๒๙๕ ลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรื่อง มาตรการเตรียมพร้อมและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากปัญหาหมอกควัน แจ้งไปยังสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑ - ๑๒ ๒.๖ ดำเนินการสื่อสารความเสี่ยงกับประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สื่อออนไลน์ และสื่อมวลชนท้องถิ่น ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ๒.๗ กรณีที่พื้นที่มีค่า PM 10 ในระดับที่เกินกว่าค่ามาตรฐานมาก ให้มีการจัดเตรียมที่พักที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือผู้ที่พักฟื้นหลังออกจากโรงพยาบาล เพื่อลดการรับสัมผัสกับฝุ่นละออง เช่น จัดให้มีระบบปรับอากาศ และมีการจัดวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยลดฝุ่นละอองภายนอกอาคาร เช่น ระบบฝอยละอองน้ำ เป็นต้น ๓. ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้แก่ การเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในชุมชน และประสานดูแลรักษากับโรงพยาบาล การเฝ้าระวังอย่าให้มีการเผาวัสดุหรือสิ่งของต่าง ๆ ในชุมชนของตนเองที่ดูแล ๑๐ - ๑๕ หลังคาเรือน การแนะนำการทำหน้ากากอนามัยผ้าใช้เองในชุมชน และการสนับสนุนการพ่นน้ำ ละอองฝอย เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและลดฝุ่นละอองในอากาศในกรณีที่สภาพอากาศมีหมอกควันวิกฤตรุนแรง
|
||||||||||||||||||||||||
| 1144 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) | สธ | 06/03/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายคณิศ แสงสุพรรณ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง) ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ มีนาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 1145 | แนวทางการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดจากสถานพยาบาลของรัฐ | สธ | 28/02/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดจากสถานพยาบาลของรัฐ ดังนี้
๑. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กำกับ ควบคุม เข้มงวด และกวดขันสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกแห่งดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ จัดให้มีระบบการบริหารจัดการยาที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบและให้มีผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน ตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งซื้อ ตรวจรับ จัดเก็บ เก็บรักษา เบิกจ่าย การรักษาความปลอดภัย การจัดทำบัญชีเพื่อควบคุมสินค้าคงคลัง และการชำระเงิน รวมทั้งให้มีการตรวจสอบหลักฐานการสั่งซื้อ การเบิกจ่าย ปริมาณคงเหลือ การชำระเงิน และการดำเนินตามระบบดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงพยาบาลเอกชนกำหนดให้สั่งซื้อได้ไม่เกิน ๕,๐๐๐ เม็ด/เดือน ๑.๒ เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการบริหารงานคลังเวชภัณฑ์ของสถานพยาบาลดังกล่าวทุกแห่งให้เพิ่มความระมัดระวัง และจัดให้มีระบบป้องกันการสูญหายหรือลักลอบเอายาที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบไปใช้โดยมิชอบ ทั้งนี้ หากพบสิ่งผิดปกติต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที ๑.๓ ในกรณีที่พบว่ามีการส่งยาที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบมาให้โดยที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อ ให้เก็บรักษายาดังกล่าวไว้ไม่ให้ส่งต่อให้แก่ผู้ใด และให้แจ้งต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไปโดยเร็ว ๑.๔ หากพบกรณีที่อาจส่อไปในทางทุจริต ประมาทอย่างร้ายแรง เป็นเหตุหรือเชื่อว่าเป็นเหตุให้เกิดปัญหาการรั่วไหลของยาดังกล่าวไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ให้ดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด และหากเป็นผู้ประกอบวิชาชีพกระทำผิด ขอให้ส่งเรื่องไปยังสภาวิชาชีพเพื่อดำเนินการทางจรรยาบรรณวิชาชีพด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ขยายผลการสืบสวนกรณีพบการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบไปใช้เป็นสารตั้งต้นยาเสพติดที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อดำเนินคดีอย่างเข้มงวดด้วยอัตราโทษสูงสุดกับผู้ประกอบการผลิต นำเข้า ขายยา ที่มีส่วนรู้เห็นกับการรั่วไหลของยาดังกล่าว พร้อมทั้งให้ระงับการผลิต นำเข้าและขายต่อไป ๒.๒ เร่งรัดผลการพิจารณาให้ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะพิจารณายกระดับการควบคุมยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ซึ่งจะทำให้การควบคุมเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 1146 | รายงานการบำบัดรักษายาเสพติด ตามโครงการ การดำเนินงานลดผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเชิงรุกโดยเน้นระบบสมัครใจเป็นหลัก "1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู" รองรับ "ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด" | สธ | 28/02/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานการบำบัดรักษายาเสพติด ตามโครงการ “๑ อำเภอ ๑ ศูนย์ฟื้นฟู” รองรับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ - ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ โดยผลการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติดทุกระบบ ได้แก่ ระบบสมัครใจ มีผู้เข้ารับการบำบัด ๖๒,๕๓๙ คน ระบบบังคับบำบัด มีผู้เข้ารับการบำบัด ๔๔,๑๖๒ คน และระบบต้องโทษ มีผู้เข้ารับการบำบัด ๕,๗๙๙ คน รวมทั้งสิ้น ๑๑๒,๕๐๐ คน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานด้านบำบัดรักษายาเสพติด ช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ - พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ระบบบังคับบำบัดมีผลการดำเนินงานสูงกว่าระบบสมัครใจ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเตรียมความพร้อมในการทำค่ายพลังแผ่นดิน (บำบัดในชุมชน) ทั้งในด้านการจัดเตรียมสถานที่ การเตรียมทีมวิทยากรบำบัดประจำจังหวัด/อำเภอ และหลังจากการเตรียมความพร้อมเสร็จสิ้นแล้ว ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ - มกราคม ๒๕๕๕ ผลการดำเนินงานในระบบสมัครใจเริ่มสูงกว่าระบบบังคับบำบัด เนื่องจากเป็นช่วงที่แต่ละจังหวัด/อำเภอมีการเร่งรัดจัดทำค่ายพลังแผ่นดินขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||
| 1147 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 13/02/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สภาเทคนิคการแพทย์เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสภาเทคนิคการแพทย์และบุคลากรของสภาเทคนิคการแพทย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สภานายกพิเศษแห่งสภาเทคนิคการแพทย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 1148 | ร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... | สธ | 13/02/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้มีคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง ผู้แทนสมาคมเกี่ยวกับการประกอบกิจการเพื่อสุขภาพและผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้ง และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๑.๒ กำหนดให้จัดตั้งสำนักส่งเสริมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพขึ้นในกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้อำนวยการเป็นผู้บังคับบัญชา และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด ๑.๓ กำหนดให้การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ การยื่นคำขอ การอนุญาต การย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้ต่ออายุ การขอรับใบแทนใบอนุญาตและการขอออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ๑.๔ กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้รับอนุญาต และผู้ดำเนินการ ๑.๕ กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการควบคุมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และการโฆษณาเกี่ยวกับการให้บริการเพื่อสุขภาพ ๑.๖ กำหนดหลักเกณฑ์การพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ ๑.๗ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการอุทธรณ์คำสั่งไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุ การพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต ๑.๘ กำหนดบทกำหนดโทษกรณีที่มีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ และให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับคำนิยาม “กิจการนวดเพื่อสุขภาพ” กับ “การนวดเพื่อเสริมสวย” ควรแยกแยะให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ การเพิ่มตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยวร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เนื่องจากสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของกรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจด้านสปาถูกจัดให้เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การกำหนดขอบเขตอำนาจการออกประกาศของรัฐมนตรีให้ชัดเจน การเพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับผู้โฆษณาที่ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อนุญาต และการกำหนดผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับให้ชัดเจน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งร่างพระราชบัญญัติฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักส่งเสริมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพในกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะต้องไม่เป็นเหตุให้ขอเพิ่มอัตรากำลังซึ่งจะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐ และควรกำหนดให้มีการถ่ายโอนภารกิจด้านการตรวจและรับรองคุณภาพมาตรฐานของสถานประกอบการให้ภาคส่วนอื่นดำเนินการแทน เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง มาตรการทบทวนบทบาทภารกิจของส่วนราชการตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1149 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... | สธ | 07/02/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยและการบำบัดโรค สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพื่อใช้ในการวินิจฉัยและการบำบัดรักษาโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 1150 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
๑. นายทรงคุณ วิญญูวรรธน์ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาพยาธิวิทยา) ตำแหน่งเลขที่ ๓๙๑๘ กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาพยาธิวิทยา) ตำแหน่งเลขที่และส่วนราชการเดิม ตั้งแต่ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๒ ๒. นายอุดม ไกรฤทธิชัย ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) ตำแหน่งเลขที่ ๑๒๖๙ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) ตำแหน่งเลขที่ ๑๒๕๙ ส่วนราชการเดิม ตั้งแต่วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓
|
||||||||||||||||||||||||
| 1151 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 31/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
๑. นายทรงคุณ วิญญูวรรธน์ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาพยาธิวิทยา) ตำแหน่งเลขที่ ๓๙๑๘ กลุ่มภารกิจวิชาการ สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาพยาธิวิทยา) ตำแหน่งเลขที่และส่วนราชการเดิม ตั้งแต่ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๒ ๒. นายอุดม ไกรฤทธิชัย ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) ตำแหน่งเลขที่ ๑๒๖๙ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) ตำแหน่งเลขที่ ๑๒๕๙ ส่วนราชการเดิม ตั้งแต่วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓
|
||||||||||||||||||||||||
| 1152 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันและใช้เงินบำรุงก่อสร้างอาคารศูนย์อุบัติเหตุและศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลชลบุรี | สธ | 24/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอก่อหนี้ผูกพันและใช้เงินบำรุงก่อสร้างอาคารศูนย์อุบัติเหตุและศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลชลบุรี วงเงิน ๑๒๑,๑๕๐,๐๐๐ บาท จำนวน ๑ หลัง
|
||||||||||||||||||||||||
| 1153 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 24/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายภูพิงค์ เอกะวิภาต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาวิสัญญีวิทยา) กลุ่มงานวิสัญญีวิทยา สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาวิสัญญีวิทยา)
กลุ่มงานวิสัญญีวิทยา กลุ่มภารกิจวิชาการ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1154 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง | สธ | 24/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน ๓ ราย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายมานะ คงวุฒิปัญญา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๒. นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิษฐ์ถาวร ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ๓. นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
| 1155 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 15/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุญเลิศ ศักดิ์ชัยนานนท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม) สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม) สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 1156 | การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยและกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ | 15/01/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยและกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข มีสาระสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขและแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำหรือประเด็นที่มิใช่สาระสำคัญ ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้ลงนาม โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
|
||||||||||||||||||||||||
| 1157 | ขออนุมัติเงินอุดหนุนองค์การระหว่างประเทศ โครงการ Asia Pacific Observatory on Health Systems and Policies | สธ | 27/12/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโครงการ Asia Pacific Observatory on Health Systems and Policies โดยบริจาคเงินอุดหนุนให้แก่องค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปีละ ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ๓,๐๙๕,๐๐๐ บาท เพื่อให้ประเทศไทยเข้าไปมีบทบาทในการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำกับทิศทาง ในการสร้างและขยายบทบาทการเป็นผู้นำด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค และเป็นการขยายเครือข่ายการทำงานวิจัยด้านนโยบายและระบบสุขภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างภาพพจน์อันดีของประเทศไทยในประชาคมโลกและระดับภูมิภาค โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องบริจาคในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ - พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ - พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามนัยมาตรา ๑๙๐ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ นอกจากนี้ เมื่อมีการจัดทำร่างความตกลงเกี่ยวกับการบริจาคเงินอุดหนุนฯ กับองค์การอนามัยโลก ส่วนราชการเจ้าของเรื่องอาจพิจารณาส่งร่างความตกลงฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาในประเด็นมาตรา ๑๙๐ ของรัฐธรรมนูญฯ ก่อนที่จะลงนามและดำเนินการแสดงเจตนาให้ความตกลงมีผลผูกพันต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 1158 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีพร้อมรื้อถอนและปรับปรุงอาคารสำหรับผู้ป่วยนอกชั่วคราว | สธ | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. ให้กรมการแพทย์ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีพร้อมรื้อถอนและปรับปรุงอาคารสำหรับผู้ป่วยนอกชั่วคราว จำนวน ๑ หลัง ตามแบบเลขที่ ๑๐๕๓๙ และเอกสารเลขที่ ก.๔/ก.พ./๕๓ แบบเลขที่ ๑๐๖๙๓ และเอกสารเลขที่ ข.๖/ม.ค./๕๔ พร้อมแบบสถาปัตยกรรมของเอกชน และเอกสารเลขที่ ต.๖๑/พ.ค./๕๒ ในวงเงิน ๑,๙๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้จัดสรรให้แล้ว จำนวน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ จำนวน ๑,๕๐๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบอีก จำนวน ๒๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ กรมการแพทย์ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอน ๒. ให้กรมการแพทย์เพิ่มเติมรายการค่าปรับปรุงอาคารโภชนบำบัด ชั้นที่ ๙ - ๑๐ ในส่วนที่จอดรถเป็นอาคารผู้ป่วยนอกชั่วคราว (OPD ชั่วคราว) และรื้อถอนอาคารสิรินธรเฉพาะกลุ่มงานรังสีและโถงพักคอย ซึ่งเป็นรายการเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้เดิม พร้อมการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี ในวงเงินทั้งสิ้น ๑,๙๓๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ก่อนลงนามในสัญญา ทั้งนี้ ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙
|
||||||||||||||||||||||||
| 1159 | ร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | สธ | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วน และแจ้งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยแยกการกำกับดูแลและการควบคุมการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยจัดตั้ง “สภาการแพทย์แผนไทย” ขึ้น เพื่อส่งเสริมการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย กำหนดและควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลซึ่งไม่มีความรู้อันก่อให้เกิดภัยและความเสียหายแก่ประชาชน ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงองค์ประกอบและคุณสมบัติของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสาขาแห่งการประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพให้สอดคล้องกัน ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับบทนิยามในคำว่า “สถานพยาบาล” และ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” รวมทั้งบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประสานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรในการนำร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับ เสนอรัฐสภาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 1160 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. .... | สธ | 13/12/2554 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาอุทธรณ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือและมีรายละเอียดตามที่กำหนด และต้องยื่นต่อนายทะเบียน ณ สถานที่ตามที่กำหนด ๒. กำหนดหลักเกณฑ์การตรวจคำอุทธรณ์ในเบื้องต้น การยื่นเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติม การขอแก้ไขเพิ่มเติมคำอุทธรณ์ ๓. กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอุทธรณ์ ระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณ์ การถอนอุทธรณ์ การทำคำวินิจฉัยอุทธรณ์และการแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์
|
||||||||||||||||||||||||
.....
