ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 105 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 2081 - 2100 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2081 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายแก่ผู้เสียหายซึ่งมิใช่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันตรายจากสาธารณภัย พ.ศ. .... | มท | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายแก่ผู้เสียหายซึ่งมิใช่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันตรายจากสาธารณภัย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญคือ ๑.๑ ให้ผู้อำนวยการท้องถิ่นหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครแห่งพื้นที่ที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่รายงานต่อผู้อำนวยการจังหวัดหรือผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร เมื่อเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของผู้เสียหายจากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๑.๒ กรณีที่ผู้เสียหายมิได้อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้เสียหายและทรัพย์สินที่เสียหาย ผู้เสียหายนั้นอาจร้องขอชดเชยความเสียหายต่อผู้อำนวยการท้องถิ่นหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการกรุงเทพมหานครแห่งพื้นที่ที่ทรัพย์สินของผู้เสียหายตั้งอยู่ ๑.๓ ให้คณะกรรมการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง หากไม่อาจดำเนินการได้ทันภายในกำหนดจะต้องรายงานปัญหาและอุปสรรคให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งทราบเพื่อพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสามสิบวัน ๑.๔ ให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดค่าชดเชยความเสียหายโดยคำนึงถึงสภาพของทรัพย์สิน ราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด หรือเทียบราคาที่อ้างอิงจากราคากลางที่ทางราชการกำหนดตามที่เป็นอยู่ในวันที่เกิดความเสียหาย การเสื่อมราคาจากการใช้ การที่ทางราชการได้บรรเทาหรือแก้ไขความเสียหายไปแล้ว และปัจจัยอื่นที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม โดยนำหลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินที่ต้องเรียกชดใช้ตามความรับผิดทางละเมิดตามที่กระทรวงการคลังกำหนดมาใช้โดยอนุโลม ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดกรณีเมื่อผู้มีอำนาจแต่งตั้งวินิจฉัยความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นจำนวนเท่าใดแล้ว ให้จังหวัดหรือกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้เสียหายนั้น โดยให้ใช้เงินจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น นั้น เป็นการจ่ายเงินจากงบกลาง ซึ่งรายการเงินสำรองจ่ายฯ เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดสรรสำรองให้สำหรับกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่สามารถกำหนดเป้าหมายและวงเงินค่าใช้จ่ายเป็นการล่วงหน้าได้ เมื่อส่วนราชการฯ มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายฯ จะต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ งบประมาณที่จะนำไปชดเชยความเสียหายดังกล่าวไม่ควรกำหนดให้ใช้เฉพาะจากงบประมาณแผ่นดินที่เป็นงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายฯ แต่ควรกำหนดให้สามารถใช้จากงบประมาณของส่วนราชการและเงินจากแหล่งอื่นด้วย ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2082 | ความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ | มท | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้โอนจัดสรรงบประมาณโดยเบิกจ่ายจากงบเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการเสริมสร้างสวัสดิการทางสังคมให้แก่คนพิการหรือทุพพลภาพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นเงิน ๑๖๖,๓๐๑,๕๐๐ บาท และเบิกจ่ายจากเงินกันเหลื่อมปีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ รายการเงินอุดหนุนสำหรับสิทธิประโยชน์ข้าราชการและลูกจ้างถ่ายโอน (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๓) เป็นเงิน ๗๔,๗๕๒,๕๐๐ บาท เพื่อจ่ายเป็นเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการเสริมสร้างสวัสดิการทางสังคมให้แก่คนพิการหรือทุพพลภาพในงวดที่ ๒ (งวดสุดท้าย) จำนวน ๑ เดือน (เดือนกันยายน ๒๕๕๓) จำนวน ๔๘๒,๑๐๘ คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๔๑,๐๕๔,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2083 | ขอสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
๑. อนุมัติกรอบวงเงินให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ซ่อมแซม บูรณะศาลากลางจังหวัด และจัดซื้อครุภัณฑ์ รวม ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น มุกดาหาร และจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง จำนวน ๘๓๗,๖๔๗,๔๐๒ บาท ๒. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๒๑,๕๑๐,๐๐๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้ ๒.๑ ค่าก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัด (รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ จำนวน ๔ จังหวัด ได้แก่ อาคารศาลากลางจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี วงเงินค่าก่อสร้าง ๒๘๔,๕๗๘,๕๐๐ บาท อาคารศาลาจังหวัด จังหวัดอุดรธานี วงเงินค่าก่อสร้าง ๑๔๗,๔๓๙,๑๐๐ บาท อาคารศาลากลางจังหวัด จังหวัดขอนแก่น วงเงินค่าก่อสร้างรวม ๑๔๗,๓๓๐,๐๐๐ บาท และอาคารศาลากลางจังหวัด จังหวัดมุกดาหาร วงเงินค่าก่อสร้างรวม ๑๔๕,๕๑๙,๘๐๐ บาท รวมวงเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น ๗๒๔,๘๖๗,๔๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๑๐๘,๗๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๖๑๖,๑๓๗,๔๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๖ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ๒.๒ ค่าครุภัณฑ์ (ปีเดียว) และงบดำเนินงานของส่วนราชการ จำนวน ๑๑ หน่วยงาน ใน ๔ จังหวัด ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๒๑,๔๓๔,๐๐๐ บาท กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จำนวน ๕๕๙,๑๐๐ บาท กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จำนวน ๑๔๘,๓๑๖ บาท สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน ๕๓๔,๐๐๐ บาท กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จำนวน ๓,๔๑๐,๓๐๐ บาท สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน ๕๗๑,๗๐๐ บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๑๓๕,๕๐๐ บาท สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน ๑๑๗,๙๓๐ บาท กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๒๒,๒๙๘,๙๐๐ บาท กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๕,๘๖๖,๒๕๖ บาท และกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑,๔๖๑,๐๐๐ บาท ๒.๓ ค่าซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง (ปีเดียว) ของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน ๕๖,๒๔๓,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลืออีก จำนวน ๙๗๐,๐๐๐ บาท ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ รายการค่าปรับปรุงสิ่งก่อสร้างของทางราชการ ซึ่งได้ตั้งงบประมาณไว้แล้ว ๓. สำหรับค่าครุภัณฑ์ประกอบอาคารศาลากลางจังหวัดที่ก่อสร้างใหม่ วงเงินรวม ๙๑,๙๒๒,๒๐๐ บาท ให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่จะก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดแล้วเสร็จต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายของรายการที่กล่าวข้างต้น และขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติมด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2084 | แผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. 2554 - 2555 | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕ ที่มีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงเหลือ ๑๔.๑๕ คนต่อประชากรหนึ่งแสน หรือประมาณ ๙,๐๑๒ คน ภายในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยแผนปฏิบัติการฯ จัดทำขึ้นภายใต้แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ เน้นในเรื่องการลดปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียชีวิตและบาดเจ็บรุนแรง และกำหนดให้การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นแนวทางสำคัญในยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมถึงให้จังหวัดพิจารณานำแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๕ ไปดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายของแผนปฏิบัติการที่กำหนด ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เสนอ ๒. สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ ศปถ. แจ้งว่าเป็นแผนบูรณาการร่วมกันของ ๘ หน่วยงาน และต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ จำนวน ๑,๓๓๙.๘๒ ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ จะขอใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๙๔.๐๘ ล้านบาท นั้น เนื่องจากสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามภารกิจแล้ว ประกอบกับงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มีจำนวนจำกัด และจะต้องเตรียมไว้รองรับภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย ภัยแล้ง รวมทั้งภัยหนาว จึงเห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ได้รับจัดสรรไปดำเนินการก่อน ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเงินการคลังของประเทศตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้ ศปถ. รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการฯ ควรแยกแผนงานด้านการรณรงค์และลดอุบัติเหตุ และแผนงานการพัฒนาระบบบริการด้านอุบัติเหตุออกจากกันให้ชัดเจน และข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เห็นควรให้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำแผนปฏิบัติการฯ และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายการลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนควรสัมพันธ์กับปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งบูรณาการแผนปฏิบัติการฯ ให้เชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางถนนของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ และแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2085 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตรัง พ.ศ. .... | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองตรัง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลนาตาล่วง ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลทับเที่ยง ตำบลบางรัก ตำบลโคกหล่อ ตำบลบ้านควน และตำบลควนปริง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2086 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกห้าปี จำนวน 2 ฉบับ) | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก ๕ ปี จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๔๙ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ และกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพิจิตร พ.ศ. ๒๕๔๙ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2087 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลเนินมะปราง และตำบลบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2088 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2089 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแก่งเสือเต้น จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนแก่งเสือเต้น จังหวัดลพบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2090 | รายงานผลการดำเนินงาน OTOP CITY 2010 (ระหว่างวันที่ 18 - 26 ธันวาคม 2553) | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน รายงานผลการดำเนินงาน OTOP CITY 2010 หรือ “ศักดิ์ศรีแห่งภูมิปัญญาไทยใต้ร่วมพระบารมี : OTOP CITY 2010” ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรม ชิม : อาหารอร่อยจากทั้ง ๔ ภาค ทั่วไทย ชม : นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ นิทรรศการและการสาธิตการผลิตผลิตภัณฑ์ ของขวัญจากแผ่นดิน หรือ OTOP ดีเด่น และเครือข่ายองค์ความรู้ (KBO) การแสดงวัฒนธรรมของ ๔ ภาค หมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละภาค และ ช้อป : สินค้า OTOP ระดับ ๓ - ๕ ดาว จากภูมิปัญญาของชาวบ้านทุกจังหวัดทั่วประเทศ และผู้ประกอบการจากกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม “นาทีทอง” วันละ ๒ รอบ ของทุกวัน การจัดประมูลผลิตภัณฑ์ OTOP เด่น ของแต่ละจังหวัดเพื่อร่วมหารายได้สมทบกองทุนเครือข่าย OTOP เป็นต้น สำหรับผลการจัดกิจกรรม มีผู้เข้าชมงาน ๑,๑๑๑,๐๐๓ คน มียอดจำหน่ายสินค้า OTOP จำนวน ๑,๓๔๘,๕๘๔,๙๘๗ บาท และจากการสำรวจความพึงพอใจต่อการจัดงานครั้งนี้ พบว่าประชาชนผู้เข้าชมงานมีความพอใจในระดับมาก ถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๘๔.๓๐ ส่วนผู้ประกอบการที่ร่วมจำหน่ายสินค้ามีความพอใจในระดับมาก ถึงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๑๐ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ พิจารณาค่าใช้จ่ายในการขอรับการสนับสนุนและผลักดันให้มีการจัดงาน OTOP Midyear 2011 ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๔ ต่อไป หากต้องของบประมาณเพิ่มเติมให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนดำเนินการจัดงานดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2091 | เลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงมหาดไทย) (นายบรรเทิง พงศ์สร้อยเพชร) | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายบันเทิง พงศ์สร้อยเพชร ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ ๑๐ วช. (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรมกระดูก) กลุ่มบริการทางการแพทย์ กลุ่มงานศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2092 | สรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 | มท | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอสรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ เกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓,๔๙๗ ครั้ง เปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๓ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุทางถนน ๓,๕๓๔ ครั้ง ลดลง ๓๗ ครั้ง คิดเป็นร้อยละ ๑.๐๕ มีผู้เสียชีวิต ๓๕๘ ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๑๑ ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ๓,๗๕๐ คน ลดลงจากปีก่อน ๗๗ คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก และเชียงราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ๒. การวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ พบว่าการเมาสุราเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาคือ รถกระบะ และรถเก๋ง นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูงถึงร้อยละ ๒๗.๕๓ ส่วนการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร พบว่ามีผู้กระทำผิดในกรณีไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุด รองลงมาคือ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ตามลำดับ สำหรับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พบว่ากลุ่มวัยแรงงานบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด และ ๑ ใน ๔ ของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2093 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... | มท | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลคลองโยง ตำบลมหาสวัสดิ์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล ตำบลหอมเกร็ด ตำบลทรงคะนอง และตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2094 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสกลนคร พ.ศ. .... | มท | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสกลนคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลธาตุนาเวง ตำบลฮางโฮง ตำบลธาตุเชิงชุม ตำบลงิ้วด่อน ตำบลพังขว้าง ตำบลดงมะไฟ และตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2095 | การดำเนินงานสนับสนุนการจัดตั้งคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด | มท | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองประธานกรรมการและรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน คนที่หนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน [รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ)] รายงานผลการประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ ๒/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ โดยที่ประชุมได้มีมติ ดังนี้
๑. ให้มีการจัดตั้งทีมสืบสวนอุบัติเหตุระดับจังหวัด ๒๕ จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดนำร่องที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ๑๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุตรดิตถ์ สระบุรี ราชบุรี ชลบุรี อุดรธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช และตรัง และขยายผลในจังหวัดที่มีสถิติอุบัติเหตุสูงในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีก ๑๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี ลำพูน ขอนแก่น ลพบุรี เพชรบูณ์ จันทบุรี นครปฐม นครสวรรค์ ลำปาง นครราชสีมา สงขลา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ๒. ให้ส่วนราชการหลักที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการสืบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมีหนังสือสั่งการเพื่อให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ทั้ง ๒๕ จังหวัด ให้การสนับสนุนการทำงาน และให้ ๒๕ จังหวัด มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุระดับจังหวัด ๓. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินการจากงบกลางสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ และจัดทำคำขอจากงบประมาณปกติสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ สสส. และ กปถ. ให้การสนับสนุนการทำงานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุตามความจำเป็นอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดอัตราการเสียชีวิตในจังหวัดที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงต่อไป ๔. ให้มีการทำข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการพัฒนางานด้านการสืบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุระหว่างศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สสส. กปถ. และมหาวิทยาลัยที่ดำเนินงานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุ ซึ่งได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ๕. ให้เพิ่มผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมเป็นคณะทำงานการสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน โดยให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งรายชื่อผู้แทนเพื่อให้ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจัดทำคำสั่งแต่งตั้งเพิ่มเติมต่อไป ๖. เห็นชอบในหลักการให้มีการทำแผนที่นำทางของการพัฒนางานด้านการสืบสวนอุบัติเหตุใน ๑๐ ปีข้างหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2096 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... | มท | 21/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลวังทอง ตำบลชัยนาม และตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2097 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานและลูกจ้างประจำ กปภ. กรณีเงินเดือนเต็มขั้น | มท | 21/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการปรับปรุงสภาพการจ้างเกี่ยวกับการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่หน่วยงานและลูกจ้างประจำการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กรณีเงินเดือนเต็มขั้น ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลนับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเป็นต้นไป ดังนี้ ๑.๑ กรณีได้รับพิจารณาระดับการให้ผลตอบแทนหนึ่งขั้น แต่เงินเดือนเต็มขั้น ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๒ ของอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง (ไม่กำหนดโควตา) ๑.๒ กรณีได้รับพิจารณาระดับการให้ผลตอบแทนหนึ่งขั้นครึ่ง แต่เงินเดือนเต็มขั้นให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๔ ของอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง (ไม่เกินร้อยละ ๒๕ ของจำนวนพนักงานเงินเดือนเต็มขั้น) ๑.๓ กรณีได้รับพิจารณาระดับการให้ผลตอบแทนสองขั้น แต่เงินเดือนเต็มขั้นให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๖ ของอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง (ไม่เกินร้อยละ ๑๐ ของจำนวนพนักงานเงินเดือนเต็มขั้น) ๑.๔ กรณีไม่ได้รับพิจารณาให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ให้เบิกจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างในอัตราขั้นสูงของตำแหน่งระดับเดิม ทั้งนี้ การจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวไม่ถือเป็นค่าจ้าง และมีลักษณะการจ่ายเป็นการชั่วคราว รวมทั้งไม่เป็นฐานในการคำนวณสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่พนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ๒. ให้ผู้ว่าการ กปภ. รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภค และปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2098 | แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 | มท | 21/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. ช่วงเวลาการดำเนินการรณรงค์ ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓-๔ มกราคม ๒๕๕๔ รวม ๗ วัน โดยกำหนดแนวทางการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงาน เน้นหนักในมาตรการด้านการบริหารจัดการ มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการด้านวิศวกรรมจราจร มาตรการด้านประชาสัมพันธ์ และมาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ ๒. ช่วงเวลาในการดำเนินงาน กำหนดเป็น ๒ ช่วง คือ ช่วงเตรียมความพร้อม ระหว่างวันที่ ๑-๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านการปฏิบัติและงบประมาณเพื่อดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ ในส่วนกลาง จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และช่วงปฏิบัติการเข้มข้น ระหว่างวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓-๔ มกราคม ๒๕๕๔ โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ ระดับจังหวัด และอำเภอ และศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การตั้งจุดสกัดตรวจ/ด่านตรวจร่วมแบบบูรณาการ การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน และการจัดตั้งหน่วยสนับสนุน และบริการประชาชน ระดับพื้นที่ ๓. แผนการดำเนินการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ ประกอบด้วย ๓.๑ แผนงานที่ ๑ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ และศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๔ ๓.๒ แผนงานที่ ๒ การจัดตั้งจุดตรวจร่วม/ด่านตรวจร่วมบนเส้นทางสายหลักและสายรอง ๓.๓ แผนงานที่ ๓ การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน ๓.๔ แผนงานที่ ๔ การตั้งหน่วยสนับสนุนและบริการประชาชนระดับพื้นที่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2099 | การเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล | มท | 14/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับเรื่อง การเพิ่มค่าคอบแทนให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ดังนี้
๑. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณร่วมกันพิจารณาตรวจสอบรายละเอียดการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ รวมถึงผลกระทบทางอ้อมที่จะต้องมีการปรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ และบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ด้วย ว่าจะมีผลกระทบต่องบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลที่จะใช้ในการดำเนินการโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในท้องถิ่นหรือไม่ เพียงใด แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ๒. ส่วนระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินค่าตอบแทน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่กระทรวงมหาดไทยส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรอผลการพิจารณาตามข้อ ๑ ก่อนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2100 | ขอความเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกู้เงินระยะสั้นประเภทกู้เบิกเงินเกินบัญชี (O/D) | มท | 07/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กู้เงินระยะสั้นประเภทกู้เบิกเงินเกินบัญชี (O/D) กับ ธนาคารที่มีเงื่อนไขเหมาะสมที่สุดเพื่อสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเสริมสภาพคล่องในกรณีที่มีความ จำเป็นเร่งด่วน เป็นระยะเวลา ๑ ปี (มกราคม-ธันวาคม ๒๕๕๔) ในวงเงิน ๔,๕๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย โดย กฟภ. รั บความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำแผนบริหารการเงิน โดยเฉพาะการจัดเก็บค่าไฟฟ้าให้มีระยะเวลาที่สอด คล้องกับภาระหนี้ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องชำระ และเร่งจัดเก็บเงินค่าไฟฟ้าที่ลูกหนี้ค้างชำระให้ได้โดยเร็ว สำหรับค่าไฟฟ้าค้างชำระของส่วนราชการ ให้ส่วนราชการเร่งชำระให้ กฟภ. โดยเร็วต่อไป ไปพิจารณาดำเนิน การด้วย |
.....