ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 109 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 2161 - 2180 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2161 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองแค จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองหนองแค จังหวัดสระบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลหนองปลาหมอ ตำบลหนอง จรเข้ ตำบลหนองแค ตำบลไผ่ต่ำ และตำบลกุ่มหัก อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ พัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนา คมและการขนส่ง การสาธารณูปโภคบริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2162 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายมงคล สุระสัจจะ) | มท | 10/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายมงคล สุระสัจจะ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด
กระทรวง กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2163 | ร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ยกเว้นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2524 โดยอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ มีสาระสำคัญคือ ให้แยกอำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงกาฬ อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปาก คาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย รวมจัดตั้งเป็นจังหวัดบึงกาฬ และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภา ผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 2. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรี ที่ให้หลีกเลี่ยงการ เพิ่มภาระด้านงบประมาณ และอัตรากำลัง โดยให้เกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดตั้ง ใหม่ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2164 | รายงานความคืบหน้าแนวทางปฏิบัติในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ตามมติคณะรัฐมนตรี | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ดังนี้ 1.1 การดำเนินงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพ กม. โดยการจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำ จังหวัด (ร.ร.ปปท.จ.) มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1.1.1 ในปี พ.ศ. 2552 ได้ดำเนินการฝึกอบรม กม. จำนวน 200 รุ่น รวม กม. ที่เข้ารับการศึกษา อบรม จำนวน 12,000 คน จาก 1,200 หมู่บ้าน 1.1.2 ในปี พ.ศ. 2553 ได้ขยายผล ร.ร.นปท.จ. โดยให้คัดเลือก กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ ใน ร.ร.นปท.จ. ตำบลละ 1 หมู่บ้าน ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของจำนวนตำบลทั้งหมดที่มีอยู่ในจังหวัด ปัจจุบันทุก จังหวัดจัดทำแผนที่จะนำ กม. เข้ารับการศึกษาอบรมฯ จำนวน 1,061 รุ่น กม. จำนวน 88,280 คน จาก 8,828 หมู่ บ้าน ทั้งนี้ เมื่อ กม. ได้ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. แล้วจะทำหน้าที่เป็นหมู่บ้าน กม. ต้นแบบและเป็นศูนย์ เรียนรู้การดำเนินงานของ กม. ประจำตำบล ซึ่งถือเป็นการถ่ายทอดความรู้ในการดำเนินงานของ กม. ให้แก่หมู่บ้าน ใกล้เคียง 1.2 การดำเนินงานตามโครงการขยายผลการขับเคลื่อน กม. โดยชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อให้ชุด ปฏิบัติการประจำตำบลมีความรู้ ความเข้าใจในการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริมสนับสนุนให้ กม. ที่ผ่านการศึกษาอบรมจาก ร.ร.นปท.จ. ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและติดตามรายงานผล ตลอดจน สนับสนุนหมู่บ้าน กม. ในการประกวดหมู่บ้าน กม. ดีเด่น ทั้งในระดับอำเภอ และจังหวัด 2. อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้านระดับกระทรวงโดย มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และกรอบแนวทางการร่วมมือขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรม การหมู่บ้านให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 4 ประการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2165 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้อง
ที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเหมืองง่า ตำบลในเมือง ตำบลต้นธง และตำบล เวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เพื่อสร้างและขยายถนนสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1033 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2166 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านลาด และตำบลท่าเสน อำเภอบ้านลาด จังหวัด เพชรบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2167 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในพื้นที่ตำบลบางตะบูน และตำบลบางตะบูนออก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบทในด้านการ ใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2168 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. .... | มท | 03/08/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลฝายหลวง ตำบลศรีพนมมาศ และตำบลชัยจุม พล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยว ข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการ สาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2169 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านถ้ำ จังหวัดพะเยา พ.ศ. .... | มท | 20/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านถ้ำ จังหวัดพะเยา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เพื่อใช้ เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ใน ทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2170 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงมหาดไทย) (นายวิชิต ชาตไพสิฐ และนายปรีชา รณรงค์) | มท | 20/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่ง
ประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่คุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้ 1. นายวิชิต ชาตไพสิฐ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรง คุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2553 2. นายปรีชา รณรงค์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการผังเมือง (นักผังเมืองทรงคุณวุฒิ) กรมโยธา ธิการและผังเมือง ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2553
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2171 | เลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับ 11 และระดับ 10 (จำนวน 4 ราย 1. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ฯลฯ) | มท | 20/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 11 จำนวน
1 ราย และระดับ 10 จำนวน 3 ราย รวม 4 ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 11 ปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานปลัด กรุงเทพมหานคร 2. นายพูลพันธ์ ไกรเสริม ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 รองปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักงาน ปลัดกรุงเทพมหานคร 3. นายกระมล โอฬาระวัต ดำรงตำแหน่งนักบริหาร 10 ผู้อำนวยการสำนัก สำนักเทศกิจ 4. นางศิริลักษณ์ สักกวัตร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 10 สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2172 | การขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชายแดนระหว่างประเทศ) | มท | 13/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 (เรื่อง การปรับปรุงแก้ไข มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ และมาตรการอื่นที่เกี่ยวข้อง) 2. อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณซึ่งประมาณราคากลางสูงกว่างบประมาณรวมวงเงินเผื่อ เหลือเผื่อขาดที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 5 โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ ชายแดนระหว่างประเทศ จำนวน 7 รายการ ดังนี้ 2.1 รายการที่ 1 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านคกงิ้ว หมู่ที่ 5 ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ความยาว 400 เมตร จากเดิมวงเงิน 44,000,000 บาท เป็นวงเงิน 58,900,000 บาท 2.2 รายการที่ 2 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านไชยบุรี หมู่ที่ 3 ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ความยาว 800 เมตร จากเดิมวงเงิน 66,000,000 บาท เป็นวงเงิน 93,400,000 บาท 2.3 รายการที่ 3 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ที่ 3, 1 ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ความยาว 500 เมตร จากเดิมวงเงิน 41,000,000 บาท เป็นวงเงิน 69,500,000 บาท 2.4 รายการที่ 4 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านห้วยเซือมเหนือ ตำบลไคสี อำเภอบึงกาฬ จังหวัด หนองคาย ความยาว 682 เมตร จากเดิมวงเงิน 62,000,000 บาท เป็นวงเงิน 83,450,000 บาท 2.5 รายการที่ 5 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านหาดแฮ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัด หนองคาย ความยาว 500 เมตร จากเดิมวงเงิน 50,000,000 บาท เป็นวงเงิน 74,450,000 บาท 2.6 รายการที่ 6 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านถิ่นดุง ตำบลวัดหลวง อำเภอโพนพิสัย จังหวัด หนองคาย ความยาว 600 เมตร จากเดิมวงเงิน 60,000,000 บาท เป็นวงเงิน 95,000,000 บาท 2.7 รายการที่ 7 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านเมืองหมีใหญ่ หมู่ที่ 7 ตำบลเมืองหมี อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ความยาว 700 เมตร จากเดิมวงเงิน 88,000,000 บาท เป็นวงเงิน 99,330,000 บาท 3. อนุมัติให้เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชายแดน ระหว่างประเทศ จำนวน 1 รายการ คือ รายการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านโพนสา ตำบลโพนสา อำเภอท่า บ่อ จังหวัดหนองคาย ความยาว 650 เมตร จากเดิมวงเงิน 93,000,000 บาท เป็นวงเงิน 98,200,000 บาท
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2173 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | มท | 06/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโพธิ์ ในท้องที่ตำบลดอนทราย ตำบลหนองบัว ตำบล ท่าพลับ ตำบลสิบเอ็ดศอก ตำบลหนองตีนนก ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลคลองบ้านโพธิ์ และตำบลบางซ่อน อำเภอบ้าน โพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะและสภาพ แวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการ ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2174 | รายงานผลการดำเนินโครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดชัยภูมิประจำเดือนพฤษภาคม 2553 | มท | 06/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินโครงการบ้าน
ดินสิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดชัยภูมิ ประจำเดือนพฤษภาคม 2553 ดังนี้ 1. โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 1 โครงการ คือ โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการของผู้ประกอบ การที่พักโฮมสเตย์ งบประมาณ 120,000 บาท โดยจัดอบรมสมาชิกชุมชนบ้านดิน จำนวน 40 คน ผู้เข้าอบรมผ่าน การฝึกอบรมทุกคน 2. โครงการ/กิจกรรม ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 5 โครงการ ได้แก่ 2.1 โครงการฝึกอบรมทางด้านการเกษตร 2.2 โครงการฝึกอบรมด้านการจัดทำของที่ระลึก 2.3 โครงการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 โครงการจัดหาอุปกรณ์ในการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน 2.5 โครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานบ้านดิน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2175 | ร่างพระราชกำหนดยกเว้นความผิดทางแพ่งและทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือที่กฎหมายห้ามออกใบอนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. .... | มท | 06/07/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชกำหนดยกเว้นความผิดทางแพ่ง
และทางอาญาให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่กฎหมายห้ามออกใบ อนุญาตมามอบให้แก่ทางราชการ พ.ศ. .... ไปตรวจพิจารณา และจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติโดยเร่งด่วน แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีความเห็นประกอบร่างพระราชกำหนดฯ ดังนี้ 1. บทบัญญัติในร่างพระราชกำหนดฯ เป็นการยกเว้นความผิดทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ และ ยกเว้นความผิดทางแพ่งต่อหน่วยงานของรัฐ จะสามารถจูงใจให้ผู้กระทำความผิดนำอาวุธหรือยุทธภัณฑ์มามอบ ให้แก่ทางราชการเพียงพอหรือไม่ 2. โดยที่มาตรา 184 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติให้การตราพระราชกำหนดเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษา ความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ฯลฯ ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่า เป็นกรณี ฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น การตราพระราชกำหนดเรื่องนี้อาจมีผู้ยื่นฟ้องต่อศาล รัฐธรรมนูญว่าไม่เป็นไปตามมาตรา 184 ดังกล่าว ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุแห่งความ จำเป็นเร่งด่วนที่ชัดเจนในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับในวันที่ 1 สิงหาคม 2553 นี้จะมีการเปิด ประชุมรัฐสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติแล้ว 3. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า พระราชกำหนดเรื่องนี้ไม่เป็นไป ตามมาตรา 184 ของรัฐธรรมนูญจะมีผลให้พระราชกำหนดไม่มีผลบังคับมาแต่ต้น การออกพระราชกำหนดเรื่อง นี้จะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด อีกทั้งอาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีก ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้มีผล บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ควรดำเนินการในรูปแบบพระราชบัญญัติ โดยเร็วที่สุด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2176 | สรุปผลการเจรจาและการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในภารกิจของกระทรวงมหาดไทย | มท | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอสรุปผลการเจรจาและการแก้ไขปัญหาประชาชน
ที่เป็นหนี้นอกระบบที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 200,000 บาท โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่รับผิดชอบเจรจาหนี้ ที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบธนาคารได้ โดยได้จัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบกระทรวงมหาดไทยขึ้น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับกระทรวง ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ มีการแต่งตั้งคณะทำงานเจรจาหนี้นอกระบบ จำนวน 6,095 คณะ โดยมอบหมายให้บุคลากรจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 52,943 คน เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน และได้จัด สรรงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 จำนวน 45,000,000 บาท ให้ แก่จังหวัด และอำเภอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งผลการดำเนินงานปรากฏว่าสามารถเชิญลูกหนี้นอก ระบบที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบธนาคารได้จำนวน 756,073 ราย เข้าสู่กระบวนการเจรจาได้ครบถ้วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2553
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2177 | การกำหนดให้ปี พ.ศ. 2554 - 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน (Decade of Action for Road Safety) | มท | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ดังนี้ 1.1 การกำหนดให้ "ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน (Decade of Action for Road Safety)" เพื่อบูรณาการการดำเนินงานจากทุกหน่วยงาน 1.2 ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจัดทำแผนปฏิบัติการ "ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563" โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในปี พ.ศ. 2563 เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีทิศทางการดำเนินงานและการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม 2. ให้ศูนย์อำนวยการ ฯ รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เห็นควรมีการพิจารณามาตรการเพิ่มเติม เช่น ให้รถยนต์สาธารณะทุกคันติดตั้งระบบ GPS เพื่อควบคุมไม่ให้มีการขับรถยนต์เร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และการขับรถยนต์ระยะทางไกลให้คนขับรถยนต์รายงานตัวระหว่างทางโดยใช้ลายนิ้วมือในการแสดงตนเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้คนขับรถยนต์เพียงคนเดียว เป็นต้น และความเห็นของกระทรวงคมนาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยง/จุดอันตรายบนถนน โดยพิจารณาถึงงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเป็นการเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งให้มีการเพิ่มโทษผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดทั้งปีเน้นการป้องปราบและเข้มงวดโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2178 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพะตง - พังลา จังหวัดสงขลา พ.ศ. .... | มท | 29/06/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพะตง-พังลา จังหวัด
สงขลา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพะตง-พังลา จังหวัดสงขลา ในท้องที่ ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ และตำบลพังงา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและ การดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและ การขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2179 | การขออนุมัติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันท้องถิ่นไทย" | มท | 22/06/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันท้องถิ่นไทย" เพื่อเป็นการน้อม
รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อการปกครองท้องถิ่นไทยและ เพื่อให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปกครองท้องถิ่น ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2180 | ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 22/06/2553 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบบริหารหมู่บ้านฯ พ.ศ. 2522 โดยกำหนดคำนิยาม ให้มีความชัดเจนขึ้น และแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง โครงสร้างหมู่บ้าน องค์ประกอบของคณะกรรมการกลาง อำนาจหน้าที่ การจัดสรรรายได้ การจัดทำงบประมาณ และการควบคุม ตาม ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนัก งานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และ กระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการกลางบริหารหมู่บ้านให้สอดคล้องกับแนวทางดำเนินงานในกรอบ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งให้คณะทำงานด้านการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้านอาสา พัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) เพิ่มเติมหน้าที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความมั่นคงของคนและชุมชนใน หมู่บ้าน อพป. และกำหนดบทบาท ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีระบบและกลไกการบริหารงานที่ประสานสัมพันธ์กันและไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนี้ เห็นควรให้คณะกรรมการ กลางของแต่ละหมู่บ้านต้องมีการประชุมและเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาโดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งในการประชุม และการเตรียมความพร้อมของชุมชนอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง และปรับเพิ่มงบประมาณในพื้นที่เสี่ยง ไปประกอบการ พิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป 2. ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะกรรมการกลาง (ร่างมาตรา 13) ให้กระทรวงมหาดไทยไปพิจารณา กำหนดหลักเกณฑ์ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังต่อไป |
.....