ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 104 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 2061 - 2080 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2061 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเกาะภูเก็ต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเกาะภูเก็ต พ.ศ. 2548) | มท | 22/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเกาะภูเก็ต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อนันทนาการและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม บริเวณหมายเลข ๗.๑๘ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเกาะภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเป็นอาคาร อุปกรณ์ท่อสูบน้ำ และท่อน้ำทิ้ง สำหรับการผลิตน้ำประปาในที่ดินประเภทดังกล่าวได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2062 | การเตรียมการด้านบุคลากรเพื่อรองรับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ | มท | 22/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐพิจารณาหารือการเกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดบึงกาฬ เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาระด้านงบประมาณและอัตรากำลัง หากดำเนินการแล้วไม่เพียงพอ ให้กระทรวงมหาดไทยนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2063 | การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย - ลาว ครั้งที่ 8 | มท | 22/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ๑.๑ แนวทางการจัดทำบันทึกการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงไทย - ลาว ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ - ๒ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ แขวงหลางพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยแนวทางการจัดทำบันทึกการประชุมฯ เป็นการนำประเด็นต่าง ๆ จากบันทึกผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - ลาว ครั้งที่ ๑๕ และบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย - ลาว ครั้งที่ ๑๗ ซึ่งครอบคลุมสาระสำคัญในด้านความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้านเศรษฐกิจการค้าชายแดน และความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นต้น โดยไม่กล่าวถึงประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวกับเขตแดนและประเด็นที่มีผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ที่รัฐบาลทั้งสองยังมิได้เคยทำความตกลงกันไว้ รวมทั้งไม่มีการจัดทำความตกลงใด ๆ ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในร่างบันทึกการประชุมที่มิใช่สาระสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ความเห็นชอบได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบอีก ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ลงนามในบันทึกการประชุมฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Power) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อลงนามในบันทึกการประชุมฯ ๒. ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าวจะต้องไม่มีประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวกับชายแดน และประเด็นที่มีผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมที่รัฐบาลทั้งสองยังมิได้เคยทำความตกลงไว้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรให้มีถ้อยคำว่า “บันทึกการประชุมฉบับนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันแล้ว จะมีผลบังคับเมื่อฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามกระบวนการตามกฎหมายภายในเสร็จสิ้น และแจ้งเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวผ่านช่องทางการทูตให้ฝ่ายลาวทราบ” เพื่อความรอบคอบในกรณีที่อาจมีสารัตถะอื่นใดเพิ่มเติมระหว่างการประชุมดังกล่าวซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นเรื่องตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญของเนื้อหาบางประการ ไปดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2064 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... | มท | 15/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลท้องเนียน อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑๑ ไร่ ๗๓ ๙/๑๐ ตารางวา เพื่อมอบให้อธิบดีกรมที่ดินนำไปจัดหาผลประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2065 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 15/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลอ่าวน้อย ตำบลประจวบคีรีขันธ์ ตำบลเกาะหลัก และตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2066 | ร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 15/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยรับร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||||||||
2067 | การติดตามและการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ [การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัยและวาตภัย)] | มท | 15/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒, ๑๖ และ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เกี่ยวกับการอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัยและวาตภัย) จำนวน ๑,๐๐๙,๑๓๔ ครัวเรือน ๆ ละ ๕,๐๐๐ บาท ดังนี้
๑. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดส่งข้อมูลจำนวนครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยและวาตภัยที่จังหวัดได้ยืนยันและรับรองความถูกต้อง จำนวน ๗๔๔,๒๐๑ ครัวเรือน ให้ธนาคารออมสินเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือครัวเรือนผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ๒. ธนาคารออมสินได้จ่ายเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยและวาตภัย ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท จำนวน ๖๘๙,๒๕๓ ครัวเรือน เป็นเงิน ๓,๔๔๖,๒๖๕,๐๐๐ บาท คิดเป็นการจ่ายเงินร้อยละ ๙๒.๖๒ ของยอดจำนวนครัวเรือนที่ส่งธนาคารออมสิน ส่วนที่เหลือ ๕๔,๙๔๘ ครัวเรือน อยู่ระหว่างการเบิกจ่าย
|
||||||||||||||||||||||||
2068 | โครงการเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย ชะอำ-หัวหิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย ชะอำ - หัวหิน โดยมีนายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และปลัดกระทรวงมหาดไทยและปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานโครงการเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนฯ จัดทำแผนแม่บทการดำเนินโครงการและเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ รวมทั้งเสนอโครงการหรือกิจกรรมที่จะดำเนินการในพื้นที่โครงการที่เกินอำนาจหน้าที่และขีดความสามารถที่ท้องถิ่นจะสนับสนุนดำเนินการได้ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้เพิ่มผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการนำตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติไปใช้ในกิจกรรมของโครงการ ให้นำไปใช้ด้วยความระมัดระวัง เหมาะสมและสมพระเกียรติ และในการจัดทำรายละเอียดโครงการ ควรให้ความสำคัญกับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม สู่ความเป็นเอกลักษณ์ของเมือง และให้น้ำหนักกับการบริหารจัดการมากกว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาใช้ โดยเฉพาะโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นต้นแบบของการพัฒนาในรูปแบบการบูรณาการอย่างสมดุลและยั่งยืน นอกจากนี้ เพื่อให้การดูแลบำรุงรักษาสิ่งสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดิมเข้าสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ควรมีการจัดทำแผนถ่ายโอนภารกิจและทรัพย์สินที่ชัดเจนและมีการนำแผนไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2069 | โครงการก่อสร้างสายส่งเคเบิลใต้น้ำ 115 เควี (วงจรที่ 3) ไปยังเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการก่อสร้งสายส่งเคเบิลใต้น้ำ ๑๑๕ เควี (วงจรที่ ๓) ไปยังเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวงเงินลงทุนรวม ๓,๙๙๔ ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ในประเทศ วงเงิน ๒,๙๙๔ ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟภ. วงเงิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท โดยในส่วนของการกู้เงินในประเทศกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ ๑.๒ ผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๓๕ เรื่อง แผนแม่บทการจัดการปะการังของประเทศ ในการดำเนินโครงการก่อสร้างสายส่งเคเบิลใต้น้ำ ๑๑๕ เควี (วงจรที่ ๓) ไปยังเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่เห็นควรพิจารณาปรับปรุงอัตราค่าไฟฟ้าในพื้นที่เกาะสมุยในอัตราพิเศษที่แตกต่างจากอัตราที่เรียกเก็บในพื้นที่อื่น โดยอาจพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากบ้านอยู่อาศัยที่มีการใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า ๔๐๐ หน่วยต่อเดือน ให้เรียกเก็บในอัตราปกติเช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน ๔๐๐ หน่วยต่อเดือน และผู้ใช้ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้เรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ โดยรวมต้นทุนการก่อสร้างโครงการและค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม และเห็นควรให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยการเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินโครงการให้ประชาชนในพื้นที่ทราบผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ระยะเวลาอย่างน้อย ๗ วัน รวมทั้งให้ กฟภ. ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงานแห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐ เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินโครงการและทำการเลือกแนวหรือที่ตั้งระบบโครงข่ายพลังงานได้ แล้วให้จัดทำแผนผังแสดงรายละเอียดของลักษณะทิศทางและแนวเขตในการวางระบบโครงข่ายพลังงานเสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๐๖ ต่อไป ไปดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2070 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลนาแซง อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๘๘๘ ไร่ ๓๙ ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์ราชการอำเภอหล่มเก่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2071 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๒ งาน ๓๙ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2072 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลประโคนชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๕ ไร่ เพื่อมอบหมายให้เทศบาลตำบลประโคนชัยใช้เป็นที่ตั้งศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2073 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๘๒ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2074 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลท่านางงาม และตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2075 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) | มท | 08/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามพระราชดำริในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวมแนวคิด ทฤษฎี หลักการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ และประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนราชการ/หน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำ และนำมาเรียบเรียงจัดทำหนังสือการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นคู่มือให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศใช้ศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติงาน รวมทั้งประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง เช่น ระบบการเตือนภัยและติดตามสถานการณ์น้ำ โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ และการปรับปรุงจัดการน้ำในระดับเมือง และระดับชุมชน ๒. การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา และตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนต่ำเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบจำหน่าย และนำผลพลอยได้ไปใช้ประโยชน์พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของสมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้รับประโยชน์จำนวน ๓,๙๘๐ ครัวเรือน ส่วนสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของสหกรณ์ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการทอดผลปาล์มตามกระบวนการผลิตเฉลี่ย ๔๐๐ ลิตร/รอบการผลิต สหกรณ์จึงมีโครงการผลิตไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ ๓. การดำเนินงานตามโครงการจัดพัฒนาที่ดินฯ ตามพระราชประสงค์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพงได้ดำเนินการการปฏิรูปที่ดินโดยการพัฒนาที่ดินว่างเปล่า จัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองประกอบอาชีพตามวิธีการเกษตรแผนใหม่ แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน และได้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับสมาชิกตั้งแต่เริ่มการผลิตจนถึงการจำหน่ายออกสู่ตลาด ส่วนสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด โครงการปลูกป่านศรนารายณ์ โครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โครงการสวนทับทิมไทย-อิสราเอล เป็นต้น สำหรับปัญหาเรื่องน้ำ การประกอบอาชีพ สังคมและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทานได้ดำเนินการขุดลอกเพื่อขยายความจุของอ่างเก็บน้ำ การขอรับการสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
2076 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล 1 และถนนพัฒนาการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 01/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ ในท้องที่แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนสุขาภิบาล ๑ และถนนพัฒนาการ พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2077 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2554 - 2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2552 - 2556 | มท | 01/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และจัดส่งแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงบประมาณเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ต่อไป ๑.๒ ให้หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการทั้ง ๘๑ หน่วยงาน พิจารณาดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้นำแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณดำเนินการต่อไป รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปดำเนินการครบถ้วนทุกประการแล้ว ดังนี้ ๒.๑ ขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ได้บูรณาการร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศแล้ว ซึ่งได้แจ้งว่าไม่มีแผนงาน/โครงการที่รองรับกิจกรรมตามแผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ (ระยะ ๕ ปี) แต่ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มขีดความสามารถหากเกิดภัยพิบัติขึ้น ๒.๒ จัดทำคู่มือเตรียมความพร้อมรับภัยจากคลื่นสึนามิของชุมชน และคู่มือชาวบ้านการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากคลื่นสึนามิ โดยแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นสึนามิ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ๒.๓ กำหนดบรรจุโครงการสร้างระบบประเมินการเกิดคลื่นสึนามิและบูรณาการระบบการเตือนภัยคลื่นสึนามิของประเทศไทย วงเงิน ๖๗ ล้านบาท ไว้ในแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ โดยจะขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ |
||||||||||||||||||||||||
2078 | การมอบหมายให้รักษาราชการแทน (นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ และนายถาวร เสนเนียม) | มท | 01/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่อาจปฏิบัติราชการได้ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ตามลำดับ ดังนี้
๑. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ๒. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ โดยให้รวมถึงกรณ๊ที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
2079 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... | มท | 01/02/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลพิมพา ตำบลหนองจอก ตำบลบางวัว ตำบลบางสมัคร ตำบลหอมศีล ตำบลท่าสะอ้าน ตำบลบางเกลือ ตำบลเขาดิน ตำบลบางผึ้ง ตำบลสองคลอง ตำบลบางปะกง ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง และตำบลคลองประเวศ ตำบลลาดขวาง ตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2080 | การดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เชิงรุก ปี 2553 | มท | 24/01/2554 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง เงินค่าใช้จ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ที่ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการเกี่ยวกับขั้นตอนการจ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตามขั้นตอนเดิม โดยจังหวัดโอนเงินไปให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จากนั้น อบจ. โอนให้สาธารณสุขจังหวัด เพื่อจะได้จัดสรรให้ อสม. ต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณพิจารณาการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้แก่โครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เชิงรุก ปี ๒๕๕๓ โดยไม่รวมอยู่ในงบประมาณที่อยู่ในสัดส่วนของเงินอุดหนุนที่รัฐต้องจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นไป
|
.....