ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 84 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1661 - 1680 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1661 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ในท้องที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 3/ 2550 | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผล
ความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดในท้องที่จังหวัดพิจิตร และอุทัยธานี ครั้งที่ 3 /2550 โดยจังหวัดพิจิตร ได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 72,921,229 บาท สำหรับ 1,047 โครงการ ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จำนวน 82 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 7.83 ของโครงการทั้ง หมด โดยใช้จ่ายเงินงบประมาณไปแล้ว เป็นจำนวนเงิน 5,881,387 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.07 ของแผนงาน ทั้งหมด จำแนกเป็น แผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง เบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,598,594 บาท แผนงานด้านพัฒนา และสร้างโอกาสให้ชุมชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 2,967,315 บาท แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 517,216 บาท แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ ยังไม่มีการเบิกจ่าย และ แผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 798,262 บาท ส่วนจังหวัดอุทัยธานี ได้รับการ จัดสรรงบประมาณภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข จำนวน 59,000,000 บาท สำหรับ 777 โครงการ โดยดำเนิน การโครงการแล้วเสร็จ จำนวน 104 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 13.37 ของโครงการทั้งหมด จำแนกเป็น แผนงาน ด้านเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 515 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 84 โครงการ แผนงานด้านพัฒนาและสร้าง โอกาสให้ชุมชน จำนวน 150 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 12 โครงการ แผนงานด้านฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ ของชุมชน จำนวน 32 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 โครงการ แผนงานด้านสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูง อา ยุ จำนวน 11 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการทุกโครงการ และแผนงานด้านบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน จำนวน 69 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 โครงการ
|
||||||||||||||||||||||||
1662 | ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
บัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่ง ชาติ พ.ศ. 2507 โดยการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ปรับปรุงบัญชีอัตราค่า ธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และค่าบำรุงป่าให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติ บัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี ที่ เห็นควรกำหนดรายละเอียด และวิธีการคัดเลือกผู้ที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะร่วมเป็นคณะกรรม การควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติให้ชัดเจน และกำหนดมาตรการป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติใน เขตป่าสงวนแห่งชาติที่รัดกุม เนื่องจากบางกรณีอาจเป็นการกระทำหรือมีส่วนร่วมของพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง กำหนดบทลงโทษในกรณีดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1663 | การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอโครงการจัด
การทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2551-2552 โครงการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้พื้นที่ป่า อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2551-2552 และโครงการสำรวจข้อมูลการปลูกไม้ยางพารา ของราษฎรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ.ศ. 2551 โดยให้กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์สนับสนุนภาพถ่ายทางอากาศออร์โธสี มาตราส่วน 1 : 4,000 ให้กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนการจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานโครงการดังกล่าวให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการ ความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการนำกลไกของร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ รวมทั้งความเห็นของคณะรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดหลัก เกณฑ์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ กรณีที่มีพื้นที่ป่าที่มีผู้เข้าทำประโยชน์อยู่แล้วควรร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนว ทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม เป็นรูปธรรม และการกำหนดแนวเขตป่าที่ชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1664 | รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2549 | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 4/2550 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง รายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2549 โดยรายงานดังกล่าวประกอบด้วยเนื้อหาสาระสำคัญ 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 สถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่สำคัญในรอบปี ประกอบด้วย ประเด็นปัญหาสถานการณ์ที่มีความสำคัญ หรือที่มีความรุนแรงในรอบปี พ.ศ. 2549 ส่วนที่ 2 สถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่สำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2548 และส่วนที่ 3 สถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วงปลายปี พ.ศ. 2548 ต่อเนื่อง ปี พ.ศ. 2549
|
||||||||||||||||||||||||
1665 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบลหมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ) | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบล หมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระ สำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่ปายฝั่งขวา ในท้องที่ตำบลนาปู่ป้อม อำเภอปางมะผ้า และตำบลห้วยผา ตำบล หมอกจำแป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1666 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่าแก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อเขียว ตำบลคำบ่อ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบล กุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบล มหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก) | ทส | 24/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่า แก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อเขียว ตำบลคำบ่อ ตำบล วาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบล โคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ตำบลนาทัน ตำบล ดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็น อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณป่าดงพันนา และป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน และป่าโนนอุดม และป่าแก่งแคน ในท้องที่ตำบลส่องดาว ตำบลท่าศิลา ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว ตำบลค้อ เขียว ตำบลคำบ่อ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ตำบลนิคมน้ำอูน อำเภอนิคมน้ำอูน ตำบลกุดไห ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก ตำบลโคกภู อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่านายูง ป่าหนองกุงทับม้า และ ป่าหนองหญ้าไชย ในท้องที่ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ป่าภูพาน และป่าแก้งกะอาม ในท้องที่ ตำบลนาทัน ตำบลดินจี่ ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง และตำบลแซงบาดาล ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัด กาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแหงชาติภูผาเหล็ก) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1667 | บริษัท สายจำรัสปูนขาว จำกัด ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วงการทำเหมืองแร่หินปูน เพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์ หรือเพื่อทำปูนขาวสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรืออุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา | ทส | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้บริษัท สายจำรัส
ปูนขาว จำกัด เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เพื่อรับช่วง การทำเหมืองแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมแคลเซี่ยมคาร์ไบด์หรือเพื่อทำปูนขาว สำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง หรือ อุตสาหกรรมน้ำตาล ท้องที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม (กรมป่าไม้) และบริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุขที่เห็นควรแก้ไขเงื่อนไขแนบท้ายหนังสืออนุญาต ในข้อ 13 และ ข้อ 22 โดยให้ใช้ข้อความดัง ต่อไปนี้ "ข้อ 13 ต้องประเมินผลกระทบต่อสุขภาพเพื่อป้องกันการก่อให้เกิดเหตุรำคาญและแก้ไขเหตุรำคาญที่เกิด ขึ้นหรือลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนส่วนรวม อันเกิดจากการประกอบกิจการของผู้ได้รับอนุญาต" และ "ข้อ 22 ต้องให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของคณะทำงานเฉพาะกิจ ฯ และ/หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนที่จะติดตาม หรือมีส่วนร่วมในการติดตามตรวจ สอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสุขภาพ ตามที่ระบุไว้ในราย งาน ฯ ตามควรแก่กรณี โดยให้ปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้สั่งเป็นหนังสือให้ปฏิบัติเพื่อให้เป็นไป ตามมาตรการฯ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย" และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (Mitigation Plan) ของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้ให้กรมป่า ไม้และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่นำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าว ฯ ไป กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เพื่อให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของกรมป่าไม้ และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อย่างเคร่งครัดต่อไป รวมทั้ง ให้ความสำคัญในเรื่องแผนฟื้นฟูและแผนป้องกันผลกระทบจากสิ่งแสดล้อมในเรื่องของปริมาณฝุ่นละออง และเสียง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้แทนชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ติดตามประเมินผล และให้มี การติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้วรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติทราบทุก 2 ปี ต่อไป นอกจากนี้ ให้กรมป่าไม้กำหนดเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมแนบท้ายของหนังสืออนุญาตให้บริษัท สายจำรัส ปูนขาว ฯ ให้ ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในบริเวณพื้นที่โดยรอบ เช่น การจ้างงานกับประชาชนท้อง ถิ่นเป็นอันดับแรก การฟื้นฟูและรักษาสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นที่จะได้ รับ การจัดตั้งเป็นกองทุนสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่บริหารโดยไตรภาคี คือ บริษัท ภาครัฐ ภาคประชาชนต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1668 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 | ทส | 10/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ
เสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเตรียมการสำหรับการประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษ จากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 (the Preparatory Meeting for the Third Meeting of the Conference of the Parties to the ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) และการประชุมประเทศภาคีต่อข้อ ตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 3 (the Third Meeting fo the Conference of the Parties to the ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) ในเดือนกันยายน 2550 โดยในส่วน ของค่าใช้จ่ายเพื่อการนี้ให้ใช้งบประมาณของกรมควบคุมมลพิษ
|
||||||||||||||||||||||||
1669 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. .... | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ใน ท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจบุรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่า เขาช้างเผือก ป่าเขาพระฤาษี ป่าเขาบ่อแร่ และป่าห้วยเขยง บางส่วน ในท้องที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม เข้าใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อจัดตั้งสถานีเรดาร์ ตามโครงการระบบควบคุมและแจ้งเตือนการป้องกันทางอากาศของกองทัพอากาศ และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1670 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติขุนน่าน) | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบล ภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าดอย ภูคา และป่าผาแดง ในท้องที่ตำบลดงพญา ตำบลบ่อเกลือใต้ และตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ให้ เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติขุนน่าน) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1671 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอผลการตรวจสอบ
แนวเขตอุทยานแห่งชาติตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินป่าทับสะแก ในท้องที่ตำบลห้วยยาง ตำบลเขาล้าน ตำบลแสงอรุณ ตำบลนาหูกวาง ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก และตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2534 กับพื้นที่ทางน้ำชลประทานตามร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ปรากฏ ว่าพื้นที่ไม่มีการทับซ้อนกัน จึงไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติแต่อย่างใด และให้ดำเนินการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชล ประทาน พ.ศ. .... ต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1672 | รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด ในท้องที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 2/2550 | ทส | 03/07/2550 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผล
ความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดในท้องที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25-26 มิถุนายน 2550 โดยผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของ จังหวัดพิจิตร ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้วประมาณร้อยละ 20 และในการดำเนินงานตามโครงการของ จังหวัด จะสามารถดำเนินการตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 2550 ส่วนผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ฯ ของจังหวัดอุทัยธานี ได้มีการโอนเงินงบประมาณทั้ง หมดที่ได้รับตามยุทธศาสตร์ ฯ จำนวน 59 ล้านบาท ให้ชุมชนครบถ้วนตามวงเงินที่ได้รับจัดสรรเรียบร้อยแล้ว และการดำเนินงานตามโครงการของจังหวัด จะสามารถดำเนินการตามแผนงานและแผนการใช้จ่ายเงินได้แล้ว เสร็จ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2550
|
||||||||||||||||||||||||
1673 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาปลายโต๊ะ ป่าเขาศก ป่าเทือกเขา กะทะคว่ำ ป่าเทือกเขาหราสูง และป่าเทือกเขาสูง ในท้องที่ตำบลรมณีย์ ตำบลเหล ตำบลท่านา ตำบลกะปง อำเภอกะปง ตำบลสองแพรก อำเภอเมืองพังงา และตำบลถ้ำทองหลาง ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส | 26/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาปลายโต๊ะ ป่าเขาศก ป่าเทือกเขากะทะคว่ำ ป่าเทือกเขาหราสูง และป่าเทือกเขาสูง ในท้อง ที่ตำบลรมณีย์ ตำบลเหล ตำบลท่านา ตำบลกะปง อำเภอกะปง ตำบลสองแพรก อำเภอเมืองพังงา และตำบลถ้ำทอง หลาง ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาปลายโต๊ะ ป่าเขาศก ป่าเทือกเขากะทะคว่ำ ป่าเทือกเขาหราสูง และป่าเทือกเขาสูง ในท้องที่ตำบลรมณีย์ ตำบลเหล ตำบลท่านา ตำบลกะปง อำเภอกะปง ตำบล สองแพรก อำเภอเมืองพังงา และตำบลถ้ำทองหลาง ตำบลบางเหรียง อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ให้เป็นเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1674 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 พ.ศ. .... | ทส | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ เห็นชอบร่างระเบียบสำนัก
นายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 พ.ศ. .... ที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ องค์กรบริหารจัดการลุ่มน้ำในระดับชาติ และระดับลุ่มน้ำ และกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการและบำรุงรักษา แหล่งน้ำขนาดเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและให้มีการจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำขนาดเล็ก และยกเลิกระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปาชนบท พ.ศ. 2535 และให้ดำเนินการ ต่อไปได้ และอนุมัติให้ถอนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารกิจการและบำรุงรักษาระบบประปา หมู่บ้าน พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||
1675 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2550 | ทส | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2550 เมื่อวันที่ 9 เมษายน
2550 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยคณะกรรมการ ฯ ได้มีมติเห็นชอบโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 42 โครงการ ตามความเห็นของอนุกรรมการกำกับการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในระดับจังหวัด และโครงการจัดการน้ำเสียของเทศบาลเมืองมาบตาพุด จำนวน 2 โครงการ และเห็นชอบร่าง ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองฟุ้งกระจายจากโรงสี ข้าวทุกประเภทที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 20 ตันต่อวันขึ้นไป ซึ่งกำหนดให้มีค่าความแตกต่างระหว่างจุดตรวจวัด เหนือลมและใต้ลมโรงสีข้าวไม่เกิน 0.100 มิลลิกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยยกเลิกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดให้โรงสีข้าวที่ใช้หม้อไอน้ำเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อย ทิ้งอากาศเสียออกสู่บรรยากาศ และใช้ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดให้ โรงสีข้าวทุกประเภทเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียออกสู่บรรยากาศ รวมทั้ง เห็นชอบการพิจารณาสนับสนุนจากภาครัฐในการให้ผู้ประกอบการดำเนินการปรับลดมลพิษทั้งมาตรการสำหรับ ผู้ประกอบการเดิมและมาตรการสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ และเห็นชอบหลักเกณฑ์การพิจารณารายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การกำหนดมาตรการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ด้านอุตสาหกรรมและด้านพลังงานและแนวทางดำเนินการในบริเวณพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง
|
||||||||||||||||||||||||
1676 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ จำนวน 11 ราย (1. นายวิชัย แหลมวิไลฯ) | ทส | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง นายวิชัย แหลม
วิไล นายวรวุฒิ ตันติวนิช นางจริยา เจียมวิจิตร นายเกษมสันต์ จิณณวาโส หม่อมหลวงอนุพร เกษมสันต์ นายอาชว์ เตาลานนท์ นายนิวัติ เรืองพานิช พลเอก ประดิษฐ์ บุญเกิด นายปรีชา จันทร์ศิริตานนท์ นายสุรพล ดวงแข และ นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติแทนกรรมการชุดเดิม โดยให้มีผล ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 มิถุนายน 2550) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
1677 | การเจรจาแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน | ทส | 19/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ รับทราบบันทึกข้อตกลง
ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับตัวแทนสมัชชาคนจน เมื่อวันที่ 28 พฤษภา คม 2550 จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ บันทึกข้อตกลง กรณีปัญหาที่ดินป่าไม้ในเขตอนุรักษ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจาก การปฏิบัติงานของทางราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึ่งมีรายละเอียดข้อตกลง ฯ โดย สังเขปดังนี้ ให้สมัชชาคนจนเสนอพื้นที่โครงการนำร่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ร่วมกับภาครัฐภาค ละ 1 พื้นที่ โดยยึดแนวทางการใช้ภาพถ่ายทางอากาศ กระบวนการตรวจพิสูจน์การครอบครองที่ดินเพื่อขอเอก สารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน รวมทั้งพยานบุคคลและเอกสาร และให้แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการนำร่อง โดยมีสัดส่วนของสมัชชาคนจนและทางราชการเท่ากัน และในระหว่างการดำเนินโครงการนำร่องดังกล่าวให้สมาชิก สมัชชาคนจนที่อยู่ก่อนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ทำมาหากินได้ตามปกติจนกว่าโครงการนำ ร่องจะได้ข้อยุติในแนวทางการแก้ไขปัญหา และในช่วงการศึกษาโครงการนำร่อง ถ้าหากมีความจำเป็นในการจัดหา สาธารณูปโภคที่จำเป็นก็ให้ดำเนินการได้ตามความจำเป็น และในการทำมาหากินให้ทำในพื้นที่เดิม เช่น การทำไร่ หมุนเวียนสำหรับที่ถือครองอยู่เดิมสำหรับการตัดต้นยางพารา และการปลูกทดแทน จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณา สำหรับกรณีมีการบุกรุกพื้นที่เพิ่ม ให้ตัวแทนสมัชชาคนจนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทำการตรวจสอบพื้นที่ บุกรุก เป็นต้น และบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับกลุ่มปัญหาป่าไม้ที่ดิน รวม 11 กรณี ได้แก่ กรณีการจับกุมราษฎรในคดี บุกรุกสวนป่าสลุย-ท่าแซะ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร กรณีสวนป่าไชยา ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี กรณี อ.อ.ป. บุกเบิกพื้นที่ป่าสมบูรณ์เพื่อปลูกยางพารา หมู่ที่ 1 บ้านห้วยน้ำขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ กรณีสวนป่าสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ กรณีสวนป่าดงมะไฟ อำเภอเมือง และอำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร กรณี ต.ช.ด. ขอคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กรณีอุทยานแห่งชาติแก่ง กรุง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีอุทยานแห่งชาติภูพาน จังหวัดกาฬสินธุ์ กรณีอุทยานแห่งชาติตาพระยา จังหวัดสระ แก้ว กรณีร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน และกรณีที่มีความจำเป็นต้องไปตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน ให้กรมที่เกี่ยวข้อง ประสานกับตัวแทนสมัชชาคนจนเพื่อนัดหมายดำเนินการตรวจสอบร่วมกันต่อไป และรับทราบความก้าวหน้าการ ดำเนินการตามผลการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ กับตัวแทนสมัชชาคนจน เมื่อ วันที่ 28 พฤษภาคม 2550 รวมทั้งรับทราบประเด็นการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงบางกรณีไม่สามารถดำเนิน การได้เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย เช่น กรณีสมัชชาคนจนขอตัดไม้ยางพาราในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้ การปฏิบัติตาม บันทึกข้อตกลงกรณีใดที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น การตัดไม้ยางพาราในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นต้น ให้ถือปฏิบัติให้ถูก ต้องและเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
|
||||||||||||||||||||||||
1678 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 เรื่อง การดำเนินงานจัดหาที่ดินทำกินให้แก่คนยากจนตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน | ทส | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ที่มีมติเห็น
ชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมป่าไม้ กรมธนารักษ์ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 ที่ให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยงานที่มีที่ดินอยู่ในความครอบครองชะลอการออกหลักฐานและ การอนุญาตให้เช่าในที่ดินที่เป็นของรัฐไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าการจัดหาที่ดินจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีที่ดิน อยู่ในความครอบครอง และการเจรจาการใช้ที่ดินส่วนเกินจะแล้วเสร็จ หากส่วนราชการใดมีความจำเป็นจะต้อง ออกหลักฐานให้เช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเป็นรายหน่วยงาน และ ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 เรื่อง การดำเนินงานจัดหาที่ดินทำกินให้แก่คนยากจน ตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 เรื่อง ขอยกเว้นการ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 |
||||||||||||||||||||||||
1679 | การปรับปรุงองค์ประกอบกรรมการในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ จำนวน 5 ราย (1. นายสมศักดิ์ บุญทองฯ) | ทส | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบ
กรรมการในคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ โดยให้กรรมการอื่นออกจากตำแหน่ง จำนวน 4 คน ได้แก่ นายอรัญ เพิ่มพิบูลย์ พันเอก (พิเศษ) วิระฉัตร ดำรงหัด นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน และนางถนอมศรี สุวรรณรัตน์ และให้แต่งตั้ง บุคคลเป็นกรรมการอื่นแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 5 คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ บุญทอง พันเอก ยศนันท์ หร่ายเจริญ นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย นายสุรชัย ศศิสุวรรณ และพลตรี ชำนาญ สุวรรณฉวี ทั้งนี้ ให้มีผลนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 มิถุนายน 2550) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||
1680 | กรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ทส | 12/06/2550 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) ประธานกรรมการพัฒนาลุ่ม
น้ำทะเลสาบสงขลาเสนอ ดังนี้ เห็นชอบกรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปี งบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 36 โครงการ วงเงินงบประมาณ 925.193 ล้านบาท กับเห็นชอบแนวทางใน การติดตามประเมินผลของคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผล ได้แก่ การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมติด ตามประเมินผลการดำเนินงานโครงการร่วมกับการติดตามโดยชุมชนในพื้นที่และการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบ ประมาณในการดำเนินโครงการภายใต้กรอบแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการ ฯ และเห็นชอบให้หน่วยงานที่มี โครงการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนจัดทำคำขอตั้งงบประมาณเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตาม ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัด ทั้งนี้ ภายใต้กรอบแผนงบประมาณ ฯ จำนวน 34 โครงการ วงเงินงบประมาณ 329.303 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเพิ่มเติม |
.....