ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 58 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 1141 - 1160 จากข้อมูลทั้งหมด 9659 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1141 | การให้สัตยาบันพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 8 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | กค | 06/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๘ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) และตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลงนามแล้ว โดยพิธีสารฯ และตารางข้อผูกพันฯ ดังกล่าวจะเป็นการลดหรือยกเลิกข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าบริการภายใต้กรอบอาเซียน การอนุญาตให้สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในบริษัทจัดการลงทุน (Asset Management Company) ได้ถึงร้อยละ ๑๐๐ ของทุนที่ชำระแล้ว และการเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์ระหว่างไทยและมาเลเซียเข้าสู่ตลาดระหว่างกันได้บนหลักการต่างตอบแทน อันเป็นส่วนสำคัญของการส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในเชิงลึกและกว้างขวางมากขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนไทยสามารถขยายการค้าและการลงทุนในสาขาบริการด้านการเงินออกไปยังประเทศอาเซียนอื่นได้สะดวกยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำและมอบสัตยาบันสารหรือสารของพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๘ ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน และตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ ให้แก่เลขาธิการอาเซียน เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบพิธีสารฯ และตารางข้อผูกพันฯ ดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1142 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2562 | กค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ในประเด็นที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ เป้าหมายนโยบายการเงิน การประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและแนวโน้ม การดำเนินนโยบายการเงิน และประเด็นอื่น ๆ ที่ กนง. ให้ความสำคัญในการดำเนินนโยบายการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1143 | รายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2561 และรายงานผลการให้บริการสาธารณะประจำงวดครึ่งปีงบประมาณ 2562 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1144 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม - มิถุนายน 2562) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๒) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๑ ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ ๒.๖ ลดลงจากช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๑ ที่ขยายตัวสูงที่ร้อยละ ๓.๔ สาเหตุมาจากการส่งออกสินค้าหดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญและประมาณการค้าโลก และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและรายจ่ายของนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ โดยกำลังซื้อของครัวเรือนขยายตัวในอัตราที่สูง ส่วนหนึ่งมีปัจจัยมาจากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๑ สำหรับการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลงเนื่องจากแนวโน้มการส่งออกและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐโดยรวมขยายตัวและมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ๒. เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงตามราคาอาหารสำเร็จรูปและค่าเช่าบ้าน ขณะที่อัตราการว่างงานยังทรงตัวในระดับต่ำ สำหรับเสียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่องและสามารถรองรับความผันผวนของตลาดการเงินโลกได้ เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกินดุล สัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอยู่ในระดับต่ำ และสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ต่างประเทศระยะสั้นอยู่ในระดับสูงตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สถานการณ์การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1145 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 รวม 3 ฉบับ | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๒ รวม ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดราคาประเมิน การจัดทำบัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง และแผนที่ประกอบการประเมินราคาที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการกำหนดราคาประเมิน การจัดทำบัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง และแผนที่ประกอบการประเมินราคาที่ดิน ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดราคาประเมินห้องชุดและการจัดทำบัญชีราคาประเมินห้องชุด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดราคาประเมินห้องชุดและการจัดทำบัญชีราคาประเมินห้องชุด ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการปรับปรุงราคาประเมินทรัพย์สิน ในกรณีที่ราคาซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด แตกต่างจากราคาประเมินในบัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงราคาประเมินทรัพย์สิน ในกรณีที่ราคาซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด แตกต่างจากราคาประเมินในบัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการประชาสัมพันธ์และชี้แจงหลักเกณฑ์ข้อกำหนดตลอดจนกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินมูลค่าทรัพย์สินแก่สาธารณชนให้มีความชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1146 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการตรวจสอบการเงินและบัญชี การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และการตรวจสอบการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1147 | รายงานการดำเนินการตามโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบเฉพาะฤดูการผลิต 2561/2562 | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบเฉพาะฤดูการผลิต ๒๕๖๑/๒๕๖๒ โดยคณะกรรมการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบได้ดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ และวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยสำนักงบประมาณได้อนุมัติเงินงบประมาณ จำนวน ๑๕๙,๕๙๐,๐๐๐.๐๐ บาท มีเกษตรกรได้รับสิทธิตามหลักเกณฑ์ในโครงการฯ จำนวน ๑๕,๐๕๖ ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๓๓,๐๖๐,๐๓๓.๔๔ บาท ประกอบด้วย (๑) ผู้บ่มอิสระ จำนวน ๔๓ ราย (๒) เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบพันธุ์เวอร์ยิเนีย (ขายใบยาสด) จำนวน ๒,๓๑๘ ราย (๓) เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบพันธุ์เวอร์ยิเนีย จำนวน ๒,๓๖๒ ราย (๔) เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ จำนวน ๖,๖๖๕ ราย และ (๕) เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบพันธุ์เตอร์กิช จำนวน ๓,๖๖๘ ราย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1148 | มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ระยะที่ 2 | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี ๒๕๖๑ ระยะที่ ๒ จำนวน ๔ มาตรการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g-Wallet) โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการเดินทางไปท่องเที่ยวและใช้จ่าย โดยจะขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ และดำเนินมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ๑.๒ มาตรการลดภาระภาษีเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงนัก เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน จากเดิมร้อยละ ๒ เหลือร้อยละ ๐.๐๑ และลดค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ ๑ เหลือร้อยละ ๐.๐๑ เฉพาะการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ในราคาไม่เกิน ๓ ล้านบาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้ จนถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ๑.๓ มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่ไม่สูงนัก เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดย ธอส. จะสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษและเงื่อนไขผ่อนปรนให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาซื้อขายไม่เกิน ๓ ล้านบาทต่อหน่วย วงเงินสินเชื่อรวม ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ โดยรัฐบาลชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยให้แก่ ธอส. วงเงิน ๑,๑๘๒.๑๘ ล้านบาท และให้ ธอส. ทำความตกลงในการเบิกจ่ายงบประมาณตามภาระที่เกิดขึ้นจริงกับสำนักงบประมาณต่อไป ๑.๔ มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม สัมมนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน (Front Load) โดยเร่งรัดให้หน่วยรับงบประมาณเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ เพื่อให้มีเม็ดเงินสำหรับค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม สัมมนา ลงสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม ๒๕๖๒ (๒ เดือน) ๒. สำหรับภาระงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ เช่น ควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวในภาพรวมว่าสามารถช่วยเพิ่มการใช้จ่ายของระบบเศรษฐกิจในประเทศตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และพิจารณาเป้าหมายการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง ๒ ที่กำหนดเป้าหมายผู้ลงทะเบียนเติมเงินสำหรับใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก รวมถึงบริการต่าง ๆ จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ตลอดจนแสวงหาทางเลือกอื่นที่สามารถผลักดันเศรษฐกิจให้บรรลุเป้าหมายตามมาตรการดังกล่าว และให้นำผลการประเมินมาพิจารณากำหนดมาตรการให้ครบถ้วนยิ่งขึ้นตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบรายละเอียดและเงื่อนไขในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างชัดเจน ถูกต้อง และทั่วถึงด้วย ๓. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีห้องชุด ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ และ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ และมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ที่เสนอในครั้งนี้ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1149 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (นายปริญญา พัฒนภักดี) | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปริญญา พัฒนภักดี เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ แทน นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1150 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน (นายพชร อนันตศิลป์) | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพชร อนันตศิลป์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน แทน นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ประธานกรรมการเดิมที่ขอลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1151 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (นายสุพันธุ์ มงคลสุธี) | กค | 22/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย แทน นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1152 | ร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสรรพสามิต พ.ศ. .... | กค | 15/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสรรพสามิต พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสรรพสามิต โดยรวบรวมเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการกรมสรรพสามิตกับการแต่งเครื่องแบบไว้เป็นกฎสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับเดียวกัน และกำหนดให้มีเครื่องแบบพิเศษเพิ่มขึ้นเป็นเครื่องแบบภาคสนาม เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานและมีรูปแบบที่เหมาะสมกับภารกิจของกรมสรรพสามิต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1153 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประจำปีบัญชี 2561 (วันที่ 1 เมษายน 2561 - 31 มีนาคม 2562) | กค | 15/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประจำปีบัญชี ๒๕๖๑ (วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ประกอบด้วย ผลการดำเนินงานปีบัญชี ๒๕๖๑ เปรียบเทียบกับปีบัญชี ๒๕๖๐ ผลการดำเนินงานด้านอื่น ๆ ของ ธ.ก.ส. ทิศทางและนโยบายการดำเนินงานในปีบัญชี ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินแล้วเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1154 | การใช้เงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย | กค | 15/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กำหนดให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น แต่มิได้เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจตามพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ สามารถใช้เงินจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนได้ ๑.๒ อนุมัติกรอบวงเงินที่จะจัดสรรจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อการเพิ่มทุนเพื่อขยายการดำเนินงานให้แก่ ธพว. ไม่เกิน ๖,๐๐๐ ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว และหากในอนาคต ธพว. ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเพิ่มทุน สามารถนำเสนอกระทรวงการคลังและคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ กองทุนฯ เห็นควรให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการขยายการดำเนินงาน โดยวัดผลจากความสามารถในการขยายสินเชื่อและความสามารถในการบริหารจัดการสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ตามแผนงานของ ธพว. ด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันพิจารณาจัดสรรเงินเป็นงวดเวลาตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ และกำหนดตัวชี้วัดในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการขยายผลการดำเนินงาน โดยวัดผลจากความสามารถในการขยายสินเชื่อและความสามารถในการบริหารจัดการสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตามแผนงานของ ธพว. ตามความเห็นของคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อให้การดำเนินการปล่อยสินเชื่อไม่มีความเสี่ยงหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ โดยกำกับควบคุมสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ นอกจากนี้ ในการกำหนดเป้าหมายการขยายสินเชื่อ ควรพิจารณาถึงขีดความสามารถและความพร้อมของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพของสินเชื่อควบคู่ไปด้วย เพื่อมิให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สะสมจนเกิดความเสี่ยงต่อการดำเนินงานของ ธพว. และระบบสถาบันการเงินในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1155 | รายงานผลการกู้เงินสำหรับรองรับการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB198A ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ (R-Bill) ที่ครบกำหนด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 | กค | 07/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB198A ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒ วงเงินที่เหลืออีกจำนวน ๒๑,๙๐๐ ล้านบาท (ดำเนินการ Pre-funding ไปแล้วจำนวน ๓๒,๐๐๐ ล้านบาท) และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ R-Bill ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ (FIDF 3) รวมทั้งการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล จำนวน ๑ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1156 | รายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2561 | กค | 07/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี ๒๕๖๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ จำนวน ๑๙ ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๘,๗๕๙.๗๕ ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้นำเงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินเรียบร้อยแล้ว ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1157 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | กค | 07/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน โดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะในราชการกองทัพอากาศ เนื้อที่ประมาณ ๒๓ ไร่ ๓ งาน ๔๐ ตารางวา เนื่องจากกองทัพอากาศได้เลิกใช้ประโยชน์และไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์อีก เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังนำไปดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1158 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 ของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินและรายงานการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ แล้วเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ การจัดทำงบการเงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1159 | รายงานผลการหารือโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการหารือโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี ๒๕๖๒ โดยกระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับสำนักงบประมาณและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรียบร้อยแล้ว โดยจะสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ ที่ ๕๐๐ บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน ๒๐ ไร่ และค่าชดเชยต้นทุนเงินของ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR ๑๒ เดือน ของ ธ.ก.ส.+๑ หรือเท่ากับร้อยละ ๒.๔๐ ต่อปี (FDR ๑๒ เดือน ของ ธ.ก.ส. ณ เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ เท่ากับร้อยละ ๑.๔๐) คิดเป็นวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๒๕,๔๒๗.๔๘ ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายในกรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ และให้ใช้อัตราต้นทุนเงินดังกล่าวกับโครงการอื่นที่มีการมอบหมายให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายเงินในลักษณะเดียวกันด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1160 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการระดมทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ) | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่เป็นดอกเบี้ยสลากออมทรัพย์และรางวัลสลากออมทรัพย์ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป และเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับดอกเบี้ยที่คำนวณตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
.....
