ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 85 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1681 - 1700 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1681 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
บัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และ กำหนดกรอบมาตรการควบคุมไม่ให้กระทำการอันเป็นการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้ง การกำหนดโทษทางอาญาและความรับผิดทางแพ่ง และมาตรการบังคับทางปกครอง และให้ส่งสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนขึ้นในร่างพระ ราชบัญญัติฉบับนี้ จะมีผลกระทบต่อระบบการคลัง และวินัยทางการเงินการคลังของประเทศ และการจัดโครง สร้างองค์กรและอำนาจหน้าที่ควรพิจารณาไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่น เช่น กฎหมายการเดินเรือ ในน่านน้ำไทย การประมงชายฝั่ง เป็นต้น และควรพิจารณาให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดงบประมาณเพื่อให้ เกิดเอกภาพและบูรณาการในการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลได้อย่างแท้จริง รวมทั้งรับความเห็นของ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย ทั้งนี้ ให้เชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม (กองทัพเรือ) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม พิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
1682 | ขอขยายเวลาการดำเนินงานและการเบิกจ่ายงบประมาณ และการดำเนินงานโครงการส่วนที่เหลือของโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 (16 จังหวัดนำร่อง) | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการขยายเวลาการ
ดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระยะที่ 1 ที่ได้รับงบประมาณแล้วและยังคงดำเนิน การก่อสร้าง/ปรับปรุงไม่แล้วเสร็จ จำนวน 324 โครงการ ออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 และ ขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณออกไปอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 รวมทั้งมอบหมายให้กรมส่ง เสริมการปกครองท้องถิ่นดำเนินงานโครงการในพื้นที่ 16 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย โครงการที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้งระบบจำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ตอบสนองความต้องการน้ำเพื่อ การอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ทั้งนี้ ให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดโครงการจำนวน 324 โครง การที่ล่าช้า ให้แล้วเสร็จทันกับฤดูแล้ง เพื่อให้การดำเนินการสามารถตอบสนองต่อความจำเป็นในการดำรงชีพของ ประชาชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิผล สำหรับโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการไม่สมบูรณ์ทั้ง ระบบ จำนวน 1,066 โครงการ และโครงการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 2,739 โครงการ ในพื้นที่ นำร่อง 16 จังหวัด นั้น ควรสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับโครงการจัดหา น้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงแหล่งน้ำอย่างทั่วถึงและเสริมสร้างคุณภาพ ชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน และดำเนินการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการเพื่อทราบสถานการณ์การเปลี่ยน แปลงของสภาพการขาดแคลนน้ำโดยรวมของประเทศ รวมถึงความสำเร็จของโครงการในการแก้ไขปัญหาการขาด แคลนน้ำ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ในการบำรุงรักษาแหล่งน้ำและระบบจ่ายน้ำให้อยู่ใน สภาพที่ดีพร้อมใช้งานบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
1683 | รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีในคณะกรรมาธิการว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 15 | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการ
ประชุมระดับรัฐมนตรีในคณะกรรมาธิการว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 15 (The High Level Segment of the Fifteenth Session of the United Nations Commission on Sustainable Development, UNCSD 15) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 - 11 พฤษภาคม 2550 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐ อเมริกา โดยสาระสำคัญของการประชุมได้มีการพิจารณาร่างข้อมติ (Draft Decision) ที่ยกร่างโดยประธานการ ประชุม ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นการเจรจาจากการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อ ตกลงร่วมกันได้เนื่องจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปทั้งหมด 27 ประเทศ ไม่ให้การยอมรับร่างข้อมติดังกล่าวด้วย เหตุผลว่า ร่างข้อมติเหล่านั้นไม่สามารถก่อให้เกิดการดำเนินงานที่จะนำไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ ที่ ประชุมครั้งนี้จึงไม่บรรลุมติใด ๆ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบกับระเบียบวาระการประชุม CSD16 ซึ่งเป็นการ ทบทวนการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานโจฮันเนสเบอร์ก (Johannesburg Plan of Implementation, JPOI) ในเรื่องเกษตรกรรม การพัฒนาชนบท ที่ดิน ความแห้งแล้ง และการแปรสภาพเป็นทะเลทราย รวมทั้งการติดตาม ความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อมติของ CSD13 ในเรื่องทรัพยากรน้ำและสุขาภิบาล โดยกำหนดการประชุม ระหว่างวันที่ 5-16 พฤษภาคม 2551 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1684 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแต ในท้องที่ตำบลหนองคัน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนด
บริเวณที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแต ในท้องที่ตำบลหนองคัน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภูกระดึง ตำบลศรี ฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าภูค้อและป่าภูกระแต ในท้องที่ตำบลหนองคัน ตำบลห้วยสีเสียด ตำบลแก่งศรี ภูมิ อำเภอภูหลวง ตำบลปวนพุ ตำบลหนองหิน ตำบลตาดข่า กิ่งอำเภอหนองหิน อำเภอภูกระดึง และตำบลภู กระดึง ตำบลศรีฐาน ตำบลห้วยส้ม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธุ์ สัตว์ป่าและพื้นที่ป่าให้เป็นแหล่งที่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย รวมทั้งเป็นการรักษาแหล่งต้นน้ำลำธารและป่า ไม้ที่มีอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ให้คงอยู่อย่างถาวรตลอดไป และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎ หมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1685 | การบริจาคเงินสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อมของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ประเทศ
ไทยบริจาคเงินสมทบกองทุนสิ่งแวดล้อมของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นจำนวน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2552
|
|||||||||||||||||||||||||||
1686 | การประชุม The Third ASEM Environment Ministers' Meeting | ทส | 05/06/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานผลการประชุม
The Third ASEM Environment Ministers'' Meeting โดยที่ประชุมได้หารือในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศและความยั่งยืนทางพลังงาน การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการตัดไม้ทำลายป่าในบริบท ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการใช้จากพลังงานอย่างยั่งยืน และ การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ โดยจะนำผลการประชุมในครั้งนี้เสนอในการประชุมคณะกรรมา ธิการว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 15 และการประชุมภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งจะนำเสนอในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 6 ที่จะ จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนตุลาคม 2551
|
|||||||||||||||||||||||||||
1687 | ขออนุมัติจัดประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก | ทส | 29/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลง
วันจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสและการประชุมรัฐมนตรีด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จาก ที่กำหนดไว้เดิมวันที่ 7-8 ธันวาคม 2549 เป็นวันที่ 8-9 สิงหาคม 2550 กับเห็นชอบร่างกฎบัตรความร่วมมือด้าน อนามัยและสิ่งแวดล้อมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก (Draft Charter of the Regional Forum on Environment and Health) ที่ได้รับการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของกระทรวงการต่างประเทศ และเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณ สุข มีอำนาจเต็มในการลงนามรับรองกฎบัตรความร่วมมือด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ ในการประชุมรัฐมนตรีด้าน อนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้ ความเห็นชอบในการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎบัตรความร่วมมือด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม ฯ ในประเด็นปลีกย่อยได้ ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||
1688 | รายงานผลการติดตามงานการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ในท้องที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 1 | ทส | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลการติดตามงานการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด
ในท้องที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 1 ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 สรุปได้ดังนี้ ผลการติดตามงานของจังหวัดพิจิตร ได้รับการจัดสรรงบประมาณตาม ยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 73 ล้านบาท โดยจัดสรรให้หมู่บ้าน/ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง จำนวน 929 หมู่บ้าน ร้อยละ 90 และจัดสรรไว้เพื่อสนับสนุนการยกระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ร้อยละ 10 ส่วนการนำเสนอโครงการ หมู่บ้าน/ชุมชน ได้เสนอโครงการ จำนวน 434 โครงการ จำแนกตามแผนงาน 5 ด้าน ประกอบด้วย แผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 115 โครงการ แผนงานพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน จำนวน 14 โครงการ แผนงานการฟื้นฟูความอุดม สมบูรณ์ของชุมชน จำนวน 43 โครงการ แผนงานการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ จำนวน 62 โครงการ และแผนงานการบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 200 โครงการ สำหรับผลการติดตามงานของจังหวัดอุทัย ธานี ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 59 ล้านบาท โดยจัดสรรให้อำเภอเป็นหน่วยดำเนิน การตามหลักเกณฑ์ คือ ร้อยละ 50 จัดสรรเท่ากันทุกอำเภอ ร้อยละ 10 จัดสรรตามสัดส่วนหมู่บ้าน/ชุมชน ร้อยละ 15 จัดสรรตามจำนวนประชากร ร้อยละ 15 จัดสรรตามจำนวนครัวเรือน และร้อยละ 10 จัดสรรตามแบบผกผัน (คิดจากรายได้ประชากรต่อหัว) และการอนุมัติโครงการ พิจารณากระจายใน 5 แผนงาน คือ แผนงานด้านเศรษฐ กิจพอเพียง ร้อยละ 50 แผนงานพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน ร้อยละ 20 แผนงานการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ ของชุมชน ร้อยละ 10 แผนงานการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ร้อยละ 10 และแผนงานการบริการขั้นพื้น ฐานแก่ประชาชน ร้อยละ 10
|
|||||||||||||||||||||||||||
1689 | การจัดตั้งเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายในภูมิภาคอาเซียน | ทส | 22/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบผลการประชุม
เครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่าและพืชป่าในภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 1 (1st Meeting of the ASEAN Wildlife Enforcement Network : ASEAN-WEN) เมื่อวันที่ 22-25 พฤษภาคม 2549 ณ กรุงเทพมหานคร และเห็นชอบให้ ประเทศไทยเป็นผู้จัดตั้งสำนักงานศูนย์ประสานงานเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์และพืชป่าที่ผิด กฎหมายในภูมิภาคอาเซียน (Programme Coordination Unit of ASEAN Wildlife Enforcement Network : ASEAN- WEN) ซึ่งดำเนินการโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับสาระสำคัญของการประชุม ฯ สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างข้อกำหนด การดำเนินงาน (Term of Reference : TOR) ของเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ ผิดกฎหมายในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Wildlife Enforcement Network : ASEAN-WEN) ซึ่งกำหนดให้การดำเนิน การต่าง ๆ ของเครือข่าย ฯ ต้องอยู่ภายใต้กรอบแห่งกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ (ตาม TOR ข้อ 9) ดังนั้น จึงไม่นำไปสู่การแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอีก รวมทั้งเห็นชอบจากการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลาง (Programme Coordination Unit : PCU) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่าย ฯ และกรอบหน้าที่ตามที่ได้ กำหนดในร่างข้อกำหนดการดำเนินงาน (Term of Reference : TOR) ของ PCU และเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นผู้ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลาง (Program Coordination Unit : PCU) ในระยะเริ่มต้น 2 ปีแรก และหลัง จากนั้นจะหมุนเวียนไปยังประเทศอื่น ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับมาตรการและแผนงานของเครือ ข่าย ฯ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
1690 | แผนจัดการระดับชาติเพื่อการปฏิบัติตามอนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน | ทส | 15/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติ
เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างแผนจัดการระดับชาติเพื่อการปฏิบัติตาม อนุสัญญาสตอกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Enabling Activities for the Development of a National Plan for Implementation of the Stockholm Convention on Persistent Organic Pollutants : NIP/ POPs) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติเพื่อการจัดการสารมลพิษที่ตกค้างยาวนานในเบื้องต้น 12 ชนิด ตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวก เอ บี และซี ของอนุสัญญาสตอกโฮล์ม ฯ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมทำหน้าที่ประสานงานและติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนจัดการระดับชาติ ฯ และจัดทำ รายงานประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ตามแผนจัดการระดับชาติ ฯ และรายงานผลการดำเนินงานประจำปีต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการตามประเด็นอภิปราย ของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ที่ให้ศึกษาว่ายังมีสารมลพิษที่ตกค้างยาวนานอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้กำหนดมาตรการ ควบคุมอีก หรือไม่ และพิจารณาจำนวนห้องปฏิบัติการตรวจสอบสารไดออกซินที่สมควรเร่งสร้างให้เหมาะสม และเพียงพอ โดยเฉพาะให้สามารถรองรับการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารไปประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพ ยุโรป ที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท และศึกษาความเป็นไปได้ของแนวคิดในการจัดตั้งสถานที่เผาศพรวมสี่มุม เมือง และให้กรมควบคุมมลพิษจัดทำเอกสารกรณีศึกษาการทำเตาเผาศพรวมในจังหวัดเชียงใหม่ให้กระทรวง มหาดไทยใช้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์แนวคิดนี้ นอกจากนี้ ให้ร่วมกันพิจารณาแนวทางและสถานที่จัดตั้งเตาเผา ขยะในภูมิภาคให้เพียงพอกับความต้องการ โดยพิจารณาใช้ประโยชน์จากเตาเผาขยะของภาคเอกชนที่มีอยู่แล้ว พร้อมทั้งส่งเสริมให้เอกชนลงทุนสร้างเตาเผาขยะ รวมทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบ การพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
1691 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | ทส | 15/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... ที่ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ จัดตั้งสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ขึ้นเป็นองค์การมหาชน ตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชน เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการใช้ประโยชน์ การอนุรักษ์ และการคุ้มครองการใช้ประโยชน์เชิงรุก การให้บริการ การเข้าถึง และการใช้ประโยชน์ระหว่างผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งการรวบรวมองค์ความรู้ การวิจัยต่าง ๆ อย่างมีทิศ ทาง ตลอดจนการเป็นศูนย์กลางติดตาม ส่งเสริมและประสานงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
1692 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | ทส | 08/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
ขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ ขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ให้ ครอบคลุมถึงบริเวณกองหินริเชลิว ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เนื้อที่ประมาณ 3,907 ไร่ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็น กฎหมายต่อไป ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีข้อสังเกตว่า พื้นที่ที่เป็นอุทยานแห่งชาติในปัจจุบันยังทับ ซ้อนกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าหมู่เกาะสุรินทร์ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 441 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระ ราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2504 สมควรที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการออกกฎ กระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติในส่วนที่ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้ต่อไปเพื่อมิให้เกิดปัญหาในการบังคับ ใช้กฎหมายสองฉบับ
|
|||||||||||||||||||||||||||
1693 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. .... | ทส | 08/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัด เชียงใหม่ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าดอยอินทนนท์ บางส่วน ในท้องที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1694 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำบางนรา บางส่วนในท้องที่ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พ.ศ. .... | ทส | 01/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำบางนรา บางส่วน ในท้องที่ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัด นราธิวาส พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าลุ่มน้ำบางนรา บางส่วน ในท้องที่ตำบลกะ ลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ออกจากการเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามที่กำหนดไว้โดยพระราชกฤษฎีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าลุ่มน้ำบางนรา ในท้องที่ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส ตำบลไพรวัน ตำบลบางขุน ทอง ตำบลพร่อน ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ ตำบลสุไหงปาดี ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี และตำบลปูโยะ ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. 2534 และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1695 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้า ฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง) | ทส | 01/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่งซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่า ข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผามอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าห้วยเบี้ยและป่าห้วยบ่อทอง ป่าแม่ต้าฝั่ง ซ้าย และป่าแม่แย้และป่าแม่สาง ในท้องที่ตำบลท่าข้าม ตำบลวังธง ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ ตำบลต้าผา มอก ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง และตำบลเวียงทอง ตำบลสบสาย ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง) และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎ หมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1696 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่าน ฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ในท้องที่ตำบลน้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติแม่จริม) | ทส | 01/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกกฤษฎีกา
กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำว้า และป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้า และป่าห้วยสาลี่ ใน ท้องที่ตำบลน้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอ เวียงสา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระ สำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้าและป่าห้วย สาลี่ ในท้องที่ตำบลน้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติแม่จริม) และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อ ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
1697 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ป่าแม่เมาะ ในท้องที่ตำบลบ้านหวด อำเภองาว ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ และตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... | ทส | 01/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างกฎกระทรวง
กำหนดให้ป่าแม่เมาะ ในท้องที่ตำบลบ้านหวด อำเภองาว ตำบลบ้านดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ และ ตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 264 (พ.ศ. 2510) ออกตามความใน พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 950 (พ.ศ. 2524) ออกตามความใน พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และกำหนดให้ป่าแม่เมาะ ในท้องที่ตำบลบ้านหวด อำเภองาว ตำบลบ้างดง ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ และตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เป็นป่าสงวน แห่งชาติ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1698 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบรับรอง พ.ศ. .... | ทส | 01/05/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างกฎกระทรวง
กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและใบรับรอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เพื่อกำหนดอัตราค่าธรรม เนียมใบอนุญาตและใบรับรองสำหรับการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ให้เหมาะสมยิ่ง ขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
1699 | การชุมนุมเรียกร้องของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด | ทส | 24/04/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติดังนี้
ให้มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 เรื่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่มีผลในทางปฏิบัติต่อไป และ ควรเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิน ในพื้นที่ป่าไม้ในภาพรวมของประเทศด้วย และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำรวจข้อมูลการ ปลูกไม้ยางพาราของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อพิจารณาการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และกำหนดให้มีสภาพ เป็นป่าสงวนแห่งชาติเพื่อให้ราษฎรที่ถือครองอยู่ก่อนการประกาศเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายตามแนวทาง มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 สามารถขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ตามพระราชบัญญัติป่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 ตลอดจนการช่วยเหลือราษฎรที่ถือครองภายหลังตามโครงการประชาคมเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ป่าไม้ และอนุมัติในหลักการให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และขอบเขตการมีส่วนร่วม และแนวทางดำเนินงานให้เหมาะสม อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลในเชิงอนุรักษ์ตามวัตถุประสงค์ ส่วนการเพิ่มหน่วยพิทักษ์ป่าให้มากขึ้น เพื่อดูแลพื้น ที่บริเวณป่าอนุรักษ์ที่ล่อแหลมต่อการบุกรุกทำลาย และเสริมสร้างมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวด ให้ดำเนินการให้เกิดประสิทธิผลต่อไป รวมทั้งให้จัดทำแผนปฏิบัติงานและรายละเอียดในการขอรับการจัดสรรงบ ประมาณเพื่อดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (30 มิถุนายน 2541) และมติคณะรัฐมนตรีนี้ และส่งให้สำนักงบ ประมาณภายในวันที่ 10 เมษายน 2550 เพื่อรับไปดำเนินการจัดตั้งงบประมาณได้ทันในงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2551 ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
1700 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่านายางกลัก ในท้องที่ตำบลโป่งนก ตำบลนายางกลัก ตำบลบ้านไร่ ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต และตำบลซับใหญ่ กิ่งอำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม) | ทส | 24/04/2550 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตที่ดินป่านายางกลัก ในท้องที่ตำบลโป่งนก ตำบลนายางกลัก ตำบลบ้านไร่ ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพ สถิต และตำบลซับใหญ่ กิ่งอำเภอซับใหญ่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่านายางกลัก ในท้องที่ตำบลโป่ง นก ตำบลนายางกลัก ตำบลบ้านไร่ ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต และตำบลซับใหญ่ กิ่งอำเภอซับใหญ่ อำเภอ จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม) และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
.....