ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 59 จากทั้งหมด 482 หน้า แสดงรายการที่ 1161 - 1180 จากข้อมูลทั้งหมด 9627 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1161 | รายงานผลการกู้เงินล่วงหน้าสำหรับรองรับการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาล รุ่น LB198A ที่จะครบกำหนดในวันที่ 13 สิงหาคม 2562 | กค | 13/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่จะครบกำหนดในวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๒ โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่น LB๑๙๘A ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่จะครบกำหนดมีวงเงินที่ครบกำหนดสูง จำนวน ๕๔,๘๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังจึงได้ดำเนินการกู้เงินล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว จำนวน ๓๒,๙๐๐ ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๓ (LB๒๓DA) อายุ ๔.๔๙ ปี จำนวน ๓๒,๙๐๐ ล้านบาท ประมูลในวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๒ โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ ๑.๘๔๒ ต่อปี ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน ๑ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจุเบกษาต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1162 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) | กค | 06/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ สิงหาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1163 | แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ [ถูกยกเลิกโดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 20/02/67 (ว 90/67)] | กค | 06/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. ให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ) และรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ อย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1164 | แนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 | กค | 30/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่ปลัดกระทรวงการคลังชี้แจงเกี่ยวกับเรื่อง แนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1165 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (นายวิเชียร พงศธร) | กค | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิเชียร พงศธร เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ด้านวิศวกรรม ในคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ แทนผู้ที่ลาออก ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1166 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ....) | กค | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๕๓๑ (บางส่วน) โฉนดที่ดินเลขที่ ๑๙๘๓๖ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานค เนื้อที่ประมาณ ๒ งาน ๘๔ ตารางวา เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๙๐ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๘๖ เลขที่ ๒๒๖๓๒๐ เลขที่ ๒๒๖๓๑๙ เลขที่ ๒๒๖๒๙๑ เลขที่ ๒๒๖๒๘๘ และเลขที่ ๒๒๖๒๙๘ เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๒,๓๐๑ ไร่ ๑ งาน ๙๙ ตารางวา แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๒๕๘ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๘๒ และเลขที่ ๒๒๖๓๑๒ เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๓๖๗ ไร่ ๐ งาน ๕๔ ตารางวา แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๓๘๐ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๘๓ เนื้อที่ประมาณ ๖๑ ตารางวา แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๓๘๗ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๙๕ เนื้อที่ประมาณ ๒๔๔ ไร่ ๓ งาน ๑๘ ตารางวา แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๔๑๖ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๑๓๕ เนื้อที่ประมาณ ๑๔๐ ไร่ ๐ งาน ๗๖ ตารางวา แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๔๑๗ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๙๗ เนื้อที่ประมาณ ๑๐๘ ไร่ ๒ งาน ๒๘ ตารางวา แปลงหายเลขทะเบียนที่ กท.๑๔๒๒ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๘๔ เนื้อที่ประมาณ ๑๑๔ ไร่ ๒ งาน ๒๘ ตารางวา และแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.๑๔๒๘ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๒๖๒๗๙ เนื้อที่ประมาณ ๒๐ ไร่ ๒ งาน ๓๘ ตารางวา ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1167 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ) | กค | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1168 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2561 | กค | 02/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๑ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) ภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทย รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๑ (๒) ผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาลของสำนักงาน คปภ. และนโยบายที่กำหนดโดย คปภ. ภายใต้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓) ใน ๔ ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมประกันภัย ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การเสริมสร้างความรู้และการเข้าถึงการประกันภัย ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน และยุทธศาสตร์ที่ ๔ การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการประกันภัย (๓) ผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดสำนักงาน คปภ. รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๑ และ (๔) ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการกับสำนักงาน คปภ. รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังกำกับสำนัก คปภ. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาภายใต้ตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ด้านทรัพยากรบุคคล ระยะ ๓ ปี และระดับความสำเร็จของการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับที่ ๒ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๒ ต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1169 | รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอความเห็นชอบการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 เรื่อง การให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลไทยในโครงการอาเซียนโปแตช (ประเทศไทย) | กค | 02/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้กระทรวงการคลังพิจารณาทบทวนเรื่อง รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอความเห็นชอบการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เรื่อง การปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ เรื่อง การให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลไทยในโครงการอาเซียนโปแตช (ประเทศไทย) อีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น การกำหนดนิยามของรัฐบาลประเทศเจ้าของโครงการอาเซียนโปแตช (ประเทศไทย) ตามข้อ ๓ ใน Basic Agreement ให้หมายความรวมถึงบริษัทที่จดทะเบียน (บริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในประเทศไทย) และกองทุนที่จัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมาย เพื่อให้สามารถนำกรอบการเจรจาไปหารือกับประเทศสมาชิกภาคีให้ได้ข้อสรุปการดำเนินการตามข้อ ๑๔ ใน Basic Agreement ที่ชัดเจน และให้กระทรวงการคลังรายงานผลการหารือมารายงานต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป (๒) หาก Contracting State ของแต่ละประเทศสมาชิกภาคี มีความเห็นว่าการถือหุ้นในสัดส่วนของรัฐบาลอาจไม่ครอบคลุมถึงบริษัทที่จดทะเบียน (บริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในประเทศไทย) และกองทุนที่จัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมาย เห็นควรให้หารือประเด็นในการปรับปรุงแก้ไขสัดส่วนการถือครองหุ้นในส่วนของรัฐบาลของประเทศเจ้าของโครงการ ตามข้อ ๓ ใน Basic Agreement และให้กระทรวงการคลังนำผลการหารือดังกล่าวมารายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป และ (๓) ให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการหารือตามข้อ ๑๔ ใน Basic Agreement เพื่อกำหนดให้นิยามของรัฐบาลประเทศเจ้าของโครงการ ตามข้อ ๓ ใน Basic Agreement ให้หมายความรวมถึงบริษัทที่จดทะเบียน (บริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในประเทศไทย) และกองทุนที่จัดตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมาย เพื่อให้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและสนับสนุนการดำเนินโครงการ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1170 | ขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2563 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค | 02/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน ๑,๗๗๕.๖๕๓ ล้านบาท และของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน ๓,๒๓๘.๖๘๒ ล้านบาท ตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ให้ ขสมก. และ รฟท. รายงานให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ทราบในโอกาสแรกด้วย เพื่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะได้จัดเก็บข้อมูลยอดคงค้างให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า ในการดำเนินการดังกล่าวต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ รวมทั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัดด้วย และให้ ขสมก. และ รฟท. ดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างองค์กรและการบริหารจัดการ และการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ตลอดจนการลงทุนโครงการต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนและสามารถสร้างรายได้ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาฐานะทางการเงินขององค์กรได้อีกทางหนึ่ง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. และ รฟท. เร่งจัดทำต้นทุนมาตรฐานเพื่อใช้ในการกำกับดูแลอัตราค่าโดยสารและคุณภาพการให้บริการให้แล้วเสร็จโดยด่วน เพื่อนำข้อมูลต้นทุนมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนบริการสาธารณะของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอความเห็นชอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย) ต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ จัดทำคู่มือในการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะให้กับกระทรวงคมนาคม โดย ขสมก. และ รฟท. เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะในปีต่อ ๆ ไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1171 | การขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต (หลังเดิม) ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ | กค | 02/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต (หลังเดิม) ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย ๒๖๐ ตารางเมตร พร้อมที่ดิน ๒ แปลง ขนาด ๑,๓๖๕ ตารางเมตร โดยกำหนดราคาขายขั้นต่ำ ๑,๔๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในกรณีที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ในราคาที่กำหนดไว้ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการขายที่ดินและอาคารในราคาที่ต่ำกว่าที่กำหนดได้ไม่เกินร้อยละ ๑๐ และนำเงินที่ได้รับจัดส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรคำนึงถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินตามนัยมาตรา ๔๔ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1172 | รายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 | กค | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินโดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ระยะสั้นโดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (PN) วงเงินที่ ๒ จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕ (พ.ร.ก. FIDF 3) ก่อนครบกำหนดเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๒ (LB28DA) อายุ ๙.๕๙ ปี จำนวน ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ด้วยวิธีการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทน (Competitive Bidding) จำนวน ๒๔,๕๕๐ ล้านบาท ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และวิธีเสนอซื้อ (Non Competitive Bidding) จำนวน ๔๕๐ ล้านบาท ให้แก่สหกรณ์ โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ ๒.๔๒๙๔ ต่อปี ชำระปีละสองครั้ง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการจัดส่งประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับผลการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว จำนวน ๑ ฉบับ เพื่อนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1173 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | กค | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลและใช้ในราชการกองทัพบก โดยเป็นที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่ ๑๑ และกรมทหารราบที่ ๑ รักษาพระองค์ ในท้องที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต และแขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร เนื่องจากกองทัพบกได้เลิกใช้ประโยชน์และไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์อีกต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1174 | ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม | กค | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้บางกรณีสำหรับ (๑) กองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดกิจการที่ต้องขออนุญาต ตามข้อ ๕ (๘) แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๕ (๒) กองทุนรวมตามประมวลรัษฎากร และ (๓) ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนและกองทุนรวมดังกล่าว ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๔๔ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ กรณีกำหนดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ ๑๕.๐ สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา ๔๐ (๔) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และกำหนดให้กรณีที่เงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ให้ถือว่าผู้ออกตั๋วเงินหรือผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน และให้เรียกเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนรวมดังกล่าวในอัตราร้อยละ ๑๕.๐ ของเงินได้ และให้ถือว่าภาษีที่เรียกเก็บนั้นเป็นภาษีที่หักไว้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรคำนึงถึงผลกระทบในทางปฏิบัติที่อาจสร้างแรงจูงใจให้ผู้ออกตราสารหนี้เปลี่ยนพฤติกรรมมาออกตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น เนื่องจากกองทุนรวมจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาซื้อหากมิใช่ผู้ทรงคนแรก และเพื่อให้การดำเนินการตามร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เห็นควรที่กระทรวงการคลังจะสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1175 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 | กค | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 โดยมีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และผู้แทนกระทรวงการคลังเข้าร่วมในองค์ประกอบของคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ เมื่อวันที่ ๗-๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๑ ณ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีการหารือเพื่อกำหนดทิศทางและแนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกที่ให้ความสำคัญในการร่วมมือในการพัฒนาระบบภาษีระหว่างประเทศ การดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร การแก้ไขความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจและการพัฒนาการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการเงิน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการผลักดันร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติระหว่างประเทศ) ให้ประเทศไทยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีอัตโนมัติ (Automatic Exchange of Information) เพื่อเป็นการป้องกันการวางแผนการหลบเลี่ยงภาษีและโอนกำไรไปต่างประเทศของบริษัทข้ามชาติ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการเข้าร่วมมาตรการ BEPS ในฐานะประเทศสมาชิกภายใต้กรอบความร่วมมือของ OECD เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1176 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกและขายสลากออมทรัพย์ พ.ศ. .... | กค | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการออกและขายสลากออมทรัพย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการออกและขายสลากออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งจะทำให้ ธอส. สามารถระดมทุนและบริหารจัดการแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1177 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา 71 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร | กค | 18/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจสอบข้อกำหนดของธุรกรรมระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน และการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว ๑.๒ ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา ๗๑ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสองร้อยล้านบาท ไม่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา ๗๑ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1178 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ) | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร สำหรับการบริจาคให้แก่สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ นอกจากนี้ เห็นควรเปรียบเทียบผลการดำเนินมาตรการกับการสูญเสียรายได้ที่เกิดขึ้นจริง และประมาณการสูญเสียรายได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1179 | ขออนุมัติเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง ประจำปีงบประมาณ 2562 ของการยาสูบแห่งประเทศไทย | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทยเปิดวงเงินกู้ระยะสั้น จำนวน ๑,๕๐๐ ล้านบาท ในรูป Credit Line โดยวิธีเบิกเกินบัญชี (Bank Overdraft : OD) และตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory note : P/N) เพื่อบริหารความเสี่ยงและเสริมสภาพคล่องเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในองค์กร เช่น ค่าแสตมป์ยาสูบและภาระภาษีต่าง ๆ (ภาษีเพื่อราชการส่วนท้องถิ่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ฯลฯ) ค่าซื้อใบยาและวัตถุดิบในการผลิตบุหรี่ รวมถึงเงินลงทุนตามแผนงานในโครงการโรงงานผลิตยาสูบโรจนะ ทั้งนี้ วงเงินกู้ดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบแผนสำหรับการก่อหนี้ของการยาสูบแห่งประเทศไทย วงเงิน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง โดยการยาสูบแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาวิธีการกู้เงินระยะสั้นในรูปแบบอื่น ๆ และพิจารณาคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประกวดราคา (e-bidding) เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านต้นทุนที่เหมาะสมตามอัตราดอกเบี้ยตลาด โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้และความยั่งยืนทางการคลัง ตามนัยมาตรา ๔๙ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งพิจารณาทบทวนเบิกใช้เงินกู้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดภาระด้านดอกเบี้ยขององค์กรในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1180 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. .... | กค | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเพิ่มเติมลักษณะของพัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุน และกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจงสำหรับพัสดุดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้ความหมายของพัสดุส่งเสริมสุขภาพและสาธารณสุข ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....