ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 83 จากทั้งหมด 108 หน้า แสดงรายการที่ 1641 - 1660 จากข้อมูลทั้งหมด 2153 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1641 | รายงานผลการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่ม | ทส | 04/09/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรธรณี)
รายงานผลการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่ม โดยผลความคืบหน้าของการจัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดิน ถล่ม ในปี พ.ศ. 2550 จัดตั้งไปแล้ว 3 จังหวัด คือ จังหวัดตรัง สุโขทัย และลำปาง และอยู่ระหว่างการจัดตั้งอีก 2 จังหวัด คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร แล้วเสร็จภายในภายในเดือนกันยายน 2550 ขณะนี้มีอาสาสมัคร เครือข่าย ฯ รวมทั้งสิ้น 7,385 ราย ในด้านการซักซ้อมการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มได้จัดให้มีการซักซ้อมแผน การเฝ้าระวังและกระตุ้นเตือนเครือข่าย ฯ ในจังหวัดที่ได้ดำเนินการจัดตั้งไว้แล้วเพื่อให้มีการเฝ้าระวังในช่วงก่อนเข้า สู่ฤดูมรสุม รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัยเพื่อเป็นศูนย์ติดตามสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย วิเคราะห์ข้อ มูลสภาพอากาศที่ได้จากกรมอุตุนิยมวิทยา ติดต่อประสานกับเครือข่าย ฯ กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ประมวลความเสี่ยงที่อาจเกิดดินถล่ม เพื่อทำการประกาศเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยผ่านสื่อต่าง ๆ และแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่พร้อมออกตรวจสอบพื้นที่หาก เกิดธรณีพิบัติภัย เพื่อประเมินสถานการณ์ ความเสี่ยงที่อาจเกิดดินถล่มซ้ำ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ในพื้นที่เพื่อเสนอแนวทางในการลดผลกระทบจากเหตุการณ์ สำหรับผลการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยในเดือนพฤษภา คม-สิงหาคม 2550 กรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่ม 18 ครั้ง พร้อมทั้งประสาน กับเครือข่าย ฯ ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ซึ่งยังไม่พบการเกิดเหตุดินถล่มที่รุนแรง แต่มีเหตุ ดินไหลและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบางพื้นที่
|
||||||||||||||||||||||||
1642 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. .... | ทส | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชบัญญัติ
คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎ หมายเพื่อให้การคุ้มครอง อนุรักษ์ และบริหารจัดการซากดึกดำบรรพ์ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภา นิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ โดยที่นิยามคำว่า "ซากดึกดำ บรรพ์" ตามร่างพระราชบัญญัตินี้ไม่รวมถึงโบราณวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และโดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโบราณสถานโบราณ วัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และอยู่ระหว่าง การตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณา ขอบเขตของร่างพระราชบัญญัติที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณามิให้ขัดแย้ง หรือซ้ำซ้อนกับร่างพระราชบัญญัติฉบับ นี้ |
||||||||||||||||||||||||
1643 | การดำเนินงานกลไกการพัฒนาที่สะอาดในประเทศไทยภายใต้พิธีสารเกียวโต | ทส | 28/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ เห็นชอบโครงการกลไก
การพัฒนาที่สะอาด จำนวน 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) 2 โครงการ โครงการผลิตพลังงานจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) 5 โครงการ และโครงการผลิตพลังงานจากก๊าซหลุมฝัง กลบขยะ (Landfill Gas) 1 โครงการ รวมทั้งเห็นชอบร่างหนังสือรับรองโครงการ (Letter of Approval) และมอบ หมายให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนามหนังสือรับรองโครงการให้แก่ผู้พัฒนาโครง การ
|
||||||||||||||||||||||||
1644 | สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ปี 2550 | ทส | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้
ตอนล่าง ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) สรุปได้ดังนี้ สถานการณ์หมอก ควันในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2550 จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ได้รับผลกระทบหมอกควันจากเกาะสุมาตรา สาธารณรัฐอินโดนี เซีย โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจพบค่าสูงสุดที่จังหวัดสงขลา มีค่าเท่ากับ 91 ไมโคร กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนการดำเนินงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมควบคุมมลพิษ) ได้จัดส่งหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ทำการตรวจสอบคุณภาพอากาศและรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ เป็นประจำผ่านเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ www.pcd.go.th รวมทั้งแจ้งประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้มี การเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และเตรียมความพร้อมบุคลากรและอุปกรณ์ ทางการแพทย์ เพื่อดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนกรณีวิกฤติหมอกควัน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทาง เดินหายใจ สำหรับการคาดการณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียน (ASEAN Specialized Meteorological Centre : ASMC) สาธารณรัฐสิงคโปร์ พบว่า สภาพอุตุนิยมวิทยา ได้แก่ ปริมาณน้ำฝน และความชื้นในอากาศ ของประเทศมาเลเซีย และสาธารณรัฐอินโดนีเซีย จะเอื้อต่อการเผาไปจนถึงต้นเดือนกันยายน 2550 ซึ่งกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควันอย่างต่อเนื่องและรายงานข้อมูลผ่าน สื่อต่าง ๆ ต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูการเผาในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
|
||||||||||||||||||||||||
1645 | การดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) | ทส | 21/08/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม โดยผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมในวัดและมัสยิด โรงเรียนสอน ศาสนาเอกชนและสถาบันการศึกษาปอเนาะ ในส่วนของการดำเนินการจัดการน้ำเสีย ขยะมูลฝอย และปรับปรุง ภูมิทัศน์ ได้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมในวัดและมัสยิด จำนวน 40 แห่ง สนับสนุนกิจกรรมปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของ สถานศึกษา จำนวน 87 แห่ง จัดการขยะมูลฝอยในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและสถาบันการศึกษาปอ เนาะ จำนวน 78 แห่ง โดยในปี พ.ศ. 2550 จะขยายการดำเนินงานในมัสยิดเพิ่มเติม ส่วนผลการดำเนินงานด้าน การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ไปแล้ว จำนวน 2 แห่ง โดยในปี พ.ศ. 2550 จะขยายการดำเนินงานไปที่วัด 18 แห่ง และโรงเรียน 8 แห่ง ในท้อง ที่จังหวัดยะลา สำหรับผลการดำเนินงานด้านการอบรมเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ อบรมเยาวชนเพื่อเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว จำนวน 10 รุ่น 1,325 คน โดยในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการอบรม สร้างเครือข่ายเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จำนวน 180 คน
|
||||||||||||||||||||||||
1646 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันสัญญาโครงการ/รายการ งบประมาณปี พ.ศ. 2550 ภายในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน 2550 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริม คุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันสัญญาโครง การ/รายการงบประมาณปี พ.ศ. 2550 ภายในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน 2550 โดยขยายเวลาก่อหนี้ผูก พันโครงการ/รายการ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2550 จำนวน 4 หน่วยงาน 12 รายการ วงเงิน 44.948 ล้านบาท และขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 จำนวน 3 หน่วยงาน 4 รายการ วงเงิน 69.362 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
1647 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขานัน ในท้องที่ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา ตำบล ตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพราช ตำบล เปลี่ยน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติเขานัน) | ทส | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระ
ราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขานัน ในท้องที่ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพ ราช ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่ากรุงชิง ป่าคลองเผียน และป่าเขานัน ในท้องที่ตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ กิ่งอำเภอนบ พิตำ อำเภอท่าศาลา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา และตำบลเขาน้อย ตำบลฉลอง ตำบลเทพราช ตำบล เปลี่ยน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติเขานัน) และให้ส่งสำนัก งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1648 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2550 | ทส | 07/08/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2550 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับ รองเรียบร้อยแล้วในการประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ 9/2550 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 ได้แก่ (1) การดำเนินงานกลไกการพัฒนาที่สะอาดในประเทศไทยภายใต้พิธีสารเกียวโต (2) การกำหนดมาตรฐานการระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมรถยนต์เบน ซินและดีเซลขนาดเล็ก (3) ร่างมาตรฐานน้ำทิ้งจากบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด (4) รายงานการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC)
|
||||||||||||||||||||||||
1649 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ในท้องที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 3/ 2550 | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผล
ความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดในท้องที่จังหวัดพิจิตร และอุทัยธานี ครั้งที่ 3 /2550 โดยจังหวัดพิจิตร ได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 72,921,229 บาท สำหรับ 1,047 โครงการ ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จำนวน 82 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 7.83 ของโครงการทั้ง หมด โดยใช้จ่ายเงินงบประมาณไปแล้ว เป็นจำนวนเงิน 5,881,387 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.07 ของแผนงาน ทั้งหมด จำแนกเป็น แผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง เบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,598,594 บาท แผนงานด้านพัฒนา และสร้างโอกาสให้ชุมชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 2,967,315 บาท แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 517,216 บาท แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ยังไม่มีการเบิกจ่าย และ แผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 798,262 บาท ส่วนจังหวัดอุทัยธานี ได้รับการ จัดสรรงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 59,000,000 บาท สำหรับ 777 โครงการ โดยดำเนิน การโครงการแล้วเสร็จ จำนวน 104 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 13.37 ของโครงการทั้งหมด จำแนกเป็น แผนงาน ด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 515 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 84 โครงการ แผนงานด้านพัฒนาและสร้าง โอกาสให้ชุมชน จำนวน 150 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 12 โครงการ แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ ของชุมชน จำนวน 32 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 โครงการ แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูง อา ยุ จำนวน 11 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการทุกโครงการ และแผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 69 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 โครงการ
|
||||||||||||||||||||||||
1650 | ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
บัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่ง ชาติ พ.ศ. 2507 โดยการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ปรับปรุงบัญชีอัตราค่า ธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่าให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ที่ เห็นควรกำหนดรายละเอียด และวิธีการคัดเลือกผู้ที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะร่วมเป็นคณะกรรม การควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติให้ชัดเจน และกำหนดมาตรการป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติใน เขตป่าสงวนแห่งชาติที่รัดกุม เนื่องจากบางกรณีอาจเป็นการกระทำหรือมีส่วนร่วมของพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง กำหนดบทลงโทษในกรณีดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1651 | การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอโครงการจัด
การทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2551-2552 โครงการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้พื้นที่ป่า อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2551-2552 และโครงการสำรวจข้อมูลการปลูกไม้ยางพารา ของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2551 โดยให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์สนับสนุนภาพถ่ายทางอากาศออร์โธสี มาตราส่วน 1 : 4,000 ให้กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนการจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานโครงการดังกล่าวให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการ ความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการนำกลไกของร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ รวมทั้งความเห็นของคณะรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดหลัก เกณฑ์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ กรณีที่มีพื้นที่ป่าที่มีผู้เข้าทำประโยชน์อยู่แล้วควรร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนว ทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม เป็นรูปธรรม และการกำหนดแนวเขตป่าที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1652 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2549 | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2549 โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยเนื้อหาสาระสำคัญ 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 สถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่สำคัญในรอบปี ประกอบด้วย ประเด็นปัญหาสถานการณ์ที่มีความสำคัญ หรือที่มีความรุนแรงในรอบปี พ.ศ. 2549 ส่วนที่ 2 สถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่สำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2548 และส่วนที่ 3 สถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วงปลายปี พ.ศ. 2548 ต่อเนื่อง ปี พ.ศ. 2549
|
||||||||||||||||||||||||
1653 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบลหมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ) | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบล หมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบล หมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1654 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่าแก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อเขียว ตำบลคำบ่อ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบล กุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบล มหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก) | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่า แก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อเขียว ตำบลคำบ่อ ตำบล วาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบล โคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบล ดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็น อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่าแก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อ เขียว ตำบลคำบ่อ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และ ป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัด กาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแหงชาติภูผาเหล็ก) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1655 | บริษัท สายจำรัสปูนขาว จำกัด ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วงการทำเหมืองแร่หินปูน เพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์ หรือเพื่อทำปูนขาวสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรืออุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา | ทส | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้บริษัท สายจำรัส
ปูนขาว จำกัด เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วง การทำเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์หรือเพื่อทำปูนขาว สำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรือ อุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม (กรมป่าไม้) และบริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรแก้ไขเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต ในข้อ 13 และ ข้อ 22 โดยให้ใช้ข้อความดัง ต่อไปนี้ "ข้อ 13 ต้องประเมินผลกระทบต่อสุขภาพเพื่อป้องกันการก่อให้เกิดเหตุรำคาญและแก้ไขเหตุรำคาญที่เกิด ขึ้นหรือลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนส่วนรวม อันเกิดจากการประกอบกิจการของผู้ได้รับอนุญาต" และ "ข้อ 22 ต้องให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของคณะทำงานเฉพาะกิจ ฯ และ/หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนที่จะติดตาม หรือมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจ สอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพ ตามที่ระบุไว้ในราย งาน ฯ ตามควรแก่กรณี โดยให้ปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้สั่งเป็นหนังสือให้ปฏิบัติเพื่อให้เป็นไป ตามมาตรการฯ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย" และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (Mitigation Plan) ของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้ให้กรมป่า ไม้และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่นำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ฯ ไป กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เพื่อให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของกรมป่าไม้ และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อย่างเคร่งครัดต่อไป รวมทั้ง ให้ความสำคัญในเรื่องแผนฟื้นฟูและแผนป้องกันผลกระทบจากสิ่งแสดล้อมในเรื่องของปริมาณฝุ่นละออง และเสียง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้แทนชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ติดตามประเมินผล และให้มี การติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้วรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทราบทุก 2 ปี ต่อไป นอกจากนี้ ให้กรมป่าไม้กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายของหนังสืออนุญาตให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในบริเวณพื้นที่โดยรอบ เช่น การจ้างงานกับประชาชนท้อง ถิ่นเป็นอันดับแรก การฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นที่จะได้ รับ การจัดตั้งเป็นกองทุนสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่บริหารโดยไตรภาคี คือ บริษัท ภาครัฐ ภาคประชาชนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1656 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 | ทส | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ
เสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเตรียมการสำหรับการประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษ จากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 (the Preparatory Meeting for the Third Meeting of the Conference of the Parties to the ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) และการประชุมประเทศภาคีต่อข้อ ตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 (the Third Meeting fo the Conference of the Parties to the ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) ในเดือนกันยายน 2550 โดยในส่วน ของค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้ใช้งบประมาณของกรมควบคุมมลพิษ
|
||||||||||||||||||||||||
1657 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ใน ท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่า เขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม เข้าใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดตั้งสถานีเรดาร์ ตามโครงการระบบควบคุมและแจ้งเตือนการป้องกันทางอากาศของกองทัพอากาศ และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1658 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนน่าน) | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบล ภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าดอย ภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติขุนน่าน) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1659 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการตรวจสอบ
แนวเขตอุทยานแห่งชาติตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินป่าทับสะแก ในท้องที่ตำบลห้วยยาง ตำบลเขาล้าน ตำบลแสงอรุณ ตำบลนาหูกวาง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก และตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2534 กับพื้นที่ทางน้ำชลประทานตามร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ปรากฏ ว่าพื้นที่ไม่มีการทับซ้อนกัน จึงไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติแต่อย่างใด และให้ดำเนินการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชล ประทาน พ.ศ. .... ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1660 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ในท้องที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 2/2550 | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผล
ความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดในท้องที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25-26 มิถุนายน 2550 โดยผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของ จังหวัดพิจิตร ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วประมาณร้อยละ 20 และในการดำเนินงานตามโครงการของ จังหวัด จะสามารถดำเนินการตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 2550 ส่วนผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ฯ ของจังหวัดอุทัยธานี ได้มีการโอนเงินงบประมาณทั้ง หมดที่ได้รับตามยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 59 ล้านบาท ให้ชุมชนครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับจัดสรรเรียบร้อยแล้ว และการดำเนินงานตามโครงการของจังหวัด จะสามารถดำเนินการตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้แล้ว เสร็จ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2550
|
.....